PTG จับมือ 3 เซียน ทุ่มทุน 4,800 ล้าน สร้าง “ปาล์มคอมเพล็กซ์” แห่งแรกทันสมัยที่สุดในไทย (ตอนที่ 1 )

โฆษณา
AP Chemical Thailand


1
4

                ย้อนไปเมื่อ 27 ปีที่แล้ว PTG ได้ลงทุนค้าปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงในนาม บริษัท ภาคใต้เชื้อเพลิง จำกัด ให้แก่เรือประมงและโรงงานอุตสาหกรรมในภาคใต้ โดยมี “คลังน้ำมัน” ที่ อ.แม่กลอง จ.สมุทรสงคราม และ อ.เมืองชุมพร จ.ชุมพร กิจการดำเนินไปได้ด้วยดีตลาดผู้ใช้น้ำมันรายย่อยเติบโตขึ้นเพราะคนใช้รถยนต์มากขึ้น ทางบริษัทจึงได้ลงทุนขยายคลังน้ำมันหลายแห่ง เพื่อป้อนน้ำมันให้กับปั๊มน้ำมัน PT ที่ขยายเปิดสาขาหลายแห่งบนถนนสายรองในแต่ละจังหวัด ทำให้ปั๊ม PT เป็นที่รู้จักของคนไทยมากขึ้น

2

              ธุรกิจปั๊มน้ำมันดำเนินงานโดย บริษัท ปิโตรเลียมไทย คอร์ปอเรชั่น จำกัด (PTC) โดยมีรูปแบบธุรกิจปั๊มน้ำมัน 4 อย่าง ได้แก่ PTC เป็นเจ้าของปั๊ม หรือเป็นเจ้าของสิทธิการเช่าปั๊ม ตาม พ.ร.บ.การค้าน้ำมันเชื้อเพลิง 2543 มาตรา 10 และบริหารจัดการปั๊มเองที่เรียกว่า COCO (COMPANY OWNED COMPANY OPERATED) รูปแบบตั้งตัวแทนจำหน่าย ภายใต้กฎ กติกา ของ PTC ที่เรียกปั๊มประเภทนี้ว่า DODO (DEALER OWNED DEALER OPERATED) รูปแบบ JOBBER คือ PTC ขายน้ำมันให้พ่อค้าอิสระ และรูปแบบขายตรงให้กลุ่มอุตสาหกรรม

                หลังเปิดดำเนินการมาเป็นระยะเวลา 24 ปี ทางบริษัทมีจำนวนปั๊มน้ำมันหรือสถานีบริการน้ำมัน PT จำนวน 574 แห่ง แต่ PT เติบโตรวดเร็วได้อย่างไร ??

3.คุณพิทักษ์ รัชกิจประการ

          คุณพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) เปิดใจกับนิตยสาร
พืชพลังงาน
เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2557 ว่า “เรามองว่าการขยายสาขาจะสร้างความเจริญเติบโต สร้างความยั่งยืน สร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน เรามองและเราเห็น ในขณะที่คนอื่นมองแล้วไม่เห็นเหมือนเรา เรามองขาดในเกมนี้ จึงตัดสินใจได้แม่นยำ”

           โดยการขยายสาขาในถนนสายรองที่คุณพิทักษ์ยอมรับว่า มันคือกลยุทธ์ป่าล้อมเมือง ดุจแม่น้ำปิง วัง ยม น่าน ที่ต้องมีน้ำไหลลงมาจึงจะเกิดเป็นแม่น้ำเจ้าพระยา เมื่อมีปั๊ม PT บนถนนสายรอง ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องไปเติมน้ำมันในปั๊มบนถนนสายหลักแต่อย่างใด เมื่อคนไทยเห็นปั๊ม PT เพิ่มขึ้นทุกปี ด้วยสไตล์รูปโฉมใหม่ ใช้แล้วมั่นใจในคุณภาพน้ำมัน และการบริการ ยอดขายจึงเพิ่มขึ้นทุกปี

          นอกจากนี้การบริหาร “ต้นทุน” ยังเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญในการดำเนินธุรกิจหรือสงครามเศรษฐกิจ เพราะในปี 2551 ทุกคนต้องใช้น้ำมันแพง น้ำมันดิบบาเรลละ 140 ยูเอสดอลลาร์ พอปลายปีเกิดวิกฤติแฮมเบอร์เกอร์ที่สหรัฐอเมริกา คุณพิทักษ์จึงได้เปลี่ยนวิกฤติเป็น “โอกาส” นั่นคือ การระดมสมองทีมงานเขียนแผนธุรกิจนาน 10 ปี เริ่มขยายงานตอนเกิดวิกฤติ ร่วมลงทุนทั้งคลังน้ำมันและปั๊มกระจายทุกภาคของประเทศ จนกระทั่ง เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2555 มีปั๊ม PT 574 แห่ง และคลังน้ำมัน 7 แห่ง ที่ ลำปาง พิษณุโลก นครสวรรค์ ขอนแก่น นครราชสีมา และ สระบุรี พร้อมๆ กับการขยายฐาน “สมาชิก” ผู้ใช้น้ำมัน ด้วยการออกบัตรส่วนลดพิเศษ เป็นการสร้างตลาดแบบ “จัดตั้ง” ง่ายๆ แต่ได้ผล “เครือข่ายคลังน้ำมันเน็ตเวิร์คเราสมบูรณ์แบบที่สุดในรัศมี 200 กม. คลังเราครอบคลุมทั่วประเทศ เพราะทุกปีเราขยายปั๊มไม่ต่ำกว่า 230 ปั๊ม” คุณพิทักษ์เปิดเผยถึงความจำเป็นของการลงทุนสร้างคลังน้ำมัน

