ไทรประดับ ปลูกเป็นแนวรั้ว แต่งสวนเรียบง่าย สไตล์โมเดิร์น พื้นที่จำกัด

โฆษณา
AP Chemical Thailand

กระถางต้นไม้ P&U 336x280

การออกแบบสวนในปัจจุบันนำความทันสมัยที่เรามักเรียกว่า “โมเดิร์น” แทรกซึมเข้าไปในแนวคิดของคนยุคนี้ กระบวนการคิดจึงถูกตีกรอบด้วยการใช้สอยพื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และลดปัญหาในการดูแลรักษาสวน โดยเลือกปลูกพรรณไม้ที่ดูแลง่าย

1.รูปทรงที่หลากหลาย-ทรงยอดแหลม-และทรงกระบอก
1.รูปทรงที่หลากหลาย-ทรงยอดแหลม-และทรงกระบอก

การปลูกเลี้ยง ไทรประดับ

ไทร ต้นไม้ริมรั้วยอดฮิตอีกชนิดหนึ่ง ที่หลายๆ คนรู้จักกันดี นิยมนำมาปลูกตามแนวรั้วเพื่อสร้างทัศนียภาพให้สวยงาม หรือบดบังมุมมองที่ไม่น่าดู และเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้สวน

ไทรประดับ นับเป็นทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวในแนวตั้งเหมาะกับบริเวณที่มีพื้นที่จำกัด  ซึ่งไทรแต่ละ สายพันธุ์มีลักษณะเด่นแตกต่างกันไป และยังมีการประดิษฐ์รูปทรงที่หลากหลายรูปแบบ เช่น ทรงแท่งยอดแหลม และทรงกระบอก เป็นต้น สามารถใช้งานจัดสวนหลายรูปแบบ อย่างเช่น สวนแนวตั้ง รั้วต้นไม้ หรือสวนแขวน สร้างบรรยากาศบริเวณบ้านให้ร่มรื่น

2.คุณนรินทร์-นาคละมัย
2.คุณนรินทร์-นาคละมัย

จุดเริ่มต้นการปลูกเลี้ยงไทร

คุณพวงผกา เสนานนท์ และ คุณนรินทร์ นาคละมัย คนรู้จักในนาม สวนน้องไอซ์ ไทรประดับ ผู้ผลิตไทรจัดสวนคุณภาพใน อ.บางเลน จ.นครปฐม

สวนน้องไอซ์ไทรประดับ เริ่มมาจากเมื่อ 8 ปีที่แล้ว เขาและเธอทั้งคู่เป็นเกษตรกรปลูกไร่ดอกรัก แต่ราคาขายของดอกรักไม่ค่อยจะสู้ดีนัก มีขึ้น มีลง ผันผวนอยู่ตลอด จึงมีความคิดอยากหางานอะไรที่ดีกว่านี้ทำ จนกระทั่งมาเห็นญาติพี่น้องปลูกไร่ไทรประดับขาย เมื่อเล็งเห็นว่าเขาทำแล้วมีอนาคต รายได้ดี ผลผลิตต่อไร่ได้เยอะ ขายได้ในราคาที่แน่นอนกว่า ทั้งยังปลูกเลี้ยงง่าย ดูแลไม่ยุ่งยาก จึงตัดสินใจหันมาปลูก ไทรประดับ นับตั้งแต่นั้นมา

“เริ่มแรกเรามีพื้นที่ไม่มาก จะใช้วิธีเช่าที่ดินระยะยาว ต้นทุนการผลิตที่ใช้ลงทุนในระยะแรกจะค่อนข้างสูง แต่ครั้งต่อไปต้นทุนจะลดลง จะเหลือเป็นค่าใช้จ่าย พวกค่าปุ๋ย ค่ายา ค่าขนส่ง ค่าเก็บเกี่ยว เท่านั้น ผลตอบแทนถือว่าคุ้มค่ากับการลงทุน” คุณนรินทร์พูดถึงจุดเริ่มต้นในการลงทุนทำไทรประดับของเขา

