ควายไทย ควรค่าอนุรักษ์ไว้ สร้างมูลค่าหลักล้าน

ขอขอบคุณ “เฮง ฟาร์มควายไทย”  084-811-1777

เฮง ฟาร์ม ควายไทย เลี้ยงควายปลักกว่า 70 ตัว ยืนยันผสมจริงเจ๋งสุด

“ด้วยความชอบควายเป็นการส่วนตัว และตากับยายมีอาชีพเลี้ยงควายไว้ทำนา จึงได้คลุกคลีกับอาชีพนี้มาตั้งแต่เด็ก เมื่อมีโอกาสจึงสานต่อและรักษาไว้ เพื่ออนุรักษ์ควายไทยไม่ให้สูญพันธุ์ไป”

คำพูดที่เปี่ยมไปด้วยความภาคภูมิใจของ คุณอภิรัตน์ ชินพีระเสถียร หรือ เสี่ยเฮง นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างและเจ้าของ “เฮง ฟาร์มค วายไทย ” ตำบลหนองแก อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี เลี้ยงควายไทย พันธุ์ดีได้ 7 ปี

เปิดเผยว่าในช่วง 6 ปีแรกนั้น เป็นการเลี้ยงควายแบบปล่อยทุ่งหญ้าแบบชาวบ้านทั่วไป ไม่มีการดูแลเอาใจใส่มากนัก จากนั้นเมื่อ 2 ปีที่แล้วมีโอกาสได้ดูงานประกวด ควาย เห็นควายที่เกษตรกรนำมาเข้าร่วมประกวดมีลักษณะที่สวยงาม โครงสร้างใหญ่ ผิวพรรณสวยงามสะดุดตา จึงเกิดความสนใจและเริ่มศึกษา

วิธีการเลี้ยงควายไทย พร้อมกับการพัฒนารูปแบบการเลี้ยงใหม่อย่างจริงจัง โดยนำเอาเทคโนโลยีและองค์ความรู้เข้ามาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

จังหวัดอุทัยธานี มีจุดเด่นเรื่อง ควาย สายพันธุ์ที่ดี จึงศึกษาวิธีการเลี้ยงและการจัดการที่เป็นระบบกับเซียน ควาย รุ่นเก่าๆที่มีประสบการณ์การ เลี้ยงควาย มานานนับ 10 ปี

และได้ หมอวุฒิไกร เฟื่องสุขไพบูลย์ หรือ หมอวุฒิ ผู้เชี่ยวชาญด้านการผสมเทียม ควาย เป็นผู้จัดการฟาร์มและที่ปรึกษาด้านการปรับปรุงพันธุ์ และอาหาร เช่น หญ้าเนเปียร์หมัก และหญ้าแพงโกล่า ทำให้สัตว์มีความสมบูรณ์พันธุ์ และแสดงศักยภาพทางด้านสายพันธุ์อย่างเต็มที่  จึงมีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดและสามารถสร้างมูลค่าได้เป็น 10 เท่าตัว

“การทำฟาร์มให้ได้มาตรฐาน เพราะคิดว่าหากเลี้ยงแบบปล่อยเต็มที่ก็ได้แค่ราคาเนื้อ แต่ถ้าเลี้ยงในลักษณะที่เกษตรกรนำไปพัฒนาต่อยอดสายพันธุ์ จะเป็นการเพิ่มมูลค่า ตัวอย่างเช่น ลูกควาย หย่านมโดยปกติทั่วไปขายตัวละ 20,000 – 25,000 บาท

แต่ปัจจุบันขายสายพันธุ์ในราคา 200,000 – 250,000 บาท หรือไม่ต่ำกว่า  150,000 บาท และหากมีที่นา 10 ไร่ ในแต่ละปีที่ทำนามีเงินเหลือถึง 50,000 บาทหรือไม่ ซึ่งแน่นอนว่าแทบไม่เหลือ

เพราะโรงสีรับซื้อเพียงเกวียนละ 6,000 – 7,000 กว่าบาท สมมติได้ข้าวถึง 7 เกวียน เกวียนละ 7,000 บาท จะขายได้เงิน 42,000 บาท ซึ่งยังไม่หักต้นทุน

แต่ถ้า เลี้ยงควาย เพศเมียเพียง 2 แม่ ในระยะเวลา 1 ปี จะได้ ลูกควาย 2 ตัว

ถ้าเป็น ควายสายพันธุ์ดี สามารถขายเป็นสายพันธุ์ในราคา 40,000 – 50,000 บาท / ตัว เกษตรกรจะมีรายได้  80,000 – 100,000 บาท / ปี ซึ่งมากกว่าปลูกข้าวถึง 2 เท่า และไม่ต้องกลัวว่าจะขายไม่ได้ เพราะปัจจุบันตลาดยังมีความต้องการสูง” เสี่ยเฮงกล่าวถึงสาเหตุของการทำฟาร์ม เลี้ยงควาย