โฆษณา
AP Chemical Thailand

          ในแผนระบุไว้เลยว่า ในปี 2561 จะต้องมีปั๊ม PT กว่า 2,000 สาขา 936 อำเภอ “ที่ไหนมีคนไทย PT จะไปถึง เพื่อเป็นหนึ่งในใจคนไทย ทุกอำเภอต้องมี PT เราวางสมาชิกไว้ 7 ล้านคน” คุณพิทักษ์ยืนยันถึงเป้าหมายในการพุ่งชนจนทะลุเป้าเกือบทุกปี ซึ่งสถิติในการขยายสาขา เช่น ปี 2555 ขยาย 125 สาขา ปี 2556 ขยาย 160 สาขา และปี 2557 ขยายมากถึง 230 สาขา ซึ่งเป็นของแฟรนไชส์ 30 สาขา และปีนี้ตั้งเป้าไว้ที่ 250 สาขา ขณะที่ยอดขายน้ำมันก็เพิ่มขึ้นตลอด แน่นอนผลงานดังกล่าวก่อให้เกิด “ประสบการณ์” ในการเลือกที่ทำเลตั้งปั๊มน้ำมันคุณภาพ

8.คุณพงศ์นเรศ วนสุวรรณกุล(คนที่4จากซ้าย)

          ในยุทธการขายปลีกน้ำมัน นอกจากความเป็นเลิศด้านตลาดและตัวสินค้าแล้ว เรื่อง “การเงิน” หรือเงินทุนในการขับเคลื่อนธุรกิจก็เป็นเรื่องใหญ่
คุณพิทักษ์และทีมงานได้ตัดสินใจเข้าตลาดหลักทรัพย์ ทำให้เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2556 ทำให้บริษัทมีทุนเพิ่มเป็น 1,670 ล้านบาท จากนั้นจึงได้ก่อสร้างคลังน้ำมันแห่งที่ 8 ที่พิษณุโลก เมื่อต้นปี 2557 ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้บริษัทสามารถกระจายน้ำมันเข้าสู่ปั๊ม PT ครอบคลุมอีก 7 จังหวัดในภาคเหนือ

          บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทที่จดทะเบียนเป็นผู้ค้าน้ำมันเชื้อเพลิงตามมาตรา 7 พ.ร.บ.การค้าน้ำมันเชื้อเพลิง 2543 โดยขายให้ดีลเลอร์น้ำมัน ผู้ค้ารายอื่นๆ และเจ้าของโรงงานอุตสาหกรรม นอกจากนี้บริษัทยังได้จดทะเบียนเป็นผู้ขนส่งน้ำมันตามมาตรา 12 และได้รับฝากน้ำมันให้กับผู้ค้าน้ำมันรายอื่นอีกด้วย

          ในเรื่องพลังงานทดแทน บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG มีความมุ่งมั่นที่จะขยายธุรกิจไบโอดีเซลให้เป็นเลิศ หลังจากได้เห็นตัวเลขยอดขายไบโอดีเซลตั้งแต่ปี 2552 ในที่สุดก็สรุปได้ว่ายุทธวิธีที่แหลมคม ก็คือ  จะต้องหาพันธมิตร หรือ “มิตรร่วมรบ” ระดับเซียนเข้ามาร่วมลงทุน หลังจากวิเคราะห์แผนธุรกิจจนตกผลึกจึงได้จับมือพันธมิตร 3 รายได้แก่ กลุ่มบริษัท ท่าฉางอุตสาหกรรม หรือ ทีซีจี โดยคุณพงศ์นเรศ วนสุวรรณกุล และคุณพงศ์นรินทร์ วนสุวรรณกุล บริษัท โอพีจีเทค จำกัด โดยคุณเศรษฐ์ฐ พัฒนมาศ และ บริษัท อาร์แอนด์ดี เกษตรพัฒนา จำกัด โดยคุณภัคจิรา
รัชกิจประการ
และคุณศรัณยา กระแสเศียร ในนาม บริษัท เซจแคปปิตอล จำกัด คอยเป็นที่ปรึกษาด้านการเงิน

