เลี้ยง… หมูแคระพอตเบลลี่ รายได้ดี เพราะตลาดต้องการ

โฆษณา
AP Chemical Thailand

ปัจจุบันนอกจาก สุนัข และ แมว ที่เป็นสัตว์เลี้ยงคู่ใจของมนุษย์แล้ว แต่เราอาจจะได้เห็นสัตว์ในภาคเกษตร อย่าง ไก่ เป็ด หรือ ห่าน ที่เลี้ยงเพื่อเก็บไข่ กลายมาเป็นสัตว์เลี้ยงเพื่อความสวยงาม ที่ยังสามารถสร้างรายได้เสริมได้ สำหรับสัตว์ภาคเกษตรที่ทีมงานสัตว์บกจะพาไปรู้จักนี้ คือ หมูแคระพอตเบลลี่ หรือ หมูแคระเวียดนาม (Vietnames Pot Belly) ที่เลี้ยงเพื่อความสวยงาม เพลิดเพลินแล้ว ยังสามารถเลี้ยงเป็นอาชีพเสริม ที่กลายมาเป็นอาชีพหลักได้

1.คุณสุชาติ โคตรฉัยยา เจ้าของ ฟาร์มหมูแคระขอนแก่น
1.คุณสุชาติ โคตรฉัยยา เจ้าของ ฟาร์มหมูแคระขอนแก่น

จุดเริ่มต้นการเลี้ยง หมูแคระพอตเบลลี่

คุณสุชาติ โคตรฉัยยา หรือ คุณมอส เจ้าของ ฟาร์มหมูแคระขอนแก่น ที่เริ่มเลี้ยงหมูแคระจากความชอบส่วนตัว จนกลายมาเป็นอาชีพเสริม ที่มีรายได้เลี้ยงครอบครัวได้ จนปัจจุบันได้กลายมาเป็นอาชีพหลัก ที่สร้างรายได้นับแสนต่อรอบการผลิต

คุณมอสเผยว่า ก่อนจะมาทำฟาร์มหมูแคระ เดิมตนเองขายของตามตลาดนัด แต่ขายไม่ค่อยดีเท่าที่ควร จึงเริ่มจากลองสั่งซื้อหมูแคระมาเลี้ยง 2 ตัว เป็นตัวผู้กับตัวเมีย หลังจากนั้นคลอดลูกมา เริ่มมีคนสนใจติดต่อขอซื้อ ทำให้เกิดความคิดว่าทำอย่างไรถึงจะมีหมูขายเยอะๆ จึงเป็นที่มาของการทำฟาร์มหมูแคระ

“ผมเห็นหมูสายพันธุ์นี้จากอินเตอร์เน็ต เห็นว่ามันน่ารักดี ดูแตกต่างจากหมูทั่วไป เริ่มแรกผมซื้อเป็นลูกหมูมา 2 ตัว จากฟาร์มที่ภาคกลาง ตั้งใจเลี้ยงเล่นๆ เพื่อความสวยงาม หลังจากนั้นก็มีลูกหมูคลอดออกมา 11 ตัว ผมเลยลองไปโพสขายในอินเตอร์เน็ต แล้วมีคนสนใจขอซื้อ ผมเห็นว่ามันก็ขายได้ จึงเริ่มทำเป็นธุรกิจ” คุณมอสให้ความเห็นถึงจุดเริ่มต้น

2.โรงเรือนหมูแคระ
2.โรงเรือนหมูแคระ

ด้านตลาดและช่องทางจำหน่าย หมูแคระ

หลังจากนั้นจึงเริ่มศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม เก็บหมูตัวเมียไว้ทำสายพันธุ์ จากที่ตั้งใจทำเป็นอาชีพเสริม ปัจจุบันได้กลายมาเป็นอาชีพหลัก ที่สามารถสร้างรายได้ถึงหลักแสนต่อรอบ

คุณมอสได้เริ่มทำการตลาดจากการโพสขายในเฟสบุ๊ค กลุ่มสัตว์เลี้ยงน่ารักทั่วไป  และรีวิวจากลูกค้าที่ซื้อไปที่บอกกันปากต่อปาก บางคนซื้อไปเลี้ยงเป็นสัตว์เลี้ยงแบบสวยงาม และมีคนซื้อไปสร้างรายได้เสริม หากซื้อไปแล้วไม่มีเวลาดูแล ก็สามารถมาขายคืนที่ฟาร์มได้

