เจ๊บลู สวน ทุเรียน จันทบุรี ยืนยัน “ปุ๋ยดี” ต้องดูต้นทุเรียน

โฆษณา
AP Chemical Thailand

ทุเรียน เป็นผลไม้เศรษฐกิจที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากสถานการณ์ผลผลิตทุเรียน ปี 2565 ทำให้ภาคตะวันออกมีเงินสะพัดมากที่สุด รองมา คือ ภาคใต้ และ ภาคตะวันตก ภาคเหนือทำเงินสะพัดถึง 7 แสนล้านบาท ถือว่าเพิ่มขึ้นจากปี 2564 ยอด 6.4 แสนล้านบาท หรือขยับขึ้น 8.6%

และคาดว่าอีก 5 ปีข้างหน้า ไทยจะส่งออกทุเรียนเพิ่มขึ้นถึง 2.4 เท่า ไม่แปลกที่จะเห็นว่าขณะนี้กลุ่มผู้ปลูกทุเรียนรายใหม่ๆ เพิ่มขึ้นทั่วทุกภาคของไทย เพราะเป็นช่วงขาขึ้นของทุเรียน

1.คุณบุศยา วิเศษ (ขวามือ)
1.คุณบุศยา วิเศษ (ขวามือ)

การปลูกทุเรียน

คุณบุศยา วิเศษ หรือ เจ๊บลู แห่ง ร้านกองจินดาเคมีเกษตร สาขา โชคดี 19/8 หมู่ 4 ต.บ่อเวฬุ อ.ขลุง จ.จันทบุรี 22150 เธอเป็นทายาทชาวสวนรุ่นที่ 3 ที่สานต่ออาชีพดั้งเดิมของพ่อแม่ ด้วยดีกรีจบปริญญาตรี สาขาธุรกิจการบิน ปี 2554  ใครจะคิดว่าเธอมาทำสวน แต่ด้วยความที่เป็นลูกสาวคนโต ที่มีความรับผิดชอบสูง ทำให้ตัดสินใจมารับช่วงทำสวนทุเรียนต่อจากเตี่ยหลายร้อยไร่

ตอนนี้เตี่ยอายุ 60 ปี ดั้งเดิมบุกเบิกตั้งแต่รุ่นก๋ง ประสบการณ์การทำสวนผลไม้ไม่ต่ำกว่า 35 ปี  แบ่งเป็นพื้นที่ของตนเอง 98 ไร่ และเช่าสวนของอาอีกจำนวนหนึ่ง และทำสวน ดูแล ใส่ปุ๋ย เองทั้งหมด ภายในสวนผลไม้หลัก คือ ทุเรียนหมอนทอง และ มังคุด เธอยอมรับว่า ไม่ค่อยมีความรู้เกี่ยวกับการทำสวนทุเรียนเท่าไหร่นัก อาศัยเตี่ยคอยเป็นพี่เลี้ยง และให้คำแนะนำเรื่อยมา

“จากเดิมเคยลงทุนหลักแสน/ปี ได้ผลผลิต 10 ตัน ปีต่อมาก็ขยับขึ้นเป็นลงทุนหลัก3-5 แสน ผลผลิต 30 ตัน แต่ปัญหา คือ เราไม่มีทุนที่จะลง เพราะมีหนี้เก่าอยู่เยอะ พ่อกับแม่ออกจากกงสีมาก็มีหนี้ติดมาด้วยมาทำสวน พอเก็บผลผลิตขายได้เงินก็ไปใช้หนี้ เงินก็หมดแล้ว ไม่มีเงินมาลงทุนต่อ” เจ๊บลูเล่าย้อนถึงอดีต

2.ปุ๋ยเคมีสูตร 14-7-35
2.ปุ๋ยเคมีสูตร 14-7-35
ปุ๋ยเคมีสูตร 17-17-17
ปุ๋ยเคมีสูตร 17-17-17

การใส่ปุ๋ยต้นทุเรียน

หลังจากมาทำสวนและบริหารสวนเองทั้งหมด ปลายปี 2554 จึงได้รู้จักกับเจ๊ตู่ ร้านกองจินดา เป็นผู้ซัพพอร์ทแนะนำให้มาใช้ปุ๋ย ของ บริษัท ศักดิ์สยาม  ตรา สิงโตสยาม 2007 ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ไม่ว่าจะสั่งปุ๋ยสูตรไหนๆ ก็มีแต่แบรนด์ศักดิ์สยามมาให้