โฆษณา
AP Chemical Thailand
3.ไทรเกาหลีลาย-ลำต้นมีจุดแต้มสีขาวทั่วต้น-ปลายใบเรียวแหลมกว่า
3.ไทรเกาหลีลาย-ลำต้นมีจุดแต้มสีขาวทั่วต้น-ปลายใบเรียวแหลมกว่า
ไทรอินโด-ไม้พุ่มแน่น-ใบสีเขียวเข้ม-ตัวใบค่อนข้างกลม
ไทรอินโด-ไม้พุ่มแน่น-ใบสีเขียวเข้ม-ตัวใบค่อนข้างกลม

ลักษณะเด่นของไทร

ปัจจุบันสวนน้องไอซ์ ไทรประดับ มีพื้นที่ทั้งหมด 18 ไร่ เน้นผลิตสายพันธุ์ไทรเกาหลี และไทรอินโด ทีมงานซักถามต่อว่าทั้ง 2 สายพันธุ์มีความแตกต่างกันอย่างไร..??

ไทรเกาหลี จุดเด่นอยู่ที่ใบเรียวแหลม มันเงา มีสีเขียวเข้ม ลำต้นสีน้ำตาลอมเทา ตามกิ่งจะมีรากอากาศห้อยย้อยลงมา แตกกิ่งหนาแน่น เป็นพุ่มแน่นทึบ ประกอบด้วยใบเรียงตัวซ้อนกันหลายชั้น และมีใบดกสีเขียวสดปกคลุม เป็นพันธุ์ไม้ที่มีความแข็งแรง ทนทาน ง่ายต่อการดูแลรักษา นิยมปลูกเพื่อปรับภูมิทัศน์บริเวณบ้าน เช่น ปลูกเพื่อบังสายตา และจัดสวน ตกแต่งบ้าน เป็นต้น

พวงผกาบอกว่า ส่วนไทรเกาหลีลายแตกต่างจากไทรเกาหลีทั่วไป คือ ไทรเกาหลีลายจะมีลักษณะลำต้นมีจุดแต้มสีขาวทั่วต้น ทำให้มองเห็นเป็นลาย และลักษณะปลายใบเรียวแหลมกว่า “ไทรเกาหลีปลูกดูแลง่าย ไม่ต้องตัดแต่งเยอะ ฟอร์มต้นสวยอยู่แล้ว แตกกิ่งเป็นพุ่มแน่น”

ไทรอินโด ไม้พุ่มแน่น ใบสีเขียวเข้ม ตัวใบค่อนข้างกลม ผิวใบมัน ขอบเรียบ ใบและกิ่งก้านเรียงตัวซ้อนกันหนาแน่น ยิ่งโตยิ่งสวย นิยมนำมาตัดแต่งพุ่มให้เป็นรูปทรงต่างๆ หรือนำมาทำเป็นแนวกั้นรั้วกำแพงบ้าน สังเกตตามบ้าน หรือหมู่บ้านขนาดใหญ่ ประตูทางเข้าหมู่บ้านมักนิยมปลูกไทรอินโดประดับทิวทัศน์ ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นกำแพงรั้วธรรมชาติ

ปัจจุบันมีการประดิษฐ์รูปทรงที่หลากหลาย สวนแห่งนี้เน้นผลิต 2 รูปทรง คือ ทรงยอดแหลม และทรงกระบอก

4.ขุดยกร่องปลูกเพื่อระบายน้ำ
4.ขุดยกร่องปลูกเพื่อระบายน้ำ

สภาพพื้นที่ปลูกไทร

พื้นที่ผลิต ไทรประดับ ในบางเลนส่วนใหญ่เป็นที่นา ควรขุดยกร่องปลูก  โดยสวนแห่งนี้ยกร่องยาวประมาณ 50 เมตร  ทั้งหมด 6 แถว สำหรับระยะปลูกใช้ระยะระหว่างต้น 90 เซนติเมตร ระหว่างแถว 90 เซนติเมตร จะสามารถปลูกได้ถึง 1,200-1,400 ต้น/ไร่ การปลูกนำกิ่งตอนลงปลูกได้เลย ไม่ต้องมีปุ๋ยหรืออะไรรองก้นหลุม จากนั้นนำฟางข้าวมาคลุมที่โคนต้นเพื่อรักษาความชื้น

