คลังเก็บป้ายกำกับ: ไผ่กิมซุง

ปลูกไผ่ ไผ่ไต้หวัน ให้ผลผลิตมีต่อเนื่องทั้งปี ราคาไม่ต่ำกว่า 15 บ. สร้างรายได้เสริม

ปลูกไผ่ ไผ่ไต้หวัน ให้ผลผลิตมีต่อเนื่องทั้งปี ราคาไม่ต่ำกว่า 15 บ. สร้างรายได้เสริมเกินหลักหมื่นต่อเดือน

การ ปลูกไผ่ ไผ่ไต้หวัน ผสมผสานกับปาล์มน้ำมัน

คุณวีรพล สุพรรคพานิช เกษตรกรผู้ปลูกปาล์มที่ ต.หนองโรง อ.หนองแค จ.สระบุรี เป็นเกษตรกรอีกท่านหนึ่งที่ให้ความสำคัญกับการสร้างรายได้เสริมด้วยการปลูกพืชแซมในพื้นที่ เป้าหมายแรกเพียงมุ่งหวังให้เป็นรายได้เสริม แต่ทำไปทำมารายได้จากพืชเสริมที่ว่านี้กลับน่าสนใจมาก

แม้ว่าปาล์มจะมีผลผลิตออกมาได้ต่อเนื่อง แต่ “ ไผ่ไต้หวัน ” ของคุณวีรพลก็ยังคงแทรกอยู่ในพื้นที่ และดูเหมือนว่าทิศทางในอนาคตจะบูรณาการให้ทั้งปาล์มและไผ่เดินคู่กันไปในระยะยาวด้วย

สุดท้ายก็ได้คำตอบว่า “ปลูกปาล์ม” เนื่องจากปัจจัยแวดล้อมในแถบคลองระพีพัฒน์มีข้อได้เปรียบเรื่องน้ำ และปาล์มก็เป็นพืชพลังงานที่ภาครัฐให้การส่งเสริม แนวโน้มในอนาคตก็มีความต้องการสูงมาก ซึ่งในช่วงแรกที่ปาล์มยังไม่สามารถให้ผลผลิตได้นั้น ก็เป็นปัญหาสำคัญในเรื่องรายได้ที่ไม่ต่อเนื่อง

แนวทางต่อมา คือ การหาพืชเสริมในระหว่างรอผลผลิตจากปาล์ม ความจริงก็มีพืชหลายชนิดที่สามารถปลูกคู่กับปาล์มได้ แต่ที่คุณวีรพลเลือก คือ “ไผ่ไต้หวัน” โดยเริ่มไปเอาพันธุ์มาจากสวนไผ่ที่อำเภอบ่อทอง จังหวัดชลบุรี ครั้งแรกจำนวน 400 ต้น ราคาต้นละ 50 บาท แต่เมื่อพิจารณาดูแล้วว่าน้อยเกินไป ไม่คุ้มค่ากับการตัดหน่อขาย จึงซื้อเพิ่มมาเรื่อยๆ จนครบ 2,000 ต้น และเอามาขยายพันธุ์ต่อในพื้นที่ จนปัจจุบันพื้นที่ 100 ไร่ ของคุณวีรพล ที่นอกจากปลูกปาล์มเป็นหลักแล้วกว่า 1,800 ต้น ยังมีไผ่ไต้หวันอยู่ในพื้นที่อีกกว่า 4,000 กอ ทีเดียว

1.คุณวีรพล-สุพรรคพานิช-เกษตรกรผู้ปลูกไผ่ผสมผสานกับปาล์มน้ำมัน

1.คุณวีรพล-สุพรรคพานิช-เกษตรกรผู้ปลูกไผ่ผสมผสานกับปาล์มน้ำมัน

รายได้จากผลผลิตไผ่ไต้หวัน

ส่วนราคาในการจำหน่ายก็จะคละกันไปตามขนาด และคุณภาพ ถ้าเป็นหน่อใหญ่ ขนาดน้ำหนักเกินกว่า 1 กก. ราคาประมาณ 8 บาท ส่วนเกรดรองลงมาก็ราคา 6 บาท เล็กสุดราคาขายอยู่ที่ 4 บาท แต่นี่คือราคาในช่วงที่หน่อไม้ออกสู่ตลาดได้มากๆ แต่ในฤดูหนาวที่กำลังมาถึงนี้ปริมาณหน่อไม้ในตลาดจะน้อย ทำให้ราคาขายสูงขึ้นตามไป อาจจะขายได้สูงถึง 15 บาท/กก.

