วิธีปลูกผักชี เจาะลึกปลูกแบบหว่านและแยกกอ ผักชีจีน ผักชีฝรั่ง ผักชีลาว 30-45 วัน

โฆษณา
AP Chemical Thailand

อาหารบนจานล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่น่าลิ้มลองและน่ารับประทานทั้งสิ้น หลากหลายชนิดที่ได้มีการประดับตกแต่งบนจานอาหารด้วยพืชผักหลากหลายชนิด ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คงหนีไม่พ้นผักชีเป็นแน่ เพราะว่าเป็นพืชที่นำมาประดับตกแต่งหรือโรยบนจานอาหารที่หลากหลายให้ดูน่ารับประทานมากยิ่งขึ้น วิธีปลูกผักชี

นอกจากจะนำมาโรยประดับบนจานอาหารแล้ว ยังสามารถนำมารับประทานเป็นเครื่องเคียงได้อีกด้วย ถึงแม้ต้นจะเล็กแต่สรรพคุณนั้นไม่ได้เล็กตามตัวเลย เรามาทำความรู้จักกับผักชีกันดีกว่าว่าพืชนี้มีที่มาที่ไปอย่างไร

1.ปลูกง่ายและโตเร็ว
1.ปลูกง่ายและโตเร็ว

การปลูกผักชี 

ผักชีถือได้ว่าเป็นผักที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบัน เพราะไม่ว่าจะหันไปทางไหนบนจานอาหารล้วนแล้วแต่มีผักชีเข้ามาเป็นเครื่องเคียงหรือประดับตกแต่งบนจานอาหารแทบทั้งสิ้น ถือเป็นผักอีกหนึ่งชนิดที่ยังคงครองอยู่ในตลาดของพืชผักทางการเกษตรได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว

นอกจากนี้การปลูกผักชีก็ไม่ใช่เรื่องที่ยากเกินไป เพราะว่าผักชีเป็นพืชที่ค่อนข้างโตได้เร็ว และเห็นผลผลิตได้ไว ทำให้เกษตรกรมีการปลูกผักชีกันเพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก อีกทั้งผักชียังเป็นพืชที่มีลักษณะที่โดดเด่นเฉพาะตัว กลิ่นที่ฉุนทำให้แมลงบางชนิดไม่ถูกกับผักชีมากนัก ถึงแม้จะเป็นพืชที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในบ้านเรา แต่บางทีหรือบางคนอาจจะไม่ชอบผักชีก็ได้เช่นกัน เพราะว่าเป็นผักที่มีกลิ่นฉุน และอาหารบางชนิดก็ไม่เหมาะกับการตกแต่งด้วยผักชีนั่นเอง

ผักชีก็ถือได้ว่าเป็นพืชเศรษฐกิจอีกชนิดหนึ่งที่มีการปลูกในภาคการเกษตรเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังเป็นพืชที่โตได้เร็ว ให้ผลผลิตที่ไว ทำให้มีการปลูกผักชีทั้งอาชีพเสริมและหลักเพิ่มจำนวนมากขึ้น ถึงแม้ว่าจะมีบางคนหรือบางประเทศที่ไม่ได้ชอบผักชีเนื่องจากกลิ่นหรืออะไรก็แล้วแต่ แต่ผักชีก็ยังคงเป็นที่นิยมมาจนปัจจุบันนี้ แต่ถ้ายิ่งมีผลผลิตมากจนเกินไป ก็จะทำให้ผักชีเกิดการล้นตลาดมากขึ้น จึงอยากจะแนะนำว่าการปลูกผักชีถ้าสะดวกปลูกเพื่อทานเองก็ได้เช่นกัน แต่ถ้าจะปลูกเพื่อขาย สิ่งสำคัญเลย คือ ต้องคำนึงถึงผู้บริโภค และตัวเกษตรกรผู้ปลูกเองด้วยว่าไม่ควรปลูกโดยใช้สารเคมีจะเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด อีกทั้งต้องไม่ลืมว่าทิศทางตลาดผักชีนั้นมีการเติบโตมากน้อยเพียงใด เพื่อให้ได้ผลผลิตที่คุ้มค่า และสอดคล้องกับเกษตรกรมากที่สุดด้วยนั่นเอง

