พืชสมุนไพร 10 ชนิด สามารถป้องกันและช่วยรักษา “โรคเบาหวาน” ได้

โฆษณา
AP Chemical Thailand

พืชสมุนไพร มีบทบาทและหน้าที่มาตั้งแต่สมัยโบราณ และเริ่มเป็นที่สนใจมากขึ้นในปัจจุบัน เพราะสมุนไพรของไทยนั้นมีงานวิจัยต่างๆ มากมายที่เป็นที่ยอมรับกันอย่างแพร่หลายไปทั่วโลก นอกจากจะมีการนำไปใช้ในเรื่องเวชสำอางแล้ว สมุนไพรของไทยเองก็ยังมีการนำมาเป็นยาบำรุงและรักษาโรคต่างๆ มากมาย

ในบทความนี้เราจะกล่าวถึงการรักษาและป้องกันโรคมะเร็ง และเบาหวาน ซึ่งการที่สมุนไพรเข้ามาทำหน้าที่นี้ได้นั้นต้องมีการศึกษาและวิจัย รวมไปถึงมีการพัฒนาและต่อยอดเพื่อนำมาใช้ในการป้องกันและรักษาโรคทั้ง 2 ชนิดนี้

มะเร็ง และเบาหวาน โรคยอดฮิตของคนไทยและประชากรทั่วโลก ซึ่งตัวโรคเบาหวานเองนั้นนอกจากจะเกิดจากพฤติกรรมมาจากการกินที่ไม่ถูกหลักแล้ว ยังเป็นโรคมีผลส่งต่อมาทางพันธุกรรมอีกด้วย แต่ในทางพันธุกรรมนั้นถ้าเราสามารถควบคุมปริมาณการทานอาหารประเภทที่มีส่วนผสมของน้ำตาล และหมั่นออกกำลังกาย โรคนี้ก็สามารถควบคุมได้

แต่โรคมะเร็งนี้จะเกิดจากพฤติกรรมการรับประทานอาหาร และปัจจัยสภาพแวดล้อมต่างๆ ก็มีผลที่ทำให้เกิดโรคนี้ได้ เช่น สมุนไพรของไทย จึงเริ่มเข้ามามีบทบาทสำคัญมากขึ้น ซึ่งครั้งนี้เราจะกล่าวถึงสมุนไพร 10 ชนิด ที่มีการนำมาช่วยในการรักษา ทั้งโรคเบาหวาน และมะเร็ง ให้ได้รู้กัน

1.พืชสมุนไพร 10 ชนิด สามารถป้องกันและช่วยรักษา “โรคเบาหวาน” ได้
1.พืชสมุนไพร 10 ชนิด สามารถป้องกันและช่วยรักษา “โรคเบาหวาน” ได้

คุณสมบัติของสมุนไพร

สมุนไพรไทยกับการรักษาโรคย่อมเป็นของคู่กันมาทั้งแต่โบราณกาล ที่จะศึกษาและนำมาพัฒนาเพื่อต่อยอดให้สมุนไพรนั้นเป็นที่ยอมรับได้นั้นไม่ใช่เรื่องยาก เพราะปัจจุบันในวงการการแพทย์ในปัจจุบันนั้นให้การยอมรับสมุนไพรในแพทย์แผนไทยเป็นอย่างมาก ทั้งนี้โรคเบาหวานเองก็มี พืชสมุนไพร ที่ช่วยในการยับยั้งโรคเบาหวานได้อยู่แล้ว ทำให้มีการนำสมุนไพรมาใช้กันอย่างแพร่หลายมากขึ้น ทั้งนี้เราจะพูดถึงพืชที่สามารถนำมาใช้ในการรักษาและป้องกันประมาณ 10 ชนิด เพื่อเป็นความรู้เบื้องต้น

โรคเบาหวาน

โรคเบาหวานคืออะไร คือ สภาวะที่ร่างกายของเรานั้นมีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติ เกิดจากร่างกายไม่สามารถนำน้ำตาลไปใช้ได้ตามปกติ มักเกิดจากความผิดปกติของต่อมไร้ท่อที่ตับอ่อน เรียกว่า “อินซูลิน” ออกมาไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ซึ่งโรคเบาหวานนั้นเป็นโรคเรื้อรังที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้

