ลดกลิ่นและแมลง ด้วยนวัตกรรมอะตอมมิคคาร์บอนจากญี่ปุ่น อะตอมมิคคาร์บอน (Organic Carbon / Atomic Carbon)

โฆษณา
AP Chemical Thailand

คาร์บอนคืออะไร

คาร์บอนเป็นธาตุอันดับที่ 14 มีอิเล็กตรอนรวม 14 ตัว โดยเป็นอิเล็กตรอนวงนอกสุดหรือเวเลนซ์อิเล็กตรอนจำนวน  4 ตัว ซึ่งทำให้มันสามารถจับคู่กับอะตอมอื่นโดยใช้อิเล็กตรอนร่วมกันได้ 4 พันธะ อย่างไรก็ตาม ในการศึกษาคาร์บอนของนักเคมีปัจจุบัน พบว่า มีความเป็นไปได้ที่คาร์บอนสามารถสร้างพันธะได้เพิ่มขึ้นเป็น 6 พันธะด้วยกัน สำหรับเพชรซึ่งมีความแข็งแกร่งมากที่สุด เกิดจากการจับตัวเรียงกันของคาร์บอนล้วนๆ อย่างเป็นระเบียบและมีพันธะโควาเลนต์ที่เหนียวแน่นบนแขนทั้งสี่ของคาร์บอน มันจึงแข็งกว่าแกรไฟต์ที่พบในไส้ดินสอ ส่วนคาร์บอนในแกรไฟต์เรียงตัวเป็นวงหกเหลี่ยม และแม้จะมีพันธะโควาเลนต์เชื่อมต่อระหว่างอะตอม แต่พันธะที่เกิดขึ้นมีแค่ 3 พันธะ ยังเหลืออิเล็กตรอนว่างหนึ่งตัว จึงทำให้มันสามารถนำไฟฟ้าได้ ซึ่งแลกมาด้วยความแข็งแรงที่ลดลง มันจึงเปราะบางกว่ามาก

1.อะตอมมิคคาร์บอน01

คาร์บอนสำคัญอย่างไร และเข้าไปอยู่ในส่วนต่างๆ ของสิ่งมีชีวิตได้อย่างไร

หากจะนึกถึงสิ่งที่ใกล้เคียงความเป็นจริงที่พบในแต่ละวันมากที่สุด คงต้องอ้างอิงถึงคาร์บอนที่อยู่ในก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ก๊าซที่เราหายใจออกมาในแต่ละครั้ง สิ่งมีชีวิตไม่ว่าพืชหรือสัตว์ต่างปล่อยก๊าซชนิดนี้ออกมาระหว่างการหายใจ ใช่แล้ว…พืชเองก็ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาเมื่อมันต้องการหายใจ แต่โดยปกติแล้วจะเกิดขึ้นในเวลากลางคืน สำหรับช่วงกลางวันที่พืชมุ่งเน้นที่การสังเคราะห์แสงเพื่อผลิตอาหารเก็บไว้ใช้นั้น พวกมันจะดูดเอาก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เข้าไปแทน มันแยกเอาคาร์บอนเก็บเอาไว้และปล่อยออกซิเจนออกมา จึงเรียกได้ว่าคาร์บอนเป็นตัวกลางเชื่อมต่อระหว่างพืชและสัตว์

เมื่อสัตว์และพืชตายลง คาร์บอนที่มีอยู่ก็ถูกฝังทับถมลงไปในดินด้วย และเมื่อเวลาผ่านไป ดินที่ทับถมอัดแน่น เจอกับแรงดัน และความร้อน ได้ถูกบีบอัดให้กลายเป็น น้ำมันดิบ ถ่านหิน และก๊าซธรรมชาติ แหล่งพลังงานเหล่านี้จึงเป็นเหมือนหีบสมบัติที่มีคาร์บอนอัดอยู่เต็มไปหมด และเมื่อมนุษย์ขุดเอาเชื้อเพลิงฟอสซิล (Fossil Fuel) เหล่านี้ขึ้นมาเพื่อใช้งาน คาร์บอนก็ถูกปล่อยกลับสู่อากาศอีกครั้งในรูปแบบของก๊าซที่ได้จากการเผาไหม้ อย่างคาร์บอนไดออกไซด์และคาร์บอนมอนนอกไซด์ เป็นต้น

