โรครากเน่า โคนเน่า ปราบได้ผล ด้วย “พีค รูทเตอร์” พร้อมเพิ่มผลผลิตและน้ำหนัก

โฆษณา
AP Chemical Thailand

ช่วงฤดูกาลเก็บเกี่ยวทุเรียนที่ผ่านมาในจังหวัดจันทบุรี จะสังเกตเห็นว่าสัมผัสได้ถึงความสุขและปฏิกิริยาที่แสดงให้เห็นของผู้ทำสวนทุเรียนทุกคน จากการพูดคุยและสอบถามก็ทำให้ทราบว่าผลผลิตของแต่ละสวนเพิ่มขึ้น 20-30% ส่งผลถึงรายได้เพิ่มมากขึ้นเป็นเงาตามตัว เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาถึง 2 เท่า สนนราคาขายปีที่แล้ว 120 บาท/กก                     โรครากเน่า

มาปีนี้เพิ่มขึ้นในช่วงเริ่มต้นเปิดฤดูกาลเก็บผลขายอยู่ที่ 150 บาท/กก. ที่สำคัญทุเรียนปีที่แล้วเก็บได้เพียงรุ่นเดียว ทำให้เกิดการช่วงชิงการซื้อหาในราคาที่สูงเป็นประวัติการณ์สำหรับในปีนี้ ถือว่าไขข้อสงสัยในราคาที่ดีขึ้นให้กับชาวสวนทุเรียนที่ยังกังขาว่าปีหน้าราคาจะดีเหมือนเดิมหรือไม่!..

อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ราคาสูงขึ้น คือ ทุเรียนออกผลผลิตได้หลายรุ่น สืบเนื่องมาจากฝนที่โปรยปรายลงมาไม่พร้อมกันในแต่ละพื้นที่ในช่วงออกดอกทำให้ทุเรียนติดลูกไม่พร้อมกัน และส่งผลดีให้กับเกษตรกรด้านรายได้หลักสิบล้านกันอย่างถ้วนหน้า จากตัวเลขผลผลิตของเดือนมิถุนายนที่ประเมินออกมาในพื้นที่ 40 ไร่ ที่เป็นลูกค้าของ “บริษัท พีค อโกรเคมี 2 จำกัด” ได้ผลผลิตประมาณ 90 ตัน เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับปีที่แล้วจะเห็นว่าเพิ่มมากขึ้นเป็นเท่าตัว

ส่วนหนึ่งสืบเนื่องมาจากต้นทุเรียนที่กำลังยืนต้นตายฟื้นคืนชีพยืนต้นโด่ท้าทายออกลูกได้อย่างอหังกา ซึ่งข้อมูลดังกล่าวได้มาจากการให้สัมภาษณ์ของ “คุณมีชัย” เจ้าของร้าน “สามเกษตร” ซึ่งเป็นแกนนำและตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ “พีค รูทเตอร์, พีค รับเบอร์ พีค โพลี และผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรอื่นๆ” ที่เกษตรกรชาวสวนทุเรียนใช้แล้วเห็นผลชัดเจนแบบไร้กังวล

1.การฉีดพ่น พีค รูทเตอร์
1.การฉีดพ่น พีค รูทเตอร์

การใช้ พีค รูทเตอร์ ในการบำรุงดูแลสวนทุเรียน

อย่างไรก็ดีจากการสอบถามอย่างต่อเนื่องกับประเด็นที่น่าสนใจว่าผลิตภัณฑ์ทั้ง 3 ชนิดนี้ สามารถตอบโจทย์ให้กับเกษตรกรอย่างได้ผล พร้อมกันนั้นยังมีประสิทธิภาพช่วยฟื้นฟูโครงสร้างลำต้นให้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น

