ปลาสลิด เลี้ยงปลา ในน้ำจืดแบบหนาแน่น กำไร 1 ล้านบาท!!

โฆษณา
AP Chemical Thailand

ปลาสลิด เลี้ยงปลา ในน้ำจืดแบบหนาแน่น กำไร 1 ล้านบาท!!

จากที่ผ่านมาทาง นิตยสารสัตว์น้ำ ได้เสนอกันไปแล้วในนวัตกรรมในการ เลี้ยงปลา น้ำจืดยังคงถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่องจากเกษตรกรคนไทย ทีมงานจะขอพาไปเจาะลึกกันอีกครั้ง กับนวัตกรรมของเกษตรกรที่ทำให้สามารถ เลี้ยงปลา สลิดได้ประสบผลสำเร็จมากขึ้นกว่าเดิม

ด้วยการเลี้ยงแบบหนาแน่น โดยใช้จุลินทรีย์ประกอบกับการใช้เครื่องตีน้ำ สามารถเลี้ยงปลาสลิดได้หนาแน่นมากขึ้น และทำรายได้ ได้มากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าตัว กับ คุณประยูรณ์ นวลขาว หรือ “น้ายูรณ์” เกษตรกรผู้เลี้ยง ปลาสลิด  บ้านดอนราว ต.โรงเข้ อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร ที่สามารถทำรายได้ในการเลี้ยง ปลาสลิด เพียงรอบเดียวได้ถึง 1,000,000 บาท!!!

ปรึกษาฟรี! หากบอกว่ามาจาก พลังเกษตร.com เรียนรู้การเลี้ยง ปลาสลิด ในน้ำจืดแบบหนาแน่น 

โทร 084-024-3674

1.ปลาสลิด
1.ปลาสลิด

น้ายูรณ์เป็นเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาสลิด ที่เลี้ยงผ่านมาได้เพียง 3 รอบ เท่านั้น แต่วันนี้กลับประสบความสำเร็จในการเลี้ยงรอบที่สาม น้ายูรณ์เปิดเผยว่าก่อนที่จะมาเลี้ยงปลาสลิดนั้น ตนเองเป็นเพียงชาวสวนรับจ้าง เก็บตาลอยู่ในบริเวณ บ้านแพ้ว แต่ด้วยพี่น้อง และเพื่อนหลายๆ คน แนะนำให้ลงทุนเลี้ยงปลาสลิด

จึงได้เข้าร่วมกับ กลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาสลิด บ้านดอนราว อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร ที่กล้าเปลี่ยนวิถี การเลี้ยงปลาสลิด แบบเดิมๆ มาใช้ อาหารปลาสลิดเม็ดลอยของ เบทาโกร จึงทำให้สามารถสร้างรายได้ใน การเลี้ยงปลาสลิด ในแต่ละรอบ ตนเห็นจึงได้เริ่มต้นเลี้ยงปลาสลิดบนพื้นที่ของตนเองขนาด 3 ไร่ และค่อยๆ พัฒนาการเลี้ยงขึ้นมาจนสามารถเลี้ยงได้ประสบความสำเร็จในครอปที่ 3

โฆษณา
AP Chemical Thailand
2.คุณประยูรณ์-นวลขาว-กลาง-และกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาสลิด
2.คุณประยูรณ์-นวลขาว-กลาง-และกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาสลิด

การเตรียมบ่อและคัดเลือกพ่อแม่พันธุ์

การเลี้ยงในเริ่มต้นจะต้องมีการเตรียมบ่อ โดยเริ่มต้นจากการตากบ่อ และลอกเลนก่อน จากนั้นจึงสาดปูน 3 กระสอบต่อ 1 ไร่ เพื่อกำจัดศัตรูของปลา และเพื่อย่อยของเสียเดิมภายในบ่อให้กลายเป็นจุลินทรีย์ ซึ่งจะช่วยให้หญ้าขึ้นไวมากขึ้น จากนั้นทิ้งไว้เป็นระยะเวลา 1 เดือน จึงจะเริ่มนำน้ำเข้าสูงประมาณ 50 เซนติเมตร จึงจะเริ่มนำพ่อแม่ปลาลงบ่อจำนวน 40-50 กิโลกรัม

