ปลูกผักในขวด เจาะลึกการปลูกพืชในขวด พลาสติก ขวดแก้ว ใช้พื้นที่น้อย

พืชถือได้ว่าเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของอาหาร และยังเป็นส่วนที่ผู้บริโภคนิยมนำมาทานกันเป็นอย่างมาก เพราะว่าพืชให้พลังงานและคุณประโยชน์แก่ร่างกายของมนุษย์ ซึ่งการปลูกพืชนั้นก็มีหลากหลายวิธีที่น่าสนใจ และน่าลองนำมาทำตาม ปลูกผักในขวด

แต่วิธีที่ทำให้คนที่ไม่มีเวลาในการดูแลพืชที่ปลูกนั้นมีอยู่หนึ่งวิธีเลย คือ การปลูกพืชโดยใช้ขวดน้ำเป็นส่วนประกอบของกระถางในการปลูกพืช ซึ่งการปลูกพืชในขวดนี้จะช่วยในเรื่องของการดูแล และประหยัดน้ำได้เป็นอย่างดี ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว

การปลูกพืชในขวด

การปลูกพืชในขวดถือว่าเป็นลงทุนที่คุ้มค่า และประหยัดเวลา อีกทั้งการปลูกพืชโดยใช้วิธีดังกล่าวนี้เป็นเรื่องที่น่าสนใจไม่น้อยสำหรับผู้ที่ต้องการปลูกพืชแต่ไม่มีเวลาดูแลมากนัก ซึ่งการปลูกพืชด้วยในขวดนั้นอาจจะเป็นขวดน้ำพลาสติก หรือขวดที่เราไม่ได้ใช้งานแล้ว ก็สามารถนำมาประยุกต์ใช้เป็นกระถางเพื่อการปลูกพืชได้

ซึ่งถือว่าเป็นการนำมารีไซเคิล จากขวดที่ไม่มีค่าหรือเป็นขยะก็สามารถนำกลับมาปลูกพืชเพื่อบริโภคภายในครัวเรือนได้เช่นกัน ถือว่าเป็นการนำเอาแนวความคิดใหม่ๆ ก้าวเข้าสู่ยุคการพัฒนาตนเอง เพื่อการเรียนรู้และต่อยอดไอเดียใหม่ๆ ในการสร้างสรรค์ผลงานเกี่ยวกับการปลูกพืชขึ้นมาได้นั่นเอง

ถือได้ว่าเป็นทางเลือกสำหรับคนที่มีพื้นที่ใช้สอยอย่างจำกัด และคนที่ไม่มีเวลาดูแล แต่ต้องการปลูกพืชสีเขียวเพื่อบริโภค หรือไว้ตกแต่งเพื่อความสวยงามได้ไม่ยากเลย ซึ่งการปลูกพืชโดยใช้ขวดนั้นยังเป็นการช่วยลดปริมาณขยะจากขวดพลาสติกที่ไม่ได้ใช้นำมาให้เกิดประโยชน์ขึ้นอีกครั้ง

นอกจากประหยัดพื้นที่แล้ว ยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อกระถางอีกด้วย นอกจากนี้ยังใช้ทฤษฎีเดียวกับน้ำมันตะเกียง โดยใช้ไส้ตะเกียงนำมาหย่อนในขวดน้ำ ก็จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับตัวดินและพืชได้ ถือได้ว่าการปลูกพืชโดยใช้ขวดน้ำจะช่วยในเรื่องการประหยัดเวลา และไม่เปลืองน้ำมากจนเกินไป รวมไปถึงต้องไม่ลืมที่จะเจาะรูที่ขวดน้ำด้วย

