การปลูกผักบุ้งจีน ปลูกได้ทุกภาค ทุกฤดูกาล 20-25 วัน สามารถเก็บผลผลิตได้แล้ว

โฆษณา
AP Chemical Thailand

ถ้าพูดถึงอาหารที่นิยมบริโภคคู่กับข้าวต้มกุ้ย คงหนีไม่พ้น “ผัดผักบุ้งไฟแดง” เมนูยอดนิยม ที่ไม่ว่าจะหันไปทางไหน โต๊ะไหน ก็ต้องมีผัดผักบุ้งไฟแดงเสิร์ฟอยู่บนโต๊ะอย่างแน่นอน หรือแม้แต่ร้านสุกี้ ชาบู ก็ต้องสั่งผักบุ้งมาเป็นส่วนผสมในหม้อสุกี้ ไม่ก็ชาบู แต่ถึงอย่างไรผักบุ้งก็ยังคงเป็นที่นิยมตั้งแต่อดีตจนปัจจุบันอยู่ดี เพราะเป็นอาหารที่ทำได้ง่าย ใช้วัตถุดิบไม่ยุ่งยาก ทำให้มี การปลูกผักบุ้งจีน เพิ่มขึ้นอย่างมากเป็นเท่าตัว เนื่องจากการเพาะปลูกนั้นง่าย และดูแลไม่ยาก

1.ปลูกผักบุ้งจีนในกระถาง-https.upload.wikimedia.orgwikipediacommonsdd7Ipomoea_aquatica_Nksw_2
1. การปลูกผักบุ้งจีนในกระถาง-https.upload.wikimedia.orgwikipediacommonsdd7Ipomoea_aquatica_Nksw_2

สภาพพื้นที่ปลูกผักบุ้งจีน

การเพาะปลูกผักบุ้งจีนมีหลายวิธี หลายขั้นตอน แต่ก็ไม่ยุ่งยาก เพราะผักบุ้งจีนเป็นพืชเขตร้อน สามารถเติบโตได้ง่าย และมีการกระจายตัวอยู่ในพื้นที่เขตร้อนทั่วโลก ทำให้หาทานได้ไม่ยาก แต่ในเมืองไทยผักบุ้งจีนค่อนข้างได้รับความนิยม แม้แต่ต่างประเทศก็ยังมีการนำเข้าผักบุ้งจีนจากไทย เนื่องจากประเทศไทยเป็นประเทศเขตร้อน ทำให้สามารถปลูกผักบุ้งจีนได้ง่ายกว่าประเทศอื่นๆ ทั่วโลก ผลผลิตที่ออกมาจึงทำให้เป็นที่ต้องการของตลาดมาก

การดูแลรักษาก็ดูแลง่ายไม่ยุ่งยาก ส่วนการวางแปลงดินเพื่อเตรียมปลูกก็ทำได้หลายวิธี และสามารถเพาะปลูกในกระถางไว้ทานเองที่บ้านก็ย่อมได้ คุณประโยชน์ในผักบุ้งจีนก็มีมากมาย ทำให้มีนำไปวิจัยเพื่อทำเป็นยารักษาโรคต่างๆ ได้มากมาย ทำให้ผักบุ้งจีนยังคงเป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน

ผักบุ้งจีนเป็นพืชที่เจริญเติบโตได้ดีในเขตร้อน ทั้งทวีปเอเชีย และแอฟริกา การเพาะปลูกก็ทำได้ง่ายไม่ยุ่งยาก การเพาะพันธุ์หรือปลูกผักบุ้งจีนแม้จะทำได้ไม่ยาก แต่การจะปลูกก็ต้องมีพื้นที่ที่เหมาะสมกับการจะปลูก อย่างเช่น ถ้าปลูกในบ้าน ต้องมีพื้นที่สำหรับการปลูกประมาณเท่าไหร่ ใช้กระถางในการปลูกประมาณไหน หรือถ้าจะทำเป็นสวน เป็นแปลง ก็ควรกะขนาดของพื้นที่ให้ดี