โดยน้ายูรณ์กล่าวว่า พ่อแม่พันธุ์ ถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดใน การเลี้ยงปลาสลิด เพราะพ่อแม่พันธุ์ที่ดีจะทำให้ได้ลูกปลาปริมาณมาก และมีอัตราการเจริญเติบโตที่ดี โดยจะต้องไปคัดเอาจากบ่อเลี้ยงต่างๆ ในพื้นที่อื่น โดยจะคัดเอาปลาที่มีตัวสวย ซึ่งระหว่างปลาตัวผู้ และปลาตัวเมีย นั้น ต้องเอามาจากคนละแหล่ง

เพราะจะทำให้เกิดปัญหาเลือดชิด และส่งผลให้ปลาไม่โต อีกทั้งเมื่อเลี้ยงไปปลาจะมีลักษณะผิดแปลกจากปกติ ซึ่งพ่อแม่พันธุ์นี้ในแต่ละรอบจะต้องหมุนเวียนเปลี่ยนแหล่งที่ใช้ไปเรื่อยๆ

3.การเลี้ยงปลาสลิดบนพื้นที่ของตัวเองขนาด-3-ไร่
3. การเลี้ยงปลาสลิด บนพื้นที่ของตัวเองขนาด-3-ไร่
4.การเตรียมบ่อและคัดเลือกพ่อแม่พันธุ์
4.การเตรียมบ่อและคัดเลือกพ่อแม่พันธุ์

การปรับน้ำและสร้างแพลงก์ตอนสำหรับอนุบาลลูกปลา

หลังจากนั้นจะเริ่มนำน้ำเข้าบ่อจนสูงถึง 50 เซนติเมตร จากนั้นประมาณ 2 วัน แม่พันธุ์จึงจะเริ่มวางไข่ และเมื่อทิ้งช่วงไปอีกประมาณ 1 สัปดาห์ จะเริ่มเห็นลูกปลาลอยขึ้นมาบนผิวน้ำ จึงจะดึงน้ำเข้าจนเต็มบ่อ และจะเริ่มฟันหญ้า ในช่วง 10 วันแรก เพื่อให้เกิดแพลงก์ตอน สำหรับเป็นอาหารให้กับลูกปลา ระหว่างนั้นก็จะมีการเสริมด้วยอาหารหมู เพื่อเร่งให้แพลงก์ตอนเกิดไวมากขึ้น

 

5.การสร้างแพลงก์ตอนสำหรับเป็นอาหารให้กับลูกปลา
5.การสร้างแพลงก์ตอนสำหรับเป็นอาหารให้กับลูกปลา
6.การให้อาหาร
6.การให้ อาหารปลาสลิด

ให้ อาหารปลาสลิด ในล้อม

หลังจากสร้างแพลงก์ตอนและอนุบาลไปได้เป็นระยะเวลา 1 เดือน นับจากวันที่เริ่มเห็นลูกปลา จึงเริ่มให้ อาหารปลาสลิด เม็ด โดยจะใช้การพายเรือหว่านให้ทั่วบ่อ วันละ 2-3 กิโลกรัม ในช่วงแรก เลี้ยงไปอีกประมาณ1-2 เดือน จึงเริ่มฝึกให้ลูกปลามากินอาหารในล้อม

ซึ่งการให้อาหารในล้อมจะช่วยให้คำนวณการให้ในแต่ละครั้งได้ และทำให้ไม่สูญเสีย อาหารปลาสลิด ที่ใช้มากเกินไป และจะเพิ่มปริมาณการให้อาหารขึ้นเรื่อยๆ ตามขนาดของตัวปลา โดยจะมีทีมนักวิชาการของ เบทาโกร เข้ามาตรวจสอบน้ำ และแนะนำการให้ อาหารปลาสลิด อยู่อย่างสม่ำเสมอ

โฆษณา
AP Chemical Thailand
7.รายได้จากการเลี้ยงปลาสลิดทำกำไรได้มากถึง-1,000,000-บาท
7.รายได้จาก การเลี้ยงปลาสลิด ทำกำไรได้มากถึง-1,000,000-บาท

