วิธีทำค้างปลูกดอกขจร ให้เลื่อย “ผักเงินด่วน” เก็บขายได้ทุกวัน 60-200 บาท/กก.

โฆษณา
AP Chemical Thailand

มาตามเจ้าดอกขจรสามพรานย่านนครปฐม…พบกับพี่ไก่คุณโชติวัฒน์ ฮะทะโชติ และสมาชิกภายในครอบครัวฮะทะโชติ จะเล่าเรื่องผักขจรให้ฟัง วิธีทำค้างปลูกดอกขจร

ผักเงินด่วนอย่างขจรผมต้องยกนิ้วให้ ผักขจรตัวนี้สามารถเก็บขายได้แทบทุกวัน ราคาตามตลาดก็อยู่ในเกณฑ์สูง และเรื่องของเงินต้นทุนก็ไม่มีอะไรมาก

1.ดอกขจรตอนอยู่บนต้น
1.ดอกขจรตอนอยู่บนต้น

การปลูกต้นขจร

นับตั้งแต่นั้นมาเมื่อ 5 ปีก่อน ครอบครัวฮะทะโชติได้ลองผิดลองถูกกับผักขจรตัวนี้จนประสบผลสำเร็จ สร้างเงินได้หลักแสนกันเลย เหลือเชื่อว่าผักขจร ผักพื้นบ้านริมรั้วก็สามารถทำเงินได้ แต่ก่อนพืชหลักที่ปลูกส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มไม้ผลต่างๆ อย่าง มะม่วง องุ่น ฝรั่ง ชมพู่ แก้วมังกร และลำไย ที่ถือว่าเป็นไม้ผลหลักที่ทำเงินอีกทาง

พี่ไก่เล่าว่า “เหตุที่ปลูกขจรก็เนื่องจากปลูกไปเลี้ยงลำไย เมื่อลำไยหมดฤดู แต่ปรากฏว่าขจรที่เป็นตัวทำเงินเลี้ยงลำไยแทน” ในพื้นที่ 80 ไร่ แบ่งสัดส่วนออกไปปลูกลำไย 30 ไร่ ขจรประมาณ 1 ไร่เศษ กลิ่นหอมโชยมาแต่ไกล หัวใจใสๆ ไร้สารพิษ…ลัดเลาะริมรั้วตามกลิ่นหอมของดอกขจรมาถึงสามพราน ภาพลางๆ น้ำพริกปลาทูกับดอกขจรลวกจิ้มกับข้าวสวยร้อนๆ โอ้ล่ะพ่อสุดยอดเลยเชียว… เมื่อก่อนผักพื้นบ้าน อย่าง ขจร หรือสลิด เป็นผักพื้นบ้านที่เกิดขึ้นเองตามป่า ตามรั้ว เพียงเท่านั้น กินได้ทั้งดอกและใบ ลวกกับน้ำพริก นำมาผัด ทอด ได้สารพัด พร้อมกับคุณค่าทางอาหาร วิตามิน โปรตีน ก็มากมาย

ขจรนับเป็นผักที่สร้างรายได้ให้กับพี่ไก่และครอบครัวได้เป็นอย่างดี นอกจากจะเก็บดอกจำหน่ายแล้วยังจำหน่ายกิ่งพันธุ์ สำหรับในพื้นที่ 1 ไร่ ที่ถูกแบ่งสรรปันส่วนเรียบร้อยแล้ว ส่วนใหญ่ขจรจะมีอยู่ 2 สายพันธุ์ คือ พันธุ์พื้นบ้าน และขจรพันธุ์ดอกใหญ่ ซึ่งขจรพันธุ์พื้นบ้านส่วนใหญ่จะพบกันตามป่าหรือขึ้นตามบ้าน จะให้ดอกที่เล็ก และเกิดดอกในช่วงฤดูฝน ส่วนดอกใหญ่จะได้มาจากการปรับปรุงพันธุ์ของขจรพื้นบ้าน จนกระทั่งได้ดอกใหญ่ ช่อดอกดกใหญ่ และสามารถออกดอกได้ตลอดทุกฤดูกาล เก็บขายได้ทุกวัน แต่จะให้ดอกน้อยในช่วงฤดูหนาว หลังจากออกดอกแล้วถ้าไม่เก็บก็จะร่วงไป

