ในวงการ “สัตว์น้ำเศรษฐกิจ”บ้านเรา นอกจากกุ้งสายพันธุ์ต่างๆ แล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้ คือ สัตว์น้ำตระกูลปลา ซึ่งเมืองไทยมีพันธุ์ปลาเศรษฐกิจหลากหลายชนิด ทั้งปลาน้ำจืด และน้ำเค็ม เป็นทางเลือกให้ผู้บริโภคเลือกซื้อหามารับประทาน “นิตยสารสัตว์น้ำ” ในเดือนนี้ ทีมงานขอแนะนำพันธุ์ปลาที่ใครๆ ก็รู้จัก และชอบรับประทาน นั่นคือ “ปลาทับทิม” ซึ่งเป็นปลาน้ำจืดที่มากด้วยคุณค่าทางโภชนาการ และมูลค่าทางเศรษฐกิจ มีอัตราการเลี้ยงสูง ทั้งการเลี้ยงในบ่อและกระชัง
ซึ่งปลาทั้ง 2 ชนิด การเลี้ยงนี้จะมีเทคนิคการเลี้ยงที่แตกต่างกัน นั่นจึงเป็นที่มาของการเดินทางมุ่งหน้าสู่จังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อพบกับ คุณเพิ่มพล อสุวพงษ์พัฒนา (คุณเจมส์) และภรรยา คุณสกาวเดือน ทองมาเอง (คุณปลา) เจ้าของ กระชังปลาทับทิม คุณภาพ “พีเจฟาร์ม” ณ เขื่อนกระเสียว อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี
![1.คุณปลาและคุณเจมส์-หนุ่มหล่อและสาวสวยแห่งพีเจฟาร์ม](https://www.palangkaset.com/wp-content/uploads/2018/07/1.คุณปลาและคุณเจมส์-หนุ่มหล่อและสาวสวยแห่งพีเจฟาร์ม.jpg)
![2.คุณเจมส์มั่นใจปลาจากกระชังได้คุณภาพ](https://www.palangkaset.com/wp-content/uploads/2018/07/2.คุณเจมส์มั่นใจปลาจากกระชังได้คุณภาพ.jpg)
จุดเริ่มต้นเลี้ยงปลาทับทิมในกระชัง
คุณเจมส์ได้เล่าที่มาที่ไปของฟาร์มในอดีต ก่อนที่จะมาประสบความสำเร็จอย่างทุกวันนี้ ตนยอมรับว่าเลี้ยงปลากระชังมานานเป็นเวลา 10 ปีแล้ว โดยเริ่มต้นจากทางบ้านแฟน คุณแม่เดิมทีมีอาชีพรับซื้อปลาทับทิม ปลานิล จากแหล่งค้าส่ง นำมาวางขายในตลาดด่านช้าง แต่มีช่วงหนึ่งเกิดปัญหาวิกฤตปลาขาดตลาด
ทำให้มีปลาไม่พอกับยอดออเดอร์ในแต่ละวัน ทำให้คุณแม่เริ่มคิดว่าถ้าหากยังรอซื้อปลาจากแหล่งค้าส่งซึ่งไม่มีความแน่นอนเรื่องจำนวนปลา คงจะกระทบกับยอดขายในแต่ละวันแน่นอน ด้วยเหตุนี้เลยมองหาวิธีการที่จะทำให้มีปลาขายอยู่เสมอ จึงหันมาเลี้ยงปลาทับทิม และปลานิล ในกระชังบริเวณอ่างเก็บน้ำเขื่อนกระเสียว เพื่อผลิตปลาทับทิมและปลานิลคุณภาพออกสู่ตลาดแบบครบวงจร
![3.กระชังปลาคุณภาพ-แข็งแรง-ทนต่อแรงลมในเขื่อน](https://www.palangkaset.com/wp-content/uploads/2018/07/3.กระชังปลาคุณภาพ-แข็งแรง-ทนต่อแรงลมในเขื่อน.jpg)
