พันธุ์มะม่วง ก่อนฤดู ทั้งเบาและหนักเน้นตลาดนำการผลิต รายได้หลายแสนบาททุกปี

โฆษณา
AP Chemical Thailand

ชาวสวนหัวก้าวหน้า หรือปราชญ์เกษตร จะมีความชำนาญในการผลิตนอกฤดูเป็นพิเศษ อาจมีผิดพลาดบ้างในเรื่องอากาศแปรปรวนไม่เป็นไปตามฤดูกาล หรือเกิดโรค-แมลงดื้อยา เอาไม่อยู่ เป็นต้น แต่ยังไงๆ ก็มีกำไร เพราะปัจจัยลบเหล่านี้ไม่ได้เกิดทุกปี

คุณสำราญ นกแก้ว (โทร.089-402-7658) ชาวสวนวัย 56 ปี กว่า 3 ทศวรรษ ในการเป็นเกษตรกรและชาวสวนมะม่วง ต้องเสียค่าหน่วยกิตแต่ละปีไม่น้อย เพื่อเรียนรู้การทำมะม่วงนอกฤดู เขาจึงต้องปลูกมะม่วงกว่า 3 สายพันธุ์ ในพื้นที่ 20 ไร่ เพื่อดูจุดแข็ง-จุดอ่อนของแต่ละพันธุ์

โดยเฉพาะการบังคับให้มะม่วงออกนอกฤดูนั้นเป็นงานฝีมือขั้นเทพจริงๆ นอกจากนี้คุณสำราญก็ต้องเพิ่มรายได้จากการขายต้นพันธุ์เหมือนสวนอื่นๆ เพราะหากรอขายผลอย่างเดียว ย่อมมีความเสี่ยงจากปัจจัยลบที่ควบคุมไม่ได้ แม้ผลไม้บางชนิด เช่น “องุ่น” ก็ต้องซื้อมาทดลองปลูกในกระถางที่บ้าน เพื่อดูการเจริญเติบโต หลังจากให้ปุ๋ย ให้น้ำ ที่ถูกต้อง

ในยามที่ไม้ดอกไม้ประดับบางชนิดฮิตและฮอตมากๆ อย่าง “ชวนชม” เขาก็ได้ซื้อจากคุณปรีชา ธรรมชูเชาวรัตน์ มาปลูกไว้ที่บ้านหลายกระถาง ทำให้เขามีรายได้หลายทาง และเป็นการกระจายความเสี่ยงในการทำเกษตรได้ดี

พันธุ์มะม่วง

แม้แต่มะม่วงก็ต้องปลูกทั้งพันธุ์ที่ใช้เวลา 90 วัน ให้ผลผลิต ซึ่งเรียกว่า พันธุ์เบา หรือ 120 วัน ให้ผลผลิต ซึ่งเรียกว่า พันธุ์หนัก

การปลูกทั้งพันธุ์เบา เช่น ฟ้าลั่น หรือน้ำดอกไม้เบอร์ 4 สีทอง และพันธุ์หนัก อย่าง เขียวเสวย ของคุณสำราญ นอกจากกระจายความเสี่ยงแล้ว ยังก่อให้เกิดรายได้หลายทางจากหลายๆ ตลาด ได้แก่ ตลาดมะม่วงเปรี้ยว และตลาดมะม่วงสุก เพราะมะม่วงเป็นทั้งของคาว และของหวาน นั่นเอง การกระจายความเสี่ยง ทั้งการผลิต และการตลาด บางครั้งก็พลาดเหมือนกัน เพราะไม่สามารถควบคุมความแปรปรวนของอากาศได้

โฆษณา
AP Chemical Thailand
1.คุณสำราญกับสวนมะม่วง
1.คุณสำราญกับสวนมะม่วง
2.คุณสำราญ-นกแก้วและภรรยา
2.คุณสำราญ-นกแก้วและภรรยา

การตัดแต่งกิ่งมะม่วง

ในการทำมะม่วงนอกฤดูเพื่อหวังขายผลผลิตให้ได้ราคานั้น เริ่มตั้งแต่ตัดแต่งกิ่งให้โปร่ง เพื่อให้แสงแดดส่องทั่วถึง และให้อากาศถ่ายเทได้ดี ป้องกันโรค-แมลง ทำลาย นอกจากนี้การตัดแต่งกิ่งยังก่อให้เกิดการจัดการ “ทรงพุ่ม” มิให้สูงเกินไป จนยากแก่การดูแลรักษาให้ต้นสมบูรณ์ โดยเฉพาะแสงแดดที่ส่องถึงโคนต้นจะทำให้มะม่วงออกดอกที่กิ่งด้วย

