ต้นไม้ให้ร่มเงาไม่ผลัดใบ ดูแลง่าย ใบไม่ร่วง เหมาะกับบ้านที่คนอยู่ไม่ค่อยมีเวลา

พืชสีเขียวขนาดใหญ่นั้นถือว่าเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นและอยู่คู่กับโลกใบนี้มาอย่างยาวนาน ซึ่งต้นไม้แต่ละชนิดนั้นต่างก็มีระยะเวลาในการเติบโตอย่างเต็มที่และยาวนาน บ้างก็อาจจะใช้เวลาเป็น 10 ปี กว่าจะเป็นต้นไม้ขนาดใหญ่และมีชีวิตที่ยืนยาว ซึ่งต้นไม้แต่ละชนิดนั้นต่างก็มีการผลัดใบ และไม่ผลัดใบ เป็นเรื่องธรรมชาติ ต้นไม้ให้ร่มเงาไม่ผลัดใบ

ซึ่งในครั้งนี้เราจะมาพูดถึงเรื่องราวของต้นไม้ที่ไม่มีการผลัดใบ ต้นไม้ที่ไม่มีการผลัดใบนั้นถือเป็นข้อดีของการนำมาตกแต่งสวนและให้ร่มเงาเป็นอย่างมาก ถือว่าเป็นเรื่องราวดีๆ ที่เหมาะกับคนที่เริ่มจะแต่งบ้านและมองหาต้นไม้ เอาเป็นว่าเรามาค่อยๆ เริ่มทำความรู้จักกับต้นไม้ที่ไม่มีการผลัดใบกันดีกว่า

การปลูกต้นไม้ที่ไม่ผลัดใบ 

ต้นไม้ที่ไม่ผลัดใบถือว่าเป็นต้นไม้ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ทั้งในเรื่องของการปลูกเพื่อให้ความร่มเงาและปลูกเพื่อตกแต่งสวน อีกทั้งยังไม่ต้องวุ่นวายกับการทำความสะอาดหรือเก็บเศษใบไม้ที่ร่วงหล่นบนพื้นหญ้าหรือพื้นสวนบ่อยๆ ด้วย ซึ่งในเมืองไทยเองก็มีหลากหลายชนิดให้เลือกซื้อ เลือกสรรกัน นำมาปลูกประดับพื้นที่ หรือเพิ่มความเขียวขจีให้กับตัวบ้าน หรือสวน หรือสถานที่ต่างๆ ซึ่งต้นไม้ที่ไม่ผลัดใบนั้นอาจจะมีหลากหลายชนิด แต่เราจะยกตัวอย่างมาให้รู้จักกันประมาณ 5-10 ชนิด เพื่อเป็นทางเลือกให้กับคนที่เริ่มสนใจในเรื่องของการตกแต่งสวน

ต้นไม้ที่ไม่มีการผลัดใบนั้นเป็นเรื่องที่ดี และเหมาะอย่างยิ่งที่จะนำไปตกแต่งสวนสำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแล เพราะว่าไม่ต้องกังวลในเรื่องของการที่จะต้องมานั่งทำความสะอาด หรือคอยดูว่าวันไหนที่ใบไม้จะร่วงลงมา นับว่าเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่เหมาะเป็นอย่างมาก สำหรับใครที่ยังไม่มีแนวทางในการเลือกต้นไม้ หรือยังไม่มีต้นไม้ไว้ในใจ ลองดูต้นไม้ที่ไม่ผลัดใบเป็นอีกหนึ่งตัวเลือก รับรองว่าคุณจะต้องติดใจ และไม่เสียใจอย่างแน่นอน

สภาพพื้นที่ปลูกต้นไม้ไม่ผลัดใบ 

ต้นไม้ไม่ผลัดใบหรือไม้ไม่ผลัดใบนั้น คือ ต้นไม้ที่ชอบขึ้นในภูมิประเทศที่ค่อนข้างชื้น หรือเป็นต้นไม้ที่ไม่ค่อยผลัดใบเมื่อถึงเวลาเปลี่ยนช่วงฤดู ถ้าในตามธรรมชาตินั้นอาจจะเรียกได้ว่า ไม้ไม่ผลัดใบ หรือว่าต้นไม้ในป่า หรือเรียกอีกอย่างว่า ป่าไม่ผลัดใบ ก็คือ ต้นไม้ที่มียอดสูงและดูเขียวอยู่ตลอดเวลา ซึ่งอาจจะมีหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น ยางหลายชนิด ต้นตะเคียน ต้นกระบาก เป็นต้น

โดยพืชเด่นๆ ที่อยู่ตามแนวป่าที่ไม่ผลัดใบ หรือเรียกทั่วๆ ไปว่า ป่าดิบชื้น หรือป่าเขตฝน นอกจากนี้ยังมีการแบ่งออกไปอีกได้หลายประเภทเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นป่าดิบแล้ง ป่าเมฆ ป่าละเมาะเขาสูง ป่าโกงกาง หรือป่าชายเลน ต่างมีต้นไม้ที่ไม่มีการผลัดใบทั้งสิ้น ซึ่งแต่ละผืนป่านั้นก็จะมีลักษณะเด่นๆ ที่แตกต่างกันออกไป โดยป่าดิบแล้งนั้นจะมีอยู่ทั่วประเทศกระจายกันอยู่ทั่วไป โดยลักษณะเด่น คือ ปริมาณฝนที่ตกต่อปีนั้นจะอยู่ที่ 1,000-2,000 มิลลิเมตร

ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่บนภูเขาสูงไม่เกิน 950 เมตร โดยต้นไม้ที่โดดเด่นในป่าประเภทนี้ คือ ยางนา ยางแดง ยมหอม ตะเคียนทอง เป็นต้น ซึ่งโครงสร้างป่าแต่ประเภทนั้นก็จะสอดคล้องกับต้นไม้ที่ไม่มีการผลัดใบ ที่นิยมนำมาปลูกประดับสวนเป็นอย่างมาก ซึ่งต้นไม้แต่ละชนิดนั้นก็จะมีความต้องการที่แตกต่างกัน แต่ทั้งนี้ส่วนใหญ่แล้วต้นไม้ที่ไม่มีการผลัดใบอาจจะชอบอากาศที่ร้อนชื้น หรือชุ่มชื้น ก็ได้เช่นกัน

ถ้าพูดถึงเรื่องของการตกแต่งสวนหรือการนำต้นไม้มาปลูกประดับในบริเวณพื้นที่บ้านนั้น การใช้ต้นไม้ไม่ผลัดใบถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งชนิดที่นิยมนำมาปลูกเป็นอย่างมากเลยทีเดียว เพราะอะไร เพราะว่าต้นไม้ที่ไม่มีการผลัดใบนั้นส่วนใหญ่แล้วจะดูแลได้ง่าย และไม่ยุ่งยากในเรื่องของการทำความสะอาด ซึ่งตรงนี้เองที่ทำให้หลายๆ คนติดใจที่จะนำต้นไม้ที่ไม่มีการผลัดใบมาปลูกประดับสวน และปลูกประดับบ้าน กันเป็นจำนวนมาก

ซึ่งในประเทศไทยนั้นต้นไม้ที่ไม่มีการผลัดใบต่างก็มีให้เลือกมากมาย ทั้งต้นไม้ที่อยู่ตามแนวป่าดิบชื้น หรือป่าร้อนชื้น ต่างก็มีให้เลือกที่จะใช้ ซึ่งความนิยมและความชอบนั้นก็ขึ้นอยู่กับว่าคนที่จะนำมาปลูกนั้นนิยมต้นไม้ในลักษณะใด ปลูกเพื่ออะไร หรือสภาพแวดล้อมความเป็นอยู่นั้นมีลักษณะแบบไหน ก็อาจจะมีการเลือกที่จะใช้ในการนำมาปลูกด้วยเช่นกัน

ชนิดของต้นไม้ไม่ผลัดใบที่นิยมนำมาปลูกเพื่อประดับตกแต่ง

ในครั้งนี้เราจะไม่พูดถึงเรื่องป่า แต่เราจะมาพูดถึงต้นไม้ที่ไม่มีการผลัดใบ ซึ่งในเมืองไทยเองต้นไม้ที่ไม่มีการผลัดใบนั้นก็มีอยู่พอสมควร แต่การนำมาปลูกเพื่อใช้ในด้านใดนั้นก็แล้วแต่จะนำมาปลูก อาจจะใช้เพื่อการประดับตกแต่ง หรืออาจจะใช้ในการเป็นที่พรางสายตา หรือช่วยดูดซับมลพิษ ก็ขึ้นอยู่กับผู้ที่จะนำมาปลูก โดยครั้งนี้เราจะมายกตัวอย่างต้นไม้ที่ได้รับความสนใจประมาณ 5-10 ชนิด ด้วยกัน มาดูกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง

โดยครั้งนี้เราจะยกตัวอย่างต้นไม้ที่ไม่มีการผลัดใบเพื่อเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจให้กับคนที่อยากลองปลูก ซึ่งต้นไม้ที่ไม่มีการผลัดใบนั้นจะเหมาะเป็นอย่างมากสำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลเท่าไหร่ เพราะไม่ต้องวุ่นวายกับการทำความสะอาด หรือดูแลในเรื่องของใบไม้ที่จะร่วงลงมา โดยเราจะยกตัวอย่างต้นไม้ที่น่าสนใจและไม่มีการผลัดใบมา 5-10 ต้น เพื่อที่จะได้เป็นที่น่าสนใจในการนำมาตกแต่งสวนในอนาคตได้

ในการจัดสวนนั้นอันดับแรกๆ เลยที่ถือได้ว่าเป็นเรื่องสำคัญ คือ การเลือกพันธุ์ไม้ที่จะเริ่มปลูก เพราะอะไร เพราะว่าต้นไม้แต่ละชนิดนั้นต่างก็มีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป นอกจากนี้การดูแลเอาใจใส่ของผู้ที่จะนำไปปลูกเองก็ไม่เหมือนกัน หรือต่างกันออกไปด้วย ซึ่งถ้ามองหาต้นไม้ที่ดูแลได้ง่าย และไม่ยุ่งยาก ใบไม่ค่อยร่วง และให้ร่มเงาช่วยพรางสายตาได้ดี อีกทั้งสามารถทนต่อแดดแรงๆ ของเมืองไทยได้ ซึ่งเราก็มีตัวเลือกที่น่าสนใจมาให้ได้รู้กัน ไปดูดีกว่ามีต้นไม้ชนิดไหนบ้าง

