เลี้ยงกุ้ง แบบง่ายๆ ใช้ “ไดนามิก พลัส” ได้กำไรเนื้อๆ

โฆษณา
AP Chemical Thailand

เลี้ยงกุ้ง แบบง่ายๆ ใช้ “ไดนามิก พลัส” ได้กำไรเนื้อๆ

1.สารปรับสภาพดิน-แบรนด์ไดนามิก-พลัส
1.สารปรับสภาพดิน-แบรนด์ไดนามิก-พลัส

การแก้ไขปัญหาดินและน้ำเน่าเสียภายในบ่อ

สารปรับสภาพน้ำที่พัฒนาขึ้นสำหรับใช้บำบัดน้ำที่ไม่เหมาะสม ซึ่งอาจเกิดจากการปนเปื้อนของสารพิษต่างๆ ทั้งจากสารเคมีปราบศัตรูพืช และซากแพลงค์ตอน ที่เกิดการตายพร้อมกัน รวมทั้งสารอินทรีย์ต่างๆ ที่แขวนลอยในน้ำให้มีความสมดุล เหมาะสำหรับการ เลี้ยงกุ้งและยังมีคุณสมบัติย่อยสลายได้เองในธรรมชาติ จึงมีความปลอดภัยสูง ช่วยเพิ่มปริมาณจุลินทรีย์ กำจัดของเสียภายในพื้นบ่อ ทำให้ย่อยสลายของเสียภายในบ่อได้ดีขึ้น เร็วขึ้น จึงเป็นการช่วยควบคุมปริมาณเชื้อที่ทำให้เกิดโรคต่างๆ ซึ่งเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์น้ำมักจะประสบปัญหาน้ำภายในบ่อเน่าเสียเร็วกว่าปกติ โดยเฉพาะช่วงหน้าแล้งน้ำภายในบ่อก็จะเกิดการเน่าเสียเร็วมาก ทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์น้ำต้องทำการเปลี่ยนถ่ายน้ำบ่อยกว่าปกติ ซึ่งทำให้ส่งผลกระทบทำให้เกิดโรคระบาดและตายได้ ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นสามารถแก้ไขได้ด้วยวิธีการที่ช่วยให้เกษตรลดต้นทุนการใช้สารเคมี ลดค่าน้ำ ลดค่าไฟฟ้า และลดระยะเวลาในการเลี้ยงที่นานขึ้น ทำให้เกษตรกรหลายๆ ท่านก็เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงการใช้ตัวช่วยหลายๆ อย่างที่มีราคาค่อนข้างสูง แต่สารปรับสภาพน้ำ “ไดนามิก พลัส” ที่มีคุณสมบัติช่วยในการแก้ไขปัญหาดินและน้ำเน่าเสียภายในบ่อ มีฮิวมิค แอซิค เป็นสารอินทรีย์จำพวก polyphenols เป็นองค์ประกอบ และมีธาตุอีกหลายธาตุเป็นองค์ประกอบรอง มีตั้งแต่สีน้ำตาลเข้มจนถึงสีดำ ฮิวมิค แอซิค จะเป็นส่วนของฮิวมัส หรือ อินทรีย์วัตถุในดินที่มีประโยชน์ต่อดินและการเกษตรมากที่สุด ซึ่งความเป็นประโยชน์ดังกล่าวมาจากกรดฮิวมิค มีส่วนที่ออกฤทธิ์ หรือส่วนที่ทำปฏิกิริยาได้ กรดฮิวมิคมีความสามารถในการดูดธาตุอาหารประจุบวก (cations) และช่วยต้านทานการเปลี่ยนแปลง pH ของดินอย่างเฉียบพลัน เป็นแหล่งเพิ่มธาตุอาหารให้แก่พืช ตลอดจนให้คุณสมบัติที่ดีอื่นๆ อีกมากมาย กรดฮิวมิคและองค์ประกอบอื่นๆ ของสารฮิวมิคนั้นจะมีอยู่ทั่วไปในดิน ในน้ำ และแหล่งธรรมชาติ ในตะกอนของคลอง หนอง บึง ทะเลสาบ และมหาสมุทรปัจจุบันเราได้ทราบว่าอินทรีย์วัตถุในดินจะเป็นสารพวกฮิวมิค ซึ่งช่วยปรับปรุงและฟื้นฟูโครงสร้างของดินก้นบ่อ ลดการเกิดของเสียในบ่อ ลดการเกิดก๊าซไข่เน่า  แก้ปัญหาน้ำหนืด กลิ่นโคลนในตัวสัตว์น้ำ แก้ปัญหาขี้แดด ช่วยปรับค่า pH รักษาสมดุลน้ำในบ่อกุ้ง และบ่อปลา ควบคุมค่าอัลคาไลน์ในน้ำ เพิ่มออกซิเจนในบ่อ สร้างห่วงโซ่อาหารภายในบ่อเพิ่มขึ้น ช่วยย่อยของเสีย อาทิ ขี้กุ้ง ขี้ปลา เศษอาหารตกค้าง ทำให้น้ำใส ส่งผลให้แสงแดดสามารถส่องลงไปในบ่อน้ำได้ดี มีจุลินทรีย์ที่ช่วยในการย่อยสลายให้กุ้ง-ปลา มีอาหารกินตามธรรมชาติมากขึ้น ยังช่วยเพิ่มธาตุอาหารหลัก อาหารรอง และจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ เพิ่มอัตราการแลกเนื้อมากขึ้น ช่วยให้สัตว์น้ำโตไว แข็งแรง ได้น้ำหนัก ช่วยให้กุ้งลอกคราบได้ดี แข็งแรง โตเร็ว ได้น้ำหนัก พร้อมทั้งลดต้นทุนในการผลิต และเป็นสารชีวภาพที่ปลอดภัย

