การทำ ไร่องุ่น มุ่งพัฒนาเกษตรเชิงท่องเที่ยว ขายหน้าฟาร์มกิโลกรัมละ 80-100 บาท

โฆษณา
AP Chemical Thailand

 การปลูกองุ่น และการทำ ไร่องุ่น

เมื่อพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวใกล้กรุง หลายคนต้องนึกถึง “สวนผึ้ง” ราชบุรี นอกจากเป็นแหล่งท่องเที่ยวในภาคกลางแล้ว ยังล้อมรอบไปด้วยขุนเขาและธรรมชาติ จุดดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเข้ามาสัมผัสกับอากาศที่บริสุทธิ์ ที่หาไม่ได้ในเมืองใหญ่ สถานที่แห่งนี้จึงเป็นที่มาในการเดินทางของทีมงานนิตยสารเมืองไม้ผลและพืชสุขภาพไปสู่อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี เพื่อพบกับ “ไร่องุ่น”สถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตรในรูปแบบที่ไม่เหมือนใครแห่งเดียวในอำเภอสวนผึ้ง ที่ต้องมาสัมผัสบรรยากาศด้วยตนเองเท่านั้น

ไร่องุ่นที่พูดถึงกันนี้ คือ “ไร่องุ่นภูผา” หรือชื่อเดิม คือ “ไร่องุ่นปัญญาสวรรค์” บริหารงานโดย คุณกฤษฎา ปัญญาสวรรค์ หรือคุณเอฟ ร่วมกับครอบครัว สถานที่เที่ยวที่มีชื่อเสียงยอดฮิต ในยุคบุกเบิก อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ตั้งแต่ พ.ศ.2545 แหล่งท่องเที่ยวสร้างแรงบันดาลใจให้นักท่องหลายคนที่มาเยี่ยมเยือน

1.ไร่องุ่นแห่งแรกในสวนผึ้ง
1. ไร่องุ่น แห่งแรกในสวนผึ้ง

ซึ่งพื้นเพเดิมคุณเอฟเผยว่าเป็นคนที่ อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร ครอบครัวยึดอาชีพทำสวนองุ่นมาโดยตลอด หลังจากที่ตนเรียนจบจากรั้ว “มหาวิทยาลัยคริสเตียน” ก็มุ่งหน้ามาสานต่อธุรกิจของครอบครัวทันที ประกอบกับทางครอบครัวต้องการขยายพื้นที่ปลูกองุ่นเพิ่ม จึงได้เช่าที่ดิน 200 ไร่ ในราคาไร่ละ 300 บาท ที่ อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี เพื่อให้คุณเอฟเป็นคนดูแลบริหารจัดการ

ในช่วงแรกเลือกที่จะปลูกพืชแบบผสมผสาน เพื่อกระจายความเสี่ยงทางด้านราคาผลผลิต โดยเลือกปลูกมะนาว, พุทรา, กล้วยไข่ และกล้วยหอม เป็นต้น ในพื้นที่เกือบ 100 ไร่ ผลผลิตที่ได้ทั้งหมดจะส่งให้กับพ่อค้า แม่ค้า จากตลาดไท และตลาดสี่มุมเมือง

2.คุณกฤษฎา-หรือ-คุณเอฟ-เจ้าของไร่องุ่นภูผา
2.คุณกฤษฎา-หรือ-คุณเอฟ-เจ้าของ ไร่องุ่น ภูผา
3.สายพันธุ์องุ่น
3.สายพันธุ์องุ่น

สายพันธุ์องุ่น

หลังจากนั้นประมาณ 2-3 ปี จึงเริ่มนำกล้าพันธุ์องุ่นจากบ้านแพ้วมาทดลองปลูกภายในไร่ เพื่อดูว่าสภาพอากาศที่สวนผึ้งจะสามารถปลูกองุ่นได้หรือไม่ โดยองุ่นที่นำมาปลูกนั้นเป็นองุ่นเขียวพันธุ์ “ไวท์มะละกา”บนเนื้อที่ 5 ไร่ ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่ปลูกเป็นการค้ามากที่สุด ปลูกง่าย และการเจริญเติบโตดี มี 2 สายพันธุ์ คือ ชนิดผลกลม และผลยาว ลักษณะช่อใหญ่ยาว การติดผลดี ผลมีสีเหลืองอมเขียว รสชาติหวานแหลม เปลือกหนา และเหนียว