ต้นประยงค์ ไม้พุ่มไม่ผลัดใบ ดูแลง่าย

ต้นประยงค์นับว่าเป็นต้นไม้ที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  ซึ่งในเมืองไทยนั้นสามารถที่จะพบ ต้นประยงค์ได้ตามป่าเบญจพรรณ โดยต้นประยงค์นั้นถูกจัดให้เป็นไม้พุ่มกึ่งไม้ยืนขนาดเล็ก โดยจะมีทรงพุ่มทึบ และค่อนข้างกลม ความสูงของต้นนั้นจะสูงประมาณ 2-3 เมตร แต่จะสูงไม่เกิน 5 เมตร  ลำต้นจะมีการแตกกิ่งก้านตั้งแต่โคนต้นเลยทีเดียว อีกทั้งตัวเปลือกลำต้นจะมีลักษณะเรียบและเป็นสีเทา ซึ่งการขยายพันธุ์ต้นประยงค์นั้นจะสามารถทำได้โดยการตอนกิ่ง และการเพาะเมล็ด ต้นประยงค์นั้นสามารถเติบโตได้ดีในทุกสภาพอากาศ อีกทั้งยังเป็นต้นไม้ที่สามารถทนความแห้งแล้งได้ดีอีกด้วย

การปลูกและบำรุงดูแลต้นประยงค์

สำหรับการปลูกต้นประยงค์นั้นควรจะปลูกในพื้นที่ที่มีแสงแดดส่องถึงตลอดทั้งวัน เพราะจะช่วยทำให้ทรงพุ่มนั้นมีความสวยงามมากยิ่งขึ้น จึงเหมาะเป็นอย่างมากสำหรับคนที่สนใจในการนำต้นประยงค์มาปลูกเพื่อความสวยงามและประดับตกแต่งสวน เพราะว่าเป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็กที่มีกลิ่นหอมแรง และมีกลิ่นหอมที่ไกล ทำให้เมื่อปลูกแล้วต้องมีคนสนใจอย่างแน่นอน เป็นต้นไม้ที่ไม่ค่อยมีการผลัดใบ จึงดูแลได้ง่าย และไม่วุ่นวายต่อการทำความสะอาด นอกจากนี้ถ้าอยากให้พุ่มมีความสวยงามมากขึ้นก็อาจจะมีการการตัดแต่งกิ่งเป็นประจำทุกปี จะช่วยให้ทรงพุ่มนี้สวยงามน่ามองมากยิ่งขึ้น

นอกจากจะขึ้นชื่อเรื่องการให้ร่มเงาและความสวยงามแล้ว ต้นประยงค์ยังถือได้ว่าเป็นต้นไม้ที่มีสรรพคุณในเรื่องของยาสมุนไพรอีกด้วย ไม่น่าเชื่อเลยว่าต้นไม้ชนิดนี้จะมีคุณประโยชน์นอกเหนือจากการให้ร่มเงาและตกแต่งสวนด้วย

ต้นประดู่ ต้นไม้ขนาดใหญ่ที่ช่วยเพิ่มความร่มรื่นได้เป็นอย่างดี

ต้นประดู่นั้นถือว่าเป็นไม้ยืนต้นที่มีขนาดกลางไปจนถึงขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นพรรณไม้ที่มีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศมาเลเซียและแถบอันดามัน โดยมีข้อสันนิษฐานว่าอาจจะมีถิ่นกำเนิดในประเทศอินเดียด้วย โดยความสูงของต้นประดู่นั้นจะมีความสูงประมาณ 20-25 เมตร เลยทีเดียว หรือไม่อาจจะมีความสูงเกิน 25 เมตร เลยก็มี โดยต้นประดูนั้นจัดว่าเป็นพรรณไม้ที่ไม่มีการผลัดใบ และจะแตกกิ่งก้านออกเป็นพุ่มกว้าง โดยปลายกิ่งนั้นห้อยลงมา เปลือกของลำต้นนั้นจะเป็นสีน้ำตาลเทาและหนา

ซึ่งการขยายพันธุ์ต้นประดู่นั้นส่วนใหญ่แล้วจะขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ด และการปักชำกิ่ง ต้นประดู่นั้นสามารถเติบโตได้เป็นอย่างดีในดินที่มีความร่วนซุย และเป็นต้นไม้ที่ต้องการน้ำไม่มาก และก็ไม่น้อยเกินไป จัดว่าเป็นต้นไม้กลางแจ้ง ชอบแสงแดดจัด ส่วนใหญ่แล้วเรามักจะพบได้ตามป่าเบญจพรรณ หรือพื้นที่ทั่วไป เพราะสามารถปลูกได้ทุกพื้นที่ของเมืองไทย

การปลูกและบำรุงดูแลต้นประดู่

ต้นประดู่นั้นนอกจากจะมีลำต้นที่สูงใหญ่แล้ว ก็มีดอกที่เป็นช่อตามซอกใบด้วย ซึ่งจะมีขนาดที่เล็ก เป็นสีเหลืองอ่อนๆ ซึ่งเป็นที่รู้อยู่แล้วว่าต้นประดู่นั้นเป็นพรรณไม้ที่ชอบแสงจัด การนำมาปลูกในพื้นที่บริเวณบ้านหรือสวน นั้นก็ต้องปลูกในที่โล่งแจ้ง จึงไม่แปลกที่ต้นประดู่นั้นจะทนต่อสภาพอากาศได้เป็นอย่างดี การดูแลก็ไม่ยุ่งยาก อาจจะมีการรดน้ำอย่างน้อย 5-7 วัน ต่อครั้ง ทั้งนี้อาจจะมีการใส่ปุ๋ยร่วมด้วย โดยปุ๋ยที่ใช้ก็เป็นปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยเคมีก็ได้ ใส่ปีละ 3-5 ครั้ง ก็จะช่วยให้ต้นประดู่นั้นสวยงามและแข็งแรง