เมื่อหักลบต้นทุนที่เป็น

  • ค่าแรง (คนงานประจำประมาณ  5 คน คนละ 300 บาท)
  • ค่าน้ำมัน (สำหรับเรือวิ่งรดน้ำในพื้นที่ ที่ต้องมีการรดน้ำทุกวัน ใช้น้ำมันวันละประมาณ 5 ลิตร)
  • รวมถึงค่าปุ๋ย-ยาบ้างในบางครั้ง

ต้นทุนรวม/เดือนนั้นก็ไม่ต่ำกว่า 20,000 บาท

สำหรับปาล์มที่มีผลผลิตแล้วจะเก็บเกี่ยวได้ประมาณ 15 วัน/ครั้ง ครั้งละกว่า 10 ตัน (ปริมาณที่แท้จริง ถ้าไม่มีต้นไผ่มาบังแสงที่ใช้ในการเจริญเติบโตของปาล์ม อาจเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ถึง 20 ตัน) ราคา ณ ปัจจุบัน คือ 4.05 บาท ถือเป็นเงินก้อนที่จะได้เดือนละ 2 ครั้ง แต่ไผ่ไต้หวันมีรายได้แทบจะทุกวัน เงินที่ได้จากการจำหน่ายหน่อไผ่ก็กลายเป็นเงินหมุนเวียนใช้จ่ายในการดูแลจัดการ ทำให้มีรายได้ต่อเนื่องอย่างดี

ซึ่งในอนาคตเมื่อมองดูว่าปาล์มเองก็เริ่มมีผลผลิตต่อเนื่อง กับการบริหารจัดการไผ่นั้นอาจจะมีการแบ่งแยกโซนการปลูกในพื้นที่ 100 ไร่ ให้ชัดเจน ทั้งนี้เพื่อให้ปริมาณผลผลิตของปาล์มดีขึ้น แต่ถึงอย่างไรก็ตามจะไม่เลิก ปลูกไผ่  เนื่องจากเป็นรายได้หมุนเวียนที่ดี ที่สำคัญทำให้ลดความเสี่ยงได้มาก เนื่องจากราคาปาล์มนั้นผันผวนมาก การมีไผ่ไว้รองรับในยามจำเป็นถือเป็นแนวทางที่ดี และอนาคตก็น่าจะเป็นรูปแบบนี้ต่อไป

3.ปลูกไผ่กับปาล์มต้องคำนึงถึงเรื่องจัดการแสง

3. ปลูกไผ่ กับปาล์มต้องคำนึงถึงเรื่องจัดการแสง

การบริหารจัดการไผ่ในสวนปาล์ม

แต่สิ่งที่ต้องการจากการ ปลูกไผ่ คือ “การปรับสภาพดิน” โดยการหลุดร่วงของใบไผ่ให้กลายเป็นปุ๋ยสะสมในดิน เพื่อทำให้ดินดีขึ้นโดยที่ไม่ต้องใช้ปุ๋ยเคมี ทั้งนี้เป็นประสบการณ์จากการทำสวนส้ม เมื่อเปลี่ยนมาเป็นพืชตัวอื่นก็ต้องการหลีกเลี่ยงพวกปุ๋ย-ยา และสารเคมี อันเป็นต้นทุนรายสำคัญที่ทำให้เกษตรกรส่วนใหญ่ไม่ได้กำไร ที่สำคัญทำให้เกิดปัญหาสุขภาพในระยะยาวอีกด้วย

วิธีการปลูกและการจัดการสวนไผ่ในสวนปาล์ม

1.พันธุ์ไผ่ที่เหมาะสมจะนำมาปลูกแซมในสวนปาล์ม คือ ไผ่ในตระกูลตงทั้งหมด เช่น ตงลืมแล้ง ไผ่ไต้หวัน (กิมซุง) ตงศรีปราจีน ซางหม่น หม่าจู ฯลฯ แต่ที่สวนคุณวีรพลเลือกมา คือ “ ไผ่ไต้หวัน ” เนื่องจากไผ่ในตระกูลนี้มีลำต้นสูง  ดูแลง่าย ให้หน่อสม่ำเสมอ

2.เป็นที่รู้กันว่าการ ปลูกไผ่ เป็นพืชแซม เรื่องการรับแสงจะด้อยกว่าปกติ เพราะฉะนั้นเพื่อให้ไผ่เติบโตได้เร็ว ควรเตรียมต้นพันธุ์ให้สมบูรณ์เต็มที่ ควรเป็นต้นพันธุ์ที่อนุบาลเอาไว้อย่างน้อย 60 วัน เพื่อให้ไผ่เตรียมแตกหน่อในถุง  หลัง ปลูกไผ่ จะได้ตั้งลำได้เร็วขึ้น

3.ต้องบริหารจัดการพื้นที่การปลูกให้เหมาะสม หัวใจสำคัญ คือ “การจัดการแสง” โดยต้องควบคุมเรื่องขนาด ความสูง ของกอไผ่ ให้เหมาะสมกับขนาดต้นปาล์ม