2.สารปรับสภาพดิน-สูตรปรับสภาพน้ำชีวภาพ-แบรนด์ไดนามิก-พลัส
2.สารปรับสภาพดิน-สูตรปรับสภาพน้ำชีวภาพ-แบรนด์ไดนามิก-พลัส

เปิดใจ : คุณรุ่งชัย เทียนถนอม ผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ “ไดนามิก พลัส” เพิ่มกำไรถึง 230,000 บาท

ทีมงานนิตยสารสัตว์น้ำ ได้มีโอกาสพูดคุยกับเกษตรกรผู้ใช้สารปรับสภาพดินและน้ำ  ชีวภาพ “ไดนามิก พลัส” คุณรุ่งชัย เทียนถนอม  เกษตรกรผู้พลิกผันจากช่างซ่อมมอเตอร์ไซด์ และทำนาข้าวมาก่อน โดยเริ่มมีการเปลี่ยนแนวความคิดริเริ่มหันมาเลี้ยงกุ้งขาว โดยมีการปูทางมาก่อนหน้านั้น คือ  คุณพ่อเลี้ยงอยู่ก่อนแล้ว  จึงทำให้คุณหมูเริ่มมีการ เลี้ยงกุ้ง มานานถึง 2 ปีแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ทิ้งการทำนา ซึ่งก่อนหน้านั้นก็มีการปรับเปลี่ยนพื้นที่จากนาข้าวมาทำบ่อกุ้ง จึงต้องมีการปรับพื้นบ่อและหน้าดินให้เหมาะสมแก่การ เลี้ยงกุ้ง ซึ่งก่อนหน้านั้นก็ใช้ผลิตภัณฑ์ตัวอื่นมาก่อน ไม่ได้ผลดีเท่าที่ควร ซึ่งผลที่ออกมา คือ เมื่อกุ้งที่เลี้ยงไว้นานๆ ก็เริ่มอ่อนแรง น้ำภายในบ่อก็ไม่โปร่ง ยิ่งใสก็ยิ่งจมลงไปก้นบ่อ ทำให้กุ้งเครียด ไม่เห็นผลในการใช้สารปรับสภาพน้ำตัวอื่นๆ เลยคิดว่าต้องใส่สารปรับสภาพตัวเก่าให้เยอะมากขึ้น หรือถ้าใส่จุลินทรีย์ที่เป็นผง แต่ก็ไม่รู้ปริมาณการใช้ว่าต้องใส่เท่าไหร่ถึงจะเพียงพอ ซึ่งการใส่สารปรับสภาพตัวเดิมในปริมาณที่มากก็จะส่งผลให้น้ำภายในบ่อมีปัญหา ค่าpH ไม่ได้ น้ำไม่โปร่ง จึงหาสารปรับสภาพน้ำและดินที่ดี และราคาประหยัด จนกระทั่งมาพบกับ “ไดนามิก พลัส” เมื่อนำมาใช้ก็ได้ผลตอบรับที่ดี สีน้ำสวย  น้ำเป็นสีเขียวใส ค่า pH  และค่าความเค็ม ก็ไม่เพิ่มขึ้นอีกด้วย โดยการตีน้ำครั้งแรกที่ใส่สารปรับสภาพน้ำ ไดนามิก พลัส ลงไปในบ่อเห็นผลได้ชัดเจนว่า น้ำใส และโปร่งขึ้น  และยังง่ายต่อการใช้งาน เนื่องจากสารปรับสภาพดินและน้ำเป็นเม็ด ง่ายต่อการนำมาหว่านลงในบ่อ ต่างกับปูนขาวที่นำมาใช้เวลาหว่าน ผงของปูนขาวก็จะกระจายไปทั่ว อาจทำให้ผิวหนังมีปัญหา หรือเข้าตา ทำให้เกิดอันตรายได้อีกด้วย