และห้ามปลูกตามทางลาดดิน ไม่ว่าจะเป็นไหล่เขา หรือถ้าลาดลงเนิน เพราะจะทำให้การขนส่ง และการดูแล ค่อนข้างลำบากและยาก ควรจะปลูกในพื้นที่ดอน หรือทำแบบไร่ผสม จะดีกว่า การปลูกผักบุ้งจีน สามารถทำเป็นอาชีพหลักและเสริมได้ทั้งคู่ เพราะมีรายได้ที่แน่นอนตายตัว เป็นพืชที่มีระยะเวลาในการเติบโตสั้น ทำให้เก็บผลผลิตได้เร็ว และได้คืนทุนเร็ว

ผักบุ้งจีนเป็นพืชเมืองร้อน ในประเทศไทยเป็นพืชที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากหาทานได้ง่าย และขั้นตอนการทำไม่ยุ่งยาก ในประเทศไทยมีผักบุ้งอยู่ 2 ชนิด คือ ผักบุ้งไทย และผักบุ้งจีน โดยจะมีลักษณะที่แตกต่างกัน คือ ผักบุ้งไทยจะมีดอกสีม่วง ลำต้นเป็นสีเขียวอ่อนหรือม่วงอ่อน ใบเขียวเข้ม ก้านใบเป็นสีม่วง ส่วนผักบุ้งจีนใบมีสีเขียว ก้านจะออกเหลืองหรือขาว ดอกจะมีสีขาว

โฆษณา
AP Chemical Thailand

ผักบุ้งจีนเป็นพืชพื้นเมืองในแถบเขตร้อน และได้มีการแพร่กระจายไปยังทวีปต่างๆ ในแถบเขตร้อนทั่วโลก  ส่วนใหญ่นำมาบริโภคใช้ในการประกอบอาหารได้อย่างหลากหลาย ทั้งทานสด นำไปผัด ทานกับก๋วยเตี๋ยว หรือใช้จิ้มน้ำพริกก็ได้ เลยนิยมปลูกเพื่อการค้าอย่างแพร่หลาย อีกทั้งยังเป็นพืชส่งออกที่มีความสำคัญอย่างมาก โดยการส่งออกนั้นจะเป็นการส่งออกแบบผักสด และแบบเมล็ดพันธุ์ ปัจจุบันได้พัฒนาเป็นพืชส่งออกที่สำคัญของประเทศไทย

คุณค่าทางสารอาหาร

นอกจากนี้ผักบุ้งจีนยังมีคุณค่าทางสารอาหารที่สูง ที่ประกอบไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายอย่างมาก ผักบุ้งจีนเองเป็นพืชที่สามารถปลูกได้ทั่วไป ทั่วทุกภาคของประเทศไทย ปลูกได้ทุกฤดูกาล และอายุการเก็บเกี่ยวที่สั้น ทำให้ได้ผลผลิตที่เร็ว จึงเป็นที่นิยมปลูกกันอย่างแพร่หลายในประเทศ

  • ราก จะเป็นระบบรากแก้ว มีรากแขนงแตกออกทางด้านข้างของรากแก้ว และยังสามารถแตกออกเป็นรากฝอย

ออกมาจากลำต้นได้

  • ลำต้น ผักบุ้งจีนเป็นพืชล้มลุก ระยะแรกนั้นจะมีลำต้นที่ตั้งตรง ต่อมาลำต้นจะเลื้อยไปตามพื้นดินหรือน้ำ ลำต้น

มีสีเขียว และปล้องข้างในกลวง รากจะเกิดที่ข้อทุกข้อที่สัมผัสกับดินหรือน้ำ

  • ใบ เป็นลักษณะใบเดียว รูปร่างคล้ายหอก โคนใบกว้าง แล้วค่อยๆ เรียวเล็กตอนปลาย ปลายใบแหลมที่โคนใบ

เป็นรูปหัวใจ ขอบใบจะเรียบและเป็นคลื่น ความยาวประมาณ 7-15 เซนติเมตร ก้านยาว 3-8 เซนติเมตร