  • ถ้าปลูกตอนต้นปาล์มเล็ก ให้คุมความสูงของลำไผ่ไม่เกิน 3 เมตร เว้นลำไม่เกิน 3 ลำ
  • ถ้าปาล์มโตแล้ว (ปาล์ม 8 ปีขึ้นไป) ให้คุมความสูงลำไผ่ 4-5 เมตร เว้นลำกอละ 4-5 ลำ

4.ระยะห่างระหว่างกอไผ่ การเว้นระยะกอไผ่ให้คำนึงถึงระยะต้นปาล์มเป็นหลัก หากปาล์ม 9×9 เมตร สามารถ ปลูกไผ่ ระยะห่าง 3-4 เมตร

5.การเตรียมหลุมปลูก ให้ขุดหลุมขนาดประมาณ 1×1 ฟุต ลึก 1 ฟุต รองก้นหลุมด้วยขี้ไก่ 1 ขันอาบน้ำ

6.การปลูกให้ปลูกตรงๆ หันทรงพุ่มของต้นพันธุ์ไปทางทิศตะวันออกเพื่อรับแสงช่วงเช้า ไม่ต้องกลัวเรื่องติดแล้ง  เพราะการปลูกเป็นพืชแซม ไผ่จะไม่ได้รับแดดโดยตรง ต้นพันธุ์จึงผ่านแล้งได้ หากผู้ปลูกไม่มีเวลาเอาใจใส่ดูแล ให้ปลูกช่วงต้นฤดูฝน เพราะไผ่จะได้แข็งแรงก่อนเข้าหน้าแล้ง

7.ช่วงปาล์มยังเล็กให้ดูแลเรื่องวัชพืชรอบโคน ฤดูกาลที่เหมาะสมที่จะ ปลูกไผ่ คือ ปลายฤดูฝน และหน้าหนาว เพราะไผ่จะพักตัวในช่วงแรกเพื่อสะสมสารอาหาร เมื่อเข้าต้นฤดูฝนปีถัดไปไผ่จะตั้งกอได้เร็วต้น และควรใส่ปุ๋ยบำรุงบ้างตามสมควร (ช่วงแรกเน้นสูตรเสมอ 15-15-15) มีขี้ไก่ก็สามารถใส่ได้

8.เมื่อไผ่เริ่มตั้งลำ ให้เว้นลำที่สมบูรณ์ จำนวนลำไผ่ให้พิจารณาจากขนาดต้นปาล์มเป็นหลัก ถ้าปาล์มอายุเกิน 8 ปี หรือมีทรงต้นสูงเกิน 2 เมตร สามารถเว้นลำ 4-5 ลำ สางแต่งกอให้โปร่ง คุมความสูงของไผ่ให้อยู่ต่ำกว่าต้นปาล์มเสมอ

9.การ ปลูกไผ่ ในสวนปาล์ม ไผ่จะเริ่มให้หน่อประมาณ 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับขนาดของต้นปาล์ม (ปาล์มโต แสงน้อย ก็จะโตช้า แต่เมื่อไผ่โตแล้ว ไผ่ก็สามารถให้หน่อได้ตามปกติ) อัตราการให้หน่อขึ้นอยู่กับการดูแลเป็นหลัก หากดูแลดี หน่อมีขนาด 1.5-3 กิโลกรัม

4.ขุยไผ่ช่วยในการปรับสภาพดิน-ไม่ต้องใช้ปุ๋ยเคมี

4.ขุยไผ่ช่วยในการปรับสภาพดิน-ไม่ต้องใช้ปุ๋ยเคมี

ข้อดีของ ไผ่ไต้หวัน

แต่หลายคนก็ยังมีคำถามว่าไผ่ในตระกูลนี้มีหลายอย่าง แต่ที่เลือกเป็น ไผ่ไต้หวัน นั้นมีข้อดีอะไรที่น่าสนใจกันบ้าง

  • เป็นพืชที่ให้ผลตอบแทนในระยะเวลาสั้น (หลังปลูกประมาณ 8 เดือน)
  • การปฏิบัติดูแลรักษาไม่ซับซ้อน ยุ่งยาก
  • โรคและแมลงที่มีผลกระทบต่อผลผลิตน้อยมาก
  • การส่งเสริมการเจริญเติบโตจะใช้เกษตรอินทรีย์เป็นหลัก
  • ผลผลิตจากการขายหน่อซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาด ไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค ผลผลิตเก็บเกี่ยวตลอดปี
5.พื้นที่นี้มีน้ำในการเกษตรเพียงพอ