โดยการใช้ปุ๋ยอินทรีย์เคมีบำรุงต้นควบคู่กันไป ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ทางด้านการส่งเสริมให้กับเกษตรกรมาช้านาน โดยมี “คุณเดียร์” บอสหญิงแกร่งที่มีคุณพ่อผู้เป็นปรมาจารย์คอยให้คำปรึกษาอยู่ตลอดเวลา  อีกทั้งยังมี “คุณมีชัย” พร้อมภรรยา  “คุณเรไร” ผู้ร่วมไขปัญหาให้กับเกษตรกรมาโดยตลอด และมีบทบาทการเชื่อมต่อระหว่าง “บริษัท พีค อโกรเคมี 2 จำกัด” ให้กับเกษตรกร ในฐานะเป็นผู้มีองค์ความรู้ทางด้านการดูแลต้นทุเรียนแบบไร้ข้อกังขา

โฆษณา
AP Chemical Thailand

“ปัญหาโรครากเน่าในสวนทุเรียนถือเป็นปัญหาหนักหน่วง และส่งผลเสียหายให้กับเกษตรกรชาวสวนทุเรียนเป็นอย่างมาก เมื่อเกิดปัญหาก็มีวิธีรักษาหลายวิธี ซึ่งบางคนก็หันไปพึ่งสารเคมีกำจัดโรค แต่พีค รูทเตอร์ คือ หนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ช่วยตอบโจทย์การแก้ปัญหาได้เป็นอย่างดี เป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยกำจัดโรครากเน่า โคนเน่า ที่เรื้อรังมานาน

ขณะเดียวกันเกษตรกรต้องให้ความสำคัญไปพร้อมกัน ก็คือ สภาพดินที่ต้องเอาใจใส่ดูแลเพื่อไม่ให้เกิดโรคซ้ำซาก เมื่อดินมีความสมบูรณ์ ปัญหาต่างๆ จะเกิดขึ้นได้ยาก เพราะดินที่มีคุณภาพจะส่งผลทำให้ต้นทุเรียนมีความสมบูรณ์ เจริญเติบโตได้ดี ไม่มีโรครบกวน ดังนั้นดินถือเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ต้นไม้ทุกชนิดเติบโตและสมบูรณ์นั่นเอง” คุณมีชัยกล่าวถึงผลิตภัณฑ์และดิน ซึ่งถือเป็นองค์ประกอบสำคัญที่สุดในการทำสวนทุเรียน โดยส่วนตัวเขาเองก็เชื่อว่าเกษตรกรรุ่นใหม่ต้องให้ความสนใจมากกว่าทุกยุคสมัยที่ผ่านมา

ทางด้านแนวความคิดการส่งเสริมเกษตรกร ปัจจุบันทีมงาน “บริษัท พีคอโกรเคมี 2 จำกัด” ให้ความสนใจทางด้านการใช้อินทรีย์ชีวภาพมาใช้แทนสารเคมี ซึ่งปัจจุบันมีพิษร้ายแรงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ คุณมีชัยในฐานะผู้คลุกคลีอยู่กับเกษตรกรมานานได้กล่าวในเรื่องนี้ว่า บริษัทฯ มีนโยบายที่จะเข้าไปช่วยเหลือเกษตรกรอย่างเต็มที่ เพื่อเป็นแนวทางการผลักดันให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นมากกว่าเดิม

ซึ่งบริษัทฯ ได้ตั้งโจทย์และหาข้อมูลการแก้ไขปัญหานำไปแนะนำเกษตรกรอย่างได้ผล ทั้งนี้ได้ยึดหลักความจริงใจในคุณธรรมอย่างแท้จริง โดยใช้เครื่องชี้วัด คือ เกษตรกรประสบผลสำเร็จเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งเกษตรกรแต่ละคนยังช่วยกระจายข่าวสารดีๆ ของผลิตภัณฑ์ “พีค รูทเตอร์” ต่อกันไปเรื่อยๆ อย่างไรก็ดีการสร้างยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนได้จัดโปรโมชั่น แถมผลิตภัณฑ์ดีๆ ให้ลูกค้าเพิ่มมากขึ้น