สภาพพื้นที่เลี้ยงปลาทับทิม
เมื่อคุณเจมส์และคุณปลาเรียนจบจากรั้วมหาลัย จึงทำงานบริษัทเป็นมนุษย์เงินเดือนอยู่พักใหญ่ แต่ก็เกิดความจำเจในงาน และความจำกัดทางด้านเวลา จึงลาออกจากงานประจำ และหันกลับมาบ้านเพื่อสานต่อกิจการของครอบครัว และมาต่อยอดขยายเพิ่มเป็นกิจการของตนเอง
โดยใช้ชื่อฟาร์มว่า “พีเจฟาร์ม” แน่นอนว่าจากมนุษย์เงินเดือนสู่ชีวิตการเป็นเกษตรกรนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องปรับตัวหลายอย่างโดยเฉพาะองค์ความรู้ในการมาพัฒนาฟาร์มปลากระชังที่บ้านเกิดคุณเจมส์และคุณปลา จึงหาข้อมูลและศึกษาวิธีการเลี้ยงปลากระชัง
ทั้งทางนิตยสาร และอินเตอร์เน็ต ลองผิดลองถูก เรียนรู้จากฟาร์มคุณแม่ และฟาร์มละแวกข้างเคียง คุณเจมส์และคุณปลาเริ่มต้นการเลี้ยงปลาทับทิมเพียง 18 กระชัง ขนาด 3x6x2.5 เมตร เลี้ยงปลารุ่นแรกก็ลงเงินทุนไปกว่าล้านบาท เนื่องจากกระชังของตนนั้นใช้วัสดุที่แข็งแรง ท่อนเหล็กที่หนากว่ากระชังปลาตามแม่น้ำทั่วไป เนื่องจากการทำกระชังปลาในเขื่อนนั้นจะมีลมแรง ทำให้เกิดความเสียหายกับกระชังได้ง่าย
![4.ลูกพันธุ์ปลาทับทิมที่นำมาพักในกระชังใหญ่](https://www.palangkaset.com/wp-content/uploads/2018/07/4.ลูกพันธุ์ปลาทับทิมที่นำมาพักในกระชังใหญ่.jpg)
การคัดเลือกลูกพันธุ์ปลาทับทิม
เมื่อกระชังพร้อมจึงเริ่มคัดเลือกลูกพันธุ์ปลามาเลี้ยง โดยคุณเจมส์จะเน้นคัดเลือกลูกพันธุ์ปลาทับทิมคุณภาพ มีแหล่งที่มาชัดเจน เพื่อให้ได้ลูกพันธุ์ที่แข็งแรง จากนั้นจึงเลี้ยงให้ได้ความสมบูรณ์ตามที่ต้องการ “ทางเราก็ทดลองซื้อลูกพันธุ์จากหลายๆ ฟาร์ม เพื่อดูอัตราการรอดของลูกปลาที่เอามาปล่อยลงกระชังให้มีอัตราการรอดที่สูง
ทางฟาร์มจะคัดเลือกลูกพันธุ์ที่ดีไว้ก่อน เพื่อไม่ให้กระทบต่อธุรกิจข้างหน้า ลูกปลาต้องแข็งแรง เลี้ยงง่าย โตไว กินอาหารเก่ง รูปร่างสวย จับขายได้ขนาดตัวตามที่ต้องการ และปลาไม่ไข่ ปลาที่ทางฟาร์มนำมาเลี้ยงก็จะมีราคาที่แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับขนาดตัวของลูกปลา มีตั้งแต่ 0.5 บาท ไปจนถึง 10 บาท เลยก็มี ที่ฟาร์มจะมีการอนุบาลลูกปลาในกระชังเองด้วย และสั่งของที่อื่นเข้ามาด้วย เพื่อให้เพียงต่อความต้องการปลาของตลาด” คุณปลาอธิบายถึงคุณภาพลูกพันธุ์ปลาที่นำมาเลี้ยง