5.พื้นที่นี้มีน้ำในการเกษตรเพียงพอ

การจัดการหน่อและลำ

เกษตรกรควรขุดหลุมขนาด 1×1 ฟุต ลึก 1 ฟุต รองก้นหลุมด้วยขี้ไก่ 1 ขันอาบน้ำ ควรปลูกกิ่งพันธุ์ในหลุม โดยวางกิ่งพันธุ์เอียง 45 องศา  กลบโคนต้น แล้วใช้เศษหญ้าแห้งคลุมโคนเพื่อรักษาความชื้น ในกรณีปลูกเพื่อการค้า ควรมีการให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ และต่อเนื่องประมาณ 7-10 วัน/ครั้ง

ส่วนเรื่องการจัดการหน่อและลำนั้นตามปกติไผ่จะเริ่มให้หน่อเมื่อหลังปลูก 7-8 เดือน ควรเก็บหน่อที่แทงชิดต้นแม่ โดยตัดสูงจากโคนหน่อบังดินประมาณ 2 นิ้ว เพื่อให้เกิดตาหน่อขึ้นอีก ส่วนหน่อที่แทงจากใต้ดินห่างจากต้นแม่ควรเลี้ยงไว้เป็นต้นแม่ต่อไป ส่วนการไว้ลำ (ต้น) ต่อกอ จะเลือกหน่อที่แทงจากเดิม และอยู่ไกลต้นแม่เลี้ยงไว้รอบต้นแม่ การไว้ต้นต่อกอควรให้ประมาณ 3 ต้น/กอ หากมีจำนวนต้นต่อกอมากจะทำให้การออกหน่อไม้คด

เมื่อต้นใหญ่เจริญเติบโต แตกในกิ่ง สามารถเลี้ยงตัวเองได้ ให้ตัดต้นแม่ทิ้ง การไว้ลำจะทำทุกปี โดยส่วนใหญ่จะปล่อยหน่อเป็นต้นใหม่ประมาณ 2-3 ต้น ในช่วงฤดูฝน หรือช่วงกรกฎาคม-สิงหาคม พอหน่อเจริญเติบโตเป็นต้นไผ่ก็จะตัดต้นเก่าทิ้ง หรือนำไปใช้ประโยชน์อื่นต่อไป

6.หน่อสามารถตัดขายได้เเบบวันเว้นวัน

6.หน่อสามารถตัดขายได้เเบบวันเว้นวัน

การเก็บเกี่ยวผลผลิต ไผ่ไต้หวัน

การเก็บเกี่ยวผลผลิต ไผ่ไต้หวัน จะเก็บแบบวันเว้นวัน จากปริมาณไผ่ในพื้นที่ประมาณ 3,000-4,000 กอ น้ำหนักของ “หน่อ” ในแต่ละกอประมาณ 2-4 ขีด น้ำหนักรวมจริงๆ คือ 1,500 กก. แต่ทั้งนี้ก็ต้องอยู่ที่ฤดูกาล ความพร้อม และการดูแลอย่างน้อยสุดก็ไม่ต่ำกว่า 800 กก.

แต่ก็มีข้อแม้อีก ในช่วงฤดูหนาวที่ส่วนใหญ่ถ้าเป็นไผ่ประเภทอื่นเรียกว่าจะไม่ออกหน่อ แต่สำหรับ ไผ่ไต้หวัน ยังสามารถออกหน่อได้ แต่ปริมาณจะน้อยลงอีกเล็กน้อย คุณวีรพลบอกว่าในฤดูหนาวแบบนี้ ถ้าทำได้ถึง 500 กก. ก็ถือว่าเก่งมากแล้ว

7.ปลูกไผ่ ไผ่ไต้หวัน ให้ผลผลิตมีต่อเนื่องทั้งปี ราคาไม่ต่ำกว่า 15 บ. สร้างรายได้เสริม

7.ปลูกไผ่ ไผ่ไต้หวัน ให้ผลผลิตมีต่อเนื่องทั้งปี ราคาไม่ต่ำกว่า 15 บ. สร้างรายได้เสริม

สนใจรายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อ คุณวีรพล สุพรรคพานิช 22/2 ม.10 ต.หนองโรง อ.หนองแค จ.สระบุรีโทร.081-852-2797

ปลูกไผ่ ไผ่กิมซุง

ไผ่กิมซุง ปลูกง่ายขายได้ราคา สร้างรายได้หลักหมื่น/เดือน (ตอนที่ 1)

ไผ่กิมซุง สอนวิธี ปลูกไผ่ ให้ขายได้ทั้งปี ต้นไผ้ หน่อไม้ ราคาไม่ต่ำกว่า 15 บาท ปลูกไผ่ สร้างรายได้หมื่นบาท/เดือน ไผ่ตงลืมแล้ง ไผ่กิมซุง ตงศรีปราจีน ซางหม่น หม่าจู