ถ้าเราสังเกตตามท้องถนนจะพบเห็นขวดพลาสติก หรือขวดในลักษณะต่างๆ ที่อาจจะไม่ใช่พลาสติกเป็นจำนวนหนึ่ง แต่ที่พบได้เยอะมากที่สุดเลย คือ ขวดพลาสติก ซึ่งถือได้ว่าเป็นขยะที่มีปริมาณมากที่สุดเลยก็ว่าได้ อีกทั้งการย่อยสลายก็ทำได้ยาก ซึ่งตรงนี้ก็มองได้ว่าถ้าทิ้งไปเฉยๆ ก็จะเปล่าประโยชน์  จึงมีการคิดขึ้นมาว่าทำอย่างไรจะนำขวดพลาสติกเหล่านั้นมาใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด

ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการรีไซเคิล นำมาประดับตกแต่ง หรือดัดแปลงเป็นงานศิลปะ ซึ่งก็มีอีกหนึ่งวิธีการ คือ การนำขวดพลาสติกมาใช้ในการปลูกพืชผัก ช่วยลดปริมาณขยะได้เป็นอย่างมากเลยทีเดียว ซึ่งหน่วยงานต่างๆ ก็ได้เริ่มมีการรณรงค์เกี่ยวกับการย่อยสลาย หรือการใช้พลาสติกให้เกิดประโยชน์มากที่สุดด้วย ซึ่งการนำมาใช้ในการปลูกพืชก็ถือว่าเป็นการสร้างประโยชน์ได้เป็นอย่างมากเลยทีเดียว และเป็นการต่อยอดและการเพิ่มมูลค่าให้กับขวดพลาสติกได้เป็นอย่างดี ทั้งการปลูกพืชโดยใช้ขวดพลาสติกเป็นกระถางนั้นอาจจะมีวิธีการที่แตกต่างกันออกไป แต่ที่สำคัญจะต้องไม่ลืมเจาะรูที่ขวดเพื่อให้การระบายน้ำได้ดียิ่งขึ้น และช่วยคงสภาพความชื้นได้นานอีกด้วย

นอกจากนี้การใช้ขวดพลาสติกมาช่วยในการปลูกพืชจะช่วยประหยัดพื้นที่ได้เป็นอย่างมากเลยทีเดียว เพราะในพื้นที่ชุมชนเมืองอาจจะมีพื้นที่จำกัดแต่อยากจะปลูกพืช การปลูกในขวดพลาสติกถือเป็นเรื่องดีเลยทีเดียว เพราะทั้งประหยัดพื้นที่ และประหยัดเงินในการซื้อกระถางอีกทางด้วย

ประเภทขวดที่ใช้ปลูกพืช

เรามาดูกันดีกว่าว่าการปลูกพืชในขวดพลาสติก ขวดแก้ว หรือการใช้วัสดุจากของเหลือใช้นั้นมีอะไรบ้าง และทำอย่างไรกันบ้าง

• การปลูกพืชในขวดแก้ว

ปลูกพืชในขวดแก้ว หรือโหลแก้ว จะปลูกได้จริงหรือ จริงๆ แล้วปลูกได้ แต่เพียงอย่าให้น้ำขังหรือแฉะเกินไป ซึ่งเราอาจจะคุ้นกันว่าจัดสวนในโหล หรือขวดแก้ว แต่พืชก็สามารถปลูกในขวดแก้วได้เช่นกัน ซึ่งการปลูกพืชในโหลแก้ว หรือขวดแก้วนั้น จะช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวได้เป็นอย่างดี อาจจะปลูกเพื่อประดับ หรือปลูกไว้รับประทานก็ได้เช่นกัน เพราะว่าไม่ได้เปลืองพื้นที่ในการปลูกมากนัก อีกทั้งการดูแลก็ง่าย คล้ายๆ กับการปลูกพืชทั่วไป นอกจากจะนำมารับประทานแล้ว ยังช่วยเพิ่มความสวยงามได้อีกด้วย