นอกจากจะเป็นพรรณไม้ที่ช่วยให้ความร่มรื่นแล้ว ต้นประดู่เองก็ถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ที่มีความเป็นมงคลอีกด้วย โดยต้นประดู่นั้นก็มีการนำไปใช้เป็นสัญลักษณ์ในระบบราชการต่างๆ หรือเป็นต้นไม้ประจำโรงเรียนอีกหลายแห่งด้วยกัน ถือได้ว่าเป็นพรรณไม้ที่ให้ทั้งความร่มรื่น และความเป็นมงคลด้วย

ต้นมะฮอกกานี อีกหนึ่งพรรณไม้ที่ได้รับความนิยมในการปลูก

ถ้าพูดถึงต้นมะฮอกกานี หลายคนอาจจะค่อนข้างคุ้นหูเป็นอย่างมาก เพราะต้นมะฮอกกานีนั้นเป็นต้นไม้ที่นิยมนำเอาไปทำเฟอร์นิเจอร์อยู่บ่อยๆ เพราะว่าเป็นไม้ที่มีเนื้อไม้สวยงาม และถือได้ว่าเป็นต้นไม้ที่ได้รับความนิยมในการปลูกเพื่อให้ร่มเงาได้เป็นอย่างดีด้วย ถือว่าเป็นไม้ยืนต้นอีกหนึ่งชนิดเลยก็ว่าได้

โดยต้นมะฮอกกานีนั้นถือได้ว่าเป็นไม้ยืนต้นอีกชนิดหนึ่งเลยก็ว่าได้ โดยจะมีทรงพุ่มแผ่ขยายออกไป และให้ร่มเงาได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีใบเขียวตลอดทั้งปีด้วย ซึ่งข้อดีของต้นมะฮอกกานีนั้นเป็นต้นไม้ที่ไม่มีการผลัดใบ ทำให้ไม่ค่อยมีปัญหาในเรื่องของใบร่วงจนต้นนั้นโกร๋นเหลือแต่กิ่งก้าน เป็นต้นไม้ที่เลี้ยงง่าย จึงทำให้ได้รับความนิยมในการนำมาปลูกเพื่อเพิ่มความร่มเงาในบริเวณพื้นที่บ้าน หรือตามริมรั้ว เพื่อเป็นการพรางสายตาจากภายนอกด้วย ทั้งนี้อาจจะมีการปลูกไว้ตามริมท้องถนนด้วย

ซึ่งในเมืองไทยนั้นจะมีต้นมะฮอกกานีประมาณ 2 ชนิด ด้วยกัน คือ มะฮอกกานีใบใหญ่ และมะฮอกกานีใบเล็ก ซึ่งในกรุงเทพเองในถนนหลายสายก็มีการนำต้นมะฮอกกานีมาปลูกเพื่อเพิ่มความร่มเงาในท้องถนนได้เป็นอย่างดี แต่ส่วนมากนั้นจะเป็นพันธุ์มะฮอกกานีใบใหญ่มากกว่า

การปลูกและบำรุงดูแลต้นมะฮอกกานี

โดยต้นมะฮอกกานีนั้นส่วนใหญ่แล้วถ้าเป็นมะฮอกกานีใบใหญ่นั้นใบจะออกเป็นทรงกระบอก และใช้เวลานานกว่าที่กิ่งนั้นจะเริ่มแผ่พุ่มกว้างออกไป เมื่อโตเต็มที่นั้นต้นมะฮอกกานีจะมีความสูงประมาณ 15-20 เมตร เลยทีเดียว และขนาดความกว้างของพุ่มนั้นสามารถกว้างได้ถึง 6 เมตร เลยทีเดียว ถ้าเป็นต้นมะฮอกกานีใบเล็กจะมีทรงพุ่มเป็นวงรี หรือรูปไข่ และมีความสวยงามมากกว่า โดยความกว้างของทรงพุ่มนั้นอยู่ที่ 5-6 เมตร และควรเว้นระยะห่างในการปลูกให้ห่างจากตัวบ้านประมาณ 7 เมตรขึ้นไป โดยเมื่อต้นมะฮอกกานีใบเล็กโตเต็มที่นั้นจะมีความสูงตั้งแต่ 15-18 เมตร เลยทีเดียว

ต้นมะฮอกกานีนั้นจะเป็นพรรณไม้ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในการนำมาปลูกเพื่อให้ความร่มเงา โดยส่วนมากอาจจะมีการปลูกไว้ตามที่จอดรถ ริมถนน หรือปลูกไว้ตามริมรั้ว เพื่อเอาไว้บังสายตาคนภายนอก อีกทั้งยังช่วยเพิ่มความร่มรื่นให้กับตัวบ้านได้เป็นอย่างดี ซึ่งสามารถที่จะปลูกได้ทั้งต้นเดียวและเป็นแถวก็ได้ โดยการปลูกเป็นแถวนั้นอาจจะปลูกไปตามแนวรั้วหรือกำแพงถนนก็ได้ โดยให้มีความห่างประมาณ 6-8 เมตร และระหว่างต้นประมาณ 4 เมตร เพื่อความสวยงาม และทรงไม้จะได้ไม่เกยกัน