คาร์บอนเป็นทุกๆ สิ่งของสิ่งมีชีวิต มันเป็นทุกๆ ลมหายใจของเรา มันเป็นแหล่งอาหารของเรา เช่น คาร์โบไฮเดรตและโปรตีน ทั้งยังเป็นส่วนหนึ่งของหน่วยพันธุกรรม หรือ DNA ของเราด้วย รวมถึงโครงสร้างโลหะที่แข็งแรงที่มนุษย์ใช้อย่างแพร่หลายในปัจจุบัน ก็เกิดจากเหล็กที่เราแทรกอะตอมคาร์บอนเข้าไปเพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้มันจนกลายเป็นเหล็กกล้า (Steel) ถึงตรงนี้จึงกล่าวได้ว่า คาร์บอนไม่เพียงแต่เป็นองค์ประกอบของถ่าน ไส้ดินสอ และเพชร แต่ยังเป็นองค์ประกอบพื้นฐานของทุกชีวิตและองค์รวมโดยรอบของชีวิตอีกด้วย (ที่มา https://www.trueplookpanya.com)

ประเภทของคาร์บอน

หากแบ่งประเภทการจับตัวของคาร์บอน แบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ

1.Crystal Carbon คือ คาร์บอนที่มีการจับตัวในรูปแบบที่มีโครงสร้างหรือรูปร่างที่ชัดเจน เช่น กราฟไฟท์ เพชร

โฆษณา
AP Chemical Thailand

2.Amorphous Carbon คือ คาร์บอนที่มีการจับตัวแบบไม่สมบูรณ์ ไม่มีรูปร่าง ไม่มีโครงสร้างแบบ

ชัดเจน ซึ่งสามารถแยกได้เป็น 2 ประเภทคือ

2.1 Microcrystal type เป็นการจับเป็นโครงสร้างในระดับไมโคร เช่น actived carbon ซึ่งเรารู้จักกันเรียกว่าคาร์บอนกัมมันต์ ที่ใช้ในระบบกรองน้ำ หรือกรองอากาศ

2.2 Non-crystal type เป็นการจับแบบไร้รูปร่าง เป็นคาร์บอนอินทรีย์แบบ100 % หรือเรียกกันว่า อะตอมมิคคาร์บอน

2.อะตอมมิคคาร์บอน02

ที่มา https://jvsf.vn/en/organic-carbon/

อะตอมมิคคาร์บอน (Organic Carbon / Atomic Carbon)

เป็นนวัตกรรมใหม่จากประเภทญี่ปุ่น โดยการสกัดคาร์บอนให้มีขนาดเล็ก ไร้รูปร่าง ซึ่งมีขนาดเล็กมากเพียง 0.16 นาโนเมตร ด้วยอนุภาคที่เล็กมากของคาร์บอนทำให้รวมตัวกับออกซิเจนกับไฮโดรเจนได้ง่ายแล้วแปลงสภาพเป็นน้ำตาลและเซลลูโลสได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังสามารถย่อยสลายแอมโมเนียและสลายไนเตรตได้อย่างมีประสิทธิภาพ และที่สำคัญยังช่วยสร้างเอนไซม์ กรดอะมิโน และโปรตีน ทำให้พืชมีการเจริญเติบโตได้ดี และเสริมภูมิคุ้มกันได้อีกด้วย

โฆษณา
AP Chemical Thailand

คุณสมบัติทางกายภาพเคมีของอะตอมมิคคาร์บอน

จากผลการทดสอบจากกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของญี่ปุ่น พบว่าเมื่ออนุภาคอินทรีย์คาร์บอนละลายในน้ำ จะมีอะตอมมิคคาร์บอนประมาณ 34 ล้านตัว ละลายในน้ำ 1 มิลลิลิตร ซึ่งขนาดอะตอม 0.16 นาโนเมตร สามารถเจาะแทรกซึมเข้าไปในโครงสร้างและสร้างหรือเกิดปฏิกิริยาต่างๆ สร้างความสมดุลทางธรรมชาติได้โดยง่าย จึงทำให้มีคุณสมบัติที่ต่างจากคาร์บอนทั่วไปดังนี้

อะตอมมิคคาร์บอน คาร์บอนแบบอื่น
ค่าความเป็นด่างสูง มีความเป็นด่างไม่มาก
อนุภาคขนาดเล็กระดับอะตอม อนุภาคขนาดใหญ่ ระดับโมเลกุล
การจับตัวการไร้รูปแบบ โครงสร้าง มีการจับตัวกันเป็นโครงสร้าง มีรูปแบบ
นำไฟฟ้า ไม่นำไฟฟ้า
ง่ายต่อการแพร่กระจายในน้ำ ละลายน้ำได้ ไม่ละลายน้ำ ป้องกันน้ำ
ไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิต สามารถทาน และสัมผัสได้ บางประเภทมีอันตรายต่อสิ่งมีชีวิต