  • เมล็ด ตัวเมล็ดจะมีรูปร่างสามเหลี่ยม มีสีน้ำตาล เปลือกหุ้มเมล็ดมีสี 3 ระดับ คือ สีน้ำตาลอ่อน แก่ และดำ มี

ขนาดเล็ก ความกว้างโดยประมาณอยู่ที่ 0.4 เซนติเมตร มีอาหารสะสมในใบเลี้ยง ตัวผักบุ้งจีนจะมีอัตราการพักตัวสูง  โดยจะพักตัวในลักษณะของเมล็ดแข็ง หรือที่เรียกว่า เมล็ดหิน เมล็ดที่มีสีเข้มกว่าจะมีเปอร์เซ็นต์สูงกว่า

โฆษณา
AP Chemical Thailand
2.แปลงผักบุ้งจีน-https.upload.wikimedia.org_wikipedia_commons_4_40_Hydroponic_Water_Spinach_E6B0B4E88095E7A9BAE5BF83E88F9C_-_panoramio
2.แปลงผักบุ้งจีน-https.upload.wikimedia.org_wikipedia_commons_4_40_Hydroponic_Water_Spinach_E6B0B4E88095E7A9BAE5BF83E88F9C_-_panoramio

การบริหารจัดการแปลงผักบุ้งจีน

การปลูกผักบุ้งจีน เพื่อการบริโภคและจำหน่าย เป็นการปลูกแบบหว่านเมล็ดลงแปลงปลูกโดยตรง เมื่อถึงอายุเก็บเกี่ยวประมาณ 25 วัน ก็จะถอนต้นผักบุ้งจีนออกจากแปลงสวนได้ ดังนั้นก่อนที่จะเริ่มปลูกควรจะหาแหล่งพื้นที่ที่มีการคมนาคมสะดวก เป็นพื้นที่ดอน น้ำไม่ท่วม หรือทำเป็นสวนผักแบบยกร่อง ดินควรเป็นดินร่วน หรือดินร่วนปนทราย จะทำให้ถอนผักบุ้งได้ง่ายขึ้น และควรอยู่ใกล้แหล่งน้ำเพื่อสะดวกในการรดน้ำในช่วงที่ปลูก และสะดวกในการทำความสะอาดหลังเก็บเกี่ยว

เนื่องจากผักบุ้งจีนเป็นพืชที่มีระบบรากตื้น และอายุการเก็บเกี่ยวสั้น ในการเตรียมดินควรไถดะลึก 10-15 เซนติเมตรพอ และตากดินทิ้งไว้ 10-15 วัน จากนั้นทำการไถพรวนย่อยดิน และยกแปลงปลูกขนาดประมาณกว้าง 1.5-2 เมตร ยาว 10-15 เมตร โดยเว้นทางเดินไว้ประมาณ 50 เซนติเมตร ทั้งนี้เพื่อสะดวกในการดูแลรักษา หลังจากนั้นใส่ปุ๋ยคอกที่สลายตัวแล้วประมาณ 1,000 กิโลกรัมต่อไร่ คลุกเคล้าเพื่อปรับสภาพดินให้เป็นดินดี หากดินมีความเป็นกรดมากให้เติมปูนขาวลงไปเสริมเพื่อปรับสภาพดินอีกทางหนึ่ง

การปลูกผักบุ้งจีน นิยมปลูกแบบหว่านกระจายทั่วแปลง บางครั้งอาจจะโรยเป็นแถว การปลูกแบบหว่านกระจายทั่วแปลงเหมาะสำหรับแปลงทุกรูปแบบ แต่การปลูกแบบโรยเป็นแถวเหมาะกับแปลงที่มีขนาดเล็ก  หรือปลูกเพื่อบริโภคภายในครัวเรือน หลังจากปลูกเสร็จให้รดน้ำด้วยฝักบัวรดน้ำแบบฝอยละเอียด หรือใช้สายยางติดฝักบัวรดน้ำทันที และให้ความชื้นแปลงปลูกทุกวัน วันละ 1-2 ครั้ง หลังจากหว่านเมล็ดประมาณ 2-3 วัน เมล็ดพันธุ์จะงอกเป็นต้นผักบุ้งจีน สำหรับจำนวนเมล็ดที่ต้องใช้หว่านประมาณ 13-15 กิโลกรัมต่อไร หรือ 30 ลิตรต่อไร่