ซึ่งหลังจากได้ทดลองปลูกองุ่นไปแล้ว ผลปรากฏว่าองุ่นให้ผลผลิตค่อนข้างดี ช่อสมบูรณ์ ผิวสวย น้ำหนักดี รสชาติหวาน หอม อร่อย ไม่ต่างจากที่ปลูกในพื้นที่ อ.บ้านแพ้ว ผลผลิตรอบแรกในพื้นที่ 5 ไร่ สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ทั้งหมดเกือบ 20 ตัน สร้างรายได้ที่ดีพอสมควรในการทดลองปลูก

โฆษณา
AP Chemical Thailand

จากนั้นได้โค่นต้นพุทราทิ้ง เนื่องจากมีปัญหาด้านแรงงานที่หายาก และต้นทุนในการจ้างงานสูง และขยายพื้นที่ปลูกองุ่นเพิ่มมากขึ้นเป็น 30 ไร่ มะนาว 30 ไร่ และพืชผสมผสานอื่นๆ บ้างเล็กน้อย

4.องุ่นไวท์มะละกาแห่งไร่ภูผา
4.องุ่นไวท์มะละกาแห่งไร่ภูผา

การบริหารจัดการสวนองุ่น

องุ่นเป็นไม้เลื้อยประเภทยืนต้นที่มีอายุยาวนานหลายปี การเตรียมพื้นที่ในการปลูกต้องเริ่มต้นจากการปรับสภาพดิน โดยการไถพรวนดิน และตากดินทิ้งไว้ประมาณ 2 อาทิตย์ หลังจากนั้นจะเริ่มทำโครงสร้างขึ้นค้าง โดยค้างของทางไร่จะเน้นใช้อุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ใช้ลวดเส้นใหญ่ที่แข็งแรง และจะให้คนงานในไร่เป็นคนสานค้างเองทั้งหมด

จากนั้นจะวางระบบน้ำแบบ “สปริงเกลอร์” และลงเสาปูนเพื่อเอาไว้ยึดลวด รวมค่าต้นทุนทั้งหมดประมาณ 30,000 บาท/ไร่ อายุการใช้งานนานถึง 10 ปี จากนั้นจะขุดหลุมลึกประมาณครึ่งฝ่ามือ ขึ้นโคกเล็กน้อย แล้วนำต้นกล้าที่ซื้อมาจาก อ.บ้านแพ้ว มาปลูกในหลุม กลบดินให้เสมอปากถุง ต้นกล้าองุ่นทางไร่ภูผาจะเน้นใช้ต้นกล้าที่ทาบกิ่งเท่านั้น เพราะจะทำให้ต้นสมบูรณ์ แข็งแรง

พื้นที่ 1 ไร่ สามารถปลูกองุ่นได้ถึง 200 ต้น

พื้นที่ 1 ไร่ สามารถปลูกองุ่นได้ถึง 200 ต้น เมื่อนำต้นกล้าองุ่นลงปลูกแล้วจะให้น้ำด้วยสปริงเกลอร์ 2 รอบ เช้าและเย็น ครั้งละ 10 นาที ทุกวัน ในช่วงอาทิตย์แรกที่ปลูก หลังจากนั้นจะให้น้ำ 1 วัน และเว้นไปอีกสองวัน ควบคู่ไปกับการสังเกตความชื้นในดินเป็นหลัก หากให้น้ำในปริมาณที่มากเกินไปจะทำให้ต้นองุ่นที่ปลูกใหม่เน่าตายได้ 1 เดือน

หลังจากการปลูกเมื่อต้นเริ่มตั้งตัวได้จะเริ่มให้ปุ๋ยสูตรเร่งต้น 15-15-15 ในอัตรา 1 ช้อนโต๊ะ สลับกับการฉีดพ่นปุ๋ยชีวภาพทางใบ เพื่อให้ต้นสมบูรณ์เต็มที่ทุก 20 วัน เมื่อต้นองุ่นมีอายุ 8 เดือน ถึง 1 ปี ก็จะเริ่มไว้ลูกได้

เทคนิค“พรุนกิ่ง”

เทคนิคเพื่อให้ผลผลิตที่ดีด้วยการงดให้น้ำก่อนการตัดแต่งกิ่งเพื่อกระตุ้นการออกดอก จะงดให้น้ำประมาณ 10 วัน เพื่อให้ต้นโทรม ใบแก่จัดเต็มที่ และจะแต่งกิ่งรูดใบ หรือเรียกว่า “พรุนกิ่ง” จากนั้นถึงจะโหมน้ำทุกเช้า-เย็น เป็นเวลา 10 นาที นาน 2-3 วัน อีกประมาณ 10 วัน องุ่นก็จะเริ่มติดดอก เมื่อติดดอกแล้วในช่วงนี้จะต้องดูแลช่อดอกเป็นพิเศษ