โฆษณา
AP Chemical Thailand

อีกทั้งยังช่วยแนะนำวิธีการใช้ปุ๋ยกับทุเรียน ในแต่ละช่วงระยะของทุเรียนด้วย เช่น แนะนำให้ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ ศักดิ์สยาม ผสมกับปุ๋ยเคมีสูตร 17-17-17+1-2s  ในช่วงบำรุงต้น อัตราปุ๋ยอินทรีย์ 1 ผสมกับปุ๋ยเคมี 1 และใส่ต้นทุเรียนเล็ก และทุเรียนโต ช่วงบำรุงลูกเล็กก็ใส่13-13-21 ช่วงกางหนามเบ่งพูจะใส่ 15-5-30 และสุดท้ายช่วงทุเรียนสร้างเนื้อและเปลือกแล้วประมาณครึ่งเดือนจะใส่ 14-7-35 ทำให้น้ำหนักดี สีสวย เป็นต้น

ปัจจุบันเจ๊บลูเป็นผู้ใช้ปุ๋ยแบรนด์ศักดิ์สยามมายาวนานกว่า 10 ปี ในสวนของตนเอง และเริ่มใช้กับสวนของแฟนอีก 85 ไร่ จากผู้ใช้กลายมาเป็นผู้จำหน่ายได้ประมาณ 2 ปีกว่า และยอมรับว่าการลงทุนทำสวนทุเรียนมีต้นทุนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพียงระยะเวลาแค่ 10 ปี ที่ทำสวนทุเรียนเอง ต้นทุนปรับเพิ่มขึ้นเป็นสิบเท่าตัว จากลงทุนหลัก 4 แสน เพิ่มขึ้นเป็น 1.8 ล้าน ทำให้ต้องศึกษาและเข้าใจการใช้ปุ๋ยในสวนมากเป็นพิเศษ เพื่อให้ทุเรียนได้อาหารครบ และให้ผลผลิตเต็มเม็ดเต็มหน่วย คุ้มค่ากับการลงทุน

ซึ่งฤดูกาลเก็บผลผลิตที่ผ่านมา สวนทุเรียนจำนวน 98 ไร่ ได้ผลผลิต 100 ตัน “เราเป็นเจ้าของสวน เจ้าของร้าน ใช้เอง ขายเอง บอกได้ว่าใช้ปุ๋ยศักดิ์สยามมา 10 ปี จากรุ่นเตี่ย ที่ทำทุเรียนได้ผลผลิต 10 ตัน 20 ตัน 30 ตัน จนมาวันนี้ได้ทุเรียน 100 ตัน เราใช้จริง เห็นผลจริง สวนของเราจะใช้ศักดิ์สยาม ไม่เคยเปลี่ยน ใช้มานาน

เราเปรียบเทียบกับสวนใกล้เคียงแล้วที่ใช้ปุ๋ยยี่ห้ออื่นมาตลอด ต้นทุเรียนมันงามเร็วจริง แต่มีต้นโทรมเยอะ สวนของเราเน้นให้ต้นทุเรียนเติบโตแข็งแรง และยั่งยืน ให้ต้นแข็งแรงไว้  ปุ๋ยจะดีหรือไม่ดีให้ดูที่ต้นทุเรียน เช่น ทั้งสวน ถ้ามีทุเรียน 100 ต้น มีต้นเหลืองเป็นโรค 2-3 ต้น ถือว่าปกติ แต่ถ้าทุเรียน 100 ต้น มีทุเรียนป่วย ต้นโทรม ใบเหลือง เป็นโรค 10 ต้นขึ้นไป คิดว่ามันเกี่ยวกับปุ๋ยนะ

ทุเรียนเราก็เป็นโรคนะ แต่ไม่ได้เป็นเยอะ ถ้าทุเรียนป่วยทั้งแปลงคิดว่าควรเปลี่ยนปุ๋ย  ก็แนะนำให้แฟนมาใช้ตามเขาเลย ใช้สูตรนี้มาตลอด” เจ๊บลูยืนยัน พร้อมกับเปิดเผยว่า การทำสวนทุเรียนเป็นเรื่องที่ต้องมีความรู้ ทักษะ การสังเกต ความละเอียด การใส่ปุ๋ยให้ถูกที่ และถูกเวลา หรือใช้ปุ๋ยตามระยะที่จำเป็น และที่สำคัญต้องมีความพร้อมเรื่องเงินลงทุน และมีระบบการจัดการสวนที่ดี

3.หลังใส่ปุ๋ยอินทรีย์ผสมเคมี ทุเรียนกำลังแตกใบอ่อนใหม่
3.หลังใส่ปุ๋ยอินทรีย์ผสมเคมี ทุเรียนกำลังแตกใบอ่อนใหม่