โฆษณา
AP Chemical Thailand
2.ดอกขจรพร้อมส่งลูกค้า
2.ดอกขจรพร้อมส่งลูกค้า

ด้านตลาดและช่องทางจำหน่ายดอกขจร

ปลูก 1 ไร่ ได้มากกว่า 1 แสน ในส่วนราคานั้นช่วงที่เคยแพงสุดจะตกอยู่ที่ กก.ละ 200 บาท เลยทีเดียว และในปัจจุบันนี้ราคาอยู่ที่ 60 บาท เห็นแล้วอบอุ่นช่วยกันคัดดอกขจร แรงงานทั้งหมดเป็นคนภายในครอบครัว ช่วยกันคัด ช่วยกันเก็บ “นั่งคัดกันทั้งวัน งานมีตลอด แรงงานก็คนภายในครอบครัว เก็บดอก คัดดอก รอแม่ค้ามารับ”

สิ่งสำคัญอันดับหนึ่ง ตลาดทำการผลิตผักขจรพื้นบ้านถูกยกระดับสู่ผักเศรษฐกิจอีกตัวที่ตลาดมีความต้องการมาก “เมื่อเก็บดอกขจรได้แล้วก็นำมาคัดเอาดอกบานแล้วก็ล้างน้ำรอแม่ค้ามารับ ตลาดหลักๆ จะอยู่ตลาดในนครปฐม ตลาดคลองตลาด มีแม่ค้าที่มารับผักตามตลาดนัดในชุมชน”

3.แปลงปลูกต้นขจร
3.แปลงปลูกต้นขจร วิธีทำค้างปลูกดอกขจร วิธีทำค้างปลูกดอกขจร วิธีทำค้างปลูกดอกขจร 

สภาพพื้นที่ปลูกต้นขจร

ก่อนปลูกควรเลือกพื้นที่น้ำท่วมไม่ถึง ถ้าหากปลูกในที่นาควรปลูกแบบยกร่อง ส่วนเรื่องดินเป็นส่วนสำคัญ ดินที่เหมาะกับการปลูกขจรเป็นดินร่วนปนทราย และไถดินยกร่อง ตากดินไว้ประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อฆ่าเชื้อโรค แล้วยกร่องเพื่อทำแปลงปลูก แล้วปลูกระยะพอดีจะอยู่ที่เมตรถึงเมตรครึ่ง และเมื่อปลูกไปแล้วประมาณ 1 เดือน ขจรก็จะเริ่มแทงยอด อย่างในระหว่างนี้จึงเริ่มต้นใช้ขจรรูปแบบการทำค้าง

เมื่อเอ่ยถึงดอกสลิดจะนึกถึงดอกไม้ชนิดหนึ่งนำมาทำอาหารเหมือนผักทั่วไป ส่วนชื่อขจรนั้นเป็นชื่อที่เกิดภายหลัง ทำให้นึกถึงกลิ่นหอมที่ฟุ้งขจรขจายไปไกล ไม่ว่าจะเรียกสลิดหรือขจรก็เป็นพืชที่ควรปลูก เพราะเมื่อดอกบานจะส่งกลิ่นหอม จึงมีคนนำดอกสลิดไปบูชาพระ หรือทำเป็นพวงมาลัย และชาววังจะเด็ดเอาเฉพาะดอกเพื่อใช้ทำเครื่องหมายไทยชุดบุหงาสดในชนบท นอกจากจะพบสลิดปลูกอยู่ตามสวนและบริเวณบ้านแล้ว ยังพบสลิดขึ้นอยู่ตามธรรมชาติ ในป่าดิบแล้ง และป่าละเมาะด้วย เพราะสลิดปลูกง่าย ขึ้นได้ดีในดินแทบทุกชนิด ชอบแดดจัด จึงใช้ปลูกเลื้อยคลุมทำเป็นซุ้มหรือทำแนวรั้วได้ดี ในพื้นที่ที่มีสภาพเป็นป่าธรรมชาติเดิมที่มีต้นไม้ตามธรรมชาติ โดยปลูกให้เลื้อยขึ้นไปตามต้นไม้เสริมเข้าไปในพื้นที่ป่าธรรมชาติเพื่อนำมาบริโภคก็ได้

การเพาะชำกิ่งขจร

เตรียมส่วนผสมดินเพาะชำ โดยใช้แกลบเผา 2 ส่วน ดินร่วน 2 ส่วน ปุ๋ยหมัก 1 ส่วน ผสมคลุกเคล้ากัน ใส่ถุงชำเตรียมไว้ เตรียมกิ่งชำโดยเลือกตัดกิ่งที่ไม่อ่อนและแก่เกินไปให้มี 2-3 ข้อ นำกิ่งทางด้านโคนมาชุบน้ำยากันเชื้อราก่อนแล้วนำไปปักชำในถุงเพาะชำที่เตรียมไว้ รดน้ำให้ชุ่มแล้วนำไปพักไว้ในร่ม เมื่อแตกตากิ่งหรือตายอดมีความยาวประมาณ 1 คืบ หรือนับจากวันที่ปักชำได้อย่างน้อย 14 วัน จึงจะย้ายกล้าลงปลูกในแปลง