ในการปลูกพืชในขวดแก้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้เลย คือ ขวดแก้ว อาจจะเป็นขวดแยม ขวดผลไม้ หรือผักดอง อาจจะมีการเตรียมที่แขวนสำหรับไว้วางขวดแก้วที่ปลูกพืชด้วยก็ได้เช่นกัน นอกจากนี้อาจจะต้องเตรียมดินที่มีการผสมปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักไว้เรียบร้อย ก็จะช่วยเพิ่มธาตุอาหารในดินได้เป็นอย่างดี อีกทั้งพืชผักที่จะนำมาปลูกก็อาจจะเป็นแบบปักชำกิ่ง หรือเมล็ดพันธุ์ ก็ได้ ที่เหมาะสมกับการนำมาปลูก ซึ่งทั้งหมดนี้คือการเตรียมการขั้นตอนที่จะใช้ขวดแก้วในการปลูกพืช

ขั้นตอนการปลูกพืชในขวดแก้ว

ขั้นแรกเลยเราจะต้องนำโหลแก้ว หรือขวดแก้ว ที่เรานำมาเพื่อจะปลูกนั้นล้างให้สะอาด และต้องมีการเช็ดให้แห้ง ทำความสะอาดเพื่อฆ่าเชื้อโรค โดยจะต้องไม่ให้มีเชื้อโรคเจือปนในขวดแก้วอย่างเด็ดขาด อาจจะปิดผ้าและเจาะรู หรืออาจจะเปิดฝาทิ้งไว้ก็ได้เช่นกัน

ต่อมาให้นำหินกรวดมารองขวดไว้ในชั้นล่างสุด ตามด้วยดินที่มีการเตรียมไว้เพื่อปลูกในขวดแก้วเฉพาะ อาจจะเป็นดินที่มีการผสมธาตุอาหารมาแล้ว หรือเป็นดินใหม่จะดีที่สุด และควรเป็นดินร่วนที่สามารถซึมซับน้ำได้ดี และกักความชุ่มชื้นไว้ได้ดีด้วย  และการรดน้ำเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับตัวดินหลังจากที่นำตัวพืชที่จะมาปลูก  เพื่อให้ต้นไม้สามารถเจริญงอกงามได้ดี ทั้งนี้พืชที่นำมาปลูกจะเป็นพืชที่เติบโตเร็ว และกินเวลาสั้น จะดีที่สุดในการปลูกด้วยวิธีนี้ และสุดท้ายก็อาจจะหาที่แขวนหรือใช้วัสดุใกล้เคียงหรือรอบตัวมาทำเป็นที่แขวนหรือตั้งวางไว้ในที่ที่แสงแดดส่องถึง โดยแสงแดดอาจจะเป็นในช่วงเช้าและช่วงเย็นก็ได้ หรือจะตั้งไว้ในที่ที่มีลมผ่านตลอด หรืออากาศถ่ายเทที่ดีก็ได้เช่นกัน เพียงเท่านี้ก็จะได้พืชที่ปลูกในขวดแก้วอย่างมีคุณภาพแล้ว

ทั้งนี้การปลูกพืชในขวดแก้วอาจจะมีการปรับแนวคิด หรือวางไอเดียใหม่ๆ ได้เสมอ อาจจะปลูกเป็นไม้ประดับ หรือไม้ผลเล็ก ที่เพิ่มความสวยงามได้เช่นกัน เหมือนเป็นการตกแต่งบ้านไปในตัวด้วย เพราะว่าต้นไม้ขนาดเล็กก็เป็นตัวช่วยในเรื่องของการเพิ่มสีเขียวให้กับในพื้นที่ได้เป็นอย่างดีเลย ถือเป็นแนวคิดและวิธีการปลูกโดยใช้ขวดแก้วในพื้นที่ ที่มีความจำกัดของสภาพแวดล้อมและปัจจัยหลายๆ อย่างเลยทีเดียว

การปลูกพืชในขวดพลาสติก

นอกจากขวดแก้วแล้ว ขวดพลาสติกก็เป็นกระถางขวดอีกหนึ่งชนิดที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการปลูกพืชได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว นอกจากจะไม่ต้องเสียเงินในเรื่องขวดแล้ว ยังสามารถหาได้ง่าย ไม่ว่าเป็นขวดน้ำที่เรารับประทานหมดแล้ว ขวดน้ำอัดลม หรือขวดน้ำที่มีการทิ้งแล้วจากหลากหลายแหล่ง