ต้นแก้วมุกดา ไม้ไม่ผลัดใบที่ได้รับความนิยมอีกหนึ่งชนิด

ต้นแก้วมุกดาหรือเรียกอีกชื่อว่าโกงกางเขา ถือว่าเป็นพรรณไม้ที่ค่อนข้างมีกลิ่นหอม อีกทั้งยังเป็นพรรณไม้ที่ไม่กลัวน้ำด้วย โดยต้นแก้วมุกดานั้นถือได้ว่าเป็นพรรณไม้หอมที่สามารถออกดอกได้แทบตลอดทั้งปี อีกทั้งยังเป็นพรรณไม้ที่ไม่ต้องกังวลกับเรื่องน้ำท่วมด้วย เพราะว่าต้นแก้วมุกดานั้นเป็นต้นไม้ที่ไม่กลัวน้ำ ถือได้ว่าเป็นพรรณไม้ที่มีความหอมเป็นอย่างมาก โดยต้นแก้วมุกดานั้นจะมีดอกไม้ที่ส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ กระจายฟุ้งไปทั่วบริเวณ สามารถที่จะออกดอกได้ตลอดทั้งปี นอกจากจะมีดอกที่หอมแล้ว ต้นแก้วมุกดาเองยังมีทรงที่เป็นพุ่มสวย อีกทั้งใบไม่ค่อยร่วง ให้ร่มเงาได้เป็นอย่างดี แถมยังเป็นพรรณไม้ที่มีความทนน้ำได้อีกด้วย ซึ่งเดิมชื่อของต้นแก้วมุกดานั้น คือ ต้นโกงกางเขา

การปลูกและบำรุงดูแลต้นแก้วมุกดา

โดยลักษณะทั่วไปนั้นจะเป็นพุ่มไม้เลื้อยอาจจะคล้ายกับต้นเฟื่องฟ้าก็ได้เช่นกัน ซึ่งถ้าปลูกในที่กลางแจ้งก็จะเป็นได้ทั้งต้นไม้พุ่มเตี้ยเพื่อประดับสวน หรืออาจจะเป็นไม้พุ่มสูงก็ได้เช่นกันโดยมีความสูงประมาณ 2-3 เมตร ช่วยบังแดดและให้ร่มเงาได้ ทรงพุ่มของต้นแก้วมุกดานั้นจะแผ่ออกกว้างไปทางด้านข้าง แต่ก็โตช้า ซึ่งจะเหมาะกับการเป็นต้นไม้บังแดดให้กับตัวบ้าน ซึ่งในการปลูกนั้นอาจจะมีการเลือกทิศทางสำหรับการปลูก อาจจะเป็นทางทิศตะวันตก หรือทิศใต้ ก็จะช่วยลดความร้อนเข้ามาในบ้านได้เป็นอย่างดี อีกทั้งตัวดอกของต้นแก้วมุกดานั้นนับได้ว่ามีความหอมพอสมควร ซึ่งกลิ่นหอมนั้นจะแรงขึ้นก็ต่อเมื่อเป็นช่วงที่อากาศเย็น หรือหลังจากฝนตกใหม่ๆ

ถือว่าต้นแก้วมุกดานั้นเป็นไม้ไม่ผลัดใบอีกหนึ่งชนิดที่น่าหามาปลูก และนำมาประดับตกแต่งภายในสวนหน้าบ้านได้เป็นอย่างดี

ต้นพิกุล พรรณไม้อีกหนึ่งชนิดที่มีชื่อเข้ากับเมืองไทย

ต้นพิกุลนั้นแรกเริ่มเลยมีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศแถบเอเชีย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไม่ว่าจะเป็นไทย พม่า อินเดีย ฯลฯ เป็นต้น จัดได้ว่าเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางถึงขนาดใหญ่ และยังเป็นพรรณไม้ที่ไม่มีการผลัดใบด้วย โดยความสูงของต้นพิกุลนั้นส่วนใหญ่แล้วจะสูงประมาณ 10-25 เมตร

การขยายพันธุ์ต้นพิกุลนั้นส่วนใหญ่จะทำด้วยวิธีการเพาะเมล็ด ตอนกิ่ง และ การปักชำ ต้นพิกุลนั้นชอบขึ้นในดินที่ดี ชอบแสงแดดจัด อีกทั้งยังเป็นพรรณไม้ที่มีความทนต่อสภาวะน้ำท่วมขังอีกด้วย ซึ่งต้นพิกุลนั้นจะทนน้ำท่วมขังได้เต็มที่เลยไม่เกิน 2 เดือน

