ปลูกองุ่น องุ่นไร้เมล็ด “แบบขั้นบันได” ผลผลิตและราคาดีมาก รายได้ 900,000 บาท!

โฆษณา
AP Chemical Thailand

รัชนีวรรณ คนหมั่น เกษตรกรผู้ปลูกองุ่น เจ้าของไร่ภูพิบูลย์ เผยว่า จากที่เคยทำงานที่มั่นคง ทั้งงานของภาครัฐ และประกอบธุรกิจส่วนตนดังที่กล่าวไว้ข้างต้น โดยพร้อมมีใจตรงกันกับสามีจึงได้พาครอบครัวมาประกอบอาชีพด้านการเกษตร บวกกับตนเองมีพื้นฐานทางด้านการเกษตรมาบ้างแล้ว ขณะในช่วงที่อยู่กับพ่อและแม่ที่ จ.สกลนคร อย่างไรก็ตามในเมื่อมีคนมาแนะนำให้ปลูกองุ่น และสามีของเธอก็มีใจรักและชอบที่จะปลูกองุ่น จึงได้ตกลงกันที่จะหาพื้นที่ปลูก  ตลอดระยะเวลาที่แสวงหาพื้นที่เพาะปลูกนั้นก็พร้อมต้องการอยากจะมีไร่องุ่นเป็นของตนเอง

และในขณะเดียวกันก็ไปได้พื้นที่ทางภาคเหนือ โดยได้จ้างผู้ที่มีความรู้ทางด้านการปลูกองุ่น ทำให้เนื่องจากเธอเองไม่มีความรู้ในเรื่องการปลูกองุ่น ก็ได้แต่พยายามศึกษาเรียนรู้ ทั้งวิธีการปลูกและการบำรุงดูแลรักษา “รู้บ้าง ไม่รู้บ้าง ยังไม่เข้าใจ” หลังจากนั้นก็ประสบปัญหาในขณะที่ต้นองุ่นกำลังเจริญเติบโตอยู่นั้น จึงกับเปรียบเสมือนว่าต้องมาเจอมรสุมก้อนใหญ่พัดถล่ม ทำให้ล้มลุกคลุกคลาน ในความที่ตนเองไม่มีองค์ความรู้พอ และองุ่นขณะที่จ้างคนอื่นทำก็ไม่สามารถที่จะประคับประคองให้ไร่องุ่นของเธอรุ่งเรืองขึ้นมายืนหยัดสู้ต่อไปได้ ทั้งที่ลงทุนหมดไปเฉียดถึง 3,000,000 บาท แต่สุดท้ายก็ประสบความสำเร็จและกลับมามีกำไร

1.ไร่องุ่น
1.ไร่องุ่น
2.คุณรัชนีวรรณ-คนหมั่น-เกษตรกรผู้ปลูกองุ่น-จ.สระบุรี
2.คุณรัชนีวรรณ-คนหมั่น-เกษตรกรผู้ปลูกองุ่น-จ.สระบุรี

สภาพพื้นที่การ ปลูกองุ่น

ล่าสุดได้มีเพื่อนที่ปลูกองุ่นอยู่ก่อนแล้วชวนมาเที่ยวดูไร่องุ่นในพื้นที่หุบเขา ต.หนองย่างเสือ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ตรงนี้เองที่ทำให้เธอต้องการที่จะมีพื้นที่ปลูกองุ่นอีก หลังจากที่ได้หมดเงินไปกับการทุ่มเทลงทุนปลูกองุ่นในพื้นที่ทางภาคเหนือ กลับเปลี่ยนมาสู่พื้นที่ภาคกลาง จึงได้ต่อสู้อีกครั้งด้วยการกลับไปที่บ้านต่างจังหวัด “สกลนคร” เอาที่ดินเข้า ธกส. กู้เงินมาลงทุนปลูกองุ่น และได้พื้นที่ดินของ สปก. ซึ่งอยู่กลางหุบเขา