ซึ่งเราจะเห็นได้ว่าขวดน้ำแต่ละชนิดนั้นมีรูปร่างที่ใกล้เคียงกัน อาจจะต่างกันที่ขนาด โดยเราอาจจะเลือกใช้ให้เหมาะสมกับพืชที่จะนำมาปลูกก็ได้เช่นกัน ที่สำคัญเลยขวดน้ำที่จะนำมาใช้ต้องเป็นขวดที่สะอาด และไม่มีสิ่งแปลกปลอมอยู่ในขวดอย่างเด็ดขาด

อีกทั้งยังเป็นการประหยัดพื้นที่ที่จะปลูกพืชได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว เพราะว่าการปลูกพืชในขวดพลาสติกนั้นจะไม่วุ่นวายเท่ากับการปลูกในแปลงใหญ่ๆ และสามารถเก็บผลผลิตได้เร็ว ที่สำคัญการดูแลนั้นก็ง่าย เพราะว่าไม่จำเป็นจะต้องให้น้ำอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่อยากปลูกพืชแต่ไม่มีเวลา รวมไปถึงคนที่อยากปลูกแต่มีพื้นที่จำกัด ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งเลยทีเดียวที่จะได้เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับตัวเอง

เตรียมต้นกล้าหรือเมล็ดพันธุ์ที่จะทำการปลูก

เตรียมต้นกล้าหรือเมล็ดพันธุ์ที่จะทำการปลูกไว้เป็นอันดับแรก โดยต้นกล้านั้นอาจจะมีการเพาะพันธุ์ในกระบะเพาะต้นกล้ามาก่อนแล้วก็ได้เช่นกัน อาจจะปลูกในขวดพลาสติกเลยก็ได้ แต่ที่แนะนำให้ทำการเพาะต้นกล้าก่อนแล้วค่อยย้ายไปปลูกในขวดพลาสติกจะดีกว่า และใช้ขวดน้ำพลาสติก พีอีที ซึ่งขวดน้ำพลาสติกนั้นอาจจะใช้ได้ทุกขนาดเลยก็ว่าได้ ตามความเหมาะสมกับพืชที่จะนำมาปลูก อาจจะตั้งแต่ 355 มิลลิลิตร ไปจนถึงขนาด 6 ลิตร เลยก็ได้เช่นกัน

อุปกรณ์ตัดแต่งต่างๆ

อุปกรณ์ตัดแต่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นคัดเตอร์ กรรไกร หรือมีด ที่จะใช้ตัดขวดที่มีขนาดเล็ก หรือเชือกที่จะใช้เป็นส่วนประกอบในการปลูกพืชได้ ส่วนสว่านหรือตะปูที่สามารถช่วยเจาะรูขวดน้ำได้ ซึ่งอาจจะต้องระมัดระวังในเรื่องของการใช้ด้วย เพราะว่าเป็นเครื่องมือช่าง

อีกทั้งตะปูที่ผ่านการลนไฟก็จะมีความร้อน ต้องระมัดระวังในเรื่องของการใช้ให้ดี และที่สำคัญอีกอย่างเลย คือ เชือก ที่จะใช้ในการเป็นตัวกลางเพื่อดูดซึมน้ำให้ไหลผ่านและหมุนเวียนในตัวขวดพลาสติกได้เป็นอย่างดี ซึ่งเราอาจจะใช้เชือกผ้าที่สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายเครื่องเขียน โดยความยาวของเชือกที่เหมาะสมควรยาวประมาณ 5 เมตร ซึ่งเป็นขนาดที่พอดีที่จะใช้ในการปลูกพืชในขวดพลาสติก