โฆษณา
AP Chemical Thailand

“บางรายก่อนปลูกเขาจะนำขี้ไก่ หรือปุ๋ยคอก คลุกเคล้าผสมกับดินก่อนเพื่อเพิ่มธาตุอาหารในดิน ก็แล้วแต่สูตรใครสูตรมัน” นรินทร์กล่าวพร้อมอธิบายเปรียบเทียบต้นทุนการผลิตระหว่างการปลูกลงแปลง และการปลูกลงถุงดำว่า การปลูกลงถุงดำ  ข้อดี  คือ ช่วยลดค่าใช้จ่ายจ้างแรงงานขุดล้อมไม้ มีข้อเสีย  คือ เสียค่าคนงานปลูกลงถุง ค่ายกขึ้นรถ อย่างละ 5 บาท/ต้น มีต้นทุนรวม 10 บาท/ต้น

5.ปลูก-1,200-ต้น-ปีหนึ่งเก็บผลผลิตจะได้กำไร-120,000-บาทต่อไร่
5.ปลูก-1,200-ต้น-ปีหนึ่งเก็บผลผลิตจะได้กำไร-120,000-บาทต่อไร่

รายได้จากการปลูกไทร

ส่วนการปลูกลงแปลง จะมีค่าใช้จ่ายในส่วนของขั้นตอนการขุดล้อม อย่างไทร 2 เมตร ต้องเสียค่าล้อม 30 บาท/ต้น ค่าอัดขุยอีก 5 บาท ค่าขุยถุงละ 5 บาท ค่ายกขึ้นรถ 5 บาท รวมต้นทุนทั้งหมด 45 บาท/ต้น ต้นทุนเฉลี่ยประมาณ 60 บาท/ต้น ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายเรื่องการปลูกและการดูแลรักษา หากลงทุน 5,000 ต้น ก็เท่ากับทุน 300,000 บาท/ปี ผลกำไรต่อต้นประมาณ 100 บาท ถือเป็นค่าระยะเวลา เพราะใช้เวลานานในการเติบโต

ถ้าปลูก 1,200 ต้น ปีหนึ่งเก็บผลผลิตจะได้กำไร 120,000 บาท/ไร่

“หากเทียบกับการทำนา หักต้นทุนแล้วเหลือไร่ละ 3,000 บาท ทำ 3 รอบ ได้กำไรไม่เกิน 10,000 บาท/ปี แต่ทำไทรตรงนี้จะเป็นเงินจม เพราะใช้เวลาเป็นปีๆ กว่าได้ขาย แต่คิดแล้วมันสบายกว่า” นรินทร์เปรียบเทียบรายได้ระหว่างการทำนา กับการปลูกไทรจำหน่าย

6.การให้น้ำ ไทรประดับ จะให้น้ำทางเรือ สะดวก และทำให้ดินเปียกชุ่มกว่า
6.การให้น้ำ ไทรประดับ จะให้น้ำทางเรือ สะดวก และทำให้ดินเปียกชุ่มกว่า

การบำรุงดูแลรักษาไทร

การให้น้ำ สัปดาห์ละ 3 ครั้ง โดยสวนจะให้น้ำทางเรือ สะดวก และทำให้ดินเปียกชุ่มกว่า

กรณีแปลงที่เป็นพื้นที่เช่า เจ้าของที่ดินบางรายไม่ให้ขุดยกร่อง อาจต้องเปลี่ยนมาให้น้ำแบบสปริงเกลอร์แทน แต่เมื่อเปรียบกันแล้วการปลูกโดยขุดยกร่อง ไทรจะโตเร็วกว่า ใบเขียวชอุ่มดีกว่า เพราะดินข้างล่างจะชื้นอยู่ตลอด เนื่องจากไทรเป็นไม้ที่ชอบน้ำมาก

โฆษณา
AP Chemical Thailand

การใส่ปุ๋ย  จะใส่ทุก 15 วัน/ครั้ง  หรือ 30 วัน/ครั้ง  คุณนรินทร์เผยเทคนิคว่า  หลังจากต้นตั้งตัวได้  ระยะแรกจะใส่ปุ๋ยยูเรียก่อนประมาณ 1 ช้อนชา/ต้น เพื่อเร่งบำรุงต้นให้แข็งแรง ต่อมาจะให้ปุ๋ยสูตรอะไรก็ได้ ทางสวนจะใช้ปุ๋ยสูตร 25-7-7 ช่วยให้ไทรงามต่อเนื่อง เขาให้เหตุผลว่าเพราะหากใส่ปุ๋ยยูเรียอย่างเดียว ต้นจะงามครั้งเดียว แล้วจะกลับมาโทรมอีก การใส่ปุ๋ยสูตรนี้จะช่วยให้ต้นสวยสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น