ไผ่กิมซุง หรือ ไผ่ไต้หวัน ของ คุณวีรพล  สุพรรคพานิช เกษตรกรผู้ปลูกปาล์มที่ ต.หนองโรง อ.หนองแค จ.สระบุรี ซึ่งเป็นเกษตรกรอีกท่านหนึ่งที่ให้ความสำคัญกับการสร้างรายได้เสริมด้วยการปลูกพืชแซมในพื้นที่เป้าหมายแรกเพียงมุ่งหวังให้เป็นรายได้เสริมแต่ทำไปทำมารายได้จากพืชเสริมที่ว่านี้กลับน่าสนใจมากแม้ว่าปาล์มจะมีผลผลิตออกมาได้ต่อเนื่องแต่ “ ไผ่กิมซุง ” ของคุณวีรพลก็ยังคงแทรกอยู่ในพื้นที่และดูเหมือนว่าทิศทางในอนาคตจะบูรณาการให้ทั้งปาล์มและไผ่เดินคู่กันไปในระยะยาวด้วย

คุณวีรพล สุพรรคพานิช เกษตรกรผู้ปลูกไผ่ปลูก ไผ่กิมซุง ผสมผสานกับปาล์ม

คุณวีรพล สุพรรคพานิช เกษตรกรผู้ปลูกไผ่ปลูกไผ่กิมซุงผสมผสานกับปาล์ม

คุณวีรพลเล่าว่ามาซื้อที่ตรงนี้ 100 ไร่ เริ่มจากการทำสวนส้มในปี 2520 ขณะนั้นเป็นยุคที่ส้มรังสิตกำลังดังมาก มีการทำสวนส้มกันอย่างแพร่หลายรายได้จากการทำสวนส้มในช่วงนั้นถือว่าสูงมากประมาณ 20 ปีที่ธุรกิจสวนส้มเดินหน้าสวยงามแต่ประมาณปี 2540 สวนส้มเกิดปัญหาเรื่องโรคและระบาดไปทุกพื้นที่ ทำให้สวนส้มที่เคยมีมากมายเริ่มประสบปัญหาขาดทุน ทุนที่สะสมกันมาตั้งแต่ยุครุ่งเรื่องก็เริ่มหมดกันไปกับความพยายามในการต่อสู้กับโรคหลายสวนลงทุนซื้อปุ๋ยยาสารเคมีกันเป็นจำนวนมากเพื่อหยุดวิกฤติเรื่องโรคแต่สุดท้ายก็ลงทุนสูญเปล่าเพราะสู้โรคระบาดของส้มไม่ได้ เงินทุนที่เคยมีจากสวนส้มก็หมดกันไปเป็นจำนวนมาก ในส่วนตัวคุณวีรพลเองก็ต้องตัดใจจากสวนส้มและหันมาเริ่มปลูกพืชล้มลุกในพื้นที่หลายอย่างตั้งแต่ 2540 มาจนถึง 2546 ประมาณ 6 ปีในระหว่างนั้นก็มีการศึกษาหาพืชตัวหลักที่จะปลูกใหม่โดยให้ทางหน่วยงานราชการเข้ามาดูในพื้นที่ว่ามีความเหมาะสมกับพืชตัวไหนในระยะยาว

สุดท้ายก็ได้คำตอบว่า “ปลูกปาล์ม” เนื่องจากปัจจัยแวดล้อมในแถบคลองระพีพัฒน์มีข้อได้เปรียบเรื่องน้ำและปาล์มก็เป็นพืชพลังงานที่ภาครัฐให้การส่งเสริมแนวโน้มในอนาคตก็มีความต้องการสูงมาก ซึ่งในช่วงแรกที่ปาล์มยังไม่สามารถให้ผลผลิตได้นั้นก็เป็นปัญหาสำคัญในเรื่องรายได้ที่ไม่ต่อเนื่อง

ปลูกไผ่ ไผ่กิมซุง ที่อยู่ในสวนปาล์มนี้มีกว่า 4,000 กอ

แนวทางต่อมาคือการหาพืชเสริมในระหว่างรอผลผลิตจากปาล์มความจริงก็มีพืชหลายชนิดที่สามารถปลูกคู่กับปาล์มได้แต่ที่คุณวีรพลเลือกคือ “ ไผ่กิมซุง ” โดยเริ่มไปเอาพันธุ์มาจากสวนไผ่ที่อำเภอบ่อทองจังหวัดชลบุรีครั้งแรกจำนวน 400 ต้นราคาต้นละ 50 บาท แต่เมื่อพิจารณาดูแล้วว่าน้อยเกินไปไม่คุ้มค่ากับการตัดหน่อขายจึงซื้อเพิ่มมาเรื่อยๆจนครบ 2,000 ต้นและเอามาขยายพันธุ์ต่อในพื้นที่จนปัจจุบันพื้นที่ 100 ไร่ของคุณวีรพลที่นอกจากปลูกปาล์มเป็นหลักแล้วกว่า 1,800 ต้นยังมี ไผ่กิมซุง อยู่ในพื้นที่อีกกว่า 4,000 กอทีเดียว