โฆษณา
AP Chemical Thailand

โดยสาเหตุที่เกิดโรคเบาหวานนั้นมาจากปัจจัยหลายๆ อย่าง เช่น กรรมพันธุ์ และอาหารการกิน โดยสาเหตุมาจากการที่ตับอ่อนเริ่มเสื่อมสภาพ ทำให้ผลิตอินซูลินได้ไม่มากพอ โดยสารอินซูลินนั้นเป็นฮอร์โมนที่ทำหน้าที่ในการช่วยให้ร่างกายเปลี่ยนน้ำตาลนั้นมาเป็นพลังงาน เมื่ออินซูลินไม่พอน้ำตาลจึงไม่สามารถถูกดึงมาใช้ได้ เป็นสาเหตุให้มีน้ำตาลในเลือดตกค้างเกินความจำเป็น ทำให้มีการขับปัสสาวะ หรือเรียกง่ายๆ คือ การปัสสาวะบ่อย

โดยโรคเบาหวานนั้นจะมีผลข้างเคียงกับอวัยวะสำคัญต่างๆ ได้ เช่น การติดเชื้อที่ตา ซึ่งอาจจะทำให้เกิดอาการตาบอดได้ ถ้าปริมาณน้ำตาลในเลือดมีมากเกินไป หรือเกิดความดันโลหิตสูง และระบบหัวใจทำงานผิดปกติได้

โดยปกติแล้วโรคเบาหวานอาจจะรักษาให้หายขาดไม่ได้ แต่เราสามารถควบคุมปริมาณน้ำตาลในร่างกาย โดยมีวิธีการต่างๆ ที่สามารถทำให้น้ำตาลอยู่ในระดับปกติและควบคุมได้ เป็นอย่างมาก โดยปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหาร ลดอาหารจำพวกแป้ง น้ำตาล และไขมัน ควรหลีกเลี่ยงผลไม้ที่มีรสหวานจัด

นอกจากนี้ยังควรที่จะออกกำลังกายให้สม่ำเสมอ และดูแลความสะอาดของร่างกายให้ดี อีกทั้งควรระมัดระวังในเรื่องของการเกิดแผลในร่างกายให้เป็นอย่างมาก เพราะผู้ป่วยโรคเบาหวานส่วนใหญ่แผลจะหายช้ากว่าคนปกติ และอาจจะเสี่ยงมีภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้นได้ ต้องระมัดระวังในเรื่องนี้ด้วย

เนื่องจากโรคเบาหวานนี้เป็นโรคที่ไม่มีทางรักษาให้หายขาดได้ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ผู้ป่วยสามารถดูแลตัวเองและใช้ชีวิตได้ตามปกติ เพียงแค่ตกปรับพฤติกรรมการบริโภคใหม่ทั้งหมด เพื่อควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และหมั่นออกกำลังกายอย่างเป็นประจำ ซึ่งอาหารที่เหมาะกับผู้ป่วยโรคเบาหวานนั้นควรเป็นอาหารประเภทผักใบเขียวทุกชนิด เนื่องจากผักใบเขียวให้พลังงานต่ำ แต่มีใยอาหารที่สูง แต่การทานผักนั้นก็มีข้อควรระวังเนื่องจากสารเคมีที่ตกค้างจากพืชผักบางชนิด ฉะนั้นก่อนการบริโภคควรจะล้างทำความสะอาดให้ดีเสียก่อน

นอกจากนี้อาหารที่ผู้ป่วยโรคเบาหวานควรหลีกเลี่ยงเลย คือ อาหารจำพวกแป้ง น้ำตาล ขนมหวาน ของหวานทุกชนิด เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด ผลไม้ที่มีรสหวานจัด  แต่เนื่องจากผลไม้บางชนิดมีวิตามินและใยอาหารที่สูง ผู้ป่วยโรคเบาหวานควรเลือกรับประทานแต่พอดี ไม่ควรละเว้นผลไม้ เพราะตัวผลไม้จะช่วยให้มีการขับถ่าย และกระตุ้นการทำงานของระบบย่อยอาหารได้ดี ควรเลือกรับประทานจะดีที่สุด

โฆษณา
AP Chemical Thailand
2.มะระขี้นก-ตำลึง
2.มะระขี้นก (https.upload.wikimedia.orgwikipediacommons998Bitter_gourd_at_Hyderabad_market)-ตำลึง (https.upload.wikimedia.orgwikipediacommons77dCoccinia_grandis_-_%E0%B4%95%E0%B5%8B%E0%B4%B5%E0%B5%BD_04)