ที่ผ่านมาภาพรวมของเกษตรกรที่ใช้ผลิตภัณฑ์ “พีค รูทเตอร์” ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าต้นทุเรียน ใบทุเรียน หรือแม้แต่ตัวรากต้นทุเรียน มีแนวโน้มที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด นั่นก็แสดงให้เห็นว่าโครงสร้างลำต้นมีความสมบูรณ์อย่างเต็มที่ ซึ่งเป็นตัวชี้วัดทางด้านการให้ผลผลิตและน้ำหนักที่ดีมากกว่าเดิม ปีที่ผ่านมาเกษตรกรหลายคนคัดขนาดไซด์ทุเรียนที่ไม่ได้คุณภาพออกก่อนจัดจำหน่าย

แต่ในปีนี้ภาพเหล่านั้นแทบไม่มีให้เห็น เพราะขนาดไซด์ได้มาตรฐานเพิ่มมากขึ้น ซึ่งส่งผลด้านดีถึงรายได้ที่เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมเป็นเท่าตัว ทั้งนี้เป็นเพราะผลิตภัณฑ์ “พีค รูทเตอร์” ที่ช่วยรักษาโรครากเน่า โคนเน่า ควบคู่ไปกับการใช้ปุ๋ยอินทรีย์เคมีเพื่อทำการฟื้นฟูต้นทุเรียนให้มีความสมบูรณ์มากขึ้นนั่นเอง

โฆษณา
AP Chemical Thailand

“ที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นฤดูหนาว หรือฤดูร้อน ร้านเราจำหน่ายผลิตภัณฑ์ พีค รูทเตอร์ ไปพร้อมกับปุ๋ยเคมีที่มีคุณภาพให้กับพี่น้องเกษตรกรชาวสวนทุเรียนเป็นอย่างมาก ทางทีมงานจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับเกษตรกรชาวสวน และลูกค้าขาจร ได้ทราบว่าการใช้ปุ๋ยอินทรีย์เคมีช่วยได้อย่างแน่นอน และไม่ต้องกังวลว่าทางร้านจะนำของไม่มีคุณภาพมาขายให้ พร้อมกันนั้นผมและทีมงานยังให้คำแนะนำการใช้อย่างถูกต้องอีกด้วย ผมถือว่าเราให้ใจกับลูกค้าที่เป็นเกษตรกรมาตั้งแต่เริ่มต้นก็ว่าได้คุณมีชัยกล่าว

พร้อมทำความเข้าใจในเรื่องปุ๋ยเพิ่มเติมว่าชนิดของปุ๋ยมีสูตรแตกต่างกัน เช่น ปุ๋ยอินทรีย์เคมีจะมีส่วนผสมสารอาหารความเข้มข้นน้อย ถ้าเทียบกับปุ๋ยเคมีโดยทั่วไป ส่วนประกอบของปุ๋ยอินทรีย์เคมีนับว่าเหมาะสำหรับการดูแลสวนทุเรียน หรือสวนไม้ผลชนิดอื่นๆ อย่างได้ผล

นอกจากนี้คุณมีชัยยังแนะนำเกษตรกรที่มีปุ๋ยเหลืออยู่ในโกดังให้นำมาใช้สร้างประโยชน์ทางด้านการบำรุงดินสร้างความสมบูรณ์ให้มากยิ่งขึ้น ถือว่าเป็นข้อดีในการช่วยลดต้นทุนและลดสารพิษตกค้างที่มีอยู่ในดินได้อีกทางหนึ่ง ซึ่งสามารถใช้ควบคู่กันไปอย่างได้ผล

