ชาวไก่เนื้อชัยนาท ลูกเล้า PPF ติดตั้ง “แอร์โรฟอยล์” กำไรเยอะ

โฆษณา
AP Chemical Thailand

เทคนิค ‘เลี้ยงไก่เนื้อ’ อย่างถูกต้อง เพื่อให้ไก่มีสุขภาพดี สมบูรณ์ แข็งแรง ปลอดโรค FCR ได้ตามมาตรฐาน โดยการพิถีพิถันคัดเลือกพ่อแม่พันธุ์, เรื่องอาหาร, ยา/วิตามิน ที่ผู้เลี้ยงต้องให้ความสำคัญ เพียงแค่นั้นคงยังไม่เพียงพอ แต่ต้องรวมถึงการควบคุมดูแล ‘อุณหภูมิ’ ภายในโรงเรือน หรือในฟาร์มเลี้ยง ก็ถือเป็นเรื่องสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน

ปัจจุบันเจ้าของฟาร์มปศุสัตว์ทั้งรายย่อยและรายใหญ่เชื่อมั่น และไว้วางใจในการเลือกใช้แบรนด์ AEROFOIL (แอร์โรฟอยล์) ฟอยล์หรือแผ่นสะท้อนความร้อน คือ หนึ่งในนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ควบคุมอุณหภูมิในโรงเรือน ที่เกษตรกร หรือเจ้าของฟาร์มปศุสัตว์ นิยมเลือกใช้มากที่สุด คือ เคล็ดลับสำคัญในการเลี้ยงสัตว์ในฟาร์มให้สมบูรณ์ แข็งแรง จับขายราคาดี มีกำไรสูง

1.ไก่เนื้อชัยนาท01

สภาพพื้นที่เลี้ยงไก่เนื้อ

คุณบุญลือ นาควัน อดีตทำไร่ ทำนา แต่ปัจจุบันผันตัวเองมาเป็นเจ้าของฟาร์มไก่เนื้อ ในพื้นที่ ต.ธรรมามูล อ.เมือง จ.ชัยนาท คือ อีกหนึ่งเสียงผู้ใช้จริง! จากประสบการณ์กว่า 10 ปี ในอาชีพและธุรกิจนี้ เลี้ยงในระบบ ‘อีแวป’ ที่ได้มาตรฐานทั้งหมด ภายใต้รูปแบบคอนแทรคฟาร์มมิ่ง (Contract Farming) มาโดยตลอด ปัจจุบันคอนแทรคฯ กับ PPF หรือ บริษัท ไพโรจน์ โพลทรีย์ ฟู้ด พิษณุโลก จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่มีอุดมการณ์อันแน่วแน่ในการส่งเสริมลูกเล้าที่ซื่อสัตย์ให้มีกำไร เพื่อเป็นคู่ค้าที่ดีต่อกัน

ปัจจุบันคุณบุญลือเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ ‘แอร์โรฟอยล์’ ช่วยสะท้อนความร้อนและรักษาอุณหภูมิภายในโรงเรือนไก่ ผลตอบรับคือ สภาพอากาศถ่ายเทดี ไม่ร้อนและเย็นเกินไป ไก่กินอิ่ม นอนหลับ FCR สมบูรณ์ แข็งแรง ขายราคาดี โดยฟาร์มไก่เนื้อของคุณบุญลือมีพื้นที่ประมาณ 6 ไร่ จำนวน 3 โรงเรือน มี 2 โรงเรือนเล็ก (กว้าง 12 เมตร, ยาว 100 เมตร) และ 1 โรงใหญ่ (กว้าง 22 เมตร, ยาว 100 เมตร) โดยปล่อยเลี้ยงไก่เนื้อโรงเรือนเล็กรวม 24,000 ตัว  (โรงละ 12,000 ตัว) และโรงเรือนใหญ่ปล่อยเลี้ยงไก่จำนวน 24,000 ตัว โดยระยะเวลาเลี้ยงไก่รุ่นๆ ละประมาณ 42 วัน

2.ไก่เนื้อชัยนาท02

ลูกค้า “PPF” ถูกใจคอนแทรคฟาร์มมิ่ง ดูแลทุกขั้นตอน – ซื้อกลับ 100% !!