พืชสมุนไพร ที่ใช้ในการป้องกันและรักษาโรคเบาหวาน

เนื่องจากสมุนไพรนั้นเริ่มเข้ามามีบทบาทในการใช้เพื่อการรักษาโรคอย่างมากมาย ตั้งแต่อดีตจนมาถึงปัจจุบัน สมุนไพรยังคงได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในวงการการแพทย์แผนปัจจุบันว่ามีสรรพคุณต่างๆ มากมายในการช่วยรักษาโรค ครั้งนี้เราจะมาพูดถึงสมุนไพรที่ช่วยในการรักษาและป้องกันโรคเบาหวาน โรคเรื้อรัง ที่เริ่มส่งผลกระทบในหลายๆ ด้านให้กับคนไทย เพราะในปัจจุบันเองเริ่มมีเด็กเป็นโรคอ้วนกันมากขึ้น ทำให้มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคเบาหวาน นอกจากนี้การออกกำลังกายก็มีส่วนช่วยในการยับยั้งการเกิดโรคต่างๆ มากมาย มาดูกันดีกว่าว่า 10 สมุนไพร ที่ช่วยในการรักษาและป้องกันโรคเบาหวานมีอะไรบ้าง

1.มะระขี้นก

มะระขี้นกนั้นเป็นผักพื้นบ้านที่มีคุณประโยชน์ต่อร่างกายที่สูง ทั้งด้านพลังงาน คาร์โบไฮเดรต โปรตีน แคลเซียม รวมไปถึงวิตามิน A, B1, 2, C และวิตามินอื่นๆ

ประโยชน์ เนื่องจากมะระขี้นกเป็น พืชสมุนไพร ตามพื้นบ้านอยู่แล้ว คุณประโยชน์ก็มีมากมาย เช่น ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด เพื่ออาการของโรคเบาหวานนั้นทุเลาลง ช่วยในการเจริญอาหารได้เป็นอย่างดี นอกจากจะช่วยรักษาอาการโรคเบาหวานให้อยู่ภาวะปกติแล้ว มะระขี้นกยังมีส่วนช่วยในการต้านเชื้อ HIV ต้านมะเร็ง และใช้เป็นยาถ่ายได้อีกด้วย นอกจากนี้ผลอ่อนของมะระขี้นกยังมีฟอสฟอรัส วิตามินซี ไนอาซีน และเบต้าแคโรทีนที่สูงอีกด้วย

สรรพคุณ ในการบริโภคมะระขี้นกนั้นควรนำมะระขี้นกมาหั่น จากนั้นนำไปตากแห้งเพื่อที่นำมาชงน้ำดื่ม ถ้ารับประทานรสขมมากไม่ได้ ขอแนะนำให้นำใบชามาผสมลงไปต้มในน้ำด้วยได้อีกทางหนึ่ง โดยน้ำจากผลมะระขี้นกนี้จะช่วยลดการเกิดต้อกระจก ซึ่งเป็นอาการข้างเคียงของโรคเบาหวานได้ อีกทั้งยังช่วยปรับสมดุลในร่างกาย และช่วยควบคุมระดับน้ำให้คงที่

ข้อควรระวัง เนื่องจากมะระขี้นกนั้นมีเมล็ดที่เป็นพิษ ถ้าบริโภคเข้าไปอาจจะทำให้เกิดอาการปวดศีรษะ หรือมีไข้ได้ ถ้าอาการรุนแรงอาจจะถึงขั้นโคม่าได้ ฉะนั้นก่อนจะบริโภคมะระขี้นกควรนำเมล็ดออกเสียก่อนจะปลอดภัยที่สุด

2.ตำลึง

โดยหลักทั่วไปแล้วตำลึงเป็นพืชที่ขึ้นเลื้อยอยู่ตามริมรั้ว แทบจะไม่ต้องหาซื้อเลยก็ว่าได้ มักจะขึ้นมาในช่วงหน้าฝน และส่วนใหญ่จะพบได้ตามที่รกร้าง อีกทั้งยังเป็น พืชสมุนไพร ที่ช่วยในการลดน้ำตาลได้ดี นอกจากนี้ยังมีอีกหลายงานวิจัยที่ค้นพบว่าตำลึงเป็น พืชสมุนไพร ที่มีความเก่าแก่มานับพันปีเลยทีเดียวว่าสามารถใช้ได้ทุกส่วนของตัวพืชชนิดนี้ในการบำรุงรักษาโรคเบาหวาน