ส่วนจุดประสงค์ที่นอกเหนือจากการส่งเสริมให้เกษตรกร เลี้ยงควาย เป็นอาชีพแล้ว “เฮง ฟาร์ม ควายไทย ” ยังต้องการขยายพันธุ์เพื่ออนุรักษ์ ควายไทย ให้มีจำนวนมากขึ้นด้วย

สำหรับการขยายพันธุ์และการปรับปรุงพันธุ์ ทางฟาร์มจะใช้พ่อพันธุ์คุมฝูงและเน้นการผสมพันธุ์จริง “การพัฒนาสายพันธุ์ที่ดีที่สุด คือ การผสมจริงเท่านั้น

เพราะในการรีดน้ำเชื้อพ่อพันธุ์แต่ละครั้งสามารถบรรจุหลอดได้ 300 – 400 หลอดและเจือจางได้ แต่ในหลักธรรมชาติการผสมจริงสเปิร์มตัวที่เก่งและแข็งแรงที่สุดเท่านั้นที่จะสามารถปฏิสนธิในรังไข่ได้ แต่หากมีการรีดน้ำเชื้อไปผสมเพื่อพัฒนาสายพันธุ์ เราจะไม่มีทางรู้เลยว่าสเปิร์มตัวที่เก่งที่สุดคือตัวไหน และอยู่ในหลอดใด ดังนั้นการพัฒนาสายพันธุ์อาจไม่ได้ตามเป้าหมาย”

ปัจจุบันมีควายประมาณ 70 กว่าตัว เป็น ควายปลัก โดยลักษณะทั่วไปของควายจะไม่ชอบอากาศร้อน ชอบน้ำ ถ้าปล่อยให้ควายเดินกินท่ามกลางแดดที่ร้อนจัด แดดจะเป็นตัวเผาผลาญพลังงาน กินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน

แต่รูปแบบใหม่ที่เลี้ยงคือ กำหนดเวลาปล่อยทุ่ง แทะเล็มหญ้าในช่วงเช้า พอถึงเวลาประมาณ 11.00 น. ก็กลับเข้าคอกพักในร่มหรือนอนแช่น้ำ ช่วงเย็นจะปล่อยอีกรอบ

ฉะนั้นจึงทำให้ควายมีผิวพรรณสวยงาม และเมื่อควายได้รับปริมาณอาหารที่เพียงพอ การเจริญพันธุ์ก็จะดีตามไปด้วย

“ควายเป็นสัตว์ฉลาด และตรงเวลา พอถึงเวลาจะเดินกลับมาเข้าคอกเอง โดยที่ไม่ต้องมีคนไล่ต้อน ซึ่งจะเป็นความเคยชินของสัตว์” เสี่ยเฮงกล่าวถึงลักษณะของควาย

ลักษณะนิสัยควายไทย

หากอยู่กับคนเลี้ยงแบบใกล้ชิดจะเชื่อง และชอบเล่นกับคน แต่ถ้าเลี้ยงแบบปล่อยทุ่ง ล้อมด้วยเส้นลวด พอถึงเวลาไล่เข้าคอก ควายก็จะแสดงนิสัยของสัตว์ คือ การระวังตัว และดุ แต่ถ้าเห็นคนบ่อยๆ หรือเล่นกับสัตว์บ้าง จับหรือสัมผัสก็จะเกิดความเคยชิน เหมือนสัตว์เลี้ยง ถ้าควายตัวไหนดุร้ายนั่นแสดงให้เห็นถึงพันธุกรรมที่ไม่ดี ส่วนพันธุกรรมที่ดีต้องมีสัดส่วนที่ดี หรือภาษาอีสานเรียกว่า “ตาแต้ม แก้มจ้ำ สามปล้อง ถุงเท้าขาว ข้อเท้าดำ”

สำหรับการเลี้ยงจะไม่ยุ่งยาก แต่ต้องทำเป็นเวลา เพื่อที่ ควาย จะได้รู้เวลาของเขาเองโดยอัตโนมัติ โดยปล่อยในช่วงเช้าประมาณ 06.00 น. จากนั้น 11.00 น. ควาย ก็จะเดินกลับเข้าร่มเพื่อนอนน้ำ จากนั้นพนักงานจะเตรียมฟางข้าว หญ้าสด เสริมให้กิน จนถึงช่วงเวลา 16.00 น. แดดจะเริ่มอ่อนจะปล่อยอีกที เพื่อให้ ควาย ได้ออกกำลังกายเดินแทะเล็มหญ้าในทุ่งหญ้า และจะกลับเข้าคอกอีกทีตอน 18.00-18.30 น.