แต่สิ่งที่ต้องการจากการปลูกไผ่คือ “การปรับสภาพดิน”โดยการหลุดร่วงของใบไผ่ให้กลายเป็นปุ๋ยสะสมในดินเพื่อทำให้ดินดีขึ้นโดยที่ไม่ต้องใช้ปุ๋ยเคมีทั้งนี้เป็นประสบการณ์จากการทำสวนส้มเมื่อเปลี่ยนมาเป็นพืชตัวอื่นก็ต้องการหลีกเลี่ยงพวกปุ๋ยยาสารเคมี อันเป็นต้นทุนรายสำคัญที่ทำให้เกษตรกรส่วนใหญ่ไม่ได้กำไรที่สำคัญทำให้เกิดปัญหาสุขภาพในระยะยาวอีกด้วย

 

วิธีการปลูกและการจัดการสวนไผ่ในสวนปาล์ม

  1. พันธุ์ไผ่ที่เหมาะสมจะนำมาปลูกแซมในสวนปาล์มคือ ไผ่ในตระกูลตงทั้งหมดเช่น ตงลืมแล้ง ไผ่ไต้หวัน(กิมซุง) ตงศรีปราจีน ซางหม่น หม่าจู ฯลฯ แต่ที่สวนคุณวีรพลเลือกมาคือ “ ไผ่กิมซุง ” เนื่องจากไผ่ในตระกูลนี้มีลำต้นสูง ดูแลง่ายให้หน่อสม่ำเสมอ
  2. เป็นที่รู้กันว่าการปลูกไผ่เป็นพืชแซม เรื่องการรับแสงจะด้อยกว่าปกติ เพราะฉะนั้นเพื่อให้ไผ่เติบโตได้เร็ว ควรเตรียมต้นพันธุ์ให้สมบูรณ์เต็มที่ควรเป็นต้นพันธุ์ที่อนุบาลเอาไว้อย่างน้อย 60 วัน เพื่อให้ไผ่เตรียมแตกหน่อในถุง หลังปลูกไผ่จะได้ตั้งลำได้เร็วขึ้น
  3. ต้องบริหารจัดการพื้นที่การปลูกให้เหมาะสมหัวใจสำคัญคือ “การจัดการแสง” โดยต้องควบคุมเรื่องขนาด ความสูงของกอไผ่ให้เหมาะสมกับขนาดต้นปาล์ม
    • ถ้าปลูกตอนต้นปาล์มเล็ก ให้คุมความสูงของลำไผ่ไม่เกิน 3 เมตร เว้นลำไม่เกิน 3 ลำ
    • ถ้าปาล์มโตแล้ว ( ปาล์ม 8 ปีขึ้นไป ) ให้คุมความสูงลำไผ่ 4-5 เมตร เว้นลำกอละ 4-5 ลำ