โฆษณา
AP Chemical Thailand

ปัจจุบันฟาร์มมีแม่พันธุ์ทั้งหมด 15 ตัว โดยแม่พันธุ์ 1 ตัว ออกลูกอย่างต่ำ 8 ตัว ต่อรอบนั้นจะคลอดๆ พร้อมกัน คลอดออกมาได้ทั้งหมดประมาณ 120 ตัว หลังจากเลี้ยงดู 20 วันขึ้นไป ก็นำมาขายราคาตัวละ 1,500 บาท ทั่วจังหวัดทั่วภาคอีสาน

3.หมูแคระ ลำตัวเตี้ย ขาสั้น หลังแอ่น
3.หมูแคระ ลำตัวเตี้ย ขาสั้น หลังแอ่น

สายพันธุ์หมูแคระ

สำหรับสายพันธุ์ที่ทางฟาร์มเลี้ยงจะเป็น หมูแคระพอตเบลลี่ หรือ หมูแคระเวียดนาม (Vietnames Pot Belly) มีลักษณะ ลำตัวสีชมพูลายจุดดำ และมีลักษณะที่ต่างจากหมูทั่วไป คือ ลำตัวเตี้ย ขาสั้น หน้าสั้น หลังแอ่น และที่ฟาร์มจะมีสายพันธุ์จินหัว (Jinhua) มีรูปร่างขนาดกลาง หูขนาดปานกลางและปรก ส่วนหลังแอ่นเล็กน้อย ลักษณะเด่นมีลำตัวสีขาว และมีสีดำที่ส่วนหัวกับสะโพก ขนยาว

เมื่อถามถึงความแตกต่างระหว่างการเลี้ยงหมูแคระ และ หมูทั่วไป คุณมอสได้ให้ความเห็นว่า “หมูแคระจะเลี้ยงง่ายกว่า ไม่จำเป็นต้องไปเลี้ยงให้อ้วน เลี้ยงให้พอดี ส่วนการดูแลเรื่องสุขภาพก็เหมือนๆ กัน ส่วนอาหารที่ให้นั้นจะเป็นรำกับผักบุ้ง ให้ 2 มื้อ / วัน เช้า – เย็น”

หลังจากที่ได้หันมาทำอาชีพเลี้ยงหมูแคระ คุณมอสกล่าวว่า มีความสุข สบายใจ เพราะโดยส่วนตัวเป็นคนรักสัตว์อยู่แล้ว มีรายได้เลี้ยงครอบครัวได้ รายได้มั่นคง ได้อยู่กับครอบครัว มีเวลาให้ครอบครัวทั้งวัน ไม่ต้องออกไปทำงานข้างนอก

4.การให้อาหารหมูแคระ
4.การให้อาหารหมูแคระ

เป้าหมายในอนาคต

สำหรับเป้าหมายในอนาคต คุณมอสกล่าวว่า “มีการขยายเพิ่มแน่นอน ให้คนสามารถเข้ามาเยี่ยมชมได้มากกว่านี้ ตั้งเป้าไว้ว่าจะทำให้ได้ถึง 50 แม่พันธุ์ เพื่อให้มีลูกหมูเพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า และสำหรับคนที่สนใจ ควรเตรียมสถานที่ให้พร้อม ไม่ต้องกว้างมาก แต่ต้องปลอดภัย ป้องกันสุนัข และควรศึกษาก่อนจะซื้อ สามารถมาปรึกษาที่ฟาร์มได้”

ผู้อ่านท่านใดที่สนใจอยากเลี้ยงหมูแคระ สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง เพจเฟสบุ๊ค “ฟาร์มหมูแคระขอนแก่น” หรือ โทร.064-151-1286

โฆษณา
AP Chemical Thailand

ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จาก คุณมอส ฟาร์มหมูแคระขอนแก่น

อ้างอิง : นิตยสารสัตว์บก ฉบับที่ 341