นอกจากนี้เป็นผักที่ตอบสนองต่อปุ๋ยไนโตรเจนมาก ถ้าดินปลูกมีความอุดมสมบูรณ์ หรือมีการใส่ปุ๋ยคอก ซึ่งตัวปุ๋ยคอกมีไนโตรเจนสูงอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องใส่ปุ๋ยเคมีเพิ่ม แต่ถ้าดินที่ปลูกไม่ค่อยมีความอุดมสมบูรณ์ นอกจากปุ๋ยคอกแล้วควรใส่ปุ๋ยทางใบที่มีไนโตรเจนสูงตาม เช่น ปุ๋ยยูเรีย ในอัตรา 15-20 กิโลกรัมต่อไร่ โดยทำการหว่านปุ๋ยให้ทั่วทั้งแปลงก่อนปลูก

และหลังจากปลูกได้ 7-10 วัน ในครั้งที่สองนั้นจะต้องรดน้ำทันที อย่าให้ปุ๋ยเกาะอยู่ตามซอกใบ เพราะจะทำให้ใบไหม้ได้ และควรกำจัดวัชพืชออกจากแปลงอยู่เสมอ ประมาณ 7-10 วันต่อครั้ง สำหรับแหล่งที่ปลูกผักบุ้งจีนเพื่อการบริโภคเป็นการค้าปริมาณมากๆ ควรมีการพ่นสารคุมวัชพืชก่อนปลูก 2-3 วัน หลังจากนั้นจึงหว่านผักบุ้งจีนลงปลูก วิธีนี้จะประหยัดแรงงานในการจัดการวัชพืชในแปลงผักบุ้งจีนได้

20-25 วัน ก็สามารถเก็บผลผลิตได้แล้ว

อย่างที่กล่าวไปผักบุ้งจีนเป็นพืชที่ออกผลผลิตเร็วประมาณ 20-25 วัน ก็สามารถเก็บผลผลิตได้แล้ว วิธีการเก็บ คือ ถอนต้นผักบุ้งจีนออกจากแปลงมาทั้งต้นและราก หลังจากนั้นล้างรากให้สะอาด เด็ดใบและแขนงที่โคนต้นออก นำมาผึ่งทิ้งไว้ และไม่ควรผึ่งทิ้งไว้กลางแดดจะทำให้ผักบุ้งเหี่ยวและเฉาได้ง่าย จัดเรียงต้นผักบุ้งจีนเป็นมัดและเตรียมนำจำหน่ายต่อไป การถอนขึ้นมาทั้งรากนี้จะทำให้ผักบุ้งสดและอยู่ได้นานก่อนจะถึงมือผู้บริโภค

โฆษณา
AP Chemical Thailand

ผักบุ้งจีนเป็นพืชที่ชอบดินปลูกที่ชุ่มชื้น แต่ไม่แฉะจนถึงขั้นมีน้ำขัง ฉะนั้นควรรดน้ำสม่ำเสมอวันละ 1-2 ครั้ง เว้นในช่วงที่ฝนตกไม่จำเป็นต้องรดน้ำก็ได้ และพยายามอย่าให้แปลงผักบุ้งจีนขาดน้ำ ถ้าเกิดขาดน้ำจะทำให้ต้นผักบุ้งจีนหยุดการเจริญเติบโต ทำให้ต้นแข็งกระด้าง เหี่ยว และเก็บเกี่ยวได้ช้ากว่าปกติ

3.ผลผลิตผักบุ้งจีน-https.upload.wikimedia.orgwikipediacommonsff83_-_CIMG2750
3.ผลผลิตผักบุ้งจีน-https.upload.wikimedia.orgwikipediacommonsff83_-_CIMG2750