ในส่วนของกรวดหินนั้น อันนี้อาจจะแล้วแต่คนที่จะปลูกว่าจะปลูกพืชชนิดใด หรือต้นไม้ประเภทไหน ซึ่งจะใช้หรือไม่ใช้ก็ได้เช่นกัน เพราะว่าเป็นแค่ตัวช่วยในการกรองน้ำอีกทางนั่นเอง และกระดาษที่สามารถปิดรอบๆ ขวดได้ ในกรณีนี้อาจจะใช้เฉพาะขวดที่เป็นแนวตั้งที่ไม่ได้ผ่านการเจาะรูทั่วๆ แต่ถ้าจะทำเป็นกระถางแนวนอนอาจจะไม่จำเป็นต้องใช้กระดาษมาช่วยปิดให้เกิดความทึบแสงก็ได้

สุดท้ายก็ดิน ดินควรเป็นดินใหม่ที่ยังไม่เคยผ่านการปลูกพืชชนิดใดๆ มาก่อน หรืออาจจะเป็นใหม่ที่มีการผสมปุ๋ยหมักหรือคอก เพื่อเพิ่มธาตุอาหารในดินแล้วก็ได้เช่นกัน ไม่ควรใช้ดินที่เคยผ่านการปลูกพืชมาแล้ว เพราะจะทำให้พืชที่ปลูกอาจจะติดโรคได้ อีกทั้งอาจจะใช้เป็นปุ๋ยน้ำแทนปุ๋ยที่ทำการผสมมากับตัวดินแล้วก็ได้เช่นกัน เพราะถ้าเป็นปุ๋ยน้ำจะช่วยให้พืชนั้นสามารถดูดซึมได้ดีกว่าปุ๋ยแบบใช้ในการปลูกแบบแปลง

ขั้นตอนการปลูกพืชในขวดพลาสติก

ขั้นแรกเลยเราต้องนำขวดพลาสติกที่ได้มานั้นมาทำการฆ่าเชื้อและทำการล้างให้สะอาดเสียก่อนที่จะนำมาใช้ในการปลูกพืช เพราะว่าการจะปลูกพืชในขวดพลาสติกนั้นเราจะต้องมั่นใจว่าขวดนั้นสะอาดและไม่มีเชื้อโรค เพราะต้นกล้าที่นำมาลงปลูกนั้น การต้านทานโรคอาจจะยังไม่ดี จึงเป็นเรื่องสำคัญมาก จากนั้นก็ทำการตัดแบ่งขวดให้เป็น 2 ชิ้น โดยชิ้นที่อยู่ด้านบนหรือที่มีฝาขวดต้องสั้นกว่าขวดที่เป็นฐานด้านล่าง เพราะว่าฐานด้านล่างนั้นจะต้องมีพื้นที่ใส่น้ำให้พอดี อีกทั้งเป็นการป้องกันการใส่ดินไม่ให้เยอะจนเกินไปอีกด้วย

ต่อมาให้นำสว่านมาเจาะรูตรงกลางฝา การเจาะรูที่ฝานั้นอาจจะต้องเจาะให้รูมีขนาดใหญ่พอดีกับเชือกที่จะนำมาร้อยผ่าน เพราะว่าเชือกจะต้องทำให้ผ่านพอดีไม่หลุดได้ง่าย แต่ถ้าใครไม่มีอุปกรณ์ที่ใช้ในการเจาะอาจจะใช้ตะปูลนไฟ และนำมาเจาะรูก็ได้เช่นกัน แต่วิธีการใช้ตะปูจะต้องระวังเรื่องความร้อนด้วย