หลังจากตัดแต่งกิ่งเรียบร้อยก็ต้องให้อาหารและน้ำตามปกติ เพื่อให้มะม่วงนำไปใช้ในการแตกใบอ่อน ซึ่งปุ๋ยที่ใช้ทางดินเป็นปุ๋ยชีวภาพที่ผลิตเอง และใช้ปุ๋ยเคมีบ้าง เพื่อเร่งให้แตกใบอ่อนเร็วขึ้น นอกจากนี้ยังต้องให้ปุ๋ยทางใบด้วย ส่วนน้ำจะปล่อยทางท่อที่ฝังไว้แล้วผ่านระบบน้ำหยดเมื่อ 20 ปีที่แล้ว

3.การตัดแต่งกิ่งมะม่วง
3.การตัดแต่งกิ่งมะม่วง
4.การออกใบอ่อนและแทงช่อดอกในคราวเดียวกัน
4.การออกใบอ่อนและแทงช่อดอกในคราวเดียวกัน

การบำรุงดูแลรักษาต้นมะม่วง

ในการทำให้ต้นมะม่วงสมบูรณ์ คุณสำราญมุ่งการปรับปรุงบำรุงดินด้วยการไม่ฉีดยาฆ่าหญ้า แต่ได้ใช้เครื่องตัดหญ้า และนำมากองรวมกันกับกิ่งมะม่วงที่ตัดจากต้น เมื่อมันได้รับความชื้นก็จะถูกจุลินทรีย์ย่อยสลาย ดังนั้นใต้โคนต้นมะม่วงจะมีดินสมบูรณ์ มีต้นตำลึงขึ้นงอกงามให้เห็น “ตอนทำ 5 ไร่ ถางหญ้าจนเตียน แต่พอทำ 20 ไร่ ไม่มีเวลา ต้องฉีดยาจนหน้าดินแดงกัดหน้าดินเสียหาย” คุณสำราญทบทวนถึงข้อเสียของการใช้ยาฆ่าหญ้า จนต้องเลิกใช้ในปัจจุบัน

การดูแลรักษามะม่วงอย่างเข้มข้นจะเริ่มต้นหลังจากตัดแต่งกิ่งให้เตี้ย และโปร่ง เพื่อถ่ายเทและระบายอากาศที่ดี ช่วยป้องกันโรคและแมลงได้ในระดับหนึ่ง ก่อนจะให้น้ำด้วยระบบน้ำหยดกับต้นมะม่วงทุกต้น เติมสารปรับปรุงดิน ฉีดพ่นธาตุอาหารทางใบ (ไธโอยูเรีย) เพื่อสะสมอาหาร จนกระทั่งมะม่วงแตกใบอ่อนต้องดูแลมิให้โรคและแมลงรบกวน นั่นคือ คุณสำราญต้องหมั่นลงสวนมะม่วงเพื่อดูแลอย่างใกล้ชิด ที่สำคัญต้องทำพื้นที่ให้เตียน ไม่ให้เป็นที่อาศัยของแมลงศัตรูพืชที่จะเข้าทำลายใบอ่อน

5.การให้น้ำระบบน้ำหยดทุกต้นบนเนื้อที่-20-ไร่
5.การให้น้ำระบบน้ำหยดทุกต้นบนเนื้อที่-20-ไร่
มะม่วงที่เริ่มแทงช่อดอกให้เห็น
มะม่วงที่เริ่มแทงช่อดอกให้เห็น

การให้ปุ๋ยและน้ำต้นมะม่วง

เมื่อใบอ่อนเริ่มกลายเป็นใบเพสลาด ก็จะทำการราดสารแพคโคลบิวทราซอล ต่อมาจะใส่ปุ๋ยสูตร 8-24-24 หรือไธโอยูเรียไป แล้ว 7-10 วัน จะเริ่มเห็นเป็นใบแก่ หลังจากราดสารแพคโคลบิวทราซอลไปได้ประมาณ 45 วัน มะม่วงจะเริ่ม “แทงตาดอก” ออกมาให้เห็น ที่สำคัญเมื่อเป็นใบแก่แล้วจะต้องเร่งให้มะม่วงแทงช่อดอกออกมาให้พร้อมๆ กันมากที่สุด

6.การใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันเพลี้ยไฟ
6.การใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันเพลี้ยไฟ พันธุ์มะม่วง พันธุ์มะม่วง พันธุ์มะม่วง พันธุ์มะม่วง พันธุ์มะม่วง พันธุ์มะม่วง
การใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันเชื้อราในหน้าฝนได้ดี
การใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันเชื้อราในหน้าฝนได้ดี พันธุ์มะม่วง พันธุ์มะม่วง พันธุ์มะม่วง พันธุ์มะม่วง พันธุ์มะม่วง 