การปลูกและบำรุงดูแลต้นพิกุล

นอกจากนี้ต้นพิกุลนั้นยังมีดอกที่หอม โดยดอกจะออกรวมกันเป็นกระจุกมีสีขาว และที่สำคัญมีกลิ่นที่หอมอีกด้วย โดยดอกพิกุลนั้นจะสามารถออกดอกได้ตลอดทั้งปี การดูแลและการนำมาปลูกนั้นไม่ใช่เรื่องยาก เพราะต้นพิกุลนั้นไม่ได้ชอบน้ำมาก การให้น้ำจึงให้ในปริมาณที่ปานกลางหรือพอดี ก็สามารถทำให้ต้นพิกุลนั้นเติบโตได้แล้ว และยังทนต่อสภาพแวดล้อมและสภาพอากาศได้เป็นอย่างดี ปลูกง่าย ช่วยให้ร่มเงา และพรางสายตาได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญเรื่องโรคและแมลงนั้นจะไม่ค่อยวุ่นวาย เพราะไม่มีปัญหาในด้านนี้มากนัก จัดว่าเป็นอีกหนึ่งพรรณไม้ที่น่าสนใจที่จะนำมาปลูกตามที่พักอาศัย หรือสวนไม้ประดับได้

ต้นหูหนู พรรณไม้ไม่ผลัดใบอีกหนึ่งชนิดที่ควรปลูกไว้ติดบ้าน

ต้นหูหนูนั้นจัดว่าเป็นต้นไม้ในตระกูลเดียวกับไม้มะเกลือ ซึ่งต้นหูหนูนั้นจะให้ร่มเงาดีเหมือนกับต้นหูกระจง  ซึ่งเป็นไม้เนื้อแข็งมีสีดำ โดยต้นหูหนูนั้นมีถิ่นกำเนิดในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยจะมีความสูงประมาณ 20-25 เมตร ลักษณะของใบนั้นจะเป็นใบรูปไข่ มีสีเขียว ปลายใบจะแหลมและมีความโค้งมนด้วย นอกจากนี้ยังมีดอกที่มีขนาดเล็กรวมกันอยู่เป็นช่อๆ

การปลูกและบำรุงดูแลต้นหูหนู

ในเรื่องของการดูแลนั้นต้นหูหนูนั้นสามารถที่จะปลูกได้กับทุกสภาพดิน แต่ยกเว้นดินที่มีน้ำท่วมขัง เป็นต้นไม้ที่มีความทนแล้งได้เป็นอย่างดี ไม่ค่อยมีเรื่องของโรคและแมลงมาคอยรบกวน ชอบแดดจัด ไม่ต้องรดน้ำบ่อยๆ โดยการรดนั้นจะใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ จะรดน้ำแค่ 1-2 ครั้ง เท่านั้น หรืออาจจะสังเกตได้จากดิน ถ้าดินยังมีความชุ่มชื้นอยู่ก็ยังไม่ต้องรดก็ได้ ไม่ต้องรดน้ำเยอะ เพราะต้นหูหนูนั้นไม่ชอบน้ำมาก

ส่วนใหญ่แล้วต้นหูหนูนั้นจะนิยมปลูกประดับตามริมถนน ริมทาง เพื่อร่มเงากับคนที่ผ่านไปมา ด้วยความที่ทรงพุ่มนั้นมีความแผ่ได้กว้างและแน่นใหญ่ หรือจะนำมาปลูกไว้ริมรั้วบ้านก็ได้เช่นกัน แต่ไม่ควรปลูกใกล้บ้านมากนัก ควรเว้นไว้อย่างน้อยประมาณ 5-6 เมตรขึ้นไป เรื่องความสะอาดก็ไม่ต้องกังวล เพราะเป็นต้นไม้ที่ไม่ค่อยมีการผลัดใบ ทำให้หมดกังวลในเรื่องของการกวาดใบไม้ไปได้เลย

ต้นสนฉัตร ไม้มงคลที่ไม่มีการผลัดใบ

ถ้าให้พูดถึงไม้มงคลที่ไม่ได้มีการผลัดใบ หนึ่งในนั้นจะต้องมีต้นสนฉัตรอย่างแน่นอน เพราะถือได้ว่าเป็นไม้มงคลที่คนส่วนใหญ่นิยมนำมาปลูก โดยเชื่อกันว่าใครที่ได้ปลูกต้นสนฉัตรไว้ในบ้านจะทำให้มีเกียรติและความสง่างาม โดยต้นสนฉัตรนั้นเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง มีความสูงตั้งแต่ 5-15 เมตร โดยลำต้นนั้นจะมีลักษณะเป็นสีน้ำตาล มีตุ่มเล็กๆ อยู่รอบๆ และส่วนของยอดนั้นจะมีการแตกกิ่งก้านออกมาเป็นชั้นๆ

การปลูกและบำรุงดูแลต้นสนฉัตร

ต้นสนฉัตรนั้นได้ขึ้นชื่อในเรื่องของความแข็งแรงและความทนทาน สนฉัตรนั้นปลูกได้ดีในดินที่มีความร่วนซุย เป็นต้นไม้ที่ชอบแสงแดด และชอบน้ำพอประมาณ ไม่มากเกินไป โดยการรดน้ำนั้นสามารถที่จะรดได้ทุกๆ 3-5 วันต่อครั้ง และอาจจะมีการใส่ปุ๋ยคอก หรือปุ๋ยหมัก เพื่อบำรุงปีละ 3-5 ครั้ง ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ตัวใบของสนฉัตรเองก็จะไม่ค่อยมีการผลัดใบเท่าไหร่นัก หรือเรียกง่ายๆ คือ ใบไม่ค่อยร่วง แต่ทั้งนี้ถ้ามีการให้น้ำมากเกินไปอาจจะทำให้ใบนั้นซีดและร่วงเยอะขึ้นได้เช่นกัน ในการให้น้ำแต่ละครั้งจึงจำเป็นที่จะต้องควบคุมปริมาณน้ำและความชื้นให้มีความพอดีด้วยเช่นกัน