หลายคนเข้าใจผิดเกี่ยวกับคาร์บอน ซึ่งคาร์บอนกัมมันต์ (activated carbon) กับ อะตอมมิคคาร์บอน (Atomic carbon) มีความแตกต่างกันมาก

คาร์บอนกัมมันต์ ที่เราเห็นทั่วไป ในระบบกรองน้ำ ระบบกรองอากาศ พื้นผิวของคาร์บอนกัมมันต์จะประกอบด้วยรูพรุนจำนวนมาก ซึ่งทำให้มีพื้นที่ผิวที่มากขึ้น เพื่อให้มีความสามารถในการดูดซับกลิ่นและสารต่างๆ ได้ดี มักถูกนำไปใช้ในหลายงาน เช่น

1.ระบบบำบัดน้ำ : เพื่อดูดซับสารสีและกลิ่นไม่พึงประสงค์ในน้ำ

2.การกรองอากาศ : เพื่อดูดซับกลิ่น, สารต้านทาน หรือสารพิษในอากาศ

3.การสกัดสารพิษในกระบวนการอุตสาหกรรม : เช่น การกำจัดสารเคมีจากอาหารหรือของเสีย

โฆษณา
AP Chemical Thailand

4.การใช้ในการผลิตแบตเตอรี : เพื่อช่วยในกระบวนการเกิดไฟฟ้า

5.การใช้ในการแพทย์ : เพื่อรักษาการสัมผัสกับสารพิษ

3.อะตอมมิคคาร์บอน03

ภาพ (a) ภาพขยายของคาร์บอนกัมมันต์ (Actived carbon)

ส่วนอะตอมมิคคาร์บอน (Atomic carbon) จะเป็นอนุภาคที่มีขนาดเล็กมากเพียง 0.16 นาโนเมตร ซึ่งเล็กกว่าคาร์บอนกัมมันต์หลายเท่า และเนื่องจากอะตอมมิคคาร์บอนมีขนาดเล็กและมีอนุภาคเป็นอะตอมจึงสามารถแทรกซึมเข้าไปประกอบกับโมเลกุลอื่นๆ ได้ง่าย และเร็วกว่า ทำให้ลดกลิ่นได้อย่างรวดเร็วกว่าคาร์บอนกัมมันต์ และยังสามารถรวมตัวกับออกซิเจน และไฮโดรเจนได้ง่าย ช่วยเร่งปฏิกิริยาการเกิดไนโตรเจน และโพแทสเซียมในดิน ซึ่งช่วยเพิ่มผลผลิตในการปลูกพืชได้ด้วย

4.อะตอมมิคคาร์บอน04

ภาพ (b) ภาพขยายของอะตอมมิคคาร์บอน

5.อะตอมมิคคาร์บอน05

ประโยชน์ของอะตอมมิคคาร์บอน

1.ช่วยเสริมสร้างอนุมูลอิสระ อนุมูลอิสระเป็นสารที่เกิดจากการเผาผลาญพลังงานของร่างกาย ที่มี

โฆษณา
AP Chemical Thailand

โครงสร้างที่ไม่สมดุลกัน หากมีจำนวนมากๆ ทำให้ร่างกายเสียความสมดุล ส่งผลให้เยื่อหุ้มเซลล์ในร่างกายเกิดการอักเสบและเสื่อมลงได้ หากเป็นสัตว์จะป่วยง่าย และตายเร็ว

2.เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และให้ร่างกายเจริญเติบโตได้อย่างรวดเร็ว

3.กำจัดกลิ่น และลดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์

4.ลดต้นเหตุการเกิดก๊าซ ในระบบการย่อยอาหาร

5.ปรับความเป็นกรดในกระเพาะอาหาร

6.ลดจำนวนแมลงวัน และยุง ในฟาร์ม

โฆษณา
AP Chemical Thailand

7.ปรับความสมดุลในดิน ช่วยดินมีแร่ธาตุมากขึ้น

8.เกิดการย่อยสลายของซากต่างๆ ในดินได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีความสมบูรณ์ยิ่งขึ้น

ทำความรู้จักเนมา และวิธีการใช้

6.อะตอมมิคคาร์บอน06

Nema1 คือ อะไร

เนมาวัน (ซองฟ้า) เป็นผงสกัดอะตอมมิคคาร์บอน ชนิดผง ละลายน้ำก่อนใช้งาน

นวัตกรรมจากประเทศญี่ปุ่น

คุณสมบัติ ของ Nema1

โฆษณา
AP Chemical Thailand
  • มีความเป็นด่างสูง
  • ดับกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • เป็นผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ ไม่ใช้สารเคมี ไม่ใช่จุลินทรีย์