ศัตรูพืช ไทรเป็นพืชที่มีความทนทานต่อสภาพแวดล้อมได้ดี โรคแมลงรบกวนน้อย ส่วนใหญ่จะเป็นพวกเพลี้ยที่ระบาดช่วงฤดูหนาว ส่วนเรื่องเชื้อราไม่มีรบกวน

“ถ้ายิ่งเป็นดินนาใหม่จะยิ่งทำง่าย หญ้าจะน้อย เพราะถ้าเป็นพื้นที่เก่าหญ้าจะเยอะ ค่ากำจัดวัชพืชจะสูงมาก ฉีดพ่นทุก 15 วัน ส่วนการตัดแต่งกิ่ง จะแต่งเดือนละ 1 ครั้ง”

7.ทางสวนมีหลายขนาดทั้งความสูง-ฟอร์มต้น-และสายพันธุ์
7.ทางสวนมีหลายขนาดทั้งความสูง-ฟอร์มต้น-และสายพันธุ์

ด้านตลาดและช่องทางจำหน่ายไทร

การเก็บเกี่ยวจะขึ้นอยู่กับขนาดทรงพุ่ม  และความสูงของต้นเป็นหลัก เช่น ไซส์ที่มีความสูง 2 เมตร จะใช้ระยะเวลา  14 เดือน และถ้าเป็นไซส์ใหญ่สูง 3 เมตร จะใช้เวลา 1.5-2 ปี

“สมมุติ ไทรความสูง 2 เมตร ต้องทำการล้อมก่อนขึ้นต้น หลังจากนั้นอีก 15 วัน ถึงมาขุดอีกฝั่งหนึ่งที่ไม่ได้ล้อมขึ้น จากนั้นแบกลำต้นขึ้นมา เย็บตุ้มด้วยตาข่าย” คุณนรินทร์เล่าขั้นตอนการขุดล้อมคร่าวๆ

ราคาขายของสวนน้องไอซ์ ไทรประดับ ทางสวนมีหลายขนาด ทั้งความสูง ฟอร์มต้น และสายพันธุ์ เช่น ต้นขนาดความสูงไม่ถึง 1 เมตร ราคา 60 บาท, ขนาดความสูง 2 เมตร ราคา 250 บาท และต้นขนาดความสูง 3 เมตร ราคา 320 บาท ณ ราคาปัจจุบัน

โฆษณา
AP Chemical Thailand

โดยไซส์เล็กในถุงดำ ทางสวนจะปลูกเลี้ยงด้วยขี้เถ้าแกลบ ด้วยการปลูกลงกระถางตั้งแต่เล็ก ทำให้ต้นแข็งแรง สามารถนำไปประดับได้ทันที ส่วนใหญ่จะมีขนาดความสูงไม่เกิน 1 เมตร นิยมนำมาจัดสวน หรือประดับรั้วตามบ้าน

“จริงๆ สวนไม่มีทำไซส์เล็กหรอก เพราะการปลูกลงแปลงดินทำได้ง่ายกว่า ต้นโตเร็วกว่า ที่เราทำไซส์เล็กขึ้นมาเพราะมีลูกค้ามาถามบ่อย” คุณนรินทร์กล่าว

กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นผู้รับเหมาโครงการบ้านจัดสรรต่างๆ  ในกรุงเทพฯ  และลูกค้าทั่วไป  นอกจากนี้ยังมีลูกค้าที่รวบรวมผลผลิตส่งขายต่างประเทศด้วย เช่น ประเทศเมียนมา เป็นต้น

คุณนรินทร์เล่าว่าตลาดช่วงนี้กำลังเดินดี ของหมดเกลี้ยง ขายครั้งหนึ่ง 100-200 ต้น อย่างรถปิกอัพคันหนึ่งก็เห็นเงินสัก 40,000-50,000 บาท จะขายดีเป็นช่วงๆ แต่หลังจากราคาเริ่มขยับขึ้น ทำให้คนใช้งานน้อยลง ไม่เหมือนเมื่อก่อนต้นความสูง 2 เมตร ราคา 170-180 บาท ขายดี ปัจจุบันอยู่ที่ 250 บาท แต่ว่าก็ยังได้ ขายได้น้อย แต่ได้เงินเยอะ

