อุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ถือว่าเป็นอาชีพที่สามารถสร้างรายได้ให้เกษตรกรได้เป็นอย่างดี แต่เกษตรกรจะต้องเอาใจใส่ดูแล และให้ความสนใจอย่างใกล้ชิด เพราะสัตว์น้ำถึงแม้จะสามารถสร้างมูลค่าได้มาก แต่ก็เลี้ยงไม่ง่าย ทั้งโรค ความสะอาด รวมถึงการจัดการฟาร์ม จะต้องมีการดูแลควบคุมอย่างดี จึงจะสามารถจับขายได้กำไร แน่นอนว่าต้นทุนหลักของการเลี้ยงสัตว์น้ำ โดยเฉพาะ กุ้ง คงหนีไม่พ้นเรื่อง อาหาร และ ปัจจัยการผลิต ซึ่งเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะกุ้งเลี้ยงไม่ง่ายเหมือนแต่ก่อน แต่เกษตรกรสามารถควบคุมต้นทุนให้อยู่ในงบได้ โดยการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ดี มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน ใช้แล้วได้ผล
![1.ลุงคำรณมั่นใจผลิตภัณฑ์ จาก หจก.ไบโอวิชั่น](https://www.palangkaset.com/wp-content/uploads/2021/07/1.ลุงคำรณมั่นใจผลิตภัณฑ์-จาก-หจก.ไบโอวิชั่น.jpg)
จุดเริ่มต้นการเลี้ยงกุ้ง
ซึ่งวันนี้ทีมงานนิตยสารสัตว์น้ำได้เดินทางมายังจังหวัดสุพรรณบุรี แหล่งผลิตกุ้งก้ามกรามอันดับต้นๆ ของเมืองไทย มาพบกับ คุณลุงคำรณ เกษตรกรมากฝีมือ ที่เลี้ยงกุ้งมานานกว่า 40 ปี เรียกว่าเป็นอาจารย์เลยก็ว่าได้
คุณคำรณ พุทธโอวาท หรือ ลุงคำรณ เจ้าของบ่อเลี้ยงกุ้งหลาย 10 บ่อเลี้ยง กว่าจะมีวันนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ลุงคำรณได้เล่าให้ทีมงานฟังว่า แต่ก่อนครอบครัวของลุงทำอาชีพเป็นชาวนา หลังสู้ฟ้า หน้าสู้ดิน ทำเท่าไรเงินที่ได้มาก็ไม่เคยพอใช้ เพราะข้าวมีราคาไม่แน่ไม่นอน บางครั้งขาดทุน บางครั้งเสมอทุน หรือบางครั้งมีกำไรนิดหน่อย ไว้จุนเจือครอบครัว
ลุงคำรณต้องการออกจากวงจรความยากจน จึงตัดสินใจไปศึกษาการเพาะลูกกุ้งที่จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยไปเป็นลูกจ้างทำทุกอย่างในฟาร์ม จนได้ความรู้และเทคนิคการเพาะกุ้ง จึงกลับมาสร้างอาชีพที่บ้านเกิด ทำโรงเพาะลูกกุ้งก้ามกรามขาย
“สมัยนั้นลุงขายลูกกุ้งจนรวยเลยนะ ขายตัวละ 25 สต.ขายดีมาก เพาะติดที 10 ล้านตัว ทั้งขาย ทั้งเอาลงบ่อเอง ตอนนั้นนาก็ไม่ได้ทำ เปลี่ยนที่นามาทำบ่อกุ้งทั้งหมด ก็ยึดอาชีพนี้ตั้งแต่นั้นมาจนถึงปัจจุบัน แต่ตอนนี้ไม่ได้ทำโรงเพาะลูกกุ้งแล้ว เพราะว่าราคาขายมันถูก ทำแล้วเหลือกำไรน้อย สู้เอาเวลามาดูแลกุ้งที่บ่อดีกว่า เพราะเราไม่ได้จ้างลูกน้อง”