![5.การให้อาหารปลา](https://www.palangkaset.com/wp-content/uploads/2018/07/5.การให้อาหารปลา.jpg)
![อาหารที่ใช้เลี้ยงปลาทับทิมภายในฟาร์ม](https://www.palangkaset.com/wp-content/uploads/2018/07/อาหารที่ใช้เลี้ยงปลาทับทิมภายในฟาร์ม.jpg)
การให้อาหารปลาทับทิม
ในส่วนของการเลี้ยงและการดูแล ทางฟาร์มจะคัดเลือกลูกพันธุ์ที่แข็งแรง กินอาหารเก่ง โตไวมาเลี้ยง ขนาดลูกปลาที่รับมาจะมีตั้งแต่ขนาด 0.5 กรัมขึ้นไป หลังจากที่แกะปากถุงปล่อยปลาลงกระชังแล้วก็จะมีการสังเกตปฏิกิริยาของปลา หลังจากนั้นทำการให้อาหารที่คลุกเคล้าด้วยวิตามินและสารเสริมให้กิน
โดยจะหว่านให้กินวันละ 2 มื้อ คือ ในช่วงเช้ากับเย็น เริ่มให้ตั้งแต่ 7 โมงเช้า ค่อยๆ ให้ไปจนถึง 9 โมงเช้า โดยใช้คนหว่านไปรอบๆ ทุกๆ กระชัง ให้จนกว่าปลาจะอิ่ม ปริมาณอาหารที่ให้ขึ้นอยู่กับขนาดของลูกปลา ในแต่ละกระชังจะปล่อยลูกปลาในช่วงหน้าหนาวอยู่ที่ 1,600-1,800 ตัว เพราะว่าโรคไม่ค่อยมี ความเสี่ยงต่อการตายน้อย แต่ถ้าเป็นช่วงหน้าร้อนก็จะปล่อยอยู่ที่ 1,500-1,600 ตัว เนื่องจากโรคจะเข้ามาเยอะ
![6.คนงานช่วยกันคัดขนาดปลาเพื่อส่งให้ลูกค้า](https://www.palangkaset.com/wp-content/uploads/2018/07/6.คนงานช่วยกันคัดขนาดปลาเพื่อส่งให้ลูกค้า.jpg)
![ปลาทับทิมคุณภาพ-มาตรฐาน-ตัวใหญ่-น้ำหนักดี-สีสวย](https://www.palangkaset.com/wp-content/uploads/2018/07/ปลาทับทิมคุณภาพ-มาตรฐาน-ตัวใหญ่-น้ำหนักดี-สีสวย.jpg)
![ปลานิลเนื้อคุณภาพจากทางฟาร์ม](https://www.palangkaset.com/wp-content/uploads/2018/07/ปลานิลเนื้อคุณภาพจากทางฟาร์ม.jpg)
การจำหน่ายปลาทับทิม และปลานิล
ระยะเวลาในการเลี้ยงจนถึงจับขายอยู่ที่ประมาณ 4 เดือนถึง 4 เดือนครึ่ง โดยทางฟาร์มจะเลี้ยงเป็นปลาเนื้อและคัดขายตั้งแต่ขนาด 700 กรัมขึ้นไป ปลาที่จัดส่งให้กับผู้ซื้อของทางฟาร์มจะค่อนข้างแข็งแรง ปลาเนื้อแน่น เกล็ดสวย รูปทรงดี ตามความต้องการของตลาดและผู้บริโภค
ส่วนราคาก็จะเป็นไปตามราคาของตลาดในช่วงเวลานั้นๆ ที่ฟาร์มมีกำลังการผลิตปลานิลแค่สัดส่วนเล็กน้อยเท่านั้น จะอยู่ที่ 4-5 ตันต่อเดือน เพื่อส่งให้กับลูกค้าในพื้นที่ ส่วนปลาทับทิมจะมีสัดส่วนการลี้ยงที่เยอะกว่ามาก อยู่ที่ประมาณ 50-70 ตันต่อเดือน เพราะนอกจากจะขายส่งให้กับลูกค้าในพื้นที่แล้ว ทางฟาร์มยังส่งปลาให้ตามแหล่งค้าส่งใหญ่ๆ ในภาคกลาง เช่น “ตลาดไท” อีกด้วย ส่วนใหญ่ปลาที่ฟาร์มจะมีลูกค้าเข้ามารับเอง ให้ลูกค้าได้เลือกและคัดปลาได้ถึงขอบกระชัง คุณเจมส์ให้ความเห็นถึงสัดส่วนการเลี้ยงปลาทั้ง 2 ชนิด