การปลูกไผ่ กับปาล์มที่ต้องคำนึงอย่างหนึ่งคึอเรื่อง บริหารจัดการแสง

  1. ระยะห่างระหว่างกอไผ่การเว้นระยะกอไผ่ให้คำนึงถึงระยะต้นปาล์มเป็นหลักหากปาล์ม9×9เมตรสามารถปลูกไผ่ระยะห่าง 3-4 เมตร
  2. การเตรียมหลุมปลูก ให้ขุดหลุมขนาดประมาณ 1×1 ฟุต ลึก 1 ฟุต รองก้นหลุมด้วยขี้ไก่ 1 ขันอาบน้ำ
  3. การปลูกให้ปลูกตรงๆ หันทรงพุ่มของต้นพันธุ์ไปทางทิศตะวันออกเพื่อรับแสงช่วงเช้าไม่ต้องกลัวเรื่องติดแล้ง เพราะการปลูกเป็นพืชแซมไผ่จะไม่ได้รับแดดโดยตรง ต้นพันธุ์จึงผ่านแล้งได้หากผู้ปลูกไม่มีเวลาเอาใจใส่ดูแล ให้ปลูกช่วงต้นฤดูฝน เพราะไผ่จะได้แข็งแรงก่อนเข้าหน้าแล้ง
  4. ช่วงปาล์มยังเล็กให้ดูแลเรื่องวัชพืชรอบโคนฤดูกาลที่เหมาะสมที่จะปลูกไผ่ คือ ปลายฤดูฝน และ หน้าหนาว เพราะไผ่จะพักตัวในช่วงแรกเพื่อสะสมสารอาหาร เมื่อเข้าต้นฤดูฝนปีถัดไป ไผ่จะตั้งกอได้เร็วต้น และ ควรใส่ปุ๋ยบำรุงบ้างตามสมควร (ช่วงแรกเน้นสูตรเสมอ 15-15-15) มีขี้ไก่ก็สามารถใส่ได้
  5. เมื่อไผ่เริ่มตั้งลำให้เว้นลำที่สมบูรณ์ จำนวนลำไผ่ให้พิจารณาจากขนาดต้นปาล์มเป็นหลักถ้าปาล์มอายุเกิน 8 ปี หรือมีทรงต้นสูงเกิน 2 เมตร สามารถเว้นลำ 4-5 ลำ สางแต่งกอให้โปร่ง คุมความสูงของไผ่ให้อยู่ต่ำกว่าต้นปาล์มเสมอ
  6. การปลูกไผ่ในสวนปาล์ม ไผ่จะเริ่มให้หน่อประมาณ 1-2 ปี ขึ้นอยู่กับขนาดของต้นปาล์ม (ปาล์มโตแสงน้อยก็จะโตช้า แต่เมื่อไผ่โตแล้ว ไผ่ก็สามารถให้หน่อได้ตามปกติ)อัตราการให้หน่อ ขึ้นอยู่กับการดูแลเป็นหลัก หากดูแลดีหน่อมีขนาด 1.5-3 กิโลกรัม

 

แต่หลายคนก็ยังมีคำถามว่าไผ่ในตระกูลนี้มีหลายอย่างแต่ที่เลือกเป็น ไผ่กิมซุง นั้นมีข้อดีอะไรที่น่าสนใจกันบ้าง

  1. เป็นพืชที่ให้ผลตอบแทนในระยะเวลาสั้น ( หลังปลูกประมาณ 8 เดือน )
  2. การปฏิบัติดูแลรักษาไม่ซับซ้อน ยุ่งยาก
  3. โรคและแมลงที่มีผลกระทบต่อผลผลิตน้อยมาก
  4. การส่งเสริมการเจริญเติบโตจะใช้เกษตรอินทรีย์เป็นหลัก
  5. ผลผลิตจากการขาย หน่อ ซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาด ไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภค ผลผลิตเก็บเกี่ยวตลอดปี

 

แนวทางการปลูกและวิธีการดูแลที่สำคัญๆ

เกษตรกรควรขุดหลุมขนาด 1×1 ฟุต ลึก 1 ฟุต รองก้นหลุมด้วยขี้ไก่ 1 ขันอาบน้ำควรปลูกกิ่งพันธ์ในหลุมโดยวางกิ่งพันธุ์เอียง 45 องศา  กลบโคนต้นแล้วใช้เศษหญ้าแห้งคลุมโคนเพื่อรักษาความชื้นในกรณีปลูกเพื่อการค้า ควรมีการให้น้ำอย่างสม่ำเสมอ และต่อเนื่องประมาณ7– 10 วัน/ครั้ง ส่วนเรื่องการจัดการหน่อและลำนั้นตามปกติไผ่จะเริ่มให้หน่อเมื่อหลังปลูก 7–8 เดือน

ควรเก็บหน่อที่แทงชิดต้นแม่โดยตัดสูงจากโคนหน่อบังดินประมาณ2 นิ้วเพื่อให้เกิดตาหน่อขึ้นอีก  ส่วนหน่อที่แทงจากใต้ดินห่างจากต้นแม่ ควรเลี้ยงไว้เป็นต้นแม่ต่อไป

-การไว้ลำ(ต้น)ต่อกอจะเลือกหน่อที่แทงจากเดิมและอยู่ไกลต้นแม่เลี้ยงไว้รอบต้นแม่การไว้ต้นต่อกอควรให้ประมาณ3ต้น/กอหากมีจำนวนต้นต่อกอมากจะทำให้การออกหน่อไม้คดเมื่อต้นใหญ่เจริญแตกในกิ่งสามารถเลี้ยงตัวเองได้ ให้ตัดต้นแม่ทิ้งการไว้ลำจะทำทุกปี โดยส่วนใหญ่จะปล่อยหน่อเป็นต้นใหม่ ประมาณ 2 – 3 ต้น ในช่วงฤดูฝน หรือช่วงกรกฎาค – สิงหาคม พอหน่อเจริญเป็นต้นไผ่ ก็จะตัดต้นเก่าทิ้ง หรือนำไปใช้ประโยชน์อื่นต่อไป

 