อีกวิธีเลย คือ การเจาะรูให้ทั่วทั้งขวด ซึ่งการเจาะรูให้ทั่วทั้งขวดนั้นจะเป็นวิธีการวางขวดเป็นกระถางในแนวนอน เพื่อให้น้ำนั้นสามารถไหลผ่านได้ง่าย และทำให้ดินมีการเก็บความชื้นได้ดี ซึ่งวิธีการปลูกแบบแนวนอนนี้ อาจจะเหมาะกับคนที่ไม่ค่อยมีเวลามากนัก แต่ก็จะไม่เท่ากับวิธีที่ใช้เชือก จากนั้นให้เราวัดเชือกจากปากขวดจนถึงก้นขวด ในการวัดเชือกนั้นต้องระวังไม่ให้ออกแรงกดขวดแรงจนเกินไป เพราะจะทำให้ตัวขวดด้านบนนั้นลึกจนไม่สามารถใส่น้ำได้ เพราะว่าถ้าเรามีพื้นที่ในการใส่น้ำมากเท่าไหร่ เราก็จะสามารถทิ้งพืชไว้ได้นานมากขึ้น

ในส่วนของการใช้ขวดพลาสติกแบบแนวนอนหรือเป็นกระถางนั้นอาจจะต้องรดน้ำอาทิตย์ 2-3 ครั้ง ต่อสัปดาห์ โดยรดในช่วงเช้า หรืออาจจะสังเกตว่าดินเริ่มแห้งก็สามารถรดน้ำได้เช่นกัน แต่ต้องระวังไม่ให้รดมากจนเกินไป รดแค่พอให้ดินนั้นมีความชุ่มชื้นมากขึ้นก็เพียงพอแล้ว พืชก็จะอยู่ได้ซักระยะแล้ว จากนั้นใช้กรวดรองไว้ที่ก้นหลุมเพื่อให้เชือกนั้นไม่ขยับออก เพราะเชือกจะต้องแน่นและตรงอยู่ตลอด เพื่อที่จะได้ดูดน้ำไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ได้  ตรงนี้จะทำให้รากนั้นเกิดการงอกขึ้น และจะมาพันรอบๆ ตัวเชือกเพื่อดูดน้ำไปหล่อเลี้ยงลำต้นได้ ถ้าในกรณีที่ไม่ได้มีกรวดก็อาจจะใช้ดินที่เป็นดินใหม่มารองก้นหลุมเลยก็ได้เช่นกัน

จากนั้นให้ย้ายต้นกล้าจากกระบะที่ทำการเพาะไว้ออกมา การนำต้นกล้าออกจากกระบะเพาะนั้นต้องระมัดระวังในการเคลื่อนย้าย เพราะอาจจะทำให้รากนั้นหลุดและต้นกล้าตายได้ อาจจะใช้วิธีการใช้ปลายช้อนแคะต้นกล้าออกมาก็ได้ พอย้ายแล้วควรวางต้นกล้าให้ใกล้กับเชือกเพื่อที่รากจะได้พันรอบเชือกได้ง่ายนั่นเอง ต่อมาให้เติมน้ำปุ๋ยที่ทำขึ้นเองหรือซื้อมาก็ได้ ลงไปในขวดให้ได้ระดับที่พอดีกับขวด

แต่ถ้าในกรณีที่ไม่มีปุ๋ยน้ำให้ใช้น้ำประปาได้เช่นกัน แต่น้ำประปามีคลอรีนอยู่พอสมควร ฉะนั้นควรนำมาตั้งทิ้งไว้ก่อนจะนำต้นกล้าไปใส่ประมาณ 2-3 วัน เพื่อให้คลอรีนนั้นเจือจางก่อน ทั้งนี้ถ้าใครที่จะปลูกและมีการทำน้ำหมักเองก็สามารถใส่ได้เต็มที่ และตามด้วยจุลินทรีย์สังเคราะห์แสง และค่อยเติมน้ำเปล่าตามลงไป เพียงเท่านี้ก็จะได้น้ำปุ๋ยที่ช่วยให้พืชเติบโตได้แล้ว