“เลียนแบบธรรมชาติให้ได้มากที่สุด แต่เสริมด้วยอาหารข้น เพราะต้องการพัฒนาสายพันธุ์ได้ตามที่ตั้งไว้ คือ รูปร่างสวยงาม ลำตัวยาวและมีโครงสร้างใหญ่” เสี่ยเฮงเผยถึงเทคนิคการเลี้ยง

อาหารที่ใช้ เลี้ยงควาย  ในช่วงเช้าจะปล่อยให้ ควาย เดินหากินตามธรรมชาติ บริเวณทุ่งหญ้าหรือที่นาที่เก็บเกี่ยวข้าวหมดแล้ว จากนั้นเมื่อควายกลับเข้าคอกจะมีหญ้าแพงโกล่าที่ปลูกไว้ 25 ไร่ แต่มีไม่เพียงพอ เนื่องจาก ควาย กินมากกว่าโค 3 – 4 เท่า จึงทำให้หญ้าโตไม่ทัน จำเป็นต้องสั่งหญ้าแพงโกล่าแห้งอัดก้อนละ 100 บาท และฟางข้าวก้อนละ 25 บาท ใส่ไว้ในรางอาหาร ส่วนอาหารข้นจะใช้อาหารโคนมที่มีขายตามท้องตลาด

“สมัยก่อนหญ้าที่ขึ้นตามธรรมชาติ ไม่มีปุ๋ยหรือสารเคมี ไม่มีสารเคมีเจือปน หญ้าดังกล่าวจึงมีคุณค่าทางโภชนะสูง ไม่ว่าจะเป็นแคลเซียม โปรตีน ซิลิเนียม หรือสารอาหารอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อสัตว์

ปัจจุบันนี้ไม่มีแล้ว จึงจำเป็นต้องใช้อาหารเสริมเพื่อให้ ควาย ได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนอย่างน้อย 18-21% โปรตีน โดยปริมาณการให้ประมาณ 2 กิโลกรัม / ตัว / วัน ส่วนน้ำที่ใช้จะเป็นน้ำบาดาล” เสี่ยเฮงกล่าว

ในการเลี้ยงแบบใหม่โรงเรือนจะแบ่งเป็นล็อคเพื่อง่ายต่อการจัดการ เช่น ควายแม่พันธุ์อายุมากอาจมีการเสริมแร่ธาตุ ส่วนควายสาวจะให้อาหารข้นโดยที่ไม่ต้องเสริมแร่ธาตุ

สำหรับตลาดกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นเกษตรกรทั่วไป ทั้งรายย่อยจนถึงฟาร์มขนาดกลาง ซึ่งส่วนใหญ่จะรู้จักเฮง ฟาร์ม ควายไทย จากงานประกวด ควาย ซึ่งคนที่ชื่นชอบจะเข้ามาดู ควาย ในงาน และส่วนหนึ่งได้จากโซเชียลฯ มีการคุยกันและแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน

ควายที่จำหน่ายจะเป็นลูกควายหย่านมอายุประมาณ 3 เดือน ลูกควายเพศผู้ราคาเริ่มต้นประมาณ 100,000 บาท / ตัว ส่วนเพศเมียราคาเริ่มที่ 150,000 – 300,000 บาท / ตัว หรือขึ้นอยู่กับความพอใจของผู้ซื้อเป็นหลัก ซึ่งทางฟาร์มได้คัดเลือกสายพันธุ์ที่ดีแล้วและเสี่ยเฮงยังแนะนำเกษตรกรที่สนใจว่า

“อาชีพ เลี้ยงควาย สามารถทำเป็นอาชีพหลักได้ ยกตัวอย่างเช่น การทำนา พ่อค้าจะเป็นผู้ตั้งราคา แต่ถ้าเรา เลี้ยงควาย แบบพัฒนาสายพันธุ์ เราจะเป็นผู้ที่ตั้งราคา ซึ่งอาชีพ เลี้ยงควาย ถือเป็นอาชีพที่ยั่งยืน และสร้างรายได้หลักของเกษตรกรได้