วิธี การปลูกผักบุ้งจีน ในตะกร้า

การปลูกผักบุ้งเพื่อไว้บริโภคภายในครัวเรือนนั้นทำได้ไม่ยาก มาดูวิธีการปลูกแบบในตะกร้า และอุปกรณ์ที่ใช้กันดีกว่า

วัสดุและอุปกรณ์

-ตะกร้ามีรูแบบโปร่ง 1 ใบ

-กระบะขนาดพอดี 1 ใบ

-กาบมะพร้าวสับ

-น้ำปุ๋ย

โฆษณา
AP Chemical Thailand

-กระบะใหญ่

-เมล็ดผักบุ้งจีน

-น้ำสะอาด

การปลูกผักบุ้งจีน แบบใช้เมล็ด

นำตะกร้าแบบมีรูวางซ้อนกันกับกระบะที่เตรียมมา จากนั้นนำกาบมะพร้าวสับใส่ลงไปในตะกร้า โดยให้มีความสูงประมาณ ¾นิ้ว และใส่น้ำสะอาดให้ความสูงของน้ำปริ่มกับกาบมะพร้าว ห้ามให้น้ำล้นหรือใส่เยอะเกินไปเด็ดขาด โรยเมล็ดผักบุ้งที่เตรียมมาลงไป การโรยต้องระวังอย่าให้ติดกันมากจนเกินไป จากนั้นนำฝาหรือภาชนะมาปิดด้านบน วางในที่ร่มโดยไม่ต้องนำไปตากแดด

พอครบ 2 วัน รากจะเริ่มงอกออกมา ควรสังเกตระดับน้ำว่ามีปริมาณเท่าเดิมหรือไม่ ถ้าลดลงให้เติมให้เต็มพอดีกับกาบมะพร้าวเหมือนเดิม พอรากงอกแล้วก็ไม่จำเป็นต้องปิดฝา หรือหาอะไรมาครอบ เพราะถ้าปิดไว้จะทำให้ใบเหลืองได้ หลังจากนั้นครบ 5 วัน ให้ทำการเติมปุ๋ย

ผ่านไป 2 สัปดาห์ ให้ทำการเติมน้ำปุ๋ย เพื่อให้ดินมีความอุดมสมบูรณ์ และตัวผักบุ้งจะได้รับธาตุอาหารได้อย่างเต็มที่ และเปลี่ยนกระทะใส่น้ำให้เป็นกระบะที่ใหญ่กว่าเดิม เพื่อให้รากนั้นได้งอกตามความยาว พอครบ 3 สัปดาห์ ต้นจะยาวประมาณ 10-12 นิ้ว ช่วงเวลานี้ คือ สามารถเก็บผลผลิตเพื่อนำมาบริโภคได้ แต่ต้องถ่ายน้ำจากกระบะออกก่อน แล้วนำน้ำสะอาดมาใส่ไว้เพื่อเป็นการล้างปุ๋ยที่ตกค้างอยู่ตามใบให้ออกให้หมด ทิ้งไว้ประมาณ 3-5 วัน ก็สามารถตัดนำมาบริโภคได้เลย

โฆษณา
AP Chemical Thailand

การปลูกผักบุ้งจีน แบบไม่ใช้เมล็ด

ตัดฟองน้ำให้เป็นลูกเต๋าโดยมีขนาดกว้าง 1×1 นิ้ว กรีดตรงกลางฟองน้ำเพื่อให้เป็นรู หลังจากนั้นนำฟองน้ำไปชุบน้ำให้ชุ่ม และนำต้นผักบุ้งจีนที่ตัดรากและตัดแต่งเรียบร้อยมาเสียบตามรูที่ได้ทำการเจาะไว้ในช่วงแรก แล้วนำฟองน้ำไปเรียงในตะกร้า ให้ต้นผักบุ้งจีนโผล่จากรูตะกร้าประมาณ 3 นิ้ว และนำตะกร้าไปวางซ้อนกระบะใส่น้ำ ระวังอย่าให้ลำต้นส่วนล่างโดนกับกระบะ  ทิ้งไว้ประมาณ 5-7 วัน พอรากเริ่มยาวแล้วให้เปลี่ยนน้ำ และเริ่มใส่ปุ๋ยได้ทันที

