เพาะ พันธุ์ปลาดุก ปลาดุกบิ๊กอุย ได้ทั้งปี เลี้ยง ไซส์ 5 เดือนราคา 70-80 บาท/กก.

โฆษณา
AP Chemical Thailand

การเพาะ พันธุ์ปลาดุก ปลาดุกบิ๊กอุย

ท่านผู้อ่านคงทราบกันดีอยู่แล้วว่าในการเพาะ พันธุ์ปลาดุก นั้นจะต้องทำการผสมพันธุ์ในช่วงฤดูใด นั่นก็คือ ในช่วงฤดูฝน แต่ที่น่าแปลกใจ คือ ฟาร์มที่ทีมงานนิตยสารสัตว์น้ำนำมาเสนอให้ท่านผู้อ่านได้อ่านกัน คือ เขามีเทคนิคอย่างไรที่สามารถทำให้ปลาดุกมีไข่เพื่อเพาะ พันธุ์ปลาดุก ได้ตลอดปี ไม่ว่าจะเป็นฤดูร้อน ฤดูฝน หรือฤดูหนาว

ซึ่งที่เรารู้มานั้นทางฟาร์มเขาก็มีวิธีการเพาะพันธุ์เหมือนกับทุกๆ ฟาร์มนั่นแหละ แต่ที่น่าสนใจก็คือ ในฤดูหนาวที่หลายๆ ฟาร์มหยุดเพาะพันธุ์นั้น ฟาร์มแห่งนี้กลับยังมีลูกพันธุ์จำหน่ายให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาดุก

ฟาร์มที่ทีมงานนิตยสารสัตว์น้ำได้นำเสนอท่านผู้อ่านก็คือ โทนทองฟาร์ม นั่นเอง ผู้มีฝีมือในการเพาะ พันธุ์ปลาดุก และ ปลาดุกบิ๊กอุย ซึ่งเจ้าของ คือ คุณปราณีต โทนทอง ฟาร์มแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ตำบลทับยา อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี คุณปราณีตให้สัมภาษณ์ว่าเพาะเลี้ยงพันธุ์ปลาดุก เป็นระยะเวลากว่า 30 ปีแล้ว และเธอมีเทคนิคหรือวิธีการเลี้ยงอย่างไรให้สามารถเพาะพันธุ์ปลาดุกได้

คุณประณีตเปิดเผยว่าก่อนจะหันมาทำฟาร์มเพาะ พันธุ์ปลาดุก ขาย ได้มีการศึกษาวิธีการเลี้ยง การเพาะพันธุ์ ทั้งจากทางบ้าน และจากตนเอง เมื่อครอบครัวเลิกธุรกิจจึงหันมาทำต่อ มีการฝึกเลี้ยงเอง หาตลาดเอง ในระยะแรกได้มีการแนะนำปลาให้เกษตรกรทดลองเลี้ยงก่อนโดยไม่คิดเงิน เมื่อปลาติดดีทำให้มีลูกค้าโทรมาสั่ง ฝึกทำไปนานๆ จนทำให้เกิดเป็นประสบการณ์

1.เพาะ พันธุ์ปลาดุก ปลาดุกบิ๊กอุย ได้ทั้งปี เลี้ยง ไซส์ 5 เดือนราคา 70-80 บาท/กก.
1.เพาะ พันธุ์ปลาดุก ปลาดุกบิ๊กอุย ได้ทั้งปี เลี้ยง ไซส์ 5 เดือนราคา 70-80 บาท/กก.