โฆษณา
AP Chemical Thailand

การตอนใช้ขุยมะพร้าวแช่น้ำไว้หนึ่งคืนเพื่อให้ชุ่มน้ำ ใส่ถุงพลาสติกใส มัดหนังยางไว้ ทำเป็นถุงตอน ควรเตรียมไว้หลายๆ ถุง เวลาตอนให้กรีดถุงด้านหนึ่งแล้วนำไปหุ้มตรงข้อของเถาขจรมัดให้แน่น ให้ตอนข้อ เว้นสองข้อ ประมาณยี่สิบกว่าวันก็ออกราก แล้วสังเกตดูว่ารากเจริญดีแล้วก็ตัดได้

4.รดน้ำวันละครั้ง หรือตามสภาพความชื้นของดิน
4.รดน้ำวันละครั้ง หรือตามสภาพความชื้นของดิน

วิธีการปลูกและบำรุงดูแลต้นขจร

ไถพรวนแล้วย่อยดินให้ละเอียด ยกร่องแปลงกว้าง 6.4 เมตร ยาวไม่จำกัด ระยะห่างระหว่างแปลง 80 เซนติเมตร การปลูกใช้ระยะ 2×2 เมตร ขุดหลุมลึกประมาณ 30-50 เซนติเมตร ถ้าดินไม่ดีนักให้ขุดหลุมใหญ่เพื่อใส่ปุ๋ยคอกลงไปให้มากกว่าดินที่สมบูรณ์ ใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 นำกิ่งชำหรือกิ่งตอนที่มีรากแข็งแรงที่เตรียมไว้แล้วนำมาปลูก เกลี่ยดินกลบโคนต้นให้แน่น รดน้ำให้ชุ่ม ใน 1 หลุมปลูก จะมีกิ่งปักชำ 3-4 กิ่ง จึงทำให้การเจริญเติบโตแผ่กระจาย และยอดจะเลื้อยขึ้นค้างได้อย่างพอเหมาะ รดน้ำวันละครั้ง หรือตามสภาพความชื้นของดิน

การทำค้าง

เมื่อย้ายปลูกได้ประมาณ 15-30 วัน ให้เตรียมทำค้างเพื่อให้ต้นขจรเลื้อยขึ้นค้าง หลังปลูกประมาณ 1 เดือนขึ้นไป ขจรจะเริ่มออกดอก มีเถามากขึ้น บางเถาจะไม่สมบูรณ์ เป็นโรค หรือแมลงทำลาย ให้ตัดกิ่งหรือเถาที่ไม่สมบูรณ์ทิ้งไป ควรดูแลให้แปลงโปร่ง อย่าให้แน่นทึบมากเกินไปเพื่อให้แสงแดดส่อง

โดยใช้เสาปูนขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 5-6 นิ้ว ทำเป็นเสาหลัก 2 เสา ปักห่างกัน 2 เมตร และสูงจากพื้นดินประมาณ 1.50 เมตร ปักตามแนวยาวของแปลง และระหว่างเสาหลักจะใช้ไม้ไผ่ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 2-3 นิ้ว ปักไว้ ยอดสลิดเลื้อยขึ้นไปจะเป็น 1 ซุ้ม เว้นทางเดินห่างประมาณ 80 เซนติเมตร แล้วจะทำซุ้มต่อๆ ไปตามต้องการ

5.วิธีทำค้างปลูกดอกขจร ให้ต้นขจรเลื้อย
5.วิธีทำค้างปลูกดอกขจร ให้ต้นขจรเลื้อย

วิธีทำค้างปลูกดอกขจร

ในช่วงแรกจะต้องช่วยจับยอดสลิดให้ค้างบ้างเพื่อให้ยอดเลื้อยขึ้นอย่างเป็นระเบียบ สะดวกต่อการดูแลรักษาและเก็บเกี่ยว โดยใช้ไม้หลักปักไว้ตรงกลาง และปักไม้ด้านข้างอย่างละต้น แล้วขึงลวดตามความยาวเหมือนกับทำค้างองุ่นสำหรับให้กิ่งเลื้อยไปข้างบน การทำค้างแบบนี้ช่วยให้เวลารดน้ำ ใส่ปุ๋ย เก็บดอก และตัดแต่งกิ่งทำได้ง่าย ให้ปุ๋ยอินทรีย์น้ำสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ปุ๋ยคอกและปุ๋ยหมักให้ใส่ที่โคนต้นใส่ได้เรื่อยๆ