![2.บ่ออนุบาลลูกกุ้งก้ามกราม](https://www.palangkaset.com/wp-content/uploads/2021/07/2.บ่ออนุบาลลูกกุ้งก้ามกราม.jpg)
การบริหารจัดการบ่อเลี้ยงกุ้ง
ปัจจุบันลุงคำรณมีบ่อกุ้งทั้งหมด 25 บ่อเลี้ยง แบ่งเป็นบ่อขุนลูกกุ้ง และ บ่อเลี้ยงกุ้งเนื้อ บนพื้นที่กว่า 100 ไร่ ซึ่งบ่อเลี้ยง และ อนุบาล มีขนาดบ่อละ 3 ไร่ โดยลุงคำรณจะเน้นการขุนลูกกุ้งขายมากกว่าเลี้ยงเอง เพราะใช้เวลาอนุบาลสั้น และได้เงินเร็ว แต่หากช่วงไหนมีลูกกุ้งเหลือก็จะเอามาเลี้ยงเอง โดยเน้นการเลี้ยงปนกุ้งขาว เพราะช่วยให้กุ้งโตดี และเลี้ยงง่าย มีรายได้ทั้ง 2 ทาง
ซึ่งการจัดการบ่อเลี้ยงของลุงคำรณจะใช้วิธีจัดการง่ายๆ เน้นเลี้ยงแบบบาง ไม่หนาแน่น หัวใจสำคัญคือใส่ใจ และดูแลอย่างใกล้ชิด การจัดการบ่อเริ่มต้นจากการเตรียมบ่อ หากมีเลนมากให้ดันเลนออก จะปรับพื้นที่ให้เสมอ โดยปกติลุงคำรณจะปรับพื้นบ่อปีละ 1 ครั้ง จากนั้นตากบ่อนาน 7 วัน ให้พื้นบ่อแห้งแตกเพื่อฆ่าเชื้อโรคที่ฝังอยู่ในดิน เมื่อพื้นบ่อสะอาดแล้วจะทำการกำจัดหอย หว่านปูน ปรับสภาพดิน และนำน้ำจืดเข้าบ่อผ่านตาข่ายกรอง ป้องกันลูกปลาหลุดเข้าบ่อเลี้ยง ให้มีความสูงครึ่งบ่อ จากนั้นเติมน้ำบาดาลที่มีความเค็ม 3-5 แต้ม เข้าบ่อจนเต็ม แล้วตามด้วยปูนจับสนิม ใช้เวลาในการเตรียมบ่อ-น้ำประมาณ 7-10 วัน ก็จะพร้อมลงลูกกุ้ง
![3.การหว่านแหตรวจไซซ์กุ้ง](https://www.palangkaset.com/wp-content/uploads/2021/07/3.การหว่านแหตรวจไซซ์กุ้ง.jpg)
![กุ้งก้ามกรามที่เลี้ยงปนกุ้งขาว](https://www.palangkaset.com/wp-content/uploads/2021/07/กุ้งก้ามกรามที่เลี้ยงปนกุ้งขาว.jpg)
การอนุบาลกุ้ง
บ่อขนาด 3 ไร่ ลุงคำรณจะลงลูกกุ้งหนาแน่นสูงสุดที่ 1.5 ล้านตัว/บ่อ โดยใช้เวลาอนุบาลนาน 1 เดือน ก็จะเริ่มย้ายบ่อ เพื่อลดความหนาแน่น “เริ่มแรกเราจะอนุบาลในบ่อเดียวก่อน เพราะจัดการดูแลง่าย กินบ่อเดียว ดูน้ำบ่อเดียว ไม่ต้องจ้างคนงาน แต่พอครบ 1 เดือน กุ้งเริ่มใหญ่ เราก็จะแบ่งออกกระจายไปบ่ออื่นๆ ลดความหนาแน่นลง เพื่อให้กุ้งมันโตดี”