ด้านการตลาดและจำหน่ายลูกปลาดุก

ในช่วงฤดูหนาวที่หลายฟาร์มไม่มีลูกพันธุ์ออกจำหน่ายให้เกษตรกรนั้น แต่ยังมีโทนทองฟาร์มเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกให้เกษตรกรได้มีลูกพันธุ์ปล่อยลงสู่บ่อเลี้ยง ซึ่งขนาดและราคาที่มีจำหน่ายมีดังนี้ ปลาดุกอุยไซส์ขนาดตั้งแต่ 1 เซนติเมตรขึ้นไป

  • เริ่มต้นที่ตัวละ 9 สตางค์ และปลาดุกอุยไซส์ขนาด 5 เดือน ราคากิโลกรัมละ 70-80 บาท

เมื่อครบ 1 ปี จะมีการรับซื้อคืนเฉพาะปลาดุกอุยเพศเมีย ในราคากิโลกรัมละ 350 บาท รวมถึงมีการส่งเสริมให้เลี้ยงปลาดุกอุยในหมู่บ้าน โดยเลี้ยงเป็นแม่พันธุ์ให้กับฟาร์ม และในส่วนของ ปลาดุกบิ๊กอุย นั้น

โฆษณา
AP Chemical Thailand
  • ไซส์ปลาตุ้มราคาตัวละ 4.5 สตางค์
  • ไซส์ตั้งแต่ 1 เซนติเมตรขึ้นไป เริ่มต้นที่ตัวละ 9 สตางค์
  • ไซส์ขนาด 1-1.5 นิ้ว ราคาตัวละ 25 สตางค์
  • ไซส์ขนาด 1.5-2 นิ้ว ราคาตัวละ 35 สตางค์
  • ไซส์ขนาด 2-3 นิ้ว ราคาตัวละ 45 สตางค์

ซึ่งราคาของลูกพันธุ์จะค่อยๆ ลดลงเมื่อหมดฤดูหนาว ซึ่งในช่วงฤดูหนาวจะเริ่มมีการสั่งจองลูกพันธุ์ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ซึ่งระยะเวลาในการขึ้นลูกปลานั้น ปลาตุ้มจะสามารถจำหน่ายได้เร็ว ถ้าเป็นปลานิ้วขึ้นไปจะต้องอนุบาลก่อนตั้งแต่ 20 วันขึ้นไป ถึงจะสามารถจับแล้วจำหน่ายให้เกษตรกรได้

ด้านการดูแลและการรับประกันลูก พันธุ์ปลาดุก นั้น หากเป็นปลาที่มีไซส์ขนาดตั้งแต่ 1 เซนติเมตรขึ้นไป ใช้ระยะเวลาประมาณ 2-3 อาทิตย์ หากลูกปลาที่ปล่อยลงบ่อของเกษตรกรไม่ว่ายน้ำขึ้นมา จะมีการเคลมให้ใหม่ทั้งหมด ปลาตุ้มและปลาที่มีขนาดตั้งแต่ 1 นิ้วขึ้นไป จะไม่มีการเคลม

เนื่องจากปลาตุ้มเป็นปลาที่มีขนาดเล็กมาก ไม่สามารถทราบได้ว่าปัญหาที่เกิดมาจากอะไรบ้าง แต่หากลูกปลานิ้วเมื่อปล่อยลงบ่อแล้วปลาไม่ติด ทางฟาร์มยินดีจะให้เกษตรกรสูบน้ำในบ่อทิ้ง แล้วนำลูกปลาไปใส่ให้ใหม่แทน

ในการเลี้ยงปลาเมื่อเกษตรกรเลี้ยงแล้วจะต้องมีตลาดรองรับปลาชนิดนั้นๆ คุณปราณีตได้เปิดเผยว่าหากเป็นปลาดุกอุย เกษตรกรจะให้ทางฟาร์มเป็นคนหาตลาดให้ ซึ่งควรจะปล่อยปลาดุกอุยที่มีอายุ  5 เดือน ลงบ่อเลี้ยงในช่วงดังกล่าว เดือนกุมภาพันธ์ เดือนมีนาคม เดือนกรกฎาคม และเดือนสิงหาคม เพราะแถบจังหวัดฉะเชิงเทราจะมีน้ำที่ใช้เลี้ยงในช่วงดังกล่าว