คุณบุญลือเล่าให้ฟังว่า ค่อยๆ พัฒนาและเพิ่มจำนวนการเลี้ยงไก่เนื้อมาตลอดระยะเวลาดังกล่าว ปัจจุบันรู้สึกประทับใจที่ได้ทำคอนแทรคฟาร์มมิ่งกับ ‘PPF’ โดยบริษัทคอยดูแลสนับสนุนเรื่องลูกไก่ (ระยะหลังฟักออกจากไข่ 1-2 วัน นำมาจัดส่งให้ถึงหน้าฟาร์ม นำมากกต่อ), เรื่องอาหาร ยา/วัคซีน ให้ตนเองได้เป็นอย่างดี และรับซื้อกลับทั้งหมดในราคาที่พึงพอใจ เรื่องการบริหารจัดการในฟาร์ม คุณบุญลือปล่อยเลี้ยงไก่ต่อตัว ยกตัวอย่าง ถ้าคละเพศจะอยู่ที่ 11 ตัว/ตารางเมตร ถ้าเป็นตัวผู้จะอยู่ที่ 10 ตัว/ตารางเมตร และตัวเมียอาจจะถึง 12 ตัว/ตารางเมตร ซึ่งการเจริญเติบโตของเพศผู้จะไวกว่าเพศเมีย ส่วนการเลี้ยงรูปแบบคละเพศน้ำหนักไก่ก็เยอะ ซึ่งโดยรวมคือ เลี้ยงรูปแบบดังกล่าวนี้ ไก่เนื้อเจริญเติบโตรวดเร็วดี

“เรามั่นใจในคุณภาพลูกไก่ของ PPF โดยหลังจากได้ลูกไก่มา ขั้นตอนคร่าวๆ คือ เอาลูกไก่มาลงในโรงเรือน ซึ่งต้องทำที่กั้น เพื่อกั้นให้ลูกไก่อยู่เฉพาะ จากนั้นเอาแก๊สกกของร้อนเล็กๆ เป็นระบบฮีทเตอร์กกความร้อน ทำแค่นั้นจะช่วยให้ลูกไก่มีสภาพแข็งแรง มีอัตรารอดสูง โดยระยะเวลากกอยู่ที่ประมาณ 5 วัน ในอุณหภูมิประมาณ 32 หรือ 34 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นช่วงไก่เล็ก ต่อจากนั้นเมื่อสังเกตเห็นลูกไก่โตขึ้น จึงค่อยขยับเลี้ยงปล่อยมากขึ้น

โฆษณา
AP Chemical Thailand

3.ไก่เนื้อชัยนาท03

เลี้ยงตามโปรแกรม ไก่โต..ไร้โรค กำไรทุกรุ่น

ในส่วน ‘อาหาร’ คุณบุญลือ ใช้ของ ‘PPF’ ภายใต้โปรแกรมการให้ตามที่บริษัทกำหนด ยกตัวอย่างเช่น เริ่มจากอาหารไก่เล็กตั้งแต่อายุ 1-20 วัน ใช้เบอร์ 1 ส่วนเบอร์ไก่รุ่น ให้ตั้งแต่ 20-30 วัน แต่โดยส่วนใหญ่อาหารในโรงเรือนเป็นระบบออโต้ฟีดเกือบทั้งหมด นอกจากนี้ก็มีให้ ‘วิตามินและยา’  เช่น ทำวัคซีนป้องกันโรคนิวคาสเซิล ไข้หวัดใหญ่ โรคทางเดินหายใจ โดยทำใน 8 วันแรกของการกกลูกไก่ ต่อไปก็นับไปอีก 14 วัน หรือเลี้ยงไปได้อีกประมาณ 18-20 วัน ทำวัคซีนอีกครั้ง หรืออาหารเสริม เช่น จำพวกโปรตีนสำเร็จรูปผสมน้ำ เพื่อเพิ่มให้ไก่ได้น้ำหนัก โดยที่การเลี้ยงรุ่นที่ผ่านๆ มา FCR เฉลี่ยอยู่ที่ 1.59 ตลอดจนทางโรงเรือนจะมีทีมสัตวแพทย์ประจำที่คอยเข้ามาช่วยดูแลให้ด้วย ภายใต้โปรแกรมการเลี้ยงและคอนแทรคฯ ของ ‘PPF’ อีกด้วย