![7.ทำความสะอาดตาข่ายเพื่อเตรียมลงปลารุ่นต่อไป](https://www.palangkaset.com/wp-content/uploads/2018/07/7.ทำความสะอาดตาข่ายเพื่อเตรียมลงปลารุ่นต่อไป.jpg)
ปัญหาและอุปสรรคการเลี้ยงปลาทับทิม
แน่นอนว่าการทำธุรกิจย่อมมีปัญหาและอุปสรรค “พีเจฟาร์ม” ก็เช่นเดียวกัน โดยปัญหาที่พบส่วนใหญ่มักจะเป็นปัญหาที่ไม่สามารถควบคุมได้ เช่น อากาศที่เปลี่ยนแปลง โรคต่างๆ เข้ามาตามอากาศ สภาพน้ำระดับออกซิเจนที่ต่ำลงเป็นบางช่วง เป็นต้น เนื่องจากเป็นการเลี้ยงปลาในเขื่อน ลักษณะน้ำจะนิ่ง ไม่มีการไหลเวียน บางเวลาที่เกิดปัญหา ทางฟาร์มจะใช้วิธีการดันแพให้เคลื่อนออกจากจุดที่ตั้งเดิม เพื่อเปลี่ยนบริเวณของน้ำใหม่ หรือจุดตรงไหนที่แพสามารถหมุนได้ก็จะหมุนแทน
เพราะถ้าหากไม่เปลี่ยนน้ำ หรือหมุนแพ อาจส่งผลให้ปลาอาจน็อกน้ำได้ ในช่วงฝนตก อากาศปิด ก็จะทำให้ปลากินอาหารได้น้อยลง หรือทำให้ปลาอาจจะมีการโตช้ากว่าเล็กน้อย ในส่วนของโรคที่พบเจอก็จะเป็นจำพวกปรสิตต่างๆ หนอนสมอ ปลิงใส เห็บระฆัง เป็นต้น เมื่อปลาเป็นโรค อาการที่เห็นได้ชัดเลย คือ ปลาจะมีการว่ายน้ำช้าลง ไม่กินอาหาร หากตักปลาในกระชังขึ้นมาดูอาการ ถ้าปลาตาโปน ท้องบวม ก็แสดงว่าปลาติดโรค ก็จะจับแยกทันที เพื่อไม่ให้ไปติดตัวอื่นๆ หลังจากนั้นคนดูแลก็จะนำยามาคลุกเคล้ากับอาหารให้ปลากิน มีหายบ้าง ไม่หายบ้าง แล้วแต่สภาพของอากาศที่เจอโรค
เทคนิคที่ทำให้ปลามีขนาดตามที่ตลาดต้องการ คุณปลากล่าวว่าสิ่งสำคัญที่สุด คือ ความใส่ใจที่ทางฟาร์มมีให้กับปลา ให้ปลากินอาหารจนอิ่ม ให้อาหารเต็มที่ ป้องกันการตายของปลา ถ้าปลาตายน้อย กำไรก็จะดี แต่ถ้าเมื่อไหร่ปลาตายเยอะ ความขาดทุนก็จะเกิด
![8.ปลาทับทิมขนาดที่ตรงความต้องการของตลาด](https://www.palangkaset.com/wp-content/uploads/2018/07/8.ปลาทับทิมขนาดที่ตรงความต้องการของตลาด.jpg)
ด้านตลาดปลาทับทิม
ในส่วนของการตลาด ลูกค้าส่วนใหญ่จะเข้ามารับปลาเองที่ฟาร์มด้วย เพราะปลาของเราเป็นปลาที่เลี้ยงในกระชังที่อยู่ในเขื่อนที่น้ำลึก จึงเป็นที่ต้องการของตลาดและแม่ค้าตลาดนัดใกล้เคียง เพราะปลาเราแข็งแรง เนื้อแน่น หลังสวย ขนาดตัวสวย สีสันชัดเจน และยังไม่มีกลิ่นโคลน ลูกค้าและแม่ค้าเลยติดใจ บอกกันเป็นปากต่อปาก