โดยไม่ต้องกลัวภาวะราคาตลาดขึ้น-ลง ไม่ต้องกลัวการเมือง ขอให้เกษตรกรผลิต ควาย ออกมาสวย ก็สามารถตั้งราคาได้เลย สำหรับเกษตรกรที่มีรายได้น้อยก็สามารถเข้าถึงได้ไม่ยาก เพราะน้ำเชื้อพ่อพันธุ์คุณภาพมีราคาไม่สูง หลอดละประมาณ 200 – 500 บาท ซึ่งทางฟาร์มก็มีการรีดน้ำเชื้อจำหน่ายเฉลี่ยหลอดละ 300 – 400 บาท ”

ส่วนสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันไม่มีผลกระทบกับการเลี้ยงควายแต่อย่างใด เนื่องจากความต้องการของตลาดบริโภคเนื้อควายและพ่อแม่พันธุ์ ยังมีความต้องการสูง โดยเฉพาะผู้บริโภคจากประเทศจีนซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังการซื้อสูง นิยมบริโภคเนื้อควายที่มาจากประเทศไทยเป็นอย่างมาก

และที่สำคัญตลาดในกลุ่มประเทศอาเซียน เช่น ประเทศเวียดนาม ลาวและพม่า ยังมีความต้องการสูง เนื่องจากเขาต้องการที่จะพัฒนาสายพันธุ์ควายบ้านเขาที่มีรูปร่างเล็กให้มีลักษณะที่ดีเหมือนบ้านเรา ดังนั้นมองว่าเป็นการเพิ่มช่องทางตลาดของควายไทย ได้มากขึ้น

“อยากให้กรมปศุสัตว์เล็งเห็นคุณประโยชน์เรื่องน้ำเชื้อแยกเพศ สาเหตุที่ให้ความสำคัญเรื่องนี้เพราะต้องการควายเพศเมีย เพื่อทำการขยายพันธุ์ หากลูกที่คลอดมาเป็นควายเพศผู้ก็จะทำให้การเพิ่มจำนวนควายช้าลง

ควรมีการส่งเสริมอาชีพ เลี้ยงควายไทย เทียบเท่ากับส่งเสริมการเลี้ยงโค เพราะควายไทย ถือว่าดีที่สุดในโลก ซึ่งประเทศอื่นไม่มีควายสวยๆ เหมือน ประเทศไทย และมองว่าประเทศไทย มีศักยภาพพอที่จะผลิตน้ำเชื้อควายคุณภาพดี จำหน่ายไปยังประเทศอื่นๆ ทั่วโลกได้ ” เสี่ยเฮงกล่าว

อนาคตจะขยายฟาร์มเพิ่มซึ่งอยู่ในช่วงมองหาทำเลที่ตั้งที่เหมาะสม เพื่อรองรับจำนวน ควาย ที่เพิ่มขึ้น เพราะแม่ควายไทย ในฟาร์มจะให้ลูกทุกๆ ปี ถ้าจำหน่ายไม่ได้ทางฟาร์มก็จะเลี้ยงต่อไป เนื่องจากทางฟาร์มไม่ได้เน้นตลาดเนื้อควาย

 “อยากให้ชาวบ้านหรือเกษตรกรลองมองระบบการเลี้ยงที่ลงทุนเพิ่มอีกเล็กน้อย แต่ได้ผลตอบแทนหรือกำไรเพิ่มอีก 3-4 เท่าตัว และไม่ต้องกลัวว่าจะขายไม่ได้ เพราะถ้าของคุณดีจริง สวยจริง พ่อค้าจะวิ่งเข้ามาหาคุณเอง แต่ถ้าสายพันธุ์ไม่ดี เลี้ยงแบบผอมๆ อาจจะไม่มีใครซื้อ เพราะฉะนั้นเรื่องคุณภาพจึงเป็นสิ่งสำคัญในการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ และทางฟาร์มเองก็ยินดีที่จะให้ข้อมูลแก่ผู้ที่มีความสนใจเข้าเยี่ยมชมฟาร์ม” เสี่ยเฮงกล่าวทิ้งท้าย

ขอขอบคุณ “เฮง ฟาร์มควายไทย”  084-811-1777

เลขที่ 55 หมู่ 1 ตำบลหนองแก อำเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม

หมอวุฒิไกร เฟื่องสุขไพบูลย์ (หมอวุฒิ) โทร. 081-379-7660

ควายไทย

ควายไทย, เลี้ยงควาย, ควาย, กระบือ, ควายปลัก, เฮง ฟาร์มควายไทย, ฟาร์มกระบือ, ฟาร์มควาย, ขายควาย