ในช่วง 1 เดือนแรก ลุงคำรณได้เน้นย้ำว่าช่วงนี้จะต้องเน้นลงแร่ธาตุรวมให้ถี่ 3 วัน/ครั้ง ติดต่อกัน 5 ครั้ง เพราะกุ้งต้องการแร่ธาตุในการสร้างเปลือก สร้างตัวเยอะ ถ้าแร่ธาตุไม่ถึง กุ้งจะกินกันเอง ทำให้อัตรารอดน้อย ควบคู่กับวิตามินบำรุงสุขภาพกุ้ง โดยคลุกผสมกับอาหารให้กุ้งกินในช่วง 1 เดือนแรก อย่างต่อเนื่อง จะช่วยให้กุ้งแข็งแรง มีอัตรารอดสูง
เมื่ออนุบาลลูกกุ้งไป 1 เดือน กุ้งจะเริ่มขยับไซซ์มาอยู่ที่ขนาดปลายตะเกียบ จากนั้นจะทำการย้ายบ่อ โดยใช้อวนสวิงในการดักลูกกุ้งกระจายไปบ่อละ 150 กิโลกรัม จากนั้นเลี้ยงไปอีก 70-80 วัน ก็จะเริ่มจับกุ้งขายได้ ในช่วงระหว่างสิ่งที่สำคัญที่สุดที่ขาดไม่ได้เลย คือ การดูแลอย่างใกล้ชิด ซึ่งลุงคำรณจะไม่จ้างคนงานดูแลบ่อ แต่จะใช้แรงงานในครอบครัวแทน
“เราจ้างคนงานเขาไม่ได้ดูแลกุ้งเหมือนที่เราดูแล บางทีเวลาหว่านอาหารเราเดินหว่านรอบบ่อ เพราะกุ้งจะได้กินทั่วถึง แต่คนงานบางทีถังอาหารมันหนักเขาอาจจะเทกองเดียวก็ได้ เราก็ไม่รู้ ดังนั้นผมจะใช้แรงงานในครอบครัวดีกว่า ลูกหลานก็มาช่วยกันหมด เพราะการเลี้ยงกุ้ง เหมือนเลี้ยงลูก ต้องเอาใจใส่ดูแล ถึงจะได้ผลผลิตที่ดี”
![4.พี มินเนอร์ พลัส น้ำโปร่งสวย ลดแอมโมเนีย](https://www.palangkaset.com/wp-content/uploads/2021/07/4.พี-มินเนอร์-พลัส-น้ำโปร่งสวย-ลดแอมโมเนีย.jpg)
3 ฮีโร่ คู่บ่อสร้างเงินล้าน
นอกจากการดูแลที่ดีแล้ว ลุงคำรณยังมีสูตรการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงกุ้งมาแนะนำอีกด้วย โดยช่วงลงลูกกุ้ง 1 เดือนแรก จะเน้นให้แร่ธาตุรวม “พี-มินเนอร์ พลัส”เป็นแร่ธาตุเข้มข้น สูตรคีเลต ช่วยให้น้ำโปร่ง น้ำใส สวย ลดแอมโมเนีย เป็นแร่ธาตุที่ช่วยในการลอกคราบของกุ้ง ช่วยเพิ่มแร่ธาตุ ทำให้เปลือกแข็งแรง เปลือกเงา อีกทั้งยังช่วยฟื้นฟูสภาพบ่อเลี้ยง ดูดซับของเสียตามพื้นบ่อ เพิ่มออกซิเจน รักษาค่า pH และอัลคาไลน์ ให้คงที่ สีน้ำนิ่งสวย
![GLUCAN SHRIMP สารกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ให้กุ้งแข็งแรง](https://www.palangkaset.com/wp-content/uploads/2021/07/GLUCAN-SHRIMP-สารกระตุ้นภูมิคุ้มกัน-ให้กุ้งแข็งแรง.jpg)
ควบคู่กับวิตามิน “GLUCAN SHRIMP” ซึ่งเป็นสารกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ให้กุ้งแข็งแรง และสามารถต้านทานโรคได้ ทำให้แก้ปัญหาการตายโดยไม่ทราบสาเหตุได้ อีกทั้งกุ้งยังสามารถต้านทานการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมในบ่อได้ดีอีกด้วย