ทางฟาร์มจะใช้คุณภาพของปลาในการโปรโมทให้ลูกค้า หรือแม่ค้า เข้ามาติดต่อขอซื้อเอง แม่ค้าที่รับปลาไปสามารถขังปลาเก็บไว้ได้นาน 2-3 วัน นอกจากนี้ทางฟาร์มยังสามารถผลิตปลาให้ได้ตามออเดอร์ที่ลูกค้าต้องการ แต่ต้องบอกล่วงหน้าก่อนจะลงปลา และทางฟาร์มสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าอยู่เสมอๆ ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าประจำที่สั่งซื้อกันมานาน
![9.การแปรรูปปลาทับทิมแดดเดียว](https://www.palangkaset.com/wp-content/uploads/2018/07/9.การแปรรูปปลาทับทิมแดดเดียว.jpg)
การแปรรูปปลาทับทิม
ด้านเศรษฐกิจในตอนนี้ที่เจอก็จะเป็นลูกค้าซื้อปลาจำนวนน้อยลง ผู้เลี้ยงปลามีมากขึ้น ทางฟาร์มเลยแก้ปัญหาโดยการผลิตปลาให้ได้ตามที่ลูกค้าสั่ง ไม่ผลิตจนเยอะเกินออเดอร์ เนื่องจากส่วนใหญ่ลูกค้าที่เข้ามาจะเป็นลูกค้าประจำที่ไว้วางใจกันมานาน
แต่หากช่วงไหนมีปลาเยอะเกินไป ก็จะนำมาแปรรูปเป็นปลาแดดเดียว บางครั้งปลาตัวใหญ่มากๆ ก็จะแล่เอาแต่เนื้อมาทำปลาแดดเดียวแล้วส่งขาย บางส่วนก็มีการนำไปทำเป็นปลาร้าไว้กินเอง และส่งขายตามตลาดนัดในพื้นที่ ก็จัดว่าเป็นการแปรรูปปลาเพื่อเพิ่มมูลค่าของปลาอีกทาง
![10.กระชังปลาต่างๆ-ในเขื่อนกระเสี่ยว](https://www.palangkaset.com/wp-content/uploads/2018/07/10.กระชังปลาต่างๆ-ในเขื่อนกระเสี่ยว.jpg)
ข้อดีของการเลี้ยงปลาใน กระชังปลาทับทิม
ข้อดีของการเลี้ยงปลาในกระชัง ประการแรก คือ เนื้อปลาจะไม่มีกลิ่นโคลน เพราะเลี้ยงในกระชังที่วางอยู่ในอ่างเก็บน้ำ น้ำลึกมาก ทำให้ปลาแทบจะไม่มีกลิ่นโคลนติด เนื้อขาวนวล ไม่เหลือง เลี้ยงง่าย พอๆ กับการเลี้ยงในบ่อดิน แต่ราคาปลาจะสูงกว่า เนื่องจากต้องให้อาหารเม็ดค่อนข้างมาก ให้โปรตีนปลาได้รับเต็มที่ เพื่อให้ปลาแข็งแรง สมบูรณ์ รูปร่างสวย น้ำหนักดี ตามที่ตลาดต้องการ ด้วยเหตุนี้ส่งผลให้ราคาปลาที่เลี้ยงในกระชังจะสูงกว่าปลาที่เลี้ยงในบ่อดินทั่วไปนั่นเอง
ด้านการขยายธุรกิจเพิ่ม ทางคุณปลามองว่า “ที่ฟาร์มใช้วิธีการเพิ่มจำนวนปลาที่เลี้ยงครั้งละน้อยๆ ตามความต้องการของลูกค้า หากลูกค้าสั่งปลามากขึ้น ก็อาจจะมีการขยายกระชังเพิ่มขึ้น แต่ด้วยเศรษฐกิจที่ไม่สู้ดีนัก ก็ขอทำเท่านี้ไปก่อน แต่หากมีโอกาสเศรษฐกิจเอื้ออำนวยต่อการขยายกิจการ ก็ไม่พลาดที่จะขยายธุรกิจของตนเองแน่นอน เพราะการเลี้ยงปลา คือ อาชีพที่รัก และหาเลี้ยงครอบครัวมาได้ถึงทุกวันนี้