อีกทั้งปุ๋ยดังกล่าวยังช่วยแก้ปัญหาให้กับพืชทุกชนิด คำแนะนำดังกล่าวคุณมีชัยเห็นว่าไม้ผลยืนต้นที่มีขนาดใหญ่ซึ่งดูดธาตุอาหารในดินมาใช้เป็นเวลานาน “ปุ๋ยอินทรีย์เคมี” จะเป็นตัวเข้ามาช่วยเสริมในเรื่องของธาตุอาหารได้เป็นอย่างดี และเพิ่มความแข็งแรงให้ลำต้นเพิ่มมากขึ้น ภาพรวมถึงลักษณะการใช้ปุ๋ยของแต่ละสวนอาจมีความแตกต่างกัน ดังนั้นก่อนใช้ปุ๋ยคุณมีชัยแนะนำให้สังเกตจากใบและลำต้น ถ้าเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงที่แย่ลงให้ใส่ปุ๋ยเริ่มต้นที่ 1 กิโลกรัม/ไร่ จากนั้นให้ใส่ในปริมาณที่เหมาะสม เริ่มตั้งแต่ต้นที่มีอายุ 7-8 ปี ใส่ปุ๋ย 3 ขีด-1 กิโลกรัม จากนั้นให้หมั่นคอยสังเกตการตอบสนองของต้นทุเรียนว่ามีการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นหรือไม่ จากนั้นให้ใส่ปุ๋ยเรื่อยๆ ตามระยะเวลาที่เห็นสมควร หรืออาจจะใช้หลักการนับวันในระยะห่าง 20 วัน ใส่ครั้งหนึ่ง ทั้งนี้เพราะการใช้ปุ๋ยอินทรีย์เคมีไม่มีผลกระทบกับต้นมากนักเมื่อเทียบกับปุ๋ยเคมีโดยทั่วไป

“จากสภาพอากาศที่มีการเปลี่ยนแปลงไปค่อนข้างมาก โดยเฉพาะอากาศที่มีความร้อนจัดมากยิ่งขึ้น ฝนเริ่มน้อยลงตามสภาพอากาศที่มีความแปรปรวนมากขึ้น ซึ่งเป็นปัญหาที่ทำให้ต้นนั้นปรับตัวเข้ากับสภาพอากาศได้ค่อนข้างยาก ถ้าเกษตรกรบังคับให้ใส่ปุ๋ยเคมีมากๆ จะทำให้ต้นตายได้ ดังนั้นเกษตรกรควรเปลี่ยนมาใช้ปุ๋ยอินทรีย์เคมีแทนน่าจะเห็นผลมากกว่า” คุณมีชัยกล่าวถึงปุ๋ยอินทรีย์เคมีที่ชาวสวนทุเรียนจังหวัดจันทบุรีเริ่มหันมาใช้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะนี้

2.ต้นทุเรียนที่หายจากโรครากเน่า โคนเน่า
2.ต้นทุเรียนที่หายจาก โรครากเน่า โคนเน่า

การป้องกันและกำจัด โรครากเน่า โคนเน่า

ทางด้านการใช้ “พีค รูทเตอร์ และ พีค รับเบอร์” เพื่อแก้ปัญหาโรครากเน่าโคนเน่านั้น คุณมีชัยได้แนะนำเพิ่มเติมว่า ส่วนมากแนะนำให้ใช้โดยการฉีดพ่นทางดินก่อน โดยเอา “พีค รูทเตอร์” ผสมน้ำ 1 ถัง 200 ลิตร ซึ่งสามารถใช้ได้ทุกช่วงของการดูแล อีกทั้งในส่วนของปุ๋ยนั้นแนะนำให้ใช้ในช่วงบำรุงต้น หรืออาจจะใส่ปุ๋ยเคมีผสมปุ๋ยคอกในปริมาณที่พอเหมาะ หรือเท่าๆ กัน แต่เน้นยืนพื้นการให้ปุ๋ยเคมีเป็นหลัก เพื่อลดปัญหาที่จะเกิดขึ้นภายหลัง

โฆษณา
AP Chemical Thailand

การดูแลในช่วงก่อนออกดอกควรใส่ปุ๋ยอินทรีย์เคมีเป็นสำคัญ ทางด้านการใช้ “พีค รูทเตอร์” สามารถใช้ได้ทุกๆ 7- 15 วัน ซึ่งจะส่งผลดีทางด้านการสร้างความแข็งแรงและสมบูรณ์ให้กับรากมากยิ่งขึ้น ทนต่อสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงได้ดียิ่งขึ้น ในกรณีที่เกษตรกรใช้เพื่อบำรุงต้นสามารถใช้ได้ทุกเดือน หรือใช้เดือนเว้นเดือนก็ย่อมได้