ทั้งนี้การลงปลูกองุ่นของเธอโดยลงทุนครั้งนั้นเมื่อปี 2551 จำนวน 20 ไร่ ส่วนเงินทุนช่วงแรกๆ จะหมดไปกับโครงสร้าง “โครงสร้างเฉพาะการทำค้างร้านด้วยเหล็กแผ่น และความแข็งแรงของเสาปูน ถ้าหากเราทำเอง ซื้ออุปกรณ์มาทำปลูกสร้างเอง ก็จะตกไร่ละ 6 หมื่นกว่าบาท แต่ถ้าเราจ้างช่างรับเหมามาทำให้จะเป็นเงินประมาณแสนสองหมื่นกว่าบาท ของทุกอย่างจะแพงหมด เขาจะรวมเอากับค่าแรงด้วย”

ขณะเดียวกันนั้นเธอก็ได้ปลูกองุ่นสายพันธุ์ไวท์มะละกาจำนวน 2,200 ต้น และเธอก็ยังได้จ้างให้ผู้ที่มีความรู้เรื่องการปลูกองุ่นเข้ามาช่วยดูแล พร้อมที่จะปรึกษาและเรียนรู้ด้วยจากการให้ปุ๋ย บำรุงฮอร์โมน หรือวิธีการให้สารต่างๆ โดยให้ค่าจ้างเป็นผลตอบแทนจากการขายองุ่นของรายได้ 10% เนื่องจากเธออยากจะได้ความรู้เพิ่มเติม รวมทั้งได้เข้าไปขอความช่วยเหลือคำแนะนำเจ้าของไร่องุ่นที่อยู่ในละแวกเดียวกัน ก็ได้รับการตอบรับด้วยดี

หลังจากได้รับรู้รายละเอียดเข้าใจในหลักการของการปลูก พร้อมทั้งการบำรุงดูแลรักษาต้นองุ่นมาพอสมควร ก็เลยเลิกจ้างผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการปลูกองุ่นเข้ามาให้ความรู้ หรือเป็นที่ปรึกษา โดยได้ลงมือทำเองหมดทุกอย่าง และได้จ้างแรงงาน มีคนงาน 3-4 คน คอยเป็นลูกมือช่วยทำไร่องุ่น

โฆษณา
AP Chemical Thailand

 

3.พื้นที่ปลูกองุ่น
3.พื้นที่ปลูกองุ่น
4.ปลูกองุ่น และทำไร่องุ่นแบบขั้นบันได
4.ปลูกองุ่น และทำไร่องุ่นแบบขั้นบันได

การดูแลบำรุงรักษาต้นองุ่น

อย่างไรก็ตามจากที่ ปลูกองุ่น ได้มาประมาณ 5 เดือน ก็มีพ่อค้าที่มีแผงองุ่นขายที่ตลาดไทเข้ามา และดูลักษณะของต้นองุ่น ก็ได้เสนอชื่อสั่งจองไว้ล่วงหน้า ในครั้งแรกวางเงินให้ 700,000 บาท โดยทางพ่อค้าก็จะให้คนของพ่อค้าเองเข้ามาช่วยดูแลต้นองุ่นให้ รวมทั้งจ่ายค่าจ้างแรงงานให้ด้วย และยังได้ตกลงกันด้วย ให้เหตุผลสัญญาต่อกันว่าหากเมื่อต้นองุ่นได้ตัดแต่งกิ่ง เปิดตาดอก ได้แล้ว ก็จะจ่ายเงินเพิ่มให้จาก 700,000 บาท มาเป็น 900,000 บาท

หลังจากนั้นพ่อค้าก็เอาคนเข้ามาช่วยอย่างที่กล่าว “เขามาช่วยเราดูแล ทั้งการให้ปุ๋ย ให้ฮอร์โมนบำรุง ตอนนั้นด้วยความที่เราเคยล้ม ติดลบมาเป็นเงินสองถึงสามล้านกว่าบาท ก็อยากจะฟื้น กลัวจะพลาดอีก เมื่อเขาบอกให้ใส่อะไรลงไปเราก็ใส่ ในขณะที่เราเป็นมือใหม่ยังไม่เก่ง