โฆษณา
AP Chemical Thailand

โดยการใส่ปุ๋ยสูตรเสมอเพื่อบำรุงดอก ควบคู่กับการฉีดพ่นยาฆ่าแมลงป้องกันศัตรูพืช เช่น เพลี้ยไฟ และหนอน ที่มากัดกินทำลาย เป็นต้น พอองุ่นเริ่มโตเป็นเม็ดแล้วจะบำรุงด้วยฮอร์โมน แคลเซียมโบรอน สังกะสี เพื่อบำรุงผล และให้มีรสชาติที่หวาน ไปพร้อมกับการบำรุงต้นให้สมบูรณ์

5.ผลผลิตองุ่นที่พร้อมจำหน่ายท้องตลาดและหน้าฟาร์ม
5.ผลผลิตองุ่นที่พร้อมจำหน่ายท้องตลาดและหน้าฟาร์ม

การเก็บเกี่ยวผลผลิตองุ่น

จากนั้นประมาณ 120 วัน นับตั้งแต่เริ่มแต่งกิ่งก็จะสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ ผลผลิตจาก “ไร่องุ่นภูผา” จะส่งจำหน่ายให้กับพ่อค้า แม่ค้า ตามท้องตลาด และขายหน้าฟาร์มในราคากิโลกรัมละ 80-100 บาท ไร่องุ่น แห่งนี้เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาชมสวนองุ่น ดูวิธีการปลูกองุ่น การเก็บผลองุ่นสดๆ จากไร่ รวมถึงการสัมผัสกับบรรยากาศวิวสวยๆ ของภูเขาที่ล้อมรอบสวนองุ่น

6.ผลผลิตคุณภาพที่การันตีโดย ไร่องุ่น
6.ผลผลิตคุณภาพที่การันตีโดย ไร่องุ่น
การแปรรูปเพิ่มมูลค่าไวน์องุ่น
การแปรรูปเพิ่มมูลค่าไวน์องุ่น
ผลผลิตองุ่นและสินค้าแปรรูปอีกมากมาย
ผลผลิตองุ่นและสินค้าแปรรูปอีกมากมาย
บรรยากาศภายในร้านที่ให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชม
บรรยากาศภายในร้านที่ให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเยี่ยมชม

การแปรรูปองุ่น และสินค้าการเกษตรอื่นๆ

นอกจากนี้ยังมีสินค้าแปรรูปมากมายสำหรับนำไปเป็นของฝาก องุ่นสด น้ำองุ่น แยมองุ่น ไวน์ กะหรี่พัฟ แหนมเห็ด แหนมสามรส ไอศกรีมองุ่น ผลไม้ตามฤดูกาล และสินค้าการเกษตรแปรรูปอื่นๆ อีกมากมาย ที่มาพร้อมกับร้านอาหาร “อัญภูผา คาเฟ่ Stek & Coffee” ที่มีเมนูมากมายคอยให้บริการลูกค้าทุกวัน ตั้งแต่เวลา 07.00- 19.00 น.

7.จุดบริการกางเต้นท์สำหรับลูกค้านักท่องเที่ยว
7.จุดบริการกางเต้นท์สำหรับลูกค้านักท่องเที่ยว

การให้บริการสถานที่สำหรับลูกค้า

สำหรับลูกค้าที่ต้องการสัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด ทางไร่ก็มีบริการสถานที่ให้กางเต็นท์แบบเป็นส่วนตัวอีกด้วย จึงทำให้อำเภอสวนผึ้งจากอดีตจนถึงปัจจุบันเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว ด้วยสภาพแวดล้อมที่เป็นธรรมชาติ อากาศที่บริสุทธิ์ ทำให้นักท่องเที่ยวเริ่มเข้ามาเที่ยวมากขึ้น ประกอบกับชาวบ้านเริ่มปรับตัว เปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตรมากขึ้น ทั้งโรงแรม ที่พัก ก็เริ่มเปิดให้บริการมากขึ้น สร้างรายได้ให้กับคนในพื้นที่อย่างเป็นกอบเป็นกำนั่นเอง

ขอขอบคุณ “ไร่องุ่นภูผา” คุณกฤษฎา ปัญญาสวรรค์ หรือติดต่อสอบถามข้อมูลเที่ยวชม ไร่องุ่น ได้ที่ 478 หมู่ที่ 3 ต.สวนผึ้ง อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี 70180 โทร.081-017-0704