3.สายพันธุ์ที่เลือกใช้
3.สายพันธุ์ที่เลือกใช้

สายพันธุ์ที่เลือกใช้ เพื่อกำไรเมื่อปล่อยในอัตราที่เหมาะสม

โฆษณา
AP Chemical Thailand

คุณหมู เกษตรกรผู้ใช้สินค้า มีพื้นที่การเลี้ยงเป็นบ่อทั้งหมด  3ไร่ เลือกใช้สายพันธุ์ที่ลูกกุ้งหน่อไขว้ พ่อนอก แม่ใน เป็นสายพันธุ์ที่มีการพัฒนาแล้ว และอยู่ที่บ้านสระสี่มุม นครปฐม ราคา 6 สตางค์ เป็นลูกกุ้งทั่วไป แต่ก็สามารถเลี้ยงแล้วโตได้ดี ราคาจะถูกกว่าลูกกุ้งที่ส่งมาจากฟาร์มดังๆ ถ้าเป็นของบริษัทใหญ่ราคาก็จะสูงถึง 17-20 สตางค์ เหตุที่เลือกใช้ลูกกุ้งราคาถูก เพราะเคยใช้ลูกกุ้งของฟาร์มราคาแพงกว่า เมื่อนำมาเลี้ยงก็เกิดการตาย จึงเลือกลูกกุ้งจากบ้านสระสี่มุม แต่จะใช้วิธีการปล่อยบาง และกำไรที่ได้ก็ดีกว่า โดยปล่อยกุ้งขาวที่ 70,000-80,000 ตัว และกุ้งก้ามกราม 50 กิโลกรัม ทำให้การกินอาหารของกุ้งเสมอกัน ไม่เกิดการแย่งอาหาร ทำให้เกิดการแตกไซส์ และผลกำไรที่ได้จากการจับก็จะเพิ่มขึ้น ซึ่งเดือนที่ผ่านมาปล่อยกุ้งขาวถึง 150,000 ตัว และกุ้งก้ามกราม 70 กิโลกรัม เลี้ยงกุ้งขาวจนกระทั่งจับอยู่ที่ 100 วัน และกุ้งก้ามกรามใช้ระยะเวลาการเลี้ยงจนกระทั่งจับอยู่ที่ 89 วัน ซึ่งตอนลงกุ้งในบ่อจะใช้การปล่อยพร้อมๆ กัน และจับกุ้งขาวและกุ้งก้ามกรามพร้อมกันยกบ่อ ส่วนอาหารกุ้งที่เลือกใช้เป็นอาหารกุ้งกุลาดำ ในการเลี้ยงกุ้งขาวและกุ้งก้ามกรามมีโปรตีน 38 %  ให้อาหาร 2 มื้อ/วัน (เช้า: 7.ooน. และ เย็น:17.00 น.) ถ้าให้อาหารช่วง 15.00 น.-16.00 น. เป็นระยะเวลาที่แดดค่อนข้างแรง ทำให้กุ้งกินอาหารไม่ดี เกิดอาการเครียด และอาหารภายในบ่อก็จะเหลือ อาจทำให้เกิดการเน่าเสียของน้ำภายในบ่อได้ ทำให้กุ้งเจริญเติบโต การเลี้ยงลูกกุ้งราคาแพงๆ มันโตก็จริง แต่ขั้นตอนการเลี้ยงก็จะเยอะขึ้น ต้องมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ เพิ่มขึ้น และยุ่งยากในช่วงระยะเวลาเลี้ยง จึงเลือกเลี้ยงแบบง่ายๆ ประหยัด และสบายใจตัวเองดีกว่า

4.สารปรับสภาพดิน-สูตรปรับสภาพน้ำชีวภาพ
4.สารปรับสภาพดิน-สูตรปรับสภาพน้ำชีวภาพ

คุณภาพน้ำดีขึ้น และ เกิดไรแดงธรรมชาติ เมื่อใส่  “ไดนามิก พลัส”