โฆษณา
AP Chemical Thailand

ประโยชน์ เนื่องจากตำลึงเป็น พืชสมุนไพร ชนิดไม้เลื้อย และสามารถหาได้ง่าย อีกทั้งคุณประโยชน์ยังมีมากมายเกินตัว ซึ่งตัวตำลึงเองจะช่วยในการดับพิษไข้ แก้ปวดแสบ ปวดร้อน แก้คัน แก้อาเจียน แก้วิงเวียนศีรษะและช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้เป็นอย่างดีในผู้ป่วยโรคเบาหวาน

สรรพคุณ ตำลึงถ้านำไปต้มน้ำแล้วมาดื่มจะช่วยในการลดและควบคุมปริมาณน้ำตาลในเลือดได้เป็นอย่างดี โดยนำตำลึงไปต้มน้ำแล้วนำมาดื่มวันละ 2 ครั้ง ในช่วงเช้าและช่วงเย็น จะช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดนั้นคงที่และลดลงได้อย่างแน่นอน แต่ไม่ถึงกับหายขาด เพราะโรคเบาหวานเป็นโรคที่รักษาหายขาดไม่ได้

บอระเพ็ด-ข้าวบาร์เลย์-เตยหอม-อบเชย
บอระเพ็ด (https.upload.wikimedia.orgwikipediacommonsbb0Gardenology.org-IMG_7798_qsbg11mar)-ข้าวบาร์เลย์ (https.upload.wikimedia.orgwikipediacommons665Barley_Seeds)-เตยหอม (https.upload.wikimedia.orgwikipediacommonsccfPandan_Leaf_%28Pandanus_amaryllifolius%29)-อบเชย (https.upload.wikimedia.orgwikipediacommons88cCinnamon-other)

3.บอระเพ็ด

เป็นที่รู้จักกันดีว่าบอระเพ็ดนั้นเป็นพืชสมุนไพรที่มีสรรพคุณมากมาย อีกทั้งยังมีรสชาติที่ขมค่อนข้างมาก ทำให้เป็นพืชที่คนไม่นิยมมากเท่าไหร่ แต่อย่าลืมว่า “หวานเป็นลม ขมเป็นยา” นั้นใช้ได้จริงกับบอระเพ็ด เพราะตัวบอระเพ็ดนี้มีสรรพคุณทางยามากมายเกินกว่าหลายฝ่ายคาดคิด และยังมีการวิจัยในบอระเพ็ดอย่างแพร่หลายว่าพืชสมุนไพรชนิดนี้สามารถใช้ในการรักษาและป้องกันโรคเกี่ยวกับมะเร็งและเบาหวานได้เป็นอย่างดี

สรรพคุณ ซึ่งตัวบอระเพ็ดเองนี้มีส่วนช่วยในการดับความร้อนในร่างกายได้ดี อีกทั้งยังช่วยบรรเทาอาการไข้หวัด ช่วยลดคลอเลสเตอรอล ลดน้ำตาลในเลือดได้ และยังช่วยในปรับสมดุลระบบย่อยอาหารในร่างกายได้ ช่วยป้องกันโรคหัวใจ และมีสารต้านอนุมูลอิสระ

นอกจากนี้การนำบอระเพ็ดมาต้มเพื่อเป็นเครื่องดื่มจะสามารถช่วยลดปริมาณน้ำตาลในเลือดได้เป็นอย่างดีแล้วนั้น ยังสามารถช่วยบรรเทาอาการไข้หวัดต่างๆ ให้หายได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย ซึ่งทุกส่วนของบอระเพ็ดนั้นสามารถนำมาเป็นยารักษาโรค และอาการต่างๆ ได้ทั้งหมด