อีกอย่างเขาก็ได้ซื้อองุ่นของเราแล้ว ก็ได้แต่ตัดสินใจเอาฝีมือตนเองเข้าไปวัดด้วย” จากที่ทางพ่อค้าได้ส่งคนมาช่วยดูแลต้นองุ่น รวมทั้งได้บอกถึงวิธีการดูแลบำรุงรักษาให้กับเธออย่างที่กล่าว เนื่องจากต้องการที่จะได้องุ่นจากไร่ของเธอ จึงกลายเป็นว่าได้รับความรู้จากอาจารย์เข้ามาในส่วนนี้โดยตรงก็ว่าได้ จนทำให้เธอมีความรู้ เป็นผู้หญิงที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านการ ปลูกองุ่น ได้ในระดับหนึ่งเลยทีเดียว

5.ผลผลิตองุ่น
5.ผลผลิตองุ่น

การเก็บเกี่ยวผลผลิตองุ่น

ทั้งนี้การเก็บเกี่ยวองุ่นในแต่ละรอบ “เกษตรกรสวนองุ่นจะเรียกในแต่ละมีด” ขณะนั้นราคาองุ่นจะอยู่ที่ กก.ละ 30 บาท ส่วนองุ่นของเธอก็จะขายได้เป็นเงินถึง 900,000 บาท และในปีหนึ่งๆ จะเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ 2-3 รอบ ซึ่งในตลอดระยะเวลา 3 ปี ที่ได้ทำการค้าขายกับพ่อค้าที่แผงตลาดไท ก็ทำให้สามารถปลดหนี้ที่ได้ก่อไว้หมดไป

และพร้อมทั้งได้ถ่ายทอดความรู้จากที่ได้มาทั้งหมดให้แก่คนงานของเธอ เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระสามารถดูแลแทนได้” ถ้าหากที่ไร่ภูพิบูลย์ที่นี่ไม่มีงานก็สามารถเอาเวลาว่างไปรับจ้างรายวันจากไร่อื่นได้ อย่างเช่น การตัดแต่งกิ่ง ซอยกิ่ง เพื่อเปิดตาดอก”

6.ผลสุกจะมีสีเขียว
6.ผลสุกจะมีสีเขียว
ผลสุกจะมีสีดำ
ผลสุกจะมีสีดำ

ราคาองุ่น และ สายพันธุ์องุ่น ที่นิยม 

คุณรัชนีวรรณยังบอกอีกว่ามาถึงปัจจุบันนี้ทำให้เธอสามารถ ปลูกองุ่น ในไร่ภูพิบูลย์ได้ถึง 4 สายพันธุ์ ซึ่งมีทั้งสายพันธุ์ไร้เมล็ด และมีเมล็ด อย่างเช่น องุ่นสายพันธุ์แบล็คโอปอลล์ ผลสุกจะสีดำ และสายพันธุ์รูทเบอร์เรท ผลสุกจะเป็นสีเขียว องุ่นทั้ง 2 สายพันธุ์นี้ เป็นองุ่นไร้เมล็ด ส่วนองุ่นที่มีเมล็ดจะเป็นองุ่นสายพันธุ์ไวท์มะละกา และสายพันธุ์ซีดเลส

โฆษณา
AP Chemical Thailand

ทั้งนี้ยังได้พร้อมกับยกเลิกที่จะทำการค้าขายองุ่นให้กับพ่อค้าที่แผงตลาดไท ซึ่งจากที่ขายให้ประจำมาเปลี่ยนเป็นขายให้พ่อค้าและแม่ค้าในแผงที่ตลาดกลางดง และขายให้เจ้าของห้องพัก รีสอร์ท หรือโรงแรม รวมทั้งขายให้แม่ค้าจากสถานที่บริการนักท่องเที่ยวที่มาเป็นลูกค้าประจำ ซึ่งลูกค้าดังกล่าวก็จะเข้ามารับซื้อถึงไร่

ทีนี้ขณะที่ราคาองุ่นจะขายที่ 55-60 บาท/กก.ขึ้นไป ส่วนองุ่นที่มีอยู่ 4 สายพันธุ์ ระยะการเก็บเกี่ยวก็จะไม่เก็บ หรือตัดพร้อมกัน ทั้งนี้ในแต่ละแปลง แต่ละสายพันธุ์ การเก็บเกี่ยวในแต่ละรอบ หรือแต่ละ “มีด” จะได้ถึง 2,000 กก.ขึ้นไป