แหล่งน้ำที่เลือกใช้ก็ไม่ได้มาจากที่ไหนอื่นไกล เป็นน้ำที่อยู่ในคลอง จะมีการสูบน้ำขึ้นจากคลอง ก็จะปล่อยลงบ่อที่เตรียมไว้ โดยผ่านเพียงการกรองสแลนเท่านั้น และค่าของน้ำก็ไม่ได้เหมาะสมสำหรับการ เลี้ยงกุ้ง จึงต้องมีการพักน้ำ ปรับค่าน้ำให้ใกล้เคียงกับน้ำที่อยู่ภายในบ่อที่พร้อมใช้งาน ซึ่งความสูงของน้ำที่ปล่อยลงในบ่ออยู่ที่ 1.20 เมตร ลึก 1.80 เมตร ในขนาดพื้นที่บ่อ 3ไร่ ทั้ง 2 บ่อ ซึ่งคุณหมู เลี้ยงกุ้ง ในพื้นที่น้ำจืด และมาปรับค่าน้ำให้อยู่ที่ 8 และ ค่าความเค็มเป็น 0 เพราะความเค็มภายในบ่อต้องไม่มี เกรงว่ารัฐจะไม่ให้ เลี้ยงกุ้ง ซึ่งความเค็มใส่ภายในบ่อก็เพื่อให้กุ้งมันติดง่าย อย่างปล่อยกุ้ง 150,000 ตัว ถ้ามีความเค็มในบ่อกุ้งติดเป็นแสนๆ ตัวเลย แต่กุ้งจะไม่เจริญเติบโต แต่ก็ใส่เกลือ 2-3กิโล/ไร่ จึงปล่อยกุ้งลงในบ่อ พร้อมทั้งถุงที่บรรจุมา ประมาณ 20 นาที เพื่อปรับสภาพของกุ้ง หลังจากนั้นก็จะปล่อยกุ้งลงบ่อ โดยไม่ต้องกั้นผ้า ซึ่งแต่ก่อนใช้การกั้นผ้าก็ต้องมีค่าความเค็ม จึงต้องปรับระยะของน้ำอีก เป็นวิธีการที่ยุ่งยาก จึงปล่อยลูกกุ้งลงในบ่อพร้อมถุง ซึ่งได้มีการบอกกับทางฟาร์มที่ส่งลูกพันธุ์ให้ปรับค่าน้ำต่ำลงหน่อย และมีการใส่ “ไดนามิก พลัส” ลงในบ่อ 1 ลูกครึ่ง (ไดนามิก พลัส 1 ลูก บรรจุ 25 กิโลกรัม) ใช้วิธีการหว่านลงในบ่อ ขนาดของเม็ดใหญ่ หว่านได้ไกลถึงกลางบ่อ และสิ่งที่ทำให้เห็นได้ชัดจากการใช้สารปรับสภาพดินและน้ำ นั่นก็คือ เกิด“ไรแดงธรรมชาติ”  เป็นอาหารธรรมชาติที่ดีสำหรับการอนุบาลสัตว์น้ำวัยอ่อน และ ค่าโภชนาการสูง ดังนั้นจึงเหมาะแก่การการอนุบาลสัตว์น้ำวัยอ่อนด้วยไรแดง และทำให้อัตรารอดและอัตราการเจริญเติบโตของสัตว์น้ำวัยอ่อนสูงมาก เมื่อใส่ “ไดนามิก พลัส” ลงสู่บ่อแล้วก็จะพบไรแดงธรรมชาติในบ่อ เป็นการประหยัดค่าอาหารโดยตรง