ข้อควรระวัง บอระเพ็ดนั้นเป็นสมุนไพรที่มีรสขม เนื่องจากรากของบอระเพ็ดนั้นมีส่วนส่งผลให้การทำงานของหัวใจผิดปกติได้ ฉะนั้นแล้วไม่ควรรับประทานติดต่อกันนานเกิน 1 เดือน ควรเว้นระยะห่างบ้างจะเป็นการดี ถ้าหากใช้แล้วมีอาการผิดปกติเกิดขึ้นควรหยุดรับประทานต่อในทันที และปรึกษาแพทย์แผนไทยหรือแพทย์แผนปัจจุบัน

โฆษณา
AP Chemical Thailand

4.ข้าวบาร์เลย์

ข้าวบาร์เลย์เป็นพืชสมุนไพร หรือไม่ก็บอกตรงตัวว่าอาจจะไม่ใช่พืชสมุนไพรเต็มตัว แต่เรียกว่าธัญพืชน่าจะดีกว่า ซึ่งตัวข้าวบาร์เลย์นี้มีลักษณะคล้ายกับลูกเดือย แต่มีขนาดเล็กกว่า โดยจะมีกลิ่นและรสชาติที่โดดเด่น สามารถหาซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้าทั่วไป โดยส่วนมากข้าวบาร์เลย์จะเป็นวัตถุดิบในการทำขนม และเครื่องดื่มหลากหลายชนิด

ประโยชน์ ในข้าวบาร์เลย์นั้นอุดมไปด้วยคุณประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะเป็นแมงกานีส ใยอาหาร วิตามินบี1, 3, 6, 12 วิตามินเอ, ซี และโปรตีน ฯลฯ ซึ่งเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเป็นอย่างมาก อีกทั้งเหมาะสำหรับผู้ที่ควบคุมอาหารและรักสุขภาพเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

สรรพคุณ ข้าวบาร์เลย์นั้นนอกจากจะมีคุณประโยชน์ทางด้านวิตามินต่างๆ แล้วนั้น ยังเหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคเบาหวานเป็นอย่างมาก เนื่องจาก

  • ช่วยควบคุมน้ำตาลในเลือด สามารถลดระดับน้ำตาลในเลือดได้เป็นอย่างดี โดยควบคุมปริมาณน้ำตาลไม่ให้สูง

เกินไปจนอาจจะส่งผลต่อผู้ป่วยได้ ทั้งนี้สามารถนำข้าวบาร์เลย์มาหุงแทนข้าวขาวก็ได้

  • ช่วยในการป้องกันโรคหัวใจ และควบคุมน้ำหนัก ซึ่งข้าวบาร์เลย์เองจะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ

ล้มเหลวได้ ยังช่วยบำรุงในเรื่องของระบบประสาท และช่วยควบคุมน้ำหนักได้ดี ทำให้อิ่มได้นาน ไม่หิวง่าย นอกจากนี้ยังช่วยในเรื่องของมะเร็งต่างๆได้ ไม่ว่าจะเป็นมะเร็งเต้านม มะเร็งลำไส้ใหญ่ และลดการเกิดไขมันอีกทางหนึ่งด้วย

5.เตยหอม

โดยส่วนใหญ่แล้วเตยหอมนั้นสามารถนำไปประกอบอาหาร หรือเป็นเครื่องดื่มได้หลากหลายชนิด ใครจะรู้ว่าเตยหอมแท้จริงแล้วก็เป็นพืชสมุนไพรชนิดหนึ่ง ซึ่งลำต้นและรากของเตยหอมนั้นสามารถนำมาช่วยยับยั้งและป้องกันโรคต่างๆ ได้อย่างมากมายเลยทีเดียว

โฆษณา
AP Chemical Thailand

ประโยชน์ เตยหอมนั้นมีคุณประโยชน์มากมาย ไม่ว่าจะนำไปประกอบอาหาร หรือนำไปทำเป็นเครื่องดื่ม เป็นส่วนผสมในการทำขนมต่างๆ ก็ช่วยเพิ่มกลิ่นหอม ให้ความสดชื่น และช่วยปรับสมดุลในร่างกาย ซึ่งเตยหอมนี้ยังช่วยขับไล่แมลงได้อีกทางด้วย