ในกรณีที่ใช้ขวดน้ำพลาสติกแบบแนวตั้งอาจจะเป็นกังวลว่าเมื่อใส่จุลินทรีย์และธาตุอาหารลงไปในน้ำแล้ว อาจจะทำให้เกิดตะไคร่น้ำได้ เมื่อน้ำโดนแสงนานๆ เข้า ซึ่งก็มีวิธีป้องกันโดยนำกระดาษอาจจะเป็นหนังสือพิมพ์ หรือกระดาษที่ช่วยในเรื่องของการกันแสงแดงส่องถึง มาปิดให้มิดชิดเพียง เท่านี้ก็เป็นการป้องกันได้แล้ว หลังจากนั้นก็คอยสังเกตระดับน้ำว่ามีปริมาณลดลงไปมากน้อยเพียงใด ถ้าพืชดูดไปหล่อเลี้ยงลำต้นในปริมาณหนึ่ง และเราเห็นว่าระดับน้ำเหลือน้อยก็ให้ทำการยกขวดด้านบนออก และนำขวดด้านล่างไปล้างให้สะอาด และใส่น้ำปุ๋ยน้ำและจุลินทรีย์ต่างๆ ใหม่ เพียงเท่านี้พืชก็จะได้ธาตุอาหารที่จะหล่อเลี้ยงลำต้นอย่างต่อเนื่องแล้ว

ข้อดีและข้อเสียของการ ปลูกผักในขวด

• ข้อดีของการปลูกพืชในขวด

ข้อดีของการปลูกในขวดนั้นหลักเลย คือ ช่วยให้ประหยัดพื้นที่ได้เป็นอย่างดี ยิ่งในพื้นที่ที่มีจำกัด อย่าง คอนโดมิเนียม อพาร์ทเมนท์ หรือหอพักต่างๆ ซึ่งอยากจะปลูกพืชไว้รับประทานเอง ก็สามารถที่จะปลูกได้ รวมไปถึงการดูแลที่ไม่ยุ่งยาก เพราะว่าการปลูกพืชในขวดนั้นมีน้ำที่เหมาะสมกับพืชอยู่ ทำให้ไม่จำเป็นที่จะต้องรดน้ำประจำ เลยหมดปัญหาเรื่องต้นเน่าหรือตายได้ง่าย อีกทั้งในเรื่องของที่ดินอาจจะไม่จำเป็นมากเท่าไหร่นัก เพราะไม่ได้ปลูกเพื่อจำหน่าย แต่ปลูกไว้ทานเอง ก็ประหยัดค่าใช้จ่ายในเรื่องของการซื้อผักได้อีกทางด้วย

นอกจากนี้ยังสามารถปลูกได้กับพืชอีกหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นต้นหอม ผักชี พริก ฯลฯ ก็สามารถใช้วิธีการปลูกแบบนี้ได้เช่นกัน เป็นเรื่องที่ง่ายมากเลยสำหรับการปลูกพืชในขวดเพื่อไว้รับประทานเอง รวมไปถึงช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวในบ้าน หรือห้องพัก ของตัวเองได้อีกด้วย ถือว่าเป็นทั้งพืชเพื่อการบริโภค และประดับตกแต่งไปในตัวเลยก็ว่าได้ จึงไม่เป็นปัญหาสำหรับในยุคที่เรื่องของการปลูกผักทานเองเป็นเรื่องยุ่งยากและวุ่นวายแล้วนั่นเอง

นอกจากนี้ยังสามารถนำแนวคิดแปลกใหม่มาประยุกต์ในการจัดวางพืชที่ปลูกในขวดได้อีกด้วย อาจจะใช้แบบแขวนลอย หรือประดับตามผนังทางเดินก็ได้ เพิ่มความโดดเด่นและสวยงามได้อีกทางด้วยเช่นกัน ที่สำคัญไม่ต้องกังวลเรื่องของปัญหาสารพิษตกค้างในตัวพืชเลย เพราะว่า เป็นพืชที่ปลูกขึ้นเอง จึงทำให้ไม่จำเป็นที่จะต้องกังวลว่าจะมานั่งใช้สารเคมีในการกำจัดวัชพืช หรือแมลงศัตรูพืช เลยทีเดียว