ซึ่ง “GLUCAN SHRIMP” มีส่วนประกอบพิเศษ คือ Selenium chelate เป็นแร่ธาตุซีลีเนียม ในรูปคีเลต ทำหน้าที่ในการป้องกันและดักจับสารพิษที่เข้ามาในตัวกุ้งก่อนทำให้เกิดโรคได้ โดยมีอัตราการใช้เพียง 5 กรัม/อาหาร 1 กิโลกรัม เท่านั้น ให้วันละ 2 ครั้ง โดยลุงคำรณจะใช้ในช่วงกุ้งอายุ 0-30 วัน เท่านั้น
![HEPA-VIT วิตามินบำรุงตับ](https://www.palangkaset.com/wp-content/uploads/2021/07/HEPA-VIT-วิตามินบำรุงตับ.jpg)
เมื่อเริ่มเข้าเดือนที่ 2 จะเปลี่ยนวิตามินเป็นตัว “HEPA-VIT” ซึ่งเป็นวิตามินบำรุงตับ ประกอบไปด้วยวิตามิน และ กรดอะมิโนเข้มข้น กุ้งสามารถดูดซึมนำไปใช้ได้ทันที ช่วยเสริมประสิทธิภาพการทำงานของเซลล์ตับและเม็ดไขมันให้สมบูรณ์ ช่วยให้กุ้งสามารถต้านทานโรคได้เป็นอย่างดี ส่งผลให้กระบวนการสร้างเซลล์ใหม่ดียิ่งขึ้น ทำให้กุ้งฟื้นตัวจากการป่วยได้รวดเร็ว โดยมีอัตราการใช้ สำหรับกุ้งปกติปริมาณ 3-5 กรัม/อาหาร 1 กิโลกรัม และ ในกุ้งป่วย 5-10 กรัม/อาหาร 1 กิโลกรัม
![CRUDE Protein ช่วยในการลดไซซ์กุ้ง เพิ่มน้ำหนัก](https://www.palangkaset.com/wp-content/uploads/2021/07/CRUDE-Protein-ช่วยในการลดไซซ์กุ้ง-เพิ่มน้ำหนัก.jpg)
เมื่อกุ้งเข้าเดือนที่ 3 จะเริ่มจับขายได้ เดือนนี้ลุงคำรณจะใช้ผลิตภัณฑ์ “CRUDE Protein” ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ ช่วยในการลดไซซ์กุ้ง เพิ่มน้ำหนัก ซึ่ง CRUDE Protein จะเป็นโปรตีนที่ได้จากเนื้อกุ้งมากกว่า 40% เมื่อนำไปคลุกกับอาหารจะมีกลิ่นหอม ดึงดูดให้กุ้งมากินอาหารมากขึ้น ทำให้กุ้งโตเร็วอย่างเห็นได้ชัด “ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ลองใช้แล้วชอบมาก ยิ่งช่วงใกล้จับลุงจะคลุกอาหารให้กุ้งกินทุกวันเลย กุ้งจะไซซ์ขยับขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เนื้อแน่น แถมกุ้งน้ำหนักดีอีกด้วย
ขอขอบคุณข้อมูล คุณคำรณ พุทธโอวาท
สอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ ติดต่อได้ที่ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ไบโอวิชั่น อะควาคัลเจอร์ 55/9-10 หมู่ 2 ต.ลาดหลุมแก้ว อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี 12140 โทร : 081-652-1604 คุณสันติ, 093-325-0669 คุณณฤทัย