โดยอย่างที่เกริ่นไปข้างต้น คุณบุญลือออกแบบโรงเรือนเลี้ยงในระบบ Evap (Evaporative Cooling System) ทั้ง 3 โรงเรือน แบบ 100% และยังเสริมคุณภาพด้วย AEROFOIL (แอร์โรฟอยล์) ฟอยล์หรือแผ่นสะท้อนความร้อน โดยคุณบุญลือบอกว่า เรื่องอุณหภูมิมีผลเยอะ เพราะว่าถ้าร้อนหน่อยจะส่งผลให้ไก่หอบ ไม่ค่อยกินอาหาร เสี่ยงต่อการที่ไก่จะเครียด และกระทบทำให้การเจริญเติบโตไม่เป็นไปตามโปรแกรมที่เลี้ยง

“ช่วงหน้าร้อน ยิ่งต้องให้ความสำคัญ เรื่องอุณหภูมิในโรงเรือน พวกระบบ Cooling Pad (คูลลิ่งแพด) พัดลมแต่ละจุดต้องทำงานสัมพันธ์กันให้มีประสิทธิภาพ ให้อากาศได้หมุนเวียนตลอดเวลา ทั้งนี้อุณหภูมิต่อการเลี้ยงไก่ก็จะต้องปรับเปลี่ยนไปตามช่วงอายุการเติบโตของไก่ด้วย อาทิ ช่วงกกก็อยู่ที่ประมาณ 32-34 องศาฯ ระยะต่อไปก็อยู่ที่ 30 องศาฯ ซึ่งเป็นระยะที่ไก่โตเริ่มจะกกแล้ว”

ย้อนกลับไปช่วงที่โรงเรือนของคุณบุญลือยังไม่ได้ใช้ผลิตภัณฑ์แอร์โรฟอยล์ โดยบอกว่า ใช้ผ้าพีวีซี แต่เจอปัญหาเยอะมาก โดยผ้าพีวีซีหย่อนบ้าง หดตัวบ้าง และขาดง่าย ไม่คงทน และไม่สามารถควบคุมอุณหภูมิได้เลย พออากาศร้อนจัด ส่งผลต่อไก่ เกิดความเครียด ไม่กินอาหาร ทำให้อัตราการเจริญเติบโตน้อยลง กรณีเลวร้ายสุดๆ คือ ไก่น็อคและตาย

4.ไก่เนื้อชัยนาท04

เลือก “แอร์โรฟอยล์” เนรมิตอุณหภูมิตามต้องการ คน-ไก่ มีสุข กินอิ่ม นอนหลับ

จนกระทั่งได้มารู้จักและได้รับคำแนะนำจากบุคลากรของบริษัท จึงตัดสินใจเปลี่ยนมาใช้ แอร์โรฟอยล์ โดยพอเริ่มติดตั้งก็สังเกตเห็นผลการใช้ที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยข้างในโรงเรือนเย็นขึ้น มันปรับอุณหภูมิได้ง่าย พัดลมก็เปิดได้น้อยตัว ช่วยประหยัดพลังงานค่าไฟ“ด้านการติดตั้งแอร์โรฟอยล์ก็ติดตั้งง่าย ทำทีเดียวจบ ไม่ต้องปะ ไม่ต้องซ่อมบ่อย ใช้งานก็ไม่หดตัว ลมมามันก็ไม่กระเพื่อม สะท้อนความร้อนดี สามารถควบคุมอุณหภูมิได้ตามความต้องการ ซึ่งของผมตั้งมาตรฐานเอาไว้ที่ 29 องศาฯ ไก่ไม่เครียด กินอาหารดี สามารถเจริญเติบโตได้ดี และเราก็สามารถฟีดอาหารได้ตามที่เราต้องการ ซึ่งปัจจุบันก็ติดตั้งแอร์โรฟอยล์ทั้ง 3 โรงเรือน” คุณบุญลือ ยืนยัน

