เจ๊หนู ชาวสวนทุเรียนมืออาชีพ การันตี “ พีค โพลี ” ช่วยดูแลฟื้นฟูต้นทุเรียนจากโรครากเน่า โคนเน่าได้ พร้อมทั้งช่วยบำรุงดิน และราก ได้อย่างสมบูรณ์

โฆษณา
AP Chemical Thailand

เจ๊หนู ชาวสวนทุเรียนมืออาชีพ การันตี “พีค โพลี” ช่วยดูแลฟื้นฟูต้นทุเรียนจากโรครากเน่า โคนเน่าได้ พร้อมทั้งช่วยบำรุงดิน และราก ได้อย่างสมบูรณ์

1.เจ๊หนู-คุณระวิวรรณ-และตัวแทนจำหน่ายร้านสามเกษตร
1.เจ๊หนู-คุณระวิวรรณ-และตัวแทนจำหน่ายร้านสามเกษตร

การปลูกทุเรียน

“ทุเรียน” เป็นไม้ผลเศรษฐกิจที่สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรในพื้นที่จังหวัดจันทบุรีมาอย่างช้านาน การผลิตทุเรียนให้ได้ทั้งคุณภาพ ปริมาณ  และผลผลิตนั้น คือ ความต้องการ และเป้าหมายสูงสุดของเกษตรกรไทย ที่ต้องสอดคล้องกับการจัดการสวนทุเรียน และการดูแลสวนอย่างเป็นระบบ เพื่อให้ได้ทุเรียนที่มีคุณภาพ  เหมาะสมกับราคาที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างน่าตกใจ ข้อมูลจากกรมส่งเสริมการเกษตรระบุว่า ราคาทุเรียนหมอนทอง ปี พ.ศ.2556 ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 54.98บาท/กก. ปี พ.ศ.2558 ราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 60 บาท/กก. และในปี พ.ศ.2560 ราคาเฉลี่ยพุ่งสูงถึง   120-140บาท/กก. ปี ต้องยอมรับว่าในปีที่ผ่านมาทุเรียนได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างมาก เพราะนอกจากจะขายในประเทศแล้ว ความต้องการในต่างประเทศก็มากไม่แพ้กัน อย่างเช่น ประเทศจีน ที่“แจ็คหม่า” สร้างการซื้อขายทุเรียนสดผ่านระบบออนไลน์ เพื่อส่งสินค้าสู่ตลาดปลายทางอย่างประเทศจีน หากการซื้อขายจะราบรื่นผ่านไปได้ดีนั้น สิ่งสำคัญที่ชาวสวนต้องตระหนักและปฏิบัติ คือ การผลิตทุเรียนที่ดี มีคุณภาพ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมาภายหลัง

สายด่วน : รากเน่า โคนเน่า โทร.087-977-1590, 081-533-8499, 02-598-9207

2.ทุเรียนสายพันธุ์กระดุมคุณภาพจากสวนเจ๊หนู
2.ทุเรียนสายพันธุ์กระดุมคุณภาพจากสวนเจ๊หนู

คุณนภาวดี ผิวบาง ปลูกทุเรียนสายพันธุ์หมอนทอง กระดุม และมังคุด บนพื้นที่ 20 ไร่ จ.จันทบุรี

คุณนภาวดี ผิวบาง หรือเจ๊หนู ชาวสวนทุเรียนตำบลซึ้ง อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี ปลูกทุเรียนสายพันธุ์       “หมอนทอง”, “กระดุม” และมังคุดรอบๆ สวน บนพื้นที่ 20 ไร่ ปลูกทุเรียนมากกว่า 500 ต้น ในปีที่ผ่านมาทุเรียนให้ผลผลิตมากถึง 40 ตัน คุณนภาวดีเล่าให้เราฟังว่า “ตนเป็นคนจันทบุรีแต่กำเนิด สวนทุเรียนแห่งนี้เป็นมรดกของพ่อและแม่ เห็นพ่อกับแม่ทำสวนมาตั้งแต่ตนยังเป็นเด็ก สวนแห่งนี้อายุประมาณราวๆ 40 -50 ปีได้ ตนเข้ามาดูแลสวนอย่างเต็มตัวเมื่อปี พ.ศ.2551 การดูแลสวนทุเรียนไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะทุเรียนเป็นพืชที่ต้องเอาใจใส่เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องดิน น้ำ อาหาร สภาพอากาศ โรคและแมลง สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อการเจริญเติบโตของพืช ปัญหาหลักๆ ของทุเรียนที่ต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษ นั่นก็คือ “โรครากเน่า โคนเน่า”  ที่เกิดจากเชื้อรา Phytophthorapalmivoral. เมื่อเป็นแล้วส่งผลให้ต้นทุเรียนเสียหายอย่างมาก”

โฆษณา
AP Chemical Thailand
3.ความสมบูรณ์ของต้นทุเรียนหลังจากใช้พีค-โพลี
3.ความสมบูรณ์ของต้นทุเรียนหลังจากใช้พีค-โพลี