“เมื่อก่อนผมขาย 150 บาท แต่เดี๋ยวนี้ราคาเริ่มสูงขึ้น ต้นหนึ่งก็ตีราคาประมาณ 300 บาท แล้ว แต่ก็ยังถือว่าไม่แพงมาก เพราะถ้าไปแถวคลอง 15 หรือบางใหญ่ ต้นละเกือบ 500 บาท แต่ของเราเป็นแหล่งผลิต เป็นราคาหน้าสวนจึงถูก

“ส่วนเรื่องเศรษฐกิจไม่มีผลอะไรกับเราเลย  คนเขาบอกว่าเศรษฐกิจไม่ดี  คนซื้อบ้านน้อย  แต่ก็ยังขายได้กันอยู่”    คุณนรินทร์เล่าสถานการณ์ตลาด ไทรประดับ ให้ทีมงานฟัง

โฆษณา
AP Chemical Thailand
8.การตัดแต่งทรงต้นด้วยเครื่องตัดแต่งกิ่ง-สะดวก-รวดเร็ว
8.การตัดแต่งทรงต้นด้วยเครื่องตัดแต่งกิ่ง-สะดวก-รวดเร็ว

เทคนิคการปลูกเลี้ยงไทร

คุณนรินทร์บอกเล่าเทคนิคสำหรับผู้ปลูกเลี้ยงตามบ้านว่า หลังจากซื้อไปนำลงปลูกลงดินแล้ว ระยะแรกยังไม่ต้องทำอะไร ให้รดน้ำอย่างเดียวก่อน เมื่อผ่านไป 5 วัน แล้วจึงค่อยใส่ปุ๋ยบำรุงต้น

อีกวิธี คือ ให้ใช้ดินรองก้นหลุมก่อนปลูก เช่น ปลูก 100 ต้นใช้ดินประมาณ 50 ถุง พอหลังจาก 15 วันแล้ว จึงใส่ปุ๋ยบำรุงต้นตามปกติ และอีกประมาณ 4-5 เดือน ค่อยตัดแต่งกิ่ง หรือถ้าเห็นว่ากิ่งเริ่มยาวให้ตัดแต่งทันที หากปล่อยไว้นานพุ่มจะไม่แน่น ถ้าต้องการทรงพุ่มแน่นกระชับต้องตัดแต่งกิ่งบ่อยๆ

ถ้าไปอยู่ตามบ้านอาจมีพวกเพลี้ยรบกวนบ้าง อาจฉีดยาป้องกันและกำจัด หรือจะตัดแต่งกิ่งที่มีเพลี้ยออกไปก็ได้ เพื่อให้ต้นแตกใบใหม่

ปัจจุบันผู้คนนิยมนำมาจัดสวน หรือปลูกเป็นแนวรั้ว เจ้าของสวนบอกว่าถ้าจะให้ต้นเรียงกันสวย ใน 1 เมตร ควรปลูกไทร 3 ต้น เป็นมาตรฐานที่ทางสวนบอกลูกค้าเสมอ เขาให้เหตุผลว่าเพราะก่อนที่ต้นจะสวย ต้องอดทนปลูกลงดินก่อน รอให้ต้นเจริญเติบโตสัก 4-5 เดือน ลูกค้าบางคนอยากให้สวนสวยเลย ถ้าแบบนั้นจะต้องใช้จำนวนต้นมาก จะค่อนข้างเปลือง และเมื่อต้นโตเต็มที่อาจจะเบียดกันแน่นจนเกินไป

หากลูกค้าไม่แน่ใจสามารถโทรมาขอคำปรึกษา หรือมีปัญหาเกี่ยวกับการปลูก การดูแลรักษา ไทรประดับ อย่างเช่น ถ้ามีพื้นที่ 30 เมตร จะใช้ไทรกี่ต้นถึงจะดี สวนน้องไอซ์ ไทรประดับ สามารถให้คำแนะนำได้ทุกปัญหา

ขอขอบคุณ คุณพวงผกา เสนานนท์, คุณนรินทร์ นาคละมัย, สวนน้องไอซ์ ไทรประดับ บ้านหนองปรง ต.บางระกำ อ.บางเลน จ.นครปฐม โทรศัพท์ 08-7400-7666 และ 08-0147-4072

โฆษณา
AP Chemical Thailand