สรรพคุณ เตยหอมนั้นมีส่วนช่วยในการลดความดันโลหิต ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงและช่วยในการบำรุงหัวใจได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังช่วยในการขับปัสสาวะเพื่อช่วยในการรักษาโรคเบาหวาน อีกทั้งยังช่วยควบคุมปริมาณน้ำตาลในเลือดให้คงที่ ช่วยทำให้ผู้ป่วยลดความตรึงเครียดจากภาวะต่างๆได้เป็นอย่างดี โดยการนำน้ำมาดื่มเพื่อช่วยบรรเทาอาการของโรคให้ดียิ่งขึ้นตามลำดับ

6.อบเชย

อบเชยเป็นพืชสมุนไพรที่นิยมนำไปใช้เป็นเครื่องเทศ มีกลิ่นหอม และในปัจจุบันมีการนำอบเชยมาใช้ในการผสมในเครื่องดื่มประเภทกาแฟ ซึ่งทำให้คนรุ่นใหม่เริ่มรู้จักอบเชยมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีอบเชยไทย อบเชยญวน ฯลฯ ซึ่งอบเชยนั้นเป็นพืชสมุนไพรที่มีความเป็นมาอย่างยาวนาน ทำให้มีการศึกษาและวิจัยกันมาอย่างต่อเนื่อง

ประโยชน์ เนื่องจากอบเชยเป็นพืชสมุนไพรที่นิยมนำไปประกอบเป็นเครื่องเทศในอาหาร ทำให้มีกลิ่นหอม จึงช่วยเกิดความผ่อนคลายต่างๆได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้คุณประโยชน์ของอบเชยเองยังสามารถนำไปสกัดเป็นน้ำมันหอมระเหยได้ ซึ่งจะช่วยบรรเทาความเหนื่อยล้าจากการทำงานหนัก ทำให้พักผ่อนได้เต็มที่

สรรพคุณ นอกจากอบเชยจะนำไปประกอบอาหารแล้วนั้น การนำมาเป็นยาสมุนไพรในการรักษาโรคก็ทำได้ดีเช่นกัน ซึ่งอบเชยเองสามารถช่วยให้ผู้ป่วยเบาหวานนั้นสามารถรักษาระดับน้ำตาลในเลือดได้เป็นอย่างดี ควบคุมปริมาณน้ำตาลให้อยู่ในระดับที่คงที่ ไม่สูงจนเกินไป ในอบเชยนั้นมีสารอินซูลินที่เข้ามาช่วยการตอบสนองต่อตัวอินซูลิน ทำให้อินซูลินในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น จึงเหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคเบาหวาน ในการรับประทานอบเชย ซึ่งการรับประทานนั้นควรจะรับประทานวันละ 1 ช้อนชา ต่อวันก็เพียงพอแล้ว

เห็ดหลินจือ-หัวปลี
เห็ดหลินจือ (https.upload.wikimedia.orgwikipediacommonsdd9Lingzhi_1)-หัวปลี (https.upload.wikimedia.orgwikipediacommons99d118_-_banana_blossom)

7.เห็ดหลินจือ

ตามหลักทั่วไปแล้วเห็ดหลินจือเป็นเห็ดที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงเป็นอย่างมากในบรรดาตระกูลเห็ดทั้งหมด เนื่องจากเป็นเห็ดที่มีสรรพคุณทางยาค่อนข้างสูง อีกทั้งยังมีราคาที่ค่อนข้างแพง ทำให้เป็นที่อยากลิ้มลองของใครหลายๆ คน นอกจากจะเป็นเห็ดที่มีราคาสูงแล้วนั้น เห็ดหลินจือยังมีสรรพคุณทางยามากมายที่ช่วยในการบำรุงร่างกายและรักษาโรคต่างๆ อย่างนับไม่ถ้วน

โฆษณา
AP Chemical Thailand

ประโยชน์และสรรพคุณ เห็ดหลินเป็น พืชสมุนไพร ที่ครอบคลุมรักษาและบำรุงร่างกายอย่างนับไม่ถ้วน ซึ่ง คุณประโยชน์และสรรพคุณนั้นสามารถช่วยในเรื่องของการบำรุงผิวพรรณ เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ฯลฯ นอกจากนี้ยังช่วยในเรื่องของการควบคุมปริมาณน้ำตาลในผู้ที่เป็นโรคเบาหวานได้เป็นอย่างดี เนื่องจากเห็ดหลินจือมีสารที่เรียกว่า กาโนเดอแรน เอ บี และซี ที่ช่วยเพิ่มอินซูลินที่ทำหน้าที่เปลี่ยนน้ำตาลให้เป็นพลังงาน นอกจากนี้ยังช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในระดับปกติอีกด้วย