• ข้อเสียของการปลูกพืชในขวด

เนื่องจากเป็นพืชที่อยู่กับน้ำแทบตลอดเวลา จึงอาจจะมีความเสี่ยงของเกิดโรคจากน้ำได้ไม่ยากนัก อีกทั้งเสี่ยงที่น้ำจะเกิดตะไคร่น้ำ ทำให้พืชนั้นได้รับสารอาหารไม่เต็มที่ก็เป็นได้ รวมไปถึงการดูแลที่บอกว่าเป็นเรื่องง่าย แต่ถ้าเราปล่อยหรือละเลยก็อาจจะทำให้พืชเน่าตายได้เช่นกัน เพราะพืชที่ปลูกในขวดนั้นเติบโตโดยอาศัยน้ำและปุ๋ยน้ำเป็นหลัก ทำให้เสี่ยงที่จะตายได้ง่ายกว่าพืชที่ปลูกบนดินอยู่มาก

การใช้ปุ๋ยก็อาจจะใช้ได้ไม่เต็มที่มากนัก เนื่องจากว่าเป็นการปลูกพืชที่ใช้น้ำเป็นตัวช่วยในเรื่องของการเจริญเติบโต ทำให้ปุ๋ยบางชนิดไม่สามารถใช้กับพืชที่ปลูกในขวดได้ และเสี่ยงต่อการที่เชื้อจะเกิดเชื้อรา เนื่องจากว่ามีการแช่น้ำอยู่เป็นเวลานาน อาจจะทำให้เกิดเชื้อราได้เมื่อนำออกมาล้างและนำไปแช่ใหม่

ฝากถึงผู้ที่สนใจปลูกพืชในขวด

การปลูกพืชในขวดนั้น ถือได้ว่าเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับใครที่อยากจะลองปลูกพืชผัก  เพื่อไว้บริโภคเองภายในครัวเรือน ถือว่าเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก เพราะว่าเป็นแนวความคิดที่ว่าการจะเริ่มทำอะไรใหม่ๆ นั้นไม่ใช่เรื่องยาก ถ้าได้ลงมือทำ พืชในขวดถือเป็นทางเลือกใหม่เลยที่จะเข้ามาปรับชีวิตที่วุ่นวายให้มีความลงตัวมากขึ้น หรือถ้าใครที่ใส่ใจในเรื่องของสุขภาพอาจจะกังวลว่าพืชผักที่บริโภคอยู่ปลอดสารพิษหรือยาฆ่าแมลงเลย เพราะปลูกด้วยตัวเอง จึงทำให้มั่นใจได้ว่าจะได้ผลผลิตที่ดีต่อร่างกายแน่นอน

กล่าวถึงการปลูกพืชในขวดอาจจะเป็นอะไรที่ค่อนข้างแปลกใหม่สำหรับคนเมือง แต่ก็เริ่มได้รับความนิยมมาบ้างแล้วบางส่วน เพราะวิถีชีวิตที่ค่อนข้างวุ่นวาย ทำให้การจะปลูกพืชผักทานเองเป็นเรื่องยาก แต่บทความนี้เป็นการแนะนำการปลูกพืชในขวด อีกทางเลือกสำหรับคนเมืองและคนที่สนใจให้ได้ลองศึกษาและนำไปปรับใช้ได้อย่างไม่ยากเลย ซึ่งมีข้อดีที่ทำได้ง่าย และไม่วุ่นวาย ลองทำดูหรืออ่านทำความเข้าใจจากเนื้อดังกล่าว ก็เป็นตัวช่วยอีกทางได้อย่างแน่นอน

ขอขอบคุณแหล่งข้อมูลอ้างอิง

https://www.sanook.com/home/10521/，https://www.kasetorganic.com/ ปลูกผักในขวด พลาสติก.html，https://www.ihome108.com/garden-made-with-recycle-bottle/，https://www.blogcocosth.com/2019/02/%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%9C%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%82%E0%B8%A7%E0%B8%94/，http://www.gurukaset.net/%E0%B9%81%E0%B8%8A%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B9%84%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%99%E0%B8%B3-%E0%B8%82%E0%B8%A7%E0%B8%94%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3/