การบริหารจัดการสวนทุเรียน

หลังเก็บเกี่ยวผลผลิต จะฟื้นฟูบำรุงต้นทุเรียนทั้งสวน ไม่ว่าจะเป็นต้นเล็กที่ยังไม่ให้ผลผลิต หรือต้นใหญ่ที่ให้ผลผลิตแล้ว จะปูใส่ปุ๋ยทั้งสวน ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ผสมปุ๋ยเคมี สูตร 17-17-17+1-2s อัตราผสม 1 ต่อ 1 แต่เนื่องด้วยราคาปุ๋ยเคมีขยับสูงขึ้น จึงปรับมาใช้อินทรีย์ 2 ต่อ 1

โฆษณา
AP Chemical Thailand

โดยอัตราการใส่ทางสวนจะไม่ค่อยเป๊ะเรื่องปริมาณ/ต้น เพราะให้คนงานใส่ จึงไม่ได้ตวงสัดส่วนการใส่/ต้น ฟิกส์ขนาดนั้น เช่น ต้นทุเรียนใหญ่ใส่เยอะหน่อยให้ทั่วๆ ดูต้นเป็นหลัก ต้นเล็กก็ใส่ 1 กำมือ/ต้น อายุ 2-3 ปี ใส่ 2-3 กำมือ/ต้น หรือต้นใหญ่ 1-3 กก./ต้น  เพื่อกระตุ้นการแตกใบใหม่  ควบคู่กับฉีดพ่นทางใบ  อาทิ  สาหร่าย  ฮิวมิค แมกนีเซียม อโทนิค แคลเซียมโบรอน ฟีโนบูคาร์บ ฟื้นฟูสภาพต้น เพื่อกระตุ้นให้ทุเรียนแตกใบใหม่ดึงใบชุดแรก

หลังจากนั้นจะฉีดพ่นยากำจัดแมลงเพื่อไม่ให้แมลงกัดกินใบ ใช้พวกไซเบอร์พวกคาร์โบซัลแฟนตระกูลหนอนเพลี้ย หลังจากนั้นก็เร่งใบแก่แล้วกระตุ้นการแตกใบครั้งที่ 2 ถ้าทำได้เร็วเท่าไหร่ยิ่งได้เปรียบ พอใบที่ 2 แก่เต็มที่สมบูรณ์ จะใช้ปุ๋ยอินทรีย์ผสมปุ๋ยเคมี สูตร17-17-17+1-2s  เพื่อบำรุงต้นอีกรอบ  ก็จะเป็นใบที่ 3 แล้วจะราดสารทันที เป็นสารแพกโคลบิวทราโซล เพื่อควบคุมฮอร์โมนจิบเบอเรลลิคแอซิคที่เป็นตัวกระตุ้นให้ทุเรียนไม่แตกใบอ่อนในช่วงระยะเวลา 60-90 วัน เพื่อให้ทุเรียนมีระยะเวลาสะสมความสมบูรณ์ได้นานขึ้น และออกดอกได้เมื่อสภาวะเอื้ออำนวย

จากนั้น 1 สัปดาห์ ก็จะเปิดตาดอก ด้วยปุ๋ยเคมีสูตร 8-24-24 รอบที่ 1 เพื่อกระตุ้นทุเรียน และฉีดพ่นสารกระตุ้นเปิดตาดอกพวกสาหร่าย กระตุ้นการแตกตาดอกด้วยปุ๋ยเกล็ดสูตร 0-52-34 เพื่อช่วยสะสมอาหารก่อนออกดอก เตรียมพลังงานไว้ใช้เมื่อติดผล หลังจากนั้นทุเรียนออกดอกจะมาควบคุมเรื่องน้ำให้ดี โดยได้แหล่งน้ำจากเขื่อน จึงไม่มีปัญหาเรื่องน้ำ

4.ต้นทุเรียนหลังเก็บเกี่ยวเสร็จแล้ว
4.ต้นทุเรียนหลังเก็บเกี่ยวเสร็จแล้ว

การบำรุงดูแลต้นทุเรียน

เมื่อทุเรียนออกดอกแล้วใช้จิบเบอเรลลินฉีดพ่น เพื่อยืดช่อดอก พอทุเรียนเริ่มออกดอกตูมจะใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 8-24-24 อีกครั้ง  เพราะจะช่วยกระตุ้นและผลัดช่วงหางแย้ไหม้  ทำให้หมวกดอกหลุดดี  การติดผลดีด้วย และใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 8-24-24 อีกครั้ง