7.อะตอมมิคคาร์บอน07

ใช้ฉีดพ่นทั่วไปภายในฟาร์ม ช่วยในการกำจัดกลิ่น ลดจำนวนแมลงวัน และยุง

วิธีการใช้  ผสมผงเนมาวัน 10-15 กรัม หรือ 2-3 ช้อนชา ต่อน้ำ 10 ลิตร คนให้เข้ากัน และนำไปใส่ที่ฉีดพ่น สามารถพ่นได้ 100 ตารางเมตร

-ฉีดพ่น 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ในสัปดาห์แรก และลดจำนวนลงเหลือ 1-2 ครั้ง ในสัปดาห์ต่อไป

-ฉีดพ่น ในบริเวณที่มีของเสีย ที่มีน้ำขัง และที่มีกลิ่นเหม็น  เข่น พื้นคอก ทางเดิน โรงนอน ที่เก็บของเสีย บ่อบำบัดของเสีย

-สามารถฉีดพ่น โดยตรงกับสัตว์เลี้ยง คน และพืช โดยไม่เป็นอันตรายใดๆ

-สามารถฉีดพ่น ไปที่รางอาหาร อ่างน้ำดื่ม ได้ โดยไม่เป็นอันตรายใดๆ ต่อสัตว์เลี้ยง

8.อะตอมมิคคาร์บอน08

ใช้ในการหมักปุ๋ยคอก   เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของปุ๋ย

วิธีการใช้  ผสมผงเนมาวัน 1 กิโลกรัม ต่อน้ำ 100 ลิตร คนให้เข้ากัน แล้วราดหรือสเปรย์ ไปที่มูล

โฆษณา
AP Chemical Thailand

สัตว์ให้ทั่ว ทำการหมักทิ้งไว้ 30-45 วัน จะได้ปุ๋ยคอกที่มีประสิทธิภาพที่มีแหล่งแร่ธาตุที่มีความจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืชได้อย่างดี หากต้องการลดแมลงวัน ลดกลิ่น แต่ไม่ต้องการหมัก ให้ทำตามวิธีการใช้แบบกำจัดกลิ่น โดยพ่นสเปรย์ให้ทั่ว สัปดาห์ละ 3 ครั้ง ในสัปดาห์แรก และลดจำนวนลงเหลือ 1-2 ครั้ง ในสัปดาห์ต่อไป

9.อะตอมมิคคาร์บอน09

Nema2 คือ อะไร

เนมาทู (ซองน้ำตาล) คือ อะตอมมิคคาร์บอน นวัตกรรมใหม่จากประเทศญี่ปุ่นเหมือนกับเนมาวัน แต่มีการปรับปรุงด้านสัดส่วนวัตถุดิบ ทำให้มีคุณสมบัติในการบำรุงดินมากกว่า

คุณสมบัติ ของ Nema2

  • ปรับค่า pH ของดินให้เป็นกลาง ช่วยลดกลิ่น ขับไล่แมลงที่เป็นอันตรายต่อพืช
  • ช่วยฟื้นฟู และเพิ่มการเจริญเติบโตของกรดอะมิโน
  • ช่วยเพิ่มปริมาณจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์
  • มีความเป็นด่างสูง pH>8
  • ดับกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • เป็นผลิตภัณฑ์ธรรมชาติ ไม่ใช้สารเคมี หรือยาฆ่าแมลง ไม่ใช่จุลินทรีย์

10.อะตอมมิคคาร์บอน10

วิธีการใช้

การใช้เนมาทู กับพืชมีหลายแบบ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญของบริษัทโดยตรง

สำหรับพืชโดยทั่วไป ให้ผสมผงเนมาทู ต่อน้ำ ในสัดส่วนที่เท่ากัน ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที และนำไปรด หรือสเปรย์ที่แปลง

โฆษณา
AP Chemical Thailand

สนใจติดต่อ-สอบถาม บริษัท อัลฟ่าพลัส คอร์เปอร์เรชั่น จำกัด  086-641-5151 พลเขตร ศรีขจรลาภ 099-535-5396 Email : [email protected] แอดไลน์  สแกนคิวอาร์โค้ด

11.อะตอมมิคคาร์บอน11

อ้างอิง : นิตยสารสัตว์บก ฉบับที่ 370