ผักชีถือได้ว่าเป็นผักชนิดหนึ่งที่มีความเป็นพืชผักที่ใช้ในการบริโภคของคนไทยมาอย่างยาวนาน อีกทั้งยังถือว่าเป็นพืชสมุนไพรได้เช่นกัน

โฆษณา
AP Chemical Thailand

นอกจากนี้ยังเป็นพืชล้มลุกขนาดเล็กถึงกลางที่มีอายุสั้น โดยอายุของผักชีนั้นเฉลี่ยแล้วประมาณ 40-60 วัน ถือว่าเป็นพืชอีกหนึ่งชนิดที่นิยมปลูกกันเป็นอย่างมากเลยทีเดียว โดยในเมืองไทยนั้นสายพันธุ์ที่นิยมนำมาปลูกนั้นจะเป็นสายพันธุ์ผักชีสิงคโปร์เมล็ดดำ กับสายพันธุ์ไต้หวัน ซึ่งถือว่าเป็นสายพันธุ์ที่นิยมปลูกในไทยเป็นอย่างมาก อีกทั้งผักชียังมีอีกหลากหลายประเภทที่นิยมปลูก และรูปแบบต่างกันตามแต่ละพื้นที่

ผักชีจีน ผักชีฝรั่ง ผักชีลาว

ในประเทศไทยเอง ผักชีที่จะเห็นกันคุ้นหน้าคุ้นตาเลย ก็คือ ผักชีจีน กับผักชีฝรั่ง รวมไปถึงผักชีลาว ที่จะคุ้นหน้าคุ้นตาในเมืองไทย ซึ่งผักชีแต่ละชนิดก็จะมีการนำมาประกอบอาหารที่แตกต่างกันออกไป โดยผักชีฝรั่งกับลาวอาจจะเน้นไปที่อาหารประเภทยำเป็นหลัก ส่วนผักชีจีนก็อาจจะเน้นที่ใส่ในน้ำซุปหรือเป็นเครื่องเคียงก็ได้เช่นกัน อีกทั้งผักชียังสามารถนำมาประกอบอาหารได้ทุกส่วน รวมไปถึงช่วยในเรื่องของการดับกลิ่นคาวในเนื้อสัตว์ได้อีกด้วย

ด้วยที่ว่าผักชีเป็นพืชที่สามารถนำมาประกอบอาหารได้ทุกส่วนจึงถือได้ว่าเป็นพืชที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียวเรามาดูกันดีกว่าว่า แต่ละส่วนนั้นคืออะไรและเป็นมาอย่างไรบ้าง

  • รากผักชี

รากผักชีนั้นถือเป็นส่วนที่มีความสำคัญในการประกอบอาหารเป็นอย่างมาก ซึ่งอาหารทั้งในไทยและประเทศเพื่อนบ้าน รวมไปถึงแถบเอเชียอาคเนย์ ก็มีการใช้รากผักชีเป็นตัวช่วยในการประกอบอาหาร เนื่องจากว่าตัวรากนั้นจะมีส่วนช่วยในการเพิ่มรสชาติและกลิ่นให้กับอาหาร น้ำซุป และน้ำแกงต่างๆ ถือได้ว่ารากผักชีนั้นจะมีกลิ่นเฉพาะตัวเลยทีเดียว ซึ่งถือว่าเป็นหัวใจสำคัญอาหารประเภทแกงต่างๆ เป็นอย่างมาก

ซึ่งตัวรากผักชีนั้นที่เราเห็นอยู่กันเป็นประจำเลย คือ การนำรากผักชีมาใส่ในการทำพะโล้ เพราะจะช่วยในการดึงกลิ่นให้มีความหอมที่โดดเด่นมากยิ่งขึ้นนั่นเอง และยังช่วยเพิ่มรสชาติให้น้ำซุปนั้นมีความกลมกล่อมมากขึ้น เมื่อใช้คู่กับกระเทียม พริกไทย และสมุนไพรอื่นๆ ด้วย