5.การให้อาหาร
5.การให้อาหาร

การตีน้ำ เพิ่มออกซิเจน เพื่อการเจริญเติบโตที่ดี

บ่อขนาด 3 ไร่ ใช้ใบพัดตีน้ำเพียง 4 ใบ ในการเติมออกซิเจนภายในบ่อให้กับกุ้งที่เลี้ยงไว้ วันหนึ่งเปิดชั่วโมงกว่าๆ และปิดช่วงเวลา 14.00 น.-15.00 น. จึงทำการปิดเครื่องตีน้ำ และหว่านอาหารต่อในช่วง 16.00 น. และจะตีน้ำในช่วงกลางคืนเวลาตี 2- 6 โมงเช้า เท่านั้น ซึ่งแต่ก่อนก็ตีน้ำไม่บ่อย เพราะ คิดว่าสิ้นเปลือง แต่ตีน้ำตั้งแต่เที่ยงคืน-เช้า กุ้งโตดีขึ้น เพราะเวลาเที่ยงคืนจะเป็นเวลาที่กุ้งต้องการออกซิเจนอย่างมาก การ เลี้ยงกุ้ง ง่ายๆ ชิวๆ เน้นปล่อยบาง อย่างไรก็โต ปล่อยกุ้งขาวเพียง 2 ถุง เลี้ยงคู่กับกุ้งก้ามกราม ยังติดตั้ง 50 กิโล เวลายกยอไม่เคยเจอกุ้งขาวเลย พอทอดแหดูเท่านั้น มีแต่กุ้งขาวเป็นส่วนใหญ่ ก้ามกรามน้อยกว่าไม่ค่อยติดขึ้นมาเมื่อหว่านแห  ถ้าอยากเลี้ยงให้ได้เงินไม่ต้องอะไรมาก เลี้ยงแบบง่ายๆ ปล่อยบางๆ อาหารต่อมื้อ บ่อแรก 13 กิโลกรัม  บ่อที่ 2 จำนวน 10 กิโลกรัม กุ้งก็จะหลอกกินอาหาร ซึ่งอัตราแลกเนื้อก็ไม่มี กุ้งเล็กในบ่อก็ไม่มี เมื่อนำเอากระเบื้องสีขาวลงไปวาง  และนำอาหารวางบนกระเบื้อง จะเห็นว่าลูกกุ้งกำลังกิน ถ้ากุ้งตัวใหญ่มากินอาหาร กุ้งตัวเล็กๆ จะไม่สามารถเข้ามากินอาหารได้ เพราะเหตุนี้จึงทำให้ไม่เกิดการแตกไซส์ ติดดี ติดเป็นแสนๆ ตัว แต่กุ้งไม่โต

6.รายได้จากการเลี้ยงกุ้ง
6.รายได้จากการเลี้ยงกุ้ง

ผลกำไรที่ได้จากการเลี้ยงกุ้ง สไตล์คุณหมู ถึง 230,000 บาท

โฆษณา
AP Chemical Thailand

เมื่อถามถึงกำไรต่อบ่อ คุณหมูเปิดเผยว่าได้มากถึงหลักแสน ลงทุนเลี้ยง 2 บ่อ 240,000 บาท กำไรที่ได้เพิ่มมาสูงถึง 230,000 บาท ซึ่งยังขาดทุนอีก 10,000 บาท แต่ทำให้ได้กุ้งชำจากอีกบ่อหนึ่งถึง 200 กิโลกรัม ได้กำไรจากตรงนั้นมาอีก 40,000 บาท ซึ่งบ่อนี้อยู่ใกล้ๆ เลี้ยงแบบประคบประหงมแทบตาย ก็ไม่ได้กำไรเลย แถมยังขาดทุนอีกด้วย เมื่อนำ “ไดนามิก พลัส” ใส่ลงไปแทบไม่ทำอะไรเลย ก็ได้กำไรถึง 40,000 กว่าบาท ถ้าเราเลี้ยงแบบง่ายๆ ปล่อยกุ้งแบบบางๆ ไม่เครียด ได้กำไรก็เยอะ แต่เติมน้ำบ่อย ก็ต้องดูนะถ้าผ่านไป 30 นาที แล้วกุ้งมาเล่นน้ำก็จะเติมสารปรับสภาพน้ำได้ แต่ถ้ากุ้งไม่มาก็ให้หยุดก่อน ใช้วิธีสังเกตแบบนี้ เพราะปกติปล่อยน้ำลงไป กุ้งขาวมาว่ายในน้ำใหม่ ถ้าน้ำไม่ดีก็จะไม่มา และต้องไปที่อื่น เราจะสังเกตแบบนี้ เพราะเราไม่มีบ่อพัก นี่คือแนวทางการเลี้ยงง่ายๆ ที่ได้กำไรชัดเจน

หากสนใจเยี่ยมชม หรือปรึกษาเรื่องการเพาะเลี้ยงกุ้งขาว และ กุ้งก้ามกรามได้ที่

คุณรุ่งชัย เทียนถนอม (พี่หมู)             

ที่อยู่ :  41 หมู่ 8 ต. บางตาเถร อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี 72110

เบอร์ติดต่อ  : 081-984-0980 (พี่หมู)