          ด้วยเม็ดเงินลงทุน 4,800 ล้านบาท ภายใต้โครงการ “ปาล์มคอมเพล็กซ์” บนเนื้อที่กว่า 1,000 ไร่ โดยแบ่งเป็นพื้นที่สวนปาล์มน้ำมัน 750 ไร่และในส่วนของโรงงาน 250 ไร่ ตั้งอยู่ในพื้นที่ อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในนาม บริษัท พีพีพี กรีน คอมเพล็กซ์ จำกัด โดยมีสัดส่วนการถือหุ้นคือ บมจ.พีทีจี เอ็นเนอยี 35% กลุ่มบริษัทท่าฉางอุตสาหกรรม 45% บริษัทโอพีจีเทค จำกัด 10% และ บริษัท อาร์แอนด์ดี เกษตรพัฒนา จำกัด อีก 10%

          ปาล์มคอมเพล็กซ์แห่งนี้ ถือได้ว่าเป็นแห่งแรกและทันสมัยที่สุดในประเทศไทย เป็นการลงทุนด้านโรงหีบหรือโรงสกัดน้ำมันปาล์มขนาด 150 ตันทะลาย/ชั่วโมง มีแทงค์เก็บน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) ความจุถึง 100,000 ตัน หรือ 120 ล้านลิตร โดยน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) ส่วนหนึ่งจะถูกนำไปกลั่นเป็นน้ำมันพืชเพื่อการบริโภคด้วยกำลังการผลิต 600 ตัน/ชั่วโมง และอีกส่วนหนึ่งนำไปผลิตในโรงผลิตไบโอดีเซล (B100) ที่มีกำลังการผลิต 450,000 ลิตร/วัน ซึ่งโรงงานทั้งหมดตั้งอยู่ภายในโครงการปาล์มคอมเพล็กซ์ โดยเฉพาะของเสียที่เกิดจากกระบวนการผลิตส่วนใหญ่จะถูกนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดหรือมีของเสียเป็นศูนย์ เพื่อลดต้นทุนในกระบวนการผลิตและแปลงเป็นเงินจากการสร้างมูลค่าเพิ่ม “น้ำเสีย” ซึ่งจะถูกเปลี่ยนเป็นไบโอแก๊ส เช่นเดียวกับการนำทะลายเปล่าและเส้นใยปาล์มน้ำมันไปเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า เป็นต้น เรียกได้ว่าเป็นการลงทุนภายใต้ “กรีนคอนเซปต์” หรือ “ของเสียเป็นศูนย์” (Zero Waste) จริงๆ

โฆษณา
AP Chemical Thailand

         โครงการนี้เป็นการโชว์ฝีมือของแต่ละเซียนที่ร่วมลงทุนเพื่อให้ “ต้นทุน” ต่ำสุด แต่ผลผลิตสูงสุด ภายใต้เทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด
เพื่อรองรับมาตรฐานในระดับสากล สามารถแข่งขันในตลาดโลกได้อย่างสง่างาม

6.บัตรสมาชิกที่ใช้เป็นส่วนลดในการใช้บริการ

          โดยในส่วนของต้นน้ำ บริษัท อาร์แอนด์ดี เกษตรพัฒนา จำกัด คือ เซียนคัดสรรพันธุ์ปาล์มน้ำมันที่ให้เปอร์เซ็นต์น้ำมันและผลผลิตต่อไร่สูง และยังส่งเสริมให้ชาวสวนปลูกปาล์มน้ำมันอย่างถูกวิธี มีการจัดการสวนปาล์มน้ำมันที่มีประสิทธิภาพ แล้วรับซื้อปาล์มทะลายเข้าโรงงานในราคาที่เป็นธรรม พร้อมทั้งลงทุนปลูกเองด้วย เพื่อพิสูจน์ให้เกษตรกรเห็นของจริง ขณะที่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด(มหาชน) เซียนค้าปลีกน้ำมันเชื้อเพลิง มีกลยุทธ์ป่าล้อมเมือง บริษัท โอพีจีเทค จำกัด เซียนด้านการกลั่นน้ำมันและไบโอดีเซลด้วยไฮเทคโนโลยี และยังมีกลุ่มบริษัทท่าฉางอุตสาหกรรม เซียนโรงหีบที่มีประสิทธิภาพอันดับต้นๆ ระดับ 1 ใน 5 เสือของโรงหีบของประเทศไทย

           ดังนั้นเมื่อ 4 เซียนจาก 4 ธุรกิจมารวมตัวกันเป็นหนึ่ง จึงเป็นปรากฏการณ์ครั้งสำคัญ ก่อให้เกิดการสั่นสะเทือนในตลาดค้าปลีกน้ำมันเชื้อเพลิงและตลาดน้ำมันปาล์มโดยตรง เป็นการยกระดับอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันของประเทศไทยให้สามารถแข่งขันได้ในเวทีโลก

อ่านต่อตอนที่ 2