จากที่กล่าวนั้นองุ่นในแต่ละสายพันธุ์ ซึ่งเธอได้แยกแปลงปลูกนั้น อายุการเก็บเกี่ยวที่ต่างกันนั้น อย่างเช่น องุ่นไร้เมล็ดทั้งสองสายพันธุ์ หลังจากที่ปลูกเสร็จ อายุพร้อมที่จะตัดแต่งกิ่งได้เมื่อครบ 5-6 เดือน ทั้งนี้หากแต่องุ่นหลังจากที่ตัดแต่งกิ่งเพื่อเปิดตาดอกแล้ว เมื่อกิ่งแตกออกมาใหม่พร้อมกับใบและช่อดอกพร้อมติดผล เมื่อนับไปได้อายุถึง 115 วัน องุ่นก็สุกให้เก็บเกี่ยวได้

ในส่วนองุ่นมีเมล็ดหลังจากตัดแต่ง เปิดตาดอก ก็จะเก็บเกี่ยวได้ถึง 135 วัน สำหรับองุ่นทั้ง 4 สายพันธุ์ นั้น หากนำมาเปรียบเทียบกันในเรื่องของความยุ่งยากที่ควรระวังให้กับการดูแลรักษาเป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คือ องุ่นสายพันธุ์รูทเบอร์เรท เนื่องจากผลของเปลือกจะบาง หากมีฝนตกลงมาก็จะทำให้ผลร่วง และแตกเสียง่าย และจะให้ผลผลิตได้เฉพาะในช่วงฤดูหนาว ซึ่งจะแตกต่างกับองุ่นทั้ง 3 สายพันธุ์

7.ต้นองุ่น
7.ต้นองุ่น

การบริหารจัดการต้นองุ่น

ทั้งนี้การ ปลูกองุ่น สำหรับการเตรียมดินก่อนที่จะลงปลูกของไร่ภูพิบูลย์นั้น การปรับหน้าดินหรือไถผานจะใช้รถไถถึง 3 ครั้ง อย่างเช่น ไถครั้งแรกเป็นการไถเพื่อตากดินไว้ประมาณ 10 วัน จากนั้นก็จะไถครั้งที่ 2 ก็จะไถลึกลงไปอีกเพื่อให้ดินมันหยาบ แล้วทิ้งไว้อีก 10 วัน ก็มาไถครั้งที่ 3 ซึ่งเป็นการไถพรวนดิน หรือไถกลบพลิกดิน เพื่อให้ได้ดินร่วน  เสร็จแล้วก็สามารถปลูกได้เลย

ในส่วนของต้นองุ่นที่เธอได้นำมาปลูกนั้นซึ่งเป็นกิ่งตอนที่ได้มาจาก อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี ทั้งนี้ในขณะที่ปลูกในระยะห่างของต้น 1.20 เมตร/ต้น ที่ปลูกชนิดใกล้กันนั้น โดยเธอให้เหตุผลว่าในเมื่อทำไร่องุ่นให้เป็นไปในเชิงธุรกิจ ก็เพื่อที่จะได้มีต้นองุ่นไว้ในไร่จำนวนมาก เพื่อที่จะได้มีกิ่งก้านออกมาจำนวนมาก และให้ผลผลิตได้มาก “ช่วงระยะเวลาการดูแลต้องดีเป็นอันดับแรก แบบแบ่งรับ แบ่งสู้ จากไร่คนอื่นเขาจะปลูกความห่าง 2-3 เมตร/ต้น”

โฆษณา
AP Chemical Thailand
8.บำรุงต้น-ใบ-ดอก-ให้แข็งแรง
8.บำรุงต้น-ใบ-ดอก-ให้แข็งแรง

การให้ปุ๋ยและน้ำต้นองุ่น  

อย่างไรก็ตามต้นองุ่นในขณะที่ได้ปลูกลงกับดินแล้ว ซึ่งเป็นระยะช่วงที่ปลูกครั้งแรกต้นองุ่นยังอ่อนแอ หรืออยู่ในช่วงที่คอยประคับประคอง โดยเฉพาะการให้น้ำก็จะให้วันละ 1 ครั้ง แต่หลังจากที่ปลูกติดแล้วก็จะให้ 2-3 วัน/ครั้ง ส่วนการให้ปุ๋ยเคมีในระยะช่วงแรกนี้ก็จะไม่ให้