ต้นปาล์มพัด อีกหนึ่งตระกูลปาล์มที่ต้องมีติดบ้าน

สำหรับใครที่มองหาต้นไม้เพื่อที่จะนำมาปลูก แต่ไม่ต้องการต้นที่ผลัดใบบ่อยๆ อยากได้ต้นที่ไม่มีการผลัดใบหรือใบไม่ค่อยร่วง ปาล์มพัดหรือปาล์มมงกุฎเป็นต้นไม้อีกหนึ่งชนิดที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว ซึ่งปาล์มพัดนั้นถือได้ว่าเป็นปาล์มต้นเดียว โดยเมื่อโตขึ้นนั้นอาจจะมีความสูงได้ถึง 10 เมตร เลยทีเดียว ลำต้นนั้นจะมีลักษณะที่ตรง ใบเป็นมัน และเป็นรูปพัด ส่วนขอบใบนั้นจะมีความเว้า ใบมีสีเขียวอ่อน อีกทั้งยังมีดอกที่ออกเป็นช่ออีกด้วย โดยตัวดอกนั้นอาจจะมีสีเหลืองอมน้ำตาล

การปลูกและบำรุงดูแลต้นปาล์มพัด

ซึ่งต้นปาล์มพัดถือได้ว่าเป็นพืชที่เหมาะจะนำมาปลูกในพื้นที่โล่งแจ้งเป็นอย่างมาก เพราะว่ามีความทนทานต่อสภาพอากาศร้อนได้เป็นอย่างดี นอกจากจะทนต่อสภาพอากาศร้อนได้แล้ว ยังไม่ต้องกังวลในเรื่องของใบที่จะหลุดร่วงด้วย เพราะว่าไม่ใช่ต้นไม้ที่มีการผลัดใบ แต่ปาล์มชนิดนี้เป็นต้นไม้ที่ต้องการน้ำมาก แต่ก็ไม่ได้มากถึงขั้นที่แฉะเกินไป

ปาล์มพัดนั้นถ้าใครที่จะนำมาปลูกขอแนะนำว่าควรจะปลูกในพื้นที่โล่งแจ้งจะดีที่สุด และควรปลูกในพื้นที่ที่มีความกว้างพอสมควร นอกจากนี้ควรจะปลูกในดินที่มีความร่วนซุย หรือดินที่มีการผสมเป็นพิเศษ เพราะว่าจะช่วยให้ปาล์มพัดนั้นสามารถเติบโตได้อย่างสมบูรณ์และเต็มที่มากขึ้น

ต้นหมาก หนึ่งในต้นไม้ไม่ผลัดใบที่ได้รับความนิยมในการนำมาปลูก

ต้นไม้ยืนต้นที่ไม่มีการผลัดใบและสามารถนำมาปลูกได้เพื่อให้ร่มเงา ต้นหมากนั้นถือได้ว่าเป็นไม้ยืนต้นในตระกูลปาล์มอีกหนึ่งชนิด โดยจะมีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศเขตร้อนในแถบเอเชีย ซึ่งตัวต้นหมากนั้นจะมีลักษณะที่ต้นตั้งตรงออกไปทางทรงกระบอก โดยความสูงของต้นหมากนั้นจะอยู่ที่ 10-20 เมตร

นอกจากลำต้นที่ตั้งตรงแล้ว ในส่วนของใบต้นหมากเองก็มีก้านใบที่ค่อนข้างจะยาว โดยใบนั้นจะเรียงออกกันที่ปลายยอดเป็นหลัก โคนใบจะเรียว ปลายแหลม ตัวใบนั้นจะหนาและเรียบ มีดอกเป็นช่อขนาดใหญ่ที่มีสีขาวอมเหลือง หรือเรียกว่า จั่น ส่วนตัวผลนั้นจะเป็นทรงกลม อาจจะมีหลายลักษณะ บ้างก็เป็นรูปไข่ บ้างก็เป็นรูปกระสวย ขนาดจะค่อนข้างเล็ก มีเปลือกสีเขียว

การปลูกและบำรุงดูแลต้นหมาก

ต้นหมากนั้นถ้านำมาปลูกจะต้องปลูกในดินที่เป็นดินร่วนปนทราย ซึ่งดินร่วนปนทรายนั้นจะทำให้ต้นหมากเจริญเติบโตได้เป็นอย่างดี หรืออาจจะปลูกในดินเหนียวที่มีความสมบูรณ์ก็ได้ แต่ทั้งนี้ดินจะต้องมีการระบายน้ำที่ดีด้วย รวมไปถึงการระบายอากาศก็ต้องดีด้วยเช่นกัน ส่วนการให้น้ำนั้นก็อาจจะให้พอสมควรไม่ต้องมาก เพราะเป็นต้นไม้ที่ชอบแสงแดดอยู่แล้ว การให้น้ำให้แค่พอประมาณ ซึ่งคนที่จะปลูกนั้นสบายใจได้เลยว่าต้นหมากนั้นเป็นต้นไม้ที่มีความทนทานต่อสภาพอากาศที่ร้อนได้เป็นอย่างดี และใบก็ไม่ร่วงหล่นบ่อยด้วย