หากจะพูดถึงผลิตภัณฑ์ “พีค รูทเตอร์” เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ถือว่ามีคนรู้จักไม่มากนัก แต่ในปัจจุบันมีกลุ่มลูกค้าเพิ่มมากขึ้นประมาณ 20-30 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้สืบเนื่องมาจากประสิทธิภาพที่ดีของผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ยังเป็นการบอกต่อปากต่อปากของเกษตรกรที่อยู่ในละแวกเดียวกัน เป็นการสร้างความน่าเชื่อถือได้มากยิ่งขึ้น เพราะคนที่เคยใช้ผลิตภัณฑ์แล้วเห็นผลจะบอกต่อกันไปเรื่อยๆ ซึ่งถือว่าเป็นข้อดีของผลิตภัณฑ์อีกทางหนึ่งด้วยเช่นกัน

ทางด้านการตลาดซื้อขายทุเรียนผลสด คุณมีชัยบอกว่าในปีนี้ และปีต่อๆ ไป ยังไม่มีปัญหา เพราะผลผลิตทุเรียนยังไม่เกินความต้องการในท้องตลาดมากนัก กับคำถามที่ว่า อีก 3-4 ปีข้างหน้า การเปลี่ยนแปลงของทุเรียนมีขึ้นอย่างแน่นอน

โดยเฉพาะตลาดรับซื้อทุเรียนแบบ “ปอกเปลือก” เชื่อว่าจะเข้ามามีบทบาทมากขึ้น ทางด้านการจัดจำหน่ายโดยมีการขนส่งเข้ามาร่วมด้วย คุณมีชัยให้ความเห็นทางด้านดีว่าปัจจุบันการขนส่งมีความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ซึ่งน่าจะเป็นฐานสำคัญในการเพิ่มและกระจายรายได้มากยิ่งขึ้น

ในส่วนของเกษตรกรต้องเพิ่มประสิทธิภาพทางด้านการจำหน่ายให้รวดเร็วยิ่งขึ้นในกรณีที่นำผลผลิตไปส่งขายที่ตลาดกลางรับซื้อ พร้อมทั้งเพิ่มการแข่งขันทางด้านการสร้างผลผลิตให้ออกมาให้ได้มาตรฐานขึ้นเรื่อยๆ ถือเป็นการพัฒนาของเกษตรกรที่ดีขึ้นและต่อเนื่อง นอกจากนี้หากมีการนำทุเรียนมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ที่แปลกใหม่ ถือว่าเป็นการตอบโจทย์ทางด้านการสร้างนวัตกรรมอย่างได้ผล และเป็นจุดเปลี่ยนของเกษตรกรชาวสวนทุเรียนได้เป็นอย่างดีทีเดียว

“ทางด้านการดูแลดินนั้น อยากให้เกษตรกรใส่ใจให้มาก ให้เวลาการดูราก ดูโคน การใช้ยากำจัดแมลงแบบจุลินทรีย์แทนยาเคมีให้ได้ผล ซึ่งจะเป็นตัวช่วยการลดต้นทุนที่ดีที่สุด ผลิตภัณฑ์ พีค รูทเตอร์ ผมแนะนำให้ใช้ควบคู่กับปุ๋ยอินทรีย์แทนปุ๋ยเคมีจะดีกว่า เพราะจะช่วยให้ประหยัด สภาพดินก็ไม่เสื่อมโทรม อีกทั้งไม่ต้องตั้งเป้าหมายไว้สูงกับผลผลิตที่ได้มา

โฆษณา
AP Chemical Thailand

หากกระทบช่วงอากาศเปลี่ยนแปลงผลผลิตอาจจะไม่ออกตามเวลาที่กำหนดไว้ก็เป็นได้ ผมอยากให้เกษตรกรปล่อยไปตามธรรมชาติจะดีที่สุด ซึ่งความโลภมากเกินไปจะไม่ส่งผลดีต่อเราอย่างแน่นอน” คุณมีชัยกล่าวทิ้งท้ายด้วยความเป็นห่วงที่มีต่อเกษตรกร

3.ต้นทุเรียนเรื่มสร้างเนื้อขึ้นใหม่แทนเนื้อที่ตายลงไป จาก โรครากเน่า
3.ต้นทุเรียนเรื่มสร้างเนื้อขึ้นใหม่แทนเนื้อที่ตายลงไป จาก โรครากเน่า