หากจะให้ปุ๋ยช่วงนี้ก็จะดูลักษณะของต้นองุ่นก่อนว่าควรจะให้ปุ๋ยหรือไม่ แต่หากให้ปุ๋ยลงไปแล้วในขณะที่ต้นองุ่นยังสดชื่น การให้ปุ๋ยก็จะทำให้สิ้นเปลือง และยิ่งจะทำให้เกิดต้นวัชพืชในพื้นที่บริเวณต้นองุ่นได้ ทั้งนี้การให้ปุ๋ยจะให้ได้ก็ต่อเมื่อการเจริญเติบโตขององุ่นอายุได้ 20 วันขึ้นไป

โดยเริ่มต้นที่ปุ๋ยเคมีสูตร 16-16-16 ซึ่งเป็นการบำรุงต้นและใบ และจะให้ 15 วัน/ครั้ง แต่ถ้าองุ่นเมื่อได้เปิดตาดอก หรือหลังจากตัดแต่งกิ่งแล้ว เพื่อเป็นการเร่งใบและดอก ก็ยังให้ปุ๋ยเคมีสูตร 16-16-16 สลับกับปุ๋ยเคมีสูตร 8-24-24 กระทั่งองุ่นติดผลก็ให้ปุ๋ยเคมีสูตร 8-24-24 โดยจะให้ 15 วัน/ครั้ง

ทั้งนี้หากเมื่อผลยังไม่แก่ หรือในช่วงที่ผลยังอ่อน เพื่อให้องุ่นได้สะสมแป้งและน้ำตาล เธอก็จะให้ปุ๋ยเคมีสูตร 18-46-0 เพียง 1 ครั้ง แต่เมื่อองุ่นซึ่งผลอยู่ในระยะให้ผลแก่ และกำลังเข้าสู่ผลสุก ทั้งนี้เพื่อที่จะให้ผลองุ่นมีความหวานก็จะให้ปุ๋ยเคมีสูตร 13-13-21 ในการให้ 15 วัน/ครั้ง จนถึงระยะเวลาเก็บเกี่ยวผลผลิต

อย่างไรก็ดีพื้นที่ ปลูกองุ่น ของไร่ภูพิบูลย์ซึ่งเป็นพื้นที่ที่อยู่ในส่วนกลางหุบเขาของ ต.หนองย่างเสือ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ทั้งนี้ยังทำให้มีลมพัดผ่านไปมาอยู่ตลอดเวลา ทำให้เกิดบรรยากาศที่ร่มรื่น หรือเกิดอากาศถ่ายเทได้สะดวก ทำให้การ ปลูกองุ่น ที่ไร่ภูพิบูลย์ไม่ค่อยเกิดโรคและแมลงรบกวน ความได้เปรียบในตรงนี้การ ปลูกองุ่น จึงได้เกิดขึ้นมามีความอุดมสมบูรณ์ทั้งต้นและผล การเก็บเกี่ยวผลผลิตขายจึงสามารถทำกำไรให้กับเจ้าของไร่ในแต่ละปีเป็นเงินหลายล้านเลยทีเดียว

9.จำหน่ายขายทั้งส่งและปลีก
9.จำหน่ายขายทั้งส่งและปลีก

การวางแผนในอนาคต

ทั้งนี้เมื่อมามองถึงอนาคต คุณรัชนีวรรณยังได้วางแผนที่จะทำธุรกิจเป็นของตนเอง เพื่อที่จะสร้างแบรนด์สินค้าขึ้นมาเพื่อจำหน่ายขายทั้งส่งและปลีก โดยจะนำองุ่นมาแปรรูปเป็นประเภทเครื่องดื่ม และขนมขบเคี้ยว ขณะเดียวกันก็จะหารับซื้อองุ่นเข้ามาเพิ่ม เพื่อจะทำเป็นตัวผลิตภัณฑ์สินค้าดังกล่าว

โฆษณา
AP Chemical Thailand

ถ้าหากผู้อ่านหรือเกษตรกรท่านใดสนใจอยากทราบรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณรัชนีวรรณ คนหมั่น 123 ม.4 ต.หนองย่างเสือ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี โทร.08-5637-2710