สุดท้ายช่วงทุเรียนระยะผลไข่ไก่-กระป๋องนม “เมื่อก่อนไม่เคยทำแบบนี้ เราใส่ 8-24-24 แค่ 2 รอบ แต่ปีนี้แฟนแนะนำให้ใส่ 8-24-24 ช่วงดอกตูม 1 ครั้ง และช่วงลูกเท่าไข่ไก่จนถึงขนาดเท่ากระป๋องนมอีก 1 ครั้ง ปกติช่วงระยะผลไข่ไก่เราจะใช้ปุ๋ยเคมีสูตร 13-13-21 สูตรบำรุงลูก แต่เรามองว่าสูตรนี้มีไนโตรเจนสูง จึงปรับมาใช้ 8-24-24 เพราะไนโตรเจนต่ำจะไม่รัดแรง กลายเป็นว่าใช้ปุ๋ยสูตร 8-24-24 เป็น 3 ครั้ง

ดูเหมือนเราใส่ปุ๋ยหลายรอบ แต่เราใส่ปริมาณน้อย แต่ใส่บ่อย เพื่อให้ทุเรียนมีอาหารกินต่อเนื่อง แล้วยังไปช่วยช่วงสำคัญ” เจ๊บลูอธิบายการใช้ปุ๋ยเคมีสูตร 8-24-24  หลังจากทุเรียนเข้าสู่ช่วงเบ่งพู สร้างเนื้อ จะใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 15-5-30 จำนวน 1 ครั้ง และตบท้ายด้วยปุ๋ยเคมีสูตร 14-7-35 1 ครั้ง ช่วยให้สีสวย และ น้ำหนักดี

โฆษณา
AP Chemical Thailand

“การทำสวนที่ดีต้องใช้ยาดี ปุ๋ยดี มีคุณภาพ เพราะปุ๋ย สำคัญมาก” เจ๊บลูกล่าว ในภาวะที่ปุ๋ยเคมีราคาขยับขึ้น ทำให้ปีนี้ลงทุนเยอะ ขยับจาก 1,500,000 บาท เป็น 1,800,000 บาท โดยสรุปได้ว่าสวนเจ๊บลูจะใช้ปุ๋ยตามระยะที่จำเป็น คือ หลังเก็บเกี่ยวใส่ปุ๋ย 1 รอบ

ทุกสวนปริมาณการใช้ปุ๋ยอยู่ที่ 3 ตัน แบ่งเป็นสูตร 17-17-17+1-2s จำนวน 1 ตัน  ปุ๋ยอินทรีย์ 2 ตัน ใส่ 2 รอบ และสูตร 8-24-24 จำนวน 3 รอบ  สูตร 15-5-30 จำนวน 1 ครั้ง และสูตร 14-7-35 อีก 1 ครั้ง สาเหตุที่สวนมีต้นทุนสูงเพราะไปบำรุงทุเรียนรุ่นน้องที่กำลังจะออกผลผลิตปี 2566 ไม่ต่ำกว่า 500 ต้น ซึ่งจะใช้ปุ๋ย ยา ที่ร้านตัวเองเป็นหลัก ใช้ราคาเท่ากับส่วนคนอื่น เพราะทำสวนแบบกงสี

ส่วนเรื่องโรคในทุเรียน อย่าง ไฟทอปเทอร่า เจ๊บลูบอกว่าที่สวนก็มีบ้างแต่ไม่เยอะ ถ้าต้นไหนตายก็ตัดทิ้ง และนำไปปลูกใหม่ แต่จะเปลี่ยนสายพันธุ์ เช่น เดิมปลูกทุเรียนพันธุ์หมอนทอง ก็เปลี่ยนมาเป็นพันธุ์พวงมณี เป็นต้น ส่วนการขายผลผลิตเดิมขายให้กับแม่ค้ามารับซื้อถึงสวน

5.ผลใหญ่ พูเต็ม ได้น้ำหนัก
5.ผลใหญ่ พูเต็ม ได้น้ำหนัก

ด้านตลาดและช่องทางจำหน่ายทุเรียน

แต่ช่วงหลัง 2 ปีมานี้มีผลผลิตออกจำนวนมาก จึงให้ล้งมารับซื้อถึงสวน โดยจะให้ตัดตามราคาและเกรดของผลผลิตของทุเรียน ราคาขึ้นลงวัน/วัน จะไม่ตัดแบบคว่ำหนามเด็ดขาด เพราะมองว่าไม่อยากเอาเปรียบผู้ซื้อ ราคาตามจริงตามเกรด A B C ซึ่งคาดว่าผลผลิตในปี 2566 จะได้มากกว่า 100 ตัน ถ้าสภาพอากาศไม่แปรปรวน ไม่มีลมแรงพัดผลผลิตเสียหาย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ร้านกองจินดาเคมีเกษตร สาขาโชคดี 19/8 ม.4 ต.บ่อเวฬุ อ.ขลุง จ.จันทบุรี 22150 โทร.080-364-6142

อ้างอิง : นิตยสารพลังเกษตร ฉบับที่ 26