หลังจากทิ้งไว้ประมาณ 2 อาทิตย์ ก็ให้เปลี่ยนจากกระบะเล็กเป็นกระบะใหญ่ขึ้น สังเกตว่าผักบุ้งจะเริ่มโตเต็มที่แล้วในช่วงนี้ ถ้าเริ่มโตเต็มที่ก็สามารถเก็บผลผลิตได้เลย

4.ผักบุ้งจีนพร้อมจำหน่าย-httpsactiverain.comblogsview4638469saturday-smiles-kang-kong-aka-chinese-water-spinach
4.ผักบุ้งจีนพร้อมจำหน่าย-httpsactiverain.comblogsview4638469saturday-smiles-kang-kong-aka-chinese-water-spinach

การป้องกันกำจัดโรคและแมลงศัตรูพืชในผักบุ้งจีน

เป็นเรื่องปกติของพืชทุกชนิดที่จะมีโรคและแมลงตามมา ในผักบุ้งเองก็มีปัญหาที่เข้ามาทำลาย แต่ไม่ได้รุนแรงอะไร จึงไม่จำเป็นที่จะต้องใช้สารเคมีในการช่วยกำจัด แต่ถ้าต้องการใช้ควรเป็นสารเคมีที่สลายตัวได้รวดเร็วจะดีที่สุด

  • โรคสนิมขาว เป็นโรคที่แพร่หลาย และสร้างความเสียหายให้กับผักบุ้งจีนมากที่สุด สามารถพบได้ทุกพื้นที่ของ

การปลูกผักบุ้งจีน สาเหตุเกิดจากเชื้อรา Albugo ipomoea ระบาดมากในช่วงฤดูฝน หรือช่วงที่แปลงมีความชื้นสูง

การป้องกัน ควรคลุกเมล็ดก่อนปลูกด้วยเมทาแลกซิล และเลือกใช้เมล็ดที่มาจากแหล่งที่ไม่มีโรคระบาด ดูแลระบบการให้น้ำในแปลงอย่าให้ชื้นหรือแฉะจนเกินไป ถ้าเกิดโรคให้ฉีดพ่นด้วยเมทาแลกซิลสลับกับแมนโคเซบ ตามอัตราที่ฉลากนั้นแนะนำ ถ้าเกิดโรคไปแล้วให้ทำการเก็บรวบรวมพืชที่เป็นโรคและนำไปเผาทำลาย และใช้ปูนขาวปรับสภาพดิน โดยคลุกรวมกับดิน และตากทิ้งไว้ 1 เดือน หลังจากนั้นปลูกพืชอื่นหมุนเวียนแทน

  • โรคราสนิมเหลือง ลักษณะที่เห็นได้ชัดเลย คือ ผิวใบด้านล่างมีแผลกลมนูน ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 0.5-1

เซนติเมตร เมื่อโตเต็มที่จะแตกออกเป็นรูทำให้เกิดสปอร์ การป้องกัน เช่น วิธีการเดียวกันกับโรคสนิมขาว โรคเน่าคอดิน จะเกิดการระบาดมากในช่วงที่มีการปลูกใหม่ๆ โดยเฉพาะแปลงที่มีการหว่านเมล็ดพันธุ์แน่นเกินไป และดินที่ปลูกมีความชื้นสูง โรคนี้จะทำให้ต้นกล้าผักบุ้งจีนเป็นแผลเน่าที่โคนต้น และเหี่ยวตายอย่างรวดเร็ว