การป้องกันกำจัดศัตรูพืชในต้นมะม่วง

พอครบ 28 วัน มะม่วงก็จะเริ่มบาน และเริ่มเปลี่ยนเป็นผลเท่าเม็ดไข่ปลา ที่ต้องป้องกันด้วยการใช้สารเคมีอาเชททามิพริต (ยี่ห้อโมนาส) และสารเมโทมิล (ยี่ห้อเนแลน) ผสมน้ำฉีดพ่นเพื่อป้องกันแมลง ป้องกันเพลี้ยไฟ และเพลี้ยแป้ง ได้เป็นอย่างดี สามารถฉีดผ่าดอกได้เลยโดยไม่มีผลกระทบต่อดอกมะม่วง

โฆษณา
AP Chemical Thailand

โดยคุณสำราญได้ใช้ผลิตภัณฑ์โมนาส และเนแลน มานานกว่า 3 ปีแล้ว รวมไปถึงการเผาเศษขยะ หรือเศษไม้ ภายในสวนให้เกิดควันไฟ เพื่อช่วยไล่เพลี้ยไฟได้อีกทางหนึ่ง ซึ่งการดูแลรักษาและฉีดพ่นสารเคมีดังกล่าว ต้องฉีดพ่นทุกๆ  7 วัน ไปจนกระทั่งผลมะม่วงมีขนาดเท่านิ้วก้อย ช่วงนี้จะเป็นช่วงเวลาที่ต้องดูแลใส่ใจเป็นพิเศษของชาวสวนมะม่วง

แต่ถ้าเกิดมีฝนตกและสลับกับแดด ผลที่ตามมา คือ จะสุ่มเสี่ยงต่อการเกิดเชื้อรา (แอนแทรคโนส) ซึ่งทางสวนมะม่วงที่นี่จะใช้สารเคมี (โพรคลอราช) ยี่ห้อโค-ราซ ผสมน้ำให้ละลาย ก่อนฉีดพ่นป้องกันและควบคุมเชื้อราในช่วงหน้าฝนได้เป็นอย่างดี และคุ้มค่าต่อการลงทุน

7.พันธุ์มะม่วง ก่อนฤดู ทั้งเบาและหนักเน้นตลาดนำการผลิต รายได้หลายแสนบาททุกปี
7.พันธุ์มะม่วง ก่อนฤดู ทั้งเบาและหนักเน้นตลาดนำการผลิต รายได้หลายแสนบาททุกปี

การเก็บเกี่ยวผลผลิตมะม่วง

เมื่อมะม่วงเป็นผลเล็กขนาดเท่านิ้วก้อย มะม่วงก็จะสลัดลูกทิ้งเองตามธรรมชาติ ตามความสมบูรณ์ หรือความพร้อม และความเหมาะสม ของแต่ละต้น ที่จะสามารถเลี้ยงผลได้ดี หลังจากนั้นก็จะเริ่มต้นห่อผลมะม่วงน้ำดอกไม้สีทอง  น้ำดอกไม้สีทองเบอร์4 ด้วยถุงคาร์บอนชุนฟง ห่อมะม่วงเขียวเสวยด้วยถุงห่อธรรมดาของชุนฟง

โดยรวมก็คือ มะม่วงที่ต้องกินสุกต้องห่อทั้งหมด โดยระยะเวลาเก็บเกี่ยวผลผลิตได้เมื่อครบ 120 วัน ส่วนเบ็ดเตล็ด อย่าง มะม่วงฟ้าลั่น และมันเดือนเก้า ที่นิยมขายเป็นมะม่วงดิบ มะม่วงยำไม่ต้องห่อผล ไม่ต้องรอให้ผลสุกก็สามารถขายได้ เมื่อมีอายุครบ 90 วันขึ้นไป เป็นการสร้างรายได้ให้กับทางสวนในช่วงที่รอผลผลิตของะม่วงน้ำดอกไม้ได้ดี

8.ผลผลิตมะม่วงคุณภาพ
8.ผลผลิตมะม่วงคุณภาพ

การจำหน่ายผลผลิตมะม่วง

อย่างไรก็ดีการทำมะม่วงนอกฤดูเพื่อจะขายได้ราคา บางครั้งก็พลาด เพราะอากาศมีความแปรปรวน ควบคุมได้ยาก ซึ่งคุณสำราญยอมรับว่าครั้งที่แล้วก็ผิดพลาด เพราะมะม่วงแต่ละต้น แต่ละพันธุ์ มีความสมบูรณ์ไม่เท่ากัน เช่น การทำใบอ่อน ก็ไม่ได้หมดทุกต้น ต้นที่ไม่สมบูรณ์ บางกิ่งก็มีใบอ่อน บางกิ่งมีใบแก่ ดังนั้นทำให้ช่อดอกออกไม่พร้อมกัน ติดลูกไม่พร้อมกัน ยากต่อการจัดการ