ถือว่าเป็นต้นไม้ที่ไม่มีการผลัดใบอีกหนึ่งชนิดที่น่าลองนำมาปลูกเป็นอย่างมาก เพราะว่าต้นหมากนั้นมีประโยชน์ในหลายด้านเลย นอกจากจะให้ความร่มเงาแล้ว ผลของต้นหมากยังสามารถนำมาใช้ได้อีกด้วย

ต้นลำดวน ชวนน่าปลูก พรรณไม้อีกหนึ่งชนิดที่ได้รับความนิยม

สำหรับต้นไม้ที่ให้ร่มเงาและใบไม่ค่อยร่วงนั้น คือ ต้นลำดวน หนึ่งในไม้มงคลอีกชนิดของไทยเราเอง โดยต้นลำดวนนั้นถือได้ว่าเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง โดยมีความสูงประมาณ 5-10 เมตร ในส่วนของลำต้นนั้นจะเป็นสีเทา ผิวจะเรียบ ใบเป็นใบเดียว โดยจะออกเรียงสลับกันอยู่บริเวณข้อ ลำต้น และกิ่ง นอกจากนี้ยังมีดอกที่มีขนาดเล็กด้วย โดยดอกนั้นจะมีสีเหลือง ออกตามยอดและง่ามของใบ

การปลูกและบำรุงดูแลต้นลำดวน

ในสมัยโบราณนั้นมีความเชื่อกันว่าถ้าบ้านไหนมีการปลูกต้นลำดวนไว้ในบ้านจะทำให้บ้านหลังนั้นและครอบครัวพบแต่ความโชคดีและสดชื่นตลอดเวลา สำหรับการปลูกลำดวนนั้นถ้านำมาปลูกเพื่อประดับบ้านหรือสวนหน้าบ้านแล้วล่ะก็ควรจะมีการเว้นระยะห่างจากตัวบ้านให้เหมาะสมเสียหน่อย เพราะต้นลำดวนนั้นค่อนข้างใหญ่ อีกทั้งเป็นไม้ยืนต้นที่ชอบแสงแดดเป็นอย่างมาก ที่สำคัญดินในการปลูกนั้นจะต้องเป็นดินร่วนซุย จะทำให้ต้นลำดวนนั้นเติบโตได้ดี

สำหรับการรดน้ำ ควรรดน้ำต้นลำดวนอย่างน้อย 5-7 วัน ต่อครั้ง แล้วให้ทำการใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักตาม โดยใส่ในอัตรา 1-2 กิโลกรัม ต่อต้น ใส่ปีละ 3-5 ครั้ง ก็จะช่วยให้ต้นลำดวนนั้นโตแข็งแรง ส่วนเรื่องโรคและแมลงนั้นต้นลำดวนจะไม่ค่อยพบปัญหาในเรื่องนี้เท่าไหร่นัก เพราะต้นลำดวนเองก็เป็นต้นไม้ที่ทนต่อสภาพอากาศได้เป็นอย่างดีด้วย

ฝากถึงผู้ที่สนใจปลูก ต้นไม้ให้ร่มเงาไม่ผลัดใบ หลากหลายชนิด 

ไม้ยืนต้นที่ช่วยให้ร่มเงานั้นต่างก็มีหลากหลายประเภท หลากหลายชนิด ให้เลือกนำมาปลูก บางคนก็ไม่ติดเรื่องที่ใบไม้จะร่วง เลยนิยมซื้อต้นที่เหมาะกับสวนที่จะนำมาปลูก บางคนไม่ค่อยมีเวลาดูแลอาจจะเลือกต้นที่สามารถทนต่อสภาพอากาศ และผลัดใบได้น้อย ทั้งนี้ทุกอย่างนั้นก็ล้วนแล้วแต่เป็นตัวช่วยในการตัดสินใจที่จะเลือกซื้อ เพราะไม้ยืนต้นที่ไม่มีการผลัดใบทั้ง 10 ชนิดนี้ ก็เป็นตัวเลือกอีกทางที่เหมาะสำหรับใครที่เริ่มทำสวนนั่นเอง

สำหรับไม้ยืนต้นทั้ง 10 ชนิดนี้ ก็ถือได้ว่าเป็นไม้ที่ไม่มีการผลัดใบที่เหมาะแก่การนำมาปลูก ซึ่งในรายละเอียดก็มีการบอกถึงการนำมาปลูกในดินที่เหมาะสม และไม่ควรปลูกใกล้ตัวบ้าน อีกทั้งการปลูกไม้ที่ไม่การผลัดใบนั้นอาจจะดูแลง่ายก็จริง แต่ถ้าต้นเติบโตมากเกินไปก็ต้องมีการปรับแต่งเสียหน่อย หวังว่าบทความนี้อาจจะเป็นตัวเลือกอีกทางสำหรับคนที่ไม่ชอบไม้ที่ผลัดใบบ่อยๆ

ขอขอบคุณแหล่งข้อมูลอ้างอิง

https://www.baanlaesuan.com/86821/maintenance/garden/tree-leaves，https://home.kapook.com/view189261.html，https://www.baanlaesuan.com/25695/plant-scoop/sunshine-plants，https://puechkaset.com/%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B8%89%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%A3/，https://medthai.com/%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%94%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99/