8.หัวปลี

หัวปลีเป็นพืชที่เจริญเติบโตพร้อมกันกับต้นกล้วย โดยหัวปลีนั้นได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงปีหลังๆ เทรนด์การดูแลสุขภาพ และเรื่องการควบคุมน้ำหนักกำลังมาแรง อีกทั้งการทานมังสวิรัตก็ทำให้ผู้คนในต่างประเทศหันมาให้ความสนใจในหัวปลีประเทศไทยเป็นอย่างมาก นอกจากนี้หัวปลียังมีส่วนช่วยในการดูแลและรักษาผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวานได้อีกด้วย

ประโยชน์และสรรพคุณ ต้องบอกก่อนเลยว่าหัวปลีไม่ได้มีดีแค่ช่วยบำรุงน้ำนมให้กับคุณแม่เพียงอย่างเดียว ในหัวปลีนั้นมีสารประกอบและวิตามินต่างๆ มากมายที่ช่วยในการดูแลร่างกายให้มีความสมดุลได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญเลย คือ ช่วยให้ผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวานนั้นสามารถควบคุมปริมาณน้ำตาลได้

นอกจากนี้หัวปลีช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด ซึ่งในผลงานวิจัยเมื่อปี 2000 ได้มีการเผยว่า ฤทธิ์ของหัวปลีนั้นสามารถช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดให้กับผู้ป่วยเบาหวานได้ อีกทั้งยังช่วยเปลี่ยนน้ำตาลให้เป็นพลังงานได้อีกทางหนึ่งด้วย นอกจากนี้ยังช่วยลดอาการอักเสบต่างๆ ได้เป็นอย่างดี

9.กระเจี๊ยบเขียว

กระเจี๊ยบเขียวคืออะไร คือ พืชสมุนไพรชนิดหนึ่งที่มีถิ่นกำเนิดในแถบเอธิโอเปีย ซึ่งเป็นพืชที่นิยมปลูกกันมากในเขตพื้นที่อบอุ่นและเขตร้อน ซึ่งเหมาะกับการปลูกในประเทศไทยเป็นอย่างมาก เพราะสามารถปลูกได้ทุกภูมิภาคของไทย นอกจากนี้กระเจี๊ยบเขียวยังอุดมไปด้วยวิตามินและคุณค่าทางโภชนาการมากมาย

ประโยชน์ ในกระเจี๊ยบเขียวนั้นอุดมไปด้วยวิตามินเอ บี1 บี2 และวิตามินซี เป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีคาร์โบไฮเดรต เส้นใยที่ช่วยในการกระตุ้นการขับถ่าย และระบบย่อยอาหาร โปรตีน โฟเลต แคลเซียม ฯลฯ ซึ่งจะเห็นได้ว่ากระเจี๊ยบเขียวนั้นมีคุณประโยชน์มากมายเลยทีเดียว

โฆษณา
AP Chemical Thailand

สรรพคุณ เนื่องจากกระเจี๊ยบเขียวเป็นพืชสมุนไพร ทำให้มีสรรพคุณทางยาและการรักษามากมาย โดดเด่นในเรื่องของการเป็นยาระบายอ่อนๆ ช่วยในเรื่องบรรเทาอาการท้องผูก ที่สำคัญเลยกระเจี๊ยบเขียวนั้นยังช่วยในเรื่องของ “การควบคุมปริมาณน้ำตาลในเลือด” ซึ่งตัวกระเจี๊ยบเขียวนั้นมีเส้นใยอยู่มาก ช่วยให้มีการดูดซึมน้ำตาลจากลำไส้ได้ดี จึงเหมาะกับคนที่เป็นโรคเบาหวานอย่างยิ่งที่จะบริโภคเป็นยา หรือนำไปประกอบอาหาร นอกจากนี้ยังช่วยในการควบคุมปริมาณคลอเลสเตอรอล และช่วยกำจัดไขมันที่มีปริมาณสูงได้เป็นอย่างดี