“ความจริงเราต้องเก็บมะม่วง 1 รุ่น ทุกต้น เดือนสิงหาคมที่ผ่านมา แต่ปีนี้แห้งแล้ง ทำให้มะม่วงไม่สมบูรณ์ ไม่พร้อม ต้นไหนพร้อมก็จะออก เราเร่งเขาก็ไม่ออก ตาบอดอยู่อย่างนั้น ไม่ออก เจอใบไหม้ ใบเก่า ก็จะโทรมไปด้วย ช่วงที่ตัดแต่งกิ่ง ฝนไม่ตกเลย” คุณสำราญเปิดเผยถึงผลเสียของความแปรปรวนด้านสภาพแวดล้อม

โฆษณา
AP Chemical Thailand
9.ผลผลิตมะม่วง
9.ผลผลิตมะม่วง

รายได้จากผลผลิตมะม่วง

ดังนั้นน้ำดอกไม้ที่หวังจะให้ผลผลิตออกก่อน ขายก่อน ได้เงินก่อน กลายเป็นมาออกผลตรงกับมะม่วงฤดู ราคาไม่ดี ด้วยเหตุนี้เขาจึงต้องลดบทบาทน้ำดอกไม้ด้วยการตัดทิ้ง แล้วปลูกทดแทนด้วยพันธุ์มันเดือนเก้า มะม่วงเบา ที่มีรายได้/ปีดีกว่า  ผลผลิตที่ได้ในช่วงปีที่ผ่านมาจะอยู่ที่ 20 กว่าตัน มีรายได้หลักหลายแสนบาท

แต่ปีนี้สวนมะม่วงแห่งนี้ และสวนมะม่วงในพื้นที่ ประสบปัญหา ก็คือในช่วงต้นเดือนธันวาคมหลังเทศกาลลอยกระทงได้มีฝนตกลงมา ซึ่งเป็นสิ่งที่ผิดปกติของธรรมชาติ ส่งผลให้ต้นมะม่วงที่มีการบำรุงรักษาจนกระทั่งเริ่มแทงช่อดอกและออกมาแล้วกระทบกับฝน จนทำให้ต้นมะม่วงดูดกินน้ำเข้าไปเป็นจำนวนมาก ทำให้ผลมะม่วงที่มีขนาดเท่าเม็ดไข่ปลาเหลืองและร่วงไปในที่สุด ส่งผลต่อผลผลิตที่ได้รับในปีนี้

และหวังว่าในช่วงกลางเดือนธันวาคมเมื่อมีลมหนาวเข้ามากระทบในช่วงเย็น ประกอบกับช่วงกลางวันมีอากาศร้อนอบอ้าว ก็จะทำให้มะม่วงเริ่มแทงช่อดอกอีกครั้ง จะนำมาซึ่งผลผลิตที่ดีได้ “ปีนี้ทำมะม่วงค่อนข้างยาก เป็นเรื่องปกติของชาวสวนมะม่วง เพราะทุกคนหวังว่าหลังลอยกระทงฝนก็จะหมดแล้ว แต่พอมาปีนี้ฝนกลับมาอีกตอนต้นธันวาคม เป็นแบบนี้มา 2 ปีแล้ว บางวันก็เช้าหนาว กลางวันร้อน เย็นฝนตก ทำให้มะม่วงหลายๆ สวนประสบปัญหาเหมือนกันหมดเลย

จะเห็นได้ว่าการทำมะม่วงก่อนฤดูบ้านฉาง…ดินแดนที่ภาคอุตสาหกรรมรุกล้ำภาคการเกษตรอย่างรุนแรงนั้น ชาวสวนมืออาชีพทั้ง 2 ท่าน ต้องใช้ฝีมือในการจัดการให้มะม่วงออกดอก ติดผล ก่อนมะม่วงในฤดู และผลไม้อื่นๆ ออกสู่ตลาดแน่นอนทั้งคู่ ต้องรู้ในเรื่องปุ๋ย ยา ฮอร์โมน การให้น้ำ ความเป็นกรด เป็นด่าง ของดิน สามารถพลิกแพลงตามสถานการณ์สภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไปในแต่ละเดือน และที่สำคัญที่สุด คือ การเลือกใช้สาย พันธุ์มะม่วง ที่เหมาะสมกับผู้บริโภค ทั้งในและต่างประเทศ คือ หลักประกันการลงทุนที่ดี ไม่เสี่ยงต่อการขาดทุนนั่นเอง

สนใจติดต่อสอบถาม คุณสำราญ นกแก้ว 240/1 ม.4 ต.บ้านฉาง อ.บ้านฉาง จ.ระยอง