ซึ่งแถบนั้นจะเอาปลาที่ไข่มาให้ฟาร์ม แล้วเอาปลารุ่นไปใส่ในบ่อ หากเลี้ยงไม่ตรงช่วงที่คนกิน จะทำให้ปลาดุกขายไม่หมด แต่ถ้าเป็น ปลาดุกบิ๊กอุย เกษตรกรจะต้องหาตลาดกันเอง เนื่องจากเกษตรกรเลี้ยงกันเยอะ ซึ่งจะมีตลาดกันอยู่แล้ว

2.ลูกปลาดุกขนาด-3-นิ้ว
2.ลูกปลาดุกขนาด-3-นิ้ว

เทคนิคการเพาะพันธุ์ปลาดุก

ปัจจุบันโทนทองฟาร์มมีการเพาะพันธุ์และจำหน่ายลูกพันธุ์ปลาดุก 2 ชนิด ได้แก่ ปลาดุกอุย และ ปลาดุกบิ๊กอุย และในช่วงนี้ลูกพันธุ์ปลาดุกอุยที่มีจำหน่ายจะมีขนาดตั้งแต่ 1 เซนติเมตรขึ้นไป ขนาดปลาอายุ 5 เดือน จะมีคนเอาไปเลี้ยง 2 แบบ คือ เอาไปเลี้ยง 5 เดือน

โฆษณา
AP Chemical Thailand

แล้วขายต่อทางฝั่งประเทศลาวกับภาคอีสาน และซื้อไว้ทำพันธุ์ใส่บ่อรวม บ่อปลากะพง ปลาสลิด แถบจังหวัดฉะเชิงเทรา บางบ่อ ปลาดุกบิ๊กอุย ไซส์ที่มีจำหน่าย ได้แก่ ปลาตุ้ม ปลาเซน ปลานิ้ว ปลานิ้วครึ่ง หรือปลา 2-3 นิ้ว ราคาจะขึ้นอยู่กับไซส์ของลูกพันธุ์ การเพาะพันธุ์ปลาดุกนอกฤดูกาลจะจำหน่ายได้ในปริมาณมาก อีกทั้งโทนทองฟาร์มยังได้ผลิตแม่ปลาป้อนสู่ตลาดด้วย โดยจะนำแม่ปลาไปให้ลูกบ่อเลี้ยงไว้ให้ ทำให้มีแม่ปลามาเพาะพันธุ์ทั้งปี

ในช่วงฤดูหนาวปลาดุกจะมีการสลัดไข่ออก แม้ปลาดุกมีอายุครบที่สามารถเพาะพันธุ์ได้แล้วก็จะไม่สามารถเพาะขยายพันธุ์ได้ แต่ในการเพาะพันธุ์เพื่อให้มีลูกพันธุ์ปลาดุกจำหน่ายตลอดทั้งปีนั้น เทคนิคที่โทนทองฟาร์มใช้ก็คือ นำแม่ปลาไปไว้ในแหล่งที่อยู่ใกล้ทะเล บริเวณที่มีลมทะเลพัด นั่นก็คือ แถบจังหวัดชลบุรี ฉะเชิงเทรา รวมถึงจังหวัดที่อยู่ทางภาคใต้ ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีฤดูฝนอยู่ตลอด เมื่อปลาอายุครบ 1 ปี ก็จะสามารถนำกลับมาใช้ในการเพาะพันธุ์ได้

ในการเพาะ พันธุ์ปลาดุก นั้นจะต้องคัดพ่อแม่พันธุ์ที่มีอายุครบ 1 ปีขึ้นไป อวัยวะของตัวเมียจะมีลักษณะบวมแดง ท้องอูมสมบูรณ์ ตัวผู้จะมีรูปร่างสวย สมบูรณ์ หลังจากนั้นจะทำการฉีดฮอร์โมน โดยผสมโมทิเลียมกับซูพรีแฟค และน้ำเกลือ ฉีดเข้าไปในปลาดุกเพศเมีย หลังจากนั้นทิ้งไว้ 12-14 ชั่วโมง ดูความสมบูรณ์ของไข่แล้วจึงรีดไข่ ส่วนปลาดุกเพศผู้จะใช้วิธีการผ่า ในการรีดไข่ปลาดุกนั้นสามารถทำได้ทั้งช่วงเวลากลางวันและกลางคืน แล้วแต่ความสะดวก คุณปราณีตบอกว่าอัตรารอดของลูกปลาหลังฟักเป็นตัวจะขึ้นอยู่กับน้ำเชื้อของพ่อพันธุ์ อีกทั้งยังขึ้นอยู่กับสุขภาพของแม่พันธุ์อีกด้วย