“ปลาทับทิมเป็นปลาเศรษฐกิจอย่างหนึ่งที่ใช้เยอะ ตามงานมงคลต่างๆ โต๊ะจีน ก็ถือว่ายังไปได้ดีอยู่ ราคาก็ยังพอสู้ไหว มีการขึ้น-ลงตามสภาวะของการตลาด ช่วงไหนที่ปลาออกมาเยอะ ราคาอาจจะลงมานิดหน่อย ก็ยังพอมีเลี้ยงครอบครัว เลี้ยงดูลูกน้องได้ ยังคงสู้ไหว มันเป็นอาชีพที่เราเริ่มกันเองตั้งแต่เริ่มต้น ยังไงเราก็ต้องหาหนทางสู้กันต่อไป ปีที่แล้วที่เศรษฐกิจมันแย่ไป เรายังผ่านกันมาได้ เรื่องแย่ๆ แค่ไหนเราก็สู้ไหว”
![11.จากพนักงานบริษัท สู่เจ้าของ กระชังปลาทับทิม เขื่อนกระเสียวกว่า 400 กระชัง](https://www.palangkaset.com/wp-content/uploads/2018/07/11.จากพนักงานบริษัท-สู่เจ้าของ-กระชังปลาทับทิม-เขื่อนกระเสียวกว่า-400-กระชัง.jpg)
การให้ความรู้ แนะนำวิธีการเลี้ยง และการคัดเลือกลูกพันธุ์ปลา
ปัจจุบัน “พีเจฟาร์ม” มี กระชังปลาทับทิม ทั้งหมด 400 กระชัง นอกจากนี้ยังมีเครือข่ายลูกฟาร์มอยู่ที่จังหวัดกาญจนบุรี เลี้ยงปลาทับทิมในกระชังเหมือนกัน แต่จะเป็นการเลี้ยงบริเวณแม่น้ำกว่าอีกประมาณ 300 กระชัง โดยทางคุณเจมส์และคุณปลาจะมีการนำนักวิชาการของบริษัทอาหารสัตว์ไปให้ความรู้และแนะนำวิธีการเลี้ยง รวมถึงการคัดเลือกลูกพันธุ์ปลาที่ดี
ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการเลี้ยงปลาคุณภาพ รวมถึงการดูแลใส่ใจ เพื่อให้ได้ปลาทับทิมเนื้อคุณภาพ เป็นที่ต้องการของตลาด ถึงเวลาจับขายก็มีตลาดรองรับให้กับเกษตรกรที่จังหวัดกาญจนบุรี และการคัดกรองเกษตรกรเข้ามาเป็นสมาชิกของทางพีเจฟาร์ม ทางฟาร์มจะบอกเสมอว่าอยากได้ปลาที่มีคุณภาพดี ตรงตามที่ลูกค้าต้องการ เราต้องใส่ใจ และดูแลปลาของเราให้ทั่วถึง คอยสังเกตความผิดปกติของปลาในกระชัง ให้ปลาของเรามีคุณภาพดีอยู่เสมอ จึงจะมีตลาดรองรับปลาของเราอย่างแน่นอน กระชังปลาทับทิม กระชังปลาทับทิม กระชังปลาทับทิม กระชังปลาทับทิม
สนใจสั่งซื้อปลาทับทิม และปลานิล กระชังคุณภาพ ได้ที่ “พีเจฟาร์ม” คุณเพิ่มพล อสุวพงษ์พัฒนา (คุณเจมส์) เบอร์โทรศัพท์ 084-158-4545 ที่อยู่ 222 ม.17 ต.ด่านช้าง อ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี 72180