ปัญหาและอุปสรรคภายในสวนทุเรียน ด้าน โรครากเน่า

จากนั้นทีมงาน “พลังเกษตร” ได้เข้าไปสอบถาม “ผู้ใหญ่สง่า เจริญรัตน์พิทักษ์” ซึ่งท่านทำสวนทุเรียนอยู่เลขที่ 30/2 ม.8 ต.ซึ้ง อ.ขลุง จ.จันทบุรี ผู้ใหญ่สง่าหรือชาวบ้านคุ้นเคยในชื่อ “ผู้ใหญ่แอ๊ด” ถือว่าเป็นผู้ที่ชาวบ้านให้การยอมรับทางด้านการประสานงานให้กับชุมชน ในบางกรณีที่เกี่ยวข้องพูดถึงการทำสวนทุเรียนผู้ใหญ่แอ๊ดได้คลุกคลีอยู่กับสวนทุเรียนมาตั้งแต่เด็ก ทางด้านการดูแลถือว่าไม่น้อยหน้าใครก็ว่าได้

ปัญหาของเกษตรกรที่เป็นเจ้าของสวนทุเรียนที่มีอายุมากภายในสวน สิ่งที่ทุกคนประสบ ก็คือ สภาพลำต้นทุเรียนโทรม และไม่สมบูรณ์ ขณะเดียวกันพื้นที่การเพาะปลูกโดยเฉพาะในเขตจังหวัดจันทบุรีโดยส่วนมากเป็นลักษณะดินร่วนมีความชุ่มชื้นสูง

ในกรณีที่สวนตั้งอยู่ในที่ลุ่มจะมีผลกระทบโดยตรงในช่วงฤดูฝนในบางปี ประกอบกับดินอมน้ำมีความชื้นและไม่ค่อยได้รับแสงแดดเท่าไหร่นัก ลักษณะดังกล่าวเป็นตัวล่อและแพร่กระจายโรคเชื้อรารากเน่า โคนเน่า ได้เร็วยิ่งขึ้น ต้นทุเรียนภายในสวนของผู้ใหญ่แอ๊ดที่แสดงอาการให้เห็น คือ ใบเหลืองทั้งต้น เกิดรอยแผลลุกลามด้วยเชื้อราที่ราก โคนต้น ลำต้น กิ่งแห้ง และลักษณะใบเหลืองทั้งต้น

จากลักษณะการเกิดโรคดังกล่าว  ผู้ใหญ่แอ๊ดได้หาซื้อยามากำจัดโรคแต่ก็ไม่ได้ผล จนกระทั่งมาพบกับคุณมีชัย และคุณเรไร พร้อมกับได้แลกเปลี่ยนคุยรายละเอียดของโรคให้ฟัง คุณมีชัยในฐานะผู้ช่ำชองได้ฟันธงลงไปว่า นั่นคือ อาการของโรคที่เกิดจาก “เชื้อราไฟท็อปธอร่า พาล์มิโวรา” ที่ทำให้เกิด “โรครากเน่า โคนเน่า” ซึ่งเป็นเชื้อที่สามารถเข้าทำลายได้ทุกสัดส่วนของลำต้น ส่งผลทำให้ยืนต้นตายไปในที่สุด จากนั้นผู้ใหญ่ได้นำ “พีค รูทเตอร์”นำมาผสมน้ำรดที่ใต้โคนต้น พร้อมกันนั้นเขายังใช้ “พีค รับเบอร์” ฉีดพ่นที่ต้นและทรงพุ่มอีกด้วย