3.บ่อปูนอนุบาลลูกปลาดุก
3.บ่อปูนอนุบาลลูกปลาดุก
ลูกปลาดุก
ลูกปลาดุก
บ่อเพาะเลี้ยงไรแดง
บ่อเพาะเลี้ยงไรแดง

การให้อาหารลูกปลาดุก

ในการอนุบาลลูกปลาดุกนับตั้งแต่ลูกปลาฟักตัวในระยะเวลา 36 ชั่วโมง จะให้ลูกไรแดงเป็นอาหารประมาณ 5 วัน จึงจะจำหน่ายเป็นลูกปลาตุ้ม หากทำการอนุบาลต่อไปจะให้อาหารสำเร็จรูปสำหรับปลาวัยอ่อน เวลาให้จะมีการเสริมวิตามิน เพื่อทำให้ปลาโตเร็ว ในการอนุบาลลูกปลาที่มีขนาดเล็ก น้ำในบ่อควรมีความลึกประมาณ 70 เซนติเมตร หากระดับน้ำมีความลึกมาก จะส่งผลทำให้ลูกปลาว่ายน้ำไม่ไหว อาจจะทำให้ลูกปลาตายได้

4.เติมน้ำใส่บ่อเลี้ยงที่ใส่ปูนขาว-และตากบ่อ
4.เติมน้ำใส่บ่อเลี้ยงที่ใส่ปูนขาว-และตากบ่อ

การบริหารจัดการบ่อปลาดุก

การจัดการภายในฟาร์มเป็นปัจจัยสำคัญในกระบวนการเลี้ยงสัตว์น้ำ ซึ่งแต่ละฟาร์มจะมีเทคนิคและวิธีการจัดการที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับลักษณะของภูมิประเทศนั้นๆ คุณปราณีตเล่าว่าน้ำที่ใช้ในฟาร์มเป็นน้ำที่ใช้หมุนเวียนภายในฟาร์มอยู่แล้ว เป็นน้ำที่สูบขึ้นมาจากบ่อบาดาล ซึ่งก่อนจะสูบน้ำจากบ่อปลาออกมาเพื่อบำบัด จะทำโดยการโรยปูนขาวในบ่อพักน้ำก่อน แล้วจึงสูบน้ำเข้าบ่อ แล้วนำน้ำที่บำบัดแล้ววนกลับมาใช้ใหม่

ในเรื่องของโรคที่เจอภายในฟาร์ม หลักๆ จะต้องดูว่าในบ่อสะอาดหรือไม่ ในการทำความสะอาดจะทำโดยการแช่ฟอร์มาลีน หรือด่างทับทิม หากบ่อไม่สะอาดจะมีเชื้อราอะมีบา โปรโตซัว ฯลฯ ซึ่งถ้าโรคหรือปรสิตเหล่านี้ไม่มีมากับน้ำ ไม่ติดมากับพ่อแม่ ก็ไม่เป็น แต่หากพบว่าเป็น ลูกปลาก็ตาย ก็ต้องปล่อยทิ้งไป

โฆษณา
AP Chemical Thailand
5.การช้อนลูกปลาดุก
5.การช้อนลูกปลาดุก
การช้อนลูกปลาดุกใส่ถุง
การช้อนลูกปลาดุกใส่ถุง
เตรียมแพ็คลูกปลาดุก
เตรียมแพ็คลูกปลาดุก

สนใจหรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ คุณปราณีต โทนทอง 103/1 ม.2 ต.ทับยา อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี โทร.081-947-5806