10.กระเทียมดำ

กระเทียมดำ มันคือกระเทียมอะไรนะ หลายคนคงสงสัย ความจริงแล้วกระเทียมดำ ก็คือ กระเทียมที่มาจากกระเทียมขาว แต่มีกระบวนการที่แตกต่างจากกระเทียมปกติ คือ มีการหมักด้วยกรรมวิธีที่แตกต่างออกไป เพื่อให้ได้กระเทียมชนิดนี้ขึ้นมา นอกจากนี้กระเทียมดำยังมีคุณประโยชน์ในการช่วยบำรุงรักษาร่างกายได้เป็นอย่างดี ในวงการการแพทย์ของเกาหลีและญี่ปุ่นเองก็มีการนำกระเทียมดำเข้ามาใช้ในทางการแพทย์อย่างกว้างขวาง แต่เนื่องจากกระเทียมดำนั้นมีราคาที่ค่อนข้างสูง ทำให้ไม่ค่อยมีการนำมาใช้ทั่วไปมากนัก

ประโยชน์ เนื่องจากกระเทียมดำเป็น พืชสมุนไพร ที่มีราคาแพง ทำให้เป็นที่นิยมในหมู่วงการการแพทย์ และภัตตาคารใหญ่ๆ แต่กระเทียมดำอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญอย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นซีลีเนียม โพแทสเซียม ฯลฯ ที่สำคัญกระเทียมดำยังมีส่วนช่วยในการรักษาควบคุมโรคเบาหวานได้เป็นอย่างดี

สรรพคุณ กระเทียมดำมีส่วนช่วยในการลดน้ำตาลในเลือด และช่วยลดคลอเลสเตอรอลในร่างกายได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังช่วยบรรเทาอาการโรคเบาหวานไม่ให้กำเริบ หรือมีปริมาณน้ำตาลในเลือดสูงเกิน และมีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งได้อีกด้วย

พืชสมุนไพร ต่างๆ นั้นมีส่วนช่วยในการบรรเทาและรักษาโรคต่างๆ มากมาย โรคเบาหวานถึงแม้ว่าจะเป็นโรคที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ อีกทั้งยังเป็นโรคที่เกิดขึ้นเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ เนื่องจากโรคนี้มีความเสี่ยงมาจากการเกิดทางกรรมพันธุ์ ทำให้ยังไม่มีการป้องกันและรักษาได้แบบหายขาดเป็นที่แน่นอน แต่การป้องกันสามารถป้องกันได้ เพียงแค่รู้จักออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และควบคุมการรับประทานอาหารให้พอดี ทานอาหารที่ส่วนของเส้นใย และงดอาหารคาว หวาน ให้น้อยลง เพียงเท่านี้ก็สามารถห่างไกลโรคเบาหวานได้อย่างแน่นอน ถึงแม้โรคนี้จะเป็นโรคที่เกิดขึ้นจากกรรมพันธุ์เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่การป้องกันทั้งทางสมุนไพรเอง และการควบคุมอาหารควบคู่กับการออกกำลังกาย ก็เป็นอีกทางที่จะช่วยยับยั้งการเกิดโรคนี้ได้

บทความนี้เป็นการนำเสนอเกี่ยวกับพืชผักสมุนไพรที่มีส่วนช่วยในการป้องกันและรักษาโรคเบาหวานไม่ให้เกิดขึ้น หรือบรรเทาอาการให้อยู่ระดับซึ่งควบคุมได้ ซึ่งโรคเบาหวานนั้นอย่างที่บอกเป็นโรคที่เกิดขึ้นจากกรรมพันธุ์เสียเป็นส่วนใหญ่ ยารักษาให้หายขาดได้นั้นยังไม่มี แต่การรักษานั้นสามารถบรรเทาและป้องกันได้ เพื่อไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนขึ้น ทางผู้เขียนเล็งเห็นว่าบทความนี้มีส่วนช่วยในการตัดสินใจ และสามารถเป็นความรู้ในระดับเบื้องต้นได้อีกทาง จึงมีการหยิบยกข้อมูลของ พืชสมุนไพร ต่างๆ นี้ขึ้นมา

โฆษณา
AP Chemical Thailand

ขอขอบคุณแหล่งข้อมูลอ้างอิง https://www.honestdocs.co/herbal-garlic-help-disease,https://health.kapook.com/view132250.html,https://health.kapook.com/view91313.html,https://www.sanook.com/health/5885/,https://www.matichonweekly.com/lifestyle/article_22143