โฆษณา
AP Chemical Thailand

การป้องกัน หว่านผักบุ้งในอัตราที่สม่ำเสมอ ไม่แน่นเกินไป ไม่ควรรดนํ้าจนมีนํ้าขังบนแปลง หากพบผักบุ้งแสดงอาการของโรคให้ถอนและนำไปเผาทำลาย และหากมีการระบาดรุนแรงให้ฉีดพ่นด้วยสารโฟเซทิล

การปลูกผักบุ้งจีน นั้นไม่ใช่เรื่องยาก เพราะผักบุ้งจีนเป็นพืชที่ปลูกง่าย ปลูกขายหรือจำหน่ายก็ง่าย ปลูกไว้บริโภคภายในครัวเรือนก็สามารถทำได้ เพียงแค่ดูพื้นที่ที่พอเหมาะสำหรับแต่ละการปลูก ทั้งนี้ผักบุ้งจีนเป็นพืชที่ชอบน้ำก็จริง แต่ไม่ควรจะให้มีน้ำขังในแปลง หรือในกระถางที่ปลูก เพราะจะทำให้เกิดโรค และทำให้ตัวผักบุ้งจีนนั้นเน่าได้ ควรรดน้ำแต่พอดี

และหมั่นสังเกตดินที่ปลูกว่าแห้งเกินไปหรือไม่ เพราะการที่ดินในแปลงปลูกผักบุ้งแห้งนั้นจะทำให้การเจริญเติบโตเกิดขึ้นช้ากว่าที่ควรจะเป็น อีกทั้งคุณภาพผลผลิตที่ได้จะทำให้ได้ไม่ดีเท่าที่ควร การนำไปจำหน่ายหรือไปบริโภคอาจจะไม่เหมาะสมนัก ถึงแม้ว่าจะเป็นพืชเขตร้อน ปลูกได้ทุกภาค และทุกฤดูกาล แต่ก็ควรจะศึกษาและทำความเข้าใจให้มากขึ้น เพราะทุกอย่างมีขั้นตอนในการปลูกของมัน จะทำแบบมั่วๆ ไม่ได้เด็ดขาด

ผักบุ้งจีนจะมีลักษณะที่แตกต่างจากผักบุ้งของไทยอยู่แล้ว ถ้าสังเกตดีๆ ก็จะแยกได้ว่าอันไหนเป็นอันไหน  อีกทั้งผักบุ้งจีนเองยังได้รับการยอมรับให้เป็นพืชเศรษฐกิจในการส่งออกที่สำคัญอีกชนิดหนึ่งของประเทศไทยด้วย

ผักบุ้งจีนเป็นพืชที่นิยมมากทั้งในอดีตและปัจจุบัน ทำให้เกิดการเพาะปลูกอย่างมากมายในทั่วทุกภูมิภาคของประเทศไทย คนไทยเองก็นิยมบริโภคผักบุ้งจีน นอกจากจะอร่อยแล้ว สารอาหารในตัวผักบุ้งจีนเองมีมากจนแทบจะบรรยายไม่หมดเลยทีเดียว บทความนี้เป็นการอ้างอิงข้อมูลจากหลายๆ ส่วน นำมาประกอบเพื่อเป็นกรณีศึกษาให้กับผู้ที่สนใจได้ลองเปิดอ่านดู แล้วคุณจะรู้ว่าสิ่งดีๆ ในตัวผักบุ้งจีนนั้นมีอีกมากเรื่องราวของการเพาะปลูกนั้น กว่าจะเป็นผักบุ้งจีนก็ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ไม่ยากเกินไปหากลงมือทำ คนเราต้องมีการล้มลุกผิดพลาดเป็นเรื่องปกติ การจะปลูกผักสักอย่างคงไม่ใช่เรื่องยากเกินไปสำหรับมนุษย์เรานัก

ขอขอบคุณแหล่งข้อมูลอ้างอิงของ การปลูกผักบุ้งจีน

โฆษณา
AP Chemical Thailand

http://www.vigotech.co.th/index.php?lay=show&ac=article&Id=539852761&Ntype-8,https://decor.mthai.com/garden/9433.html,http://www.trgreen.co.th/index.php?lay=show&ac=article&Id=539573124&Ntype-26