รายได้จากการ ปลูกไผ่ ไต้หวัน เก็บผลผลิตวันเว้นวัน น้ำหนักรวมไม่ต่ำกว่า 500 กก. /เดือน

การเก็บเกี่ยวผลผลิตไผ่ไต้หวันจะเก็บแบบวันเว้นวัน จากปริมาณไผ่ในพื้นที่ประมาณ 3,000-4,000 กอ น้ำหนักของ “หน่อ” ในแต่ละกอประมาณ 2-4 ขีดน้ำหนักรวมจริงๆคือ 1,500 กก. แต่ทั้งนี้ก็ต้องอยู่ที่ฤดูกาล ความพร้อม และการดูแลอย่างน้อยสุดก็ไม่ต่ำกว่า 800 กก. แต่ก็มีข้อแม้อีกในช่วงฤดูหนาวที่ส่วนใหญ่ถ้าเป็นไผ่ประเภทอื่นเรียกว่าจะไม่ออกหน่อแต่สำหรับไผ่ไต้หวันยังสามารถออกหน่อได้แต่ปริมาณจะน้อยลงอีกเล็กน้อย

คุณวีรพลบอกว่าในฤดูหนาวแบบนี้ถ้าทำได้ถึง 500 กก. ก็ถือว่าเก่งมากแล้ว ส่วนราคาในการจำหน่ายก็จะคละกันไปตามขนาดและคุณภาพถ้าเป็นหน่อใหญ่ขนาดน้ำหนักเกินกว่า 1 กก. ราคาประมาณ 8 บาท ส่วนเกรดรองลงมาก็ราคา 6 บาท เล็กสุดราคาขายอยู่ที่ 4 บาท แต่นี่คือราคาในช่วงที่หน่อไม้ออกสู่ตลาดได้มากๆ แต่ในฤดูหนาวที่กำลังมาถึงนี้ปริมาณหน่อไม้ในตลาดจะน้อยทำให้ราคาขายสูงขึ้นตามไปอาจจะขายได้สูงถึง 15 บ./กก.

รายได้จากการขาย หน่อไม้ ถือเป็นรายได้เสริมที่ดีมากๆ

รายได้จากการขาย หน่อไม้ ถือเป็นรายได้เสริมที่ดีมากๆ

เมื่อหักลบต้นทุนที่เป็นค่าแรง ( คนงานประจำประมาณ  5 คนคนละ 300 บาท)  ค่าน้ำมัน ( สำหรับเรือวิ่งรดน้ำในพื้นที่ที่ต้องมีการรดน้ำทุกวัน ใช้น้ำมันวันละประมาณ 5 ลิตร ) รวมถึงค่าปุ๋ยยาบ้างในบางครั้ง ต้นทุนรวม/เดือนนั้นก็ไม่ต่ำกว่า 20,000 บาท

สำหรับปาล์มที่มีผลผลิตแล้วจะเก็บเกี่ยวได้ประมาณ 15 วัน /ครั้ง ครั้งละกว่า 10 ตัน ( ปริมาณที่แท้จริงถ้าไม่มีต้นไผ่มาบังแสงที่ใช้ในการเจริญเติบโตของปาล์มอาจเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ถึง 20 ตัน ) ราคา ณ ปัจจุบันคือ 4.05 บาท

ถือเป็นเงินก้อนที่จะได้เดือนละ 2 ครั้ง แต่ไผ่ไต้หวันมีรายได้แทบจะทุกวันเงินที่ได้จากการจำหน่ายหน่อไผ่ก็กลายเป็นเงินหมุนเวียนใช้จ่ายในการดูแลจัดการทำให้มีรายได้ต่อเนื่องอย่างดี

ซึ่งในอนาคตเมื่อมองดูว่าปาล์มเองก็เริ่มมีผลผลิตต่อเนื่องกับการบริหารจัดการไผ่นั้นอาจจะมีการแบ่งแยกโซนการปลูกในพื้นที่ 100 ไร่ให้ชัดเจนทั้งนี้เพื่อให้ปริมาณผลผลิตของปาล์มดีขึ้นแต่ถึงอย่างไรก็ตามจะไม่เลิกปลูกไผ่เนื่องจากเป็นรายได้หมุนเวียนที่ดีที่สำคัญทำให้ลดความเสี่ยงได้มากเนื่องจากราคาปาล์มนั้นผันผวนมากการมีไผ่ไว้รองรับในยามจำเป็นถือเป็นแนวทางที่ดีและอนาคตก็น่าจะเป็นรูปแบบนี้ต่อไป

สนใจรายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อ: วีรพล  สุพรรคพานิช

22/2 ม.10  ต.หนองโรง  อ.หนองแค   จ.สระบุรี โทร.081-852-2797