ส่วนปุ๋ยเคมีใช้สูตร 15-15-15 สลับกับ 25-7-7 ใส่เดือนละ 2 ครั้ง และหลังตัดแต่งกิ่งก็ใส่ปุ๋ย ให้น้ำ ตามปกติ เพื่อเร่งดอก ถ้าดูแลรักษาดีดอกจะโตมากกว่าปกติ และให้ดอกดก ทำการตัดแต่งกิ่งแก่ กิ่งที่ให้ดอกแล้วต้องทำอยู่เสมอเพื่อให้แตกยอดใหม่ออกมาเรื่อยๆ พอเด็ดยอดก็จะยิ่งแตกยอดใหม่ตามข้อออกมาเรื่อยๆ ส่วนมากจะตัดแต่งกิ่งในช่วงหน้าหนาว (ตุลาคม-พฤศจิกายน) เพราะช่วงนี้จะออกดอกน้อย ต้องตัดแต่งกิ่งเพื่อให้แตกยอดใหม่ จะตัดอย่างหนักเอาไว้เฉพาะส่วนลำต้นที่ตั้งตรงขึ้นไป แต่ต้องแบ่งแปลงไว้ ไม่ต้องทำพร้อมกันทั้งแปลง เพื่อให้มีแปลงที่เก็บดอกได้ด้วย เพราะช่วงนี้จะขายได้ราคาดี จะให้ดอกได้อีกมาก

โฆษณา
AP Chemical Thailand
6.ผลผลิตดอกขจร
6.ผลผลิตดอกขจร

การเก็บเกี่ยวดอกขจร

หลังจากย้ายปลูกได้ 30 วัน ขจรจะเริ่มออกดอกให้ผลผลิตมากที่สุด เมื่ออายุ 8-10 เดือน โดยเฉพาะในช่วงเดือนพฤษภาคม กรกฎาคม และผลผลิตจะเริ่มลดลงในช่วงเดือนพฤศจิกายน ธันวาคม เพราะเป็นช่วงฤดูหนาว ซึ่งเป็นช่วงที่เหมาะสำหรับตัดแต่งกิ่งเพื่อให้แตกกิ่งใหม่ต่อไป

ส่วนการเก็บดอกจะทำในช่วงเย็นเวลาประมาณบ่าย 3 โมง เป็นต้นไป จะใช้มีดตัดช่อดอก เมื่อได้ช่อดอกมาแล้วนำไปล้างน้ำ 2 ครั้ง แล้วนำมาคัดแยกเอาดอกที่บานออกไว้ต่างหาก ดอกตูมจะขายได้ราคาแพงกว่าดอกบาน เมื่อคัดแยกแล้วนำไปบรรจุใส่ถุงพลาสติกใสถุงละ 1 กิโลกรัม รอไว้ส่งขายต่อไป

7.แมลงจะดูดน้ำเลี้ยงใต้ผิวใบ ทำให้ใบแห้งเหี่ยวได้
7.แมลงจะดูดน้ำเลี้ยงใต้ผิวใบ ทำให้ใบแห้งเหี่ยวได้ วิธีทำค้างปลูกดอกขจร วิธีทำค้างปลูกดอกขจร

การป้องกันและกำจัด แมลง ศัตรูพืช ต้นขจร

แมลงศัตรู เพลี้ยไฟ จะดูดน้ำเลี้ยงตามใต้ผิวใบ ทำให้ใบแห้งเหี่ยว เส้นกลางใบและขอบใบแห้งเป็นสีน้ำตาล มักจะระบาดในช่วงปลายฤดูฝนถึงต้นฤดูแล้ง การให้น้ำตามปกติวันละครั้ง และให้ปุ๋ยอินทรีย์น้ำสัปดาห์ละครั้ง จะช่วยลดการระบาดของเพลี้ยไฟได้บ้าง

การป้องกันและกำจัด เก็บทำลายดอกตูมที่มีอาการเน่า ฉ่ำน้ำ หรือแสดงอาการบิดเบี้ยว ออกจากสวนไปเผาทำลายทิ้งให้หมด เพื่อเป็นการตัดวงจรและลดจำนวนประชากรแมลงบั่วลง หากต้นสมบูรณ์จะออกดอกติดต่อกันได้นานนับเดือน ปัจจุบันพบว่ามีการขายดอกขจรในตลาดผักทั่วไป และในซุปเปอร์มาร์เก็ต ส่วนที่ใช้บริโภค คือ ผลอ่อน ยอดอ่อน ดอกตูมและบาน มีรสจืดและมัน

ขอบคุณข้อมูล คุณโชติวัฒน์ ฮะทะโชติ 20 ม.3 ต.คลองจินดา อ.สามพราน จ.นครปฐม โทร.08-6671-7017, 08-1010-8053

อ้างอิง : นิตยสาร ผักเศรษฐกิจ