“พีค รูทเตอร์” มีองค์ประกอบเชื้อราที่มีประโยชน์ โดยการใช้หลักการนำเชื้อราดี (ไตรโครเดอร์ม่า) มาปราบเชื้อราร้าย (ไฟท็อปธอร่า) อย่างได้ผล วิธีการใช้ผู้ใหญ่แอ๊ดให้รายละเอียดว่า ใช้พีค รูทเตอร์ 1 กระปุก บรรจุ 1,000 กรัม ผสมน้ำ 400 ลิตร รดใต้โคนต้น และใช้ “พีค รับเบอร์” ฉีดพ่นลำต้นและทรงพุ่ม ซึ่งผู้ใหญ่บอกถึงวิธีการใช้ด้วยความใจร้อนว่าตนใช้วิธีการรักษาทั้ง 2 แบบ ในระยะเวลา 15 วัน ฉีด 1 ครั้ง ซึ่งก็ทำให้ลำต้นดีขึ้นเรื่อยๆ และหายไปในที่สุด

โฆษณา
AP Chemical Thailand

“จากการที่ได้ใช้ พีค รูทเตอร์ มาตั้งแต่ปีที่แล้ว สิ่งที่สังเกตเห็น คือ ลักษณะโครงสร้างลำต้นดีขึ้นเรื่อยๆ  ประกอบกับการใช้ปุ๋ยอินทรีย์เคมีร่วมด้วย ทำให้เห็นถึงความสมบูรณ์ของลำต้นเกิดขึ้นอย่างเต็มที่ ปัจจุบันผมก็มีความยินดีที่ใช้รักษาโรครากเน่า โคนเน่า อย่างได้ผล

สิ่งที่เห็นผลอย่างชัดเจน ก็คือ ปีนี้ได้ผลผลิตเพิ่มมากขึ้นประมาณ 40 % นอกจากนี้ยังได้ผลผลิตเกรดเอมากกว่าปีที่แล้ว ปัจจุบันผมใช้พีค รูทเตอร์ บำรุงต้นอย่างสม่ำเสมอ 2 เดือน/ครั้ง จากภาพที่เห็นในปัจจุบัน คือ ลักษณะสภาพลำต้นดีขึ้นอย่างสม่ำเสมอ” ผู้ใหญ่สง่ากล่าวทิ้งท้ายก่อนจากกันในวันนั้น

4.แผลที่เริ่มแห้งสนิท
4.แผลที่เริ่มแห้งสนิท โรครากเน่า โรครากเน่า โรครากเน่า โรครากเน่า โรครากเน่า โรครากเน่า โรครากเน่า โรครากเน่า โรครากเน่า

การบำรุงดูแลรักษาต้นทุเรียน

เช่นเดียวกับ ผู้ใหญ่ ธนชาติ เกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนอีกราย ที่เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ “พีค รูทเตอร์” เช่นกัน ปัจจุบันมีพื้นที่สวนทุเรียนกว่า 20 ไร่ กระจายหลายแปลง ทั้งต้นทุเรียนใหม่ และต้นเก่า ซึ่งผู้ใหญ่ธนชาติยอมรับกับทีมงานว่า

ปีที่ผ่านมาสวนทุเรียนของตนประสบปัญหากับเรื่อง “โรครากเน่า โคนเน่า” ส่งผลให้ต้นทุเรียนหลายต้น เริ่มโทรม ใบเหลือง ใบร่วง กิ่งมีลักษณะมีคราบสีขาวแกมชมพูแห้ง และแข็งบนผิวเปลือก หากใช้มีดถากดูจะพบเนื้อเยื่อไม้เป็นสีน้ำตาลเข้ม และตามลำต้นจะพบแผลเป็นจุดๆ บางต้นมีน้ำไหลออกมาจากแผล

ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนี้เกิดจาก “โรครากเน่า โคนเน่า” ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาผู้ใหญ่พยายามหาทางรักษาอาการของโรคดังกล่าว ทั้งการใช้ผลิตภัณฑ์เคมี หรืออินทรีย์ ราคาสูง แต่ก็ยังไม่สามารถแก้ปัญหาของโรคได้ ส่งผลให้ผลผลิตทุเรียนในปีนั้นๆ ลดต่ำลงเป็นจำนวนมาก เพราะหากต้นไหนเป็นโรคจะไม่ไว้ผลผลิตเด็ดขาด เพราะกลัวว่าต้นทุเรียนจะตาย สร้างความหนักใจและปัญหา ให้ครอบครัวไม่น้อยเลยทีเดียว