ความสำเร็จในวิธี การเลี้ยงปลาสลิด แบบหนาแน่น

น้ายูรณ์กล่าวต่อไปว่า บ่อที่ใช้ในการเลี้ยงที่ผ่านมานี้จะมีขนาดอยู่ที่ 3 ไร่ และลงลูกปลาไปทั้งหมด 120,000 ตัว ซึ่งใช้ระยะเวลาในการเลี้ยง 11 เดือน และใช้อาหารไป 1,795 กระสอบ จากเงินลงทุน 700,000 บาท สามารถทำกำไรได้มากถึง 1,000,000 บาท

ในรอบนี้ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมากในการเลี้ยง เพราะด้วยแต่ก่อนในการเลี้ยงปลาจะมีอัตรารอดอยู่ที่ 40-50 % เท่านั้น แต่ในรอบนี้มีอัตรารอดมากถึง 80 % เพราะด้วยการอาศัยเครื่องตีน้ำช่วย และระบบการจัดการบ่อ ที่ทางเบทาโกรเข้ามาส่งเสริม

โดยจะมีการเปลี่ยนถ่ายน้ำ และใช้จุลินทรีย์ ประกอบกับการตีน้ำโดยใช้ใบพัดตีน้ำแขนเดียว ตั้งแต่ช่วง 4 โมงเย็นเป็นต้นไป เพราะอุณหภูมิจะค่อนข้างสูง และเพื่อเสริมอากาศให้ปลาในบ่อ ไปจนถึง 10 โมงเช้า ของอีกวัน จึงทำให้ผลการเลี้ยงในครั้งนี้เป็นที่น่าพึงพอใจอย่างมาก

8.การใช้จุลินทรีย์เพื่อป้องกันการเกิดโรค
8.การใช้จุลินทรีย์เพื่อป้องกันการเกิดโรค

ใช้จุลินทรีย์เพื่อป้องกันการเกิดโรคและรักษาคุณภาพน้ำ

อีกสิ่งที่สำคัญที่ทำให้น้ายูรณ์สามารถ เลี้ยงปลา แบบหนาแน่นได้นั้นก็คือ การเสริมด้วยจุลินทรีย์ เพื่อใช้รักษาคุณภาพน้ำ โดยจะเริ่มใช้ตั้งแต่เริ่มต้นเลี้ยงปลาเล็ก ซึ่งจะช่วยป้องกันโรคตัวดำ และโรคหางพอง ได้เป็นอย่างดี ซึ่งการใช้จุลินทรีย์จะใช้สัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพื่อเข้าไปช่วยย่อยสลายของเสีย และทำให้คุณภาพน้ำเหมาะสมกับการ เลี้ยงปลา ที่หนาแน่นมากขึ้นด้วย

9.ข้อดีจากการใช้อาหารปลาสลิดเม็ดลอยเบทาโกร
9.ข้อดีจากการใช้อาหารปลาสลิดเม็ดลอยเบทาโกร

 ข้อดีที่เห็นได้ชัดจากการใช้อาหารปลาสลิดเม็ดลอย เบทาโกร

  • เลี้ยงได้ง่ายมากขึ้น
  • ได้ผลผลิตดีขึ้น
  • ใช้ระยะเวลาเลี้ยงสั้นลง
  • ประหยัดต้นทุน และคำนวณการให้อาหารในแต่ละวันได้
  • และที่สำคัญสามารถสร้างผลกำไรได้ดีขึ้นกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด

หากเกษตรกรท่านใดสนใจรูปแบบการเลี้ยง หรือผลิตภัณฑ์อาหาร สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) โทร 084-024-3674 โทร.02-816-5011

ปลาสลิด  การเลี้ยงปลาสลิด อาหารปลาสลิด เลี้ยงปลาสลิด พันธุ์ปลาสลิด เลี้ยงปลาสลิดในบ่อปูน ปลาสลิดแดดเดียว ปลาสลิดบางบ่อ เลี้ยงปลาสลิดในกระชัง

โฆษณา
AP Chemical Thailand