การใช้ผลิตภัณฑ์ “พีค โพลี” ของ บริษัท พีคอโกรเคมี2 จำกัด ในสวนทุเรียน

สวนของคุณนภาวดีเป็นสวนแบบเก่า ไม่มีการยกโคก ต้นทุเรียนที่ปลูกในพื้นที่ราบมักจะเจอปัญหาของ “โรครากเน่า โคนเน่า” เนื่องจากเวลาที่ฝนตกจะเกิดน้ำขัง ไม่มีการระบายไปที่อื่น ทำให้ต้นทุเรียนที่ไม่ชอบน้ำขัง ป่วย ไม่แข็งแรง โรคเข้าระบาดได้ง่าย แต่ถ้าเป็นบริเวณพื้นที่สูงเป็นเนินจะไม่ค่อยเจอปัญหาเรื่องนี้เท่าไร ที่ผ่านมาเมื่อเกิดโรคกับ      ต้นทุเรียน คุณนภาวดีก็จะหาซื้อยาตามร้านขายเคมีภัณฑ์มาใช้ ช่วยรักษาโรคได้ในระดับหนึ่ง โดยที่คุณนภาวดีต้องคอยสังเกตอาการต้นทุเรียนตลอดเวลา ต้องเดินดูสวนทุกวัน หมั่นสังเกตอาการของต้น บางต้นรักษาไม่ทันก็ต้องโค่นต้นทิ้ง เมื่อประมาณปลายปี 2560 ที่ผ่านมา คุณนภาวดีได้รู้จักกับคุณเรไร เจ้าของร้านสามเกษตร ผ่านคนรู้จัก ที่ได้มาเที่ยวสวนของคุณนภาวดี และสังเกตเห็นว่าที่สวนต้นทุเรียนบางต้นเป็นโรค ใบเล็ก ไม่หนา และต้นค่อนข้างโทรม ดูไม่แข็งแรง จึงได้แนะนำให้ลองใช้ผลิตภัณฑ์ “พีค โพลี” ของบริษัท พีคอโกร เคมี 2 จำกัด เพื่อช่วยฟื้นฟูต้นทุเรียนให้หายจากโรครากเน่า โคนเน่า

4.ต้นทุเรียนสมบูรณ์-ใบหนา-แตกกิ่งแขนงค่อนข้างมาก
4.ต้นทุเรียนสมบูรณ์-ใบหนา-แตกกิ่งแขนงค่อนข้างมาก

วิธีการใช้ “พีค โพลี” ในสวนทุเรียน

คุณนภาวดีจึงได้เดินทางไปยัง “ร้านสามเกษตร” เพื่อซื้อผลิตภัณฑ์ “พีค โพลี” มาทดลองใช้ในสวน โดยผสมกับ “เชื้อราไตรโครเดอร์มา” (เป็นเชื้อราที่สามารถพบได้ในธรรมชาติ ที่เจริญแข่งขัน แก่งแย่งอาหาร น้ำ แร่ธาตุ อากาศ และแหล่งที่อยู่กับเชื้อราสาเหตุโรคพืช จึงทำให้เชื้อโรคลดปริมาณลงอย่างรวดเร็ว)+ น้ำ 200 ลิตร ฉีดพ่นทางใบให้ชุ่ม และราดลงดิน โดยคุณนภาวดีจะฉีดพ่นทุกๆ 7-10 วัน ถ้าหากวันไหนมีฝนตกก็จะฉีดพ่นทุก 12-13 วัน หลังใช้  3 สัปดาห์ จึงเริ่มเห็นผล ต้นทุเรียนแข็งแรง แตกใบใหม่ แตกต่างจากยาตัวอื่นที่เคยใช้ โดย “พีค โพลี” มีคุณสมบัติในการช่วยปรับสภาพดิน และช่วยเพิ่มประสิทธิภาพปุ๋ย ทั้งปุ๋ยเคมี และปุ๋ยอินทรีย์ ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ คือ ดินดีขึ้น และได้  ผลผลิตเพิ่มขึ้น ทั้งปริมาณ และคุณภาพ ช่วยลดและแก้ปัญหารากเน่า รากดำ และปัญหาพืชไม่กินปุ๋ย ช่วยให้พืชแตกรากดี แตกรากมาก และที่สำคัญต้นแข็งแรงขึ้น คุณนภาวดี ใช้ “พีค โพลี” มาแล้วถึง 5 ครั้ง การันตีว่า “พีค โพลี” นอกจากจะฟื้นฟูต้นจากโรครากเน่า โคนเน่า แล้ว ยังช่วยให้ต้นแข็งแรง ซึ่งแตกต่างจากผลิตภัณฑ์ตัวอื่นที่ตนเคยใช้มา

สุดท้ายนี้คุณนภาวดีฝากถึงเกษตรชาวสวนทุกท่าน “ไม่ว่าจะปลูกพืชชนิดไหน เราต้องเอาใจใส่ ต้องคอยหมั่นเดินดูสวน ต้องสังเกตหาสิ่งผิดปกติทุกครั้งที่ใช้ผลิตภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็น ปุ๋ย ยา หรือฮอร์โมน หลังจากใช้แล้วต้องดูทุกครั้งว่ามันเปลี่ยนแปลงยังไง” โดยคุณนภาวดีจะมีการจดบันทึกทุกครั้งที่มีการให้ยา และดูอาการของต้นที่ตอบสนองกับผลิตภัณฑ์ที่ใช้ทุกครั้ง

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ร้านตัวแทนจำหน่าย

โฆษณา
AP Chemical Thailand

“ร้านสามเกษตร” 22/3 หมู่ 9 ตำบลเกวียนหัก อำเภอขลุง จังหวัดจันทบุรี โทร.088-582-8919

สอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์

“บริษัท พีคอโกรเคมี 2 จำกัด” 32/21 หมู่ 4 ตำบลท้ายเกาะ อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี 12160

สายด่วน : รากเน่า โคนเน่า โทร.087-977-1590, 081-533-8499, 02-598-9207

Line ID : @peakagrokemee2 , Facebook : พีคอโกรเคมี 2 , www.peakagro.co.th  และสามารถติดตามรับฟังข้อมูลความรู้เกี่ยวกับโรครากเน่า โคนเน่า ได้ทางรายการ “พีค อโกรฯ  NO รากเน่า”

ผ่านทาง www.peakagro.co.th/live หรือทาง Youtube พิมพ์ค้นหา Peak Agro Channel

โฆษณา
AP Chemical Thailand