จนกระทั่งได้มารู้จักกับคุณมีชัย และคุณเรไร เจ้าของร้านสามเกษตร ตนจึงเข้าไปปรึกษา และได้คำแนะนำให้ทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ “พีค รูทเตอร์” ตนจึงตัดสินใจทดลองทันที โดยการนำมาผสมกับน้ำ 200 ลิตร ราดที่โคนต้นทุกๆ 10-15 วัน หลังจากใช้ผลิตภัณฑ์ไปสักระยะก็เริ่มสังเกตเห็นว่าต้นทุเรียนจากใบเดิมที่เคยเป็นสีเหลืองซีดก็กลายเป็นใบเขียวเจริญเติบโตงอกงาม  แผลตามลำต้นก็เริ่มแห้ง และแผลตื้นขึ้น

โฆษณา
AP Chemical Thailand

ส่งผลให้ปัจจุบันภาพรวมของสวนดีขึ้นกว่าเดิมเป็นอย่างมาก รวมถึงผลผลิตที่ได้เพิ่มมากขึ้นจากปีที่ผ่านมาร่วมเท่าตัว สร้างความสุขกลับคืนสู่ครอบครัวได้อีกครั้ง และหลังจากเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้วผู้ใหญ่ธนชาติก็ยังคงใช้ “พีค รูทเตอร์” ในการราดโคนต้น และฉีดพ่นใบทรงพุ่มอยู่เป็นประจำทุก 10-15 วัน เพื่อควบคุมและป้องกันการเกิดโรคซ้ำ

อีกทั้งนอกจาก “พีค รูทเตอร์” จะช่วยรักษาโรครากเน่า โคนเน่า ได้แล้วนั้น ยังสามารถช่วยบำรุงต้นให้แข็งแรง เพราะในผลิตภัณฑ์อุดมไปด้วยแร่ธาตุที่สำคัญ อย่าง แมกนีเซียม ซิลิกา และวิตามินชนิดต่างๆ ที่จะช่วยฟื้นฟูราก และป้องกันโรคเชื้อราต่างๆ  อีกทั้งยังสามารถใช้ควบคู่กับปุ๋ยเคมี หรืออาหารเสริมชนิดอื่นๆ และไตรโคเดอร์มาได้เป็นอย่างดี

ท่านใดสนใจผลิตภัณฑ์ หรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อและสอบถามได้ที่ร้านค้าตัวแทนจำหน่ายในพื้นที่ต่างๆ

จังหวัดจันทบุรี

1.ร้านสามเกษตร อ.ขลุง โทร : 088-582-8919

2.ร้านอัมรินทร์การเกษตร อ.ขลุง โทร : 091-009-5594

3.ร้านอิสระการเกษตร อ.เมือง โทร : 081-941-3425

โฆษณา
AP Chemical Thailand

4.ร้านเกษตรสร้างสรรค์ (กะทิง) โทร : 081-912-8529

5.ร้านต้นพืชการเกษตร (จันทเขลม)โทร : 098-363-4562

6.สหกรณ์การเกษตรใกล้บ้านท่านในจังหวัดจันทบุรี

จังหวัดตราด

1.คุณจันทนา สมานโสตร โทร : 095-749-5615

2.สหกรณ์การเกษตรใกล้บ้านท่านในจังหวัดตราด

จังหวัดระยอง

ร้านสองเกษตร (ตลาดผลไม้เขาดิน) อ.แกลง โทร : 089-834-1393

โฆษณา
AP Chemical Thailand

จังหวัดเชียงใหม่

คุณอินสอน  วงษ์ตา โทร : 087-177-5051

จังหวัดพิษณุโลก

ร้านบิ๊กบอส การเกษตร โทร : 087-739-9533

หรือติดต่อได้ที่ บริษัท พีค อโกรเคมี 2 จำกัด

โทร : 087-977-1590, 081-533-8499

Line : @peakagrokemee2

Facebook :พีค อโกรเคมี 2

โฆษณา
AP Chemical Thailand

เว็บไซต์ : www.peakagro.co.th

อีเมล์ : [email protected]

Youtube :กดค้นหาคำว่า “PEAKAGRO CHANNEL”