เมื่อถามถึงยังกังวลอะไรอีกมั๊ย หลังจากเปลี่ยนมาใช้ แอร์โรฟอยล์ โดยคุณบุญลือเผยว่า ยังคงต้องระมัดระวังเรื่องของโรคระบาด ซึ่งปัจจุบันก็มีมาตรการพ่นสเปรย์ฆ่าเชื้อสำหรับรถและคนที่เข้า-ออกฟาร์มเป็นประจำอยู่แล้ว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรถขนส่งอาหารและขนแกลบมาให้ที่หน้าฟาร์ม ส่วนเรื่องอื่นๆ ก็จะเป็นการควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่าย เช่นหลักๆ คือ ค่าไฟ ซึ่งหากคำนวณง่ายๆ จำนวนไก่ x 2 บาท (ต้นทุนการเลี้ยงไก่ 2 บาท/ตัว เป็นต้น) ทั้งนี้ในการติด แอร์โรฟอยล์ ซึ่งถือว่าช่วยได้เยอะ แต่ก็มีแผนที่คิดจะติดตั้งโซลาเซลล์ ในอนาคตด้วยเช่นกัน

โฆษณา
AP Chemical Thailand

“ส่วนตัวผมพอใจที่เลือกใช้ แอร์โรฟอยล์ เพราะเห็นผลในเรื่องของประสิทธิภาพ การควบคุมอุณหภูมิให้เป็นไปตามความต้องการ ไก่เติบโตดี กินอาหารเก่ง ตายน้อย รอดเยอะ ขายได้ราคา รวมถึงการเลี้ยงไก่เนื้อในรูปแบบคอนแทรคฟาร์มมิ่ง เพราะไม่ต้องคิดอะไรมาก ซึ่งทาง PPF ดูแลในทุกๆ ขั้นตอน และรับซื้อกลับทั้งหมดแทบจะ 100% เลี้ยงเสร็จก็พักเล้า 24 วัน ทำความสะอาด พ่นฆ่าเชื้อ เตรียมความพร้อมโรงเรือนเพื่อเลี้ยงในรุ่นต่อไป

ผมมองว่าจากประสบการณ์มี 2 เรื่อง ที่ควรบริหารจัดการให้ดี คือ 1.การสร้างระบบการเลี้ยงให้มีมาตรฐาน และ 2.การบริหารจัดการภายในโรงเรือน ซึ่งก็คือเรื่องของอุณหภูมิ หากผู้เลี้ยงสามารถบริหาร 2 สิ่งนี้ได้ดี ผลผลิตไก่เนื้อย่อมออกมาดี เป็นที่น่าพอใจแน่นอน ทั้งนี้ใครที่สนใจเรื่องการบริหารฟาร์มไก่เนื้อ เทคนิคการเลี้ยงต่างๆ สามารถติดต่อมาพูดคุยกับผมได้ ยินดีให้คำปรึกษา แชร์ประสบการณ์กันได้ครับ”

ขอขอบคุณ ฟาร์มไก่เนื้อคุณบุญลือ นาควัน ที่อยู่189 หมู่ 5 ต.ธรรมามูล อ.เมือง จ.ชัยนาท 17000 โทร.088-176-1490

สนใจผลิตภัณฑ์แอร์โรฟอยล์ โทร.02-805-3616-20

สนใจเข้าร่วมโครงการเลี้ยงไก่เนื้อ กับ PPF โทร.086-565-6665

อ้างอิง : นิตยสารสัตว์บก ฉบับที่ 364