  • เมล็ดผักชี

เมล็ดผักชีอาจจะมีหลายๆ คนที่คุ้นหู หรือเคยเห็นมาบ้าง แต่บางคนอาจจะไม่เคยเห็น แต่อย่างที่บอกนั้นเมล็ดผักชีสามารถนำมาใช้ในการทำเครื่องเทศได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว ยิ่งถ้าเรานำเมล็ดผักชีมาคั่วก่อนที่จะนำไปใช้ประกอบอาหารนั้นจะยิ่งช่วยให้เมล็ดผักชีมีกลิ่นที่หอมและเป็นเอกลักษณ์มากยิ่งขึ้น โดยเมล็ดผักชีนั้นสามารถนำมาตำรวมกับพริกแกง และสมุนไพรชนิดอื่นๆ ได้ ซึ่งจะช่วยให้รสชาติอาหารมีความกลมกล่อมมากขึ้น อีกทั้งถ้านำไปใช้กับยี่หร่าก็จะช่วยดึงกลิ่นและรสชาติออกไปทางอาหารแบบแขกมากขึ้น

โฆษณา
AP Chemical Thailand

การนำเมล็ดผักชีมาใช้นั้นไม่ควรที่จะตำทิ้งไว้ เนื่องจากว่ากลิ่นและรสของเมล็ดผักชีจะระเหยและจางไปกับอากาศได้ค่อนข้างเร็ว เราจึงสังเกตเห็นได้ว่าคนที่นำเมล็ดผักชีมาใช้จะนำมาตำสดเสมอ จึงไม่นิยมตำและนำไปเก็บไว้ใช้ทีหลังเลย ในส่วนของเมล็ดที่ยังไม่ได้ผ่านการใช้งานนั้นอาจจะมีการเก็บใส่บรรจุภาชนะที่ปิดสนิทและแห้ง จะช่วยป้องกันแมลงมากัดกินได้

  • ใบผักชี

ใบผักชีเป็นส่วนที่นิยมนำมาตกแต่งอาหารบนจานมากที่สุด อีกทั้งยังสามารถเข้าได้ดีกับอาหารที่มีรสชาติเปรี้ยวได้เป็นอย่างดีเลย ไม่ว่าจะเป็นพวกยำ หรือต้มยำ ก็จะช่วยเพิ่มรสชาติของอาหารได้อีกทางหนึ่งด้วย หรือจะนำมาเป็นเครื่องเคียงก็ได้เช่นกัน

นอกจากนี้ผักชียังเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของอาหารในอิตาลี และสเปน รวมไปถึงตุรกี และกรีก ด้วย โดยอาหารที่มีส่วนประกอบของผักชีนั้น ก็คือ ซัลซา หรือซอว ที่บดมะเขือเทศผสมกับหัวหอมใหญ่ พริก ถั่ว และอื่นๆ เข้าด้วยกัน โดยเป็นเครื่องจิ้มเพิ่มรสชาติในอาหารของเม็กซิกันนั่นเอง

ประเภทของผักชี

ผักชีนั้นที่มีความนิยมในเมืองไทยเป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าจะมีอยู่ประมาณ 3 ชนิด คือ ผักชีไทย (จีน) ผักชีลาว และผักชีฝรั่ง ซึ่งลักษณะของใบและรูปร่างนั้นก็จะมีลักษณะที่แตกต่างกันออกไป แต่วิธีการปลูกอาจจะไม่แตกต่างกันมากนัก นอกจากนี้รสชาติและกลิ่นของผักชีทั้ง 3 ชนิดนี้ก็มีกลิ่นที่ไม่เหมือนกัน และเหมาะกับการนำมาใช้ประกอบอาหาร หรือตกแต่งจานอาหาร ก็แตกต่างกันด้วย เรามาทำความรู้จักผักชีทั้ง 3 ชนิด ก่อนจะเข้าวิธีการปลูกกันดีกว่า

  • ผักชีไทย (จีน)

เป็นผักชีที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในเมืองไทย เนื่องจากหาซื้อ และหาทานได้ง่าย ปลูกง่าย และโตได้เร็ว อีกทั้งยังมีลักษณะต้นที่เล็กเป็นพุ่มล้มลุกขนาดเล็ก ตัวใบที่แตกย่อยออกมาเป็นจำนวนมาก ซึ่งในผักชีประเภทนี้สามารถนำมาใช้ได้ทุกส่วนของต้นเลยก็ว่าได้ ซึ่งเป็นข้อดีเลยทีเดียว อีกทั้งผักชียังมีวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายเลยทีเดียว

โฆษณา
AP Chemical Thailand

แต่ด้วยความที่ว่าผักชีนั้นเป็นพืชที่มีกลิ่นฉุนและแรงนิดหน่อย จึงทำให้เป็นพืชที่มีทั้งคนที่ไม่ชอบในเรื่องของกลิ่น แต่ก็ยังคงเป็นพืชที่นิยมนำมาประดับบนจานอาหารด้วยกลิ่นที่ชวนหลงใหล ทำให้อาหารดูน่ารับประทานและดึงดูดมากขึ้น

  • ผักชีลาว

ผักชีลาวถือได้ว่าเป็นผักที่มักจะพบในแกงลาว ซึ่งมีลักษณะใบเรียกและเป็นฝอยๆ ในแถบเอเชียก็มักจะพบในแกงลาว ประเภทแกงอ่อม หรือใส่ในห่อหมก อีกทั้งยังมีสรรพคุณช่วยในการดับกลิ่นคาวจากตัวปลาได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังนำมาช่วยในเรื่องของการแต่งกลิ่น ทำเป็นผักดอง น้ำซอส สตู หรือจะใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องดื่มก็ได้เช่นกัน ช่วยชูกลิ่นให้หอมยิ่งขึ้น

ถ้าในต่างประเทศจะนิยมนำมาใช้ในเมนูปลา หรือเป็นเครื่องเคียงกับมันฝรั่ง และน้ำซอส รวมไปถึงสลัด และซุป ซึ่งถือได้ว่าเป็นผักที่นิยมมากในเอเชีย แต่ไม่ค่อยนิยมในแถบยุโรป หรือมีการใช้น้อยมากกว่าบ้านเราเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

  • ผักชีฝรั่ง

ผักชีฝรั่งถ้าเรียกชื่อเผินๆ คนที่ไม่เคยซื้อผักก็อาจจะไม่คุ้นชื่อ อาจจะจำสับสนได้ว่าหน้าตาเป็นอย่างไร โดยผักชีฝรั่งนั้นจะมีลักษณะที่แตกต่างจากผักชีลาวและผักชีไทยอย่างสิ้นเชิงเลยทีเดียว เนื่องจากผักชีฝรั่งนั้นจะมีลักษณะเรียบยาวและมีขอบหยัก ไม่เหมือนกับผักชีอื่นๆ

ซึ่งผักชีฝรั่งนั้นมีต้นกำเนิดในแถบเม็กซิโก และอเมริกาใต้ จึงเป็นผักที่ได้รับความนิยมในย่านนั้นเลยทีเดียว และยังนิยมใช้ประกอบอาหารในฝั่งเอเชียเช่นกัน โดยเราจะพบการนำผักชีฝรั่งไปใช้ในอาหารเพื่อปรุงรสและตกแต่งมากกว่า โดยเน้นการโรยประดับบนอาหารเพื่อเพิ่มความหอมและสวยงามให้กับอาหาร

2.เจริญเติบโตแข็งแรง และให้ผลผลิตไว
2.เจริญเติบโตแข็งแรง และให้ผลผลิตไว

สภาพพื้นที่ปลูกผักชี

เนื่องจากผักชีเป็นพืชที่มีอายุสั้น และเป็นพืชที่โตเร็ว ทำให้การปลูกในแต่ละครั้งจะต้องมีการเตรียมดิน และการเตรียมแปลงปลูกที่ดิน อีกทั้งขั้นตอนการดูแลรักษา และการเก็บเกี่ยว ก็จะเป็นเรื่องที่ง่าย นอกจากนี้การปลูกผักชีถ้าไม่ได้ปลูกเพื่อเตรียมการจำหน่ายก็สามารถปลูกในพื้นที่บริเวณบ้าน หรือในกระถางเพื่อไว้บริโภคได้เช่นกัน เพราะอายุของผักชีนั้นสั้น และโตเร็ว ทำให้ช่วยในเรื่องของการประหยัดค่าใช้จ่ายได้เป็นอย่างดี เรามาดูกันดีกว่าว่าการปลูกผักชีแบบแปลงเพื่อจำหน่ายนั้นต้องเตรียมอย่างไรบ้าง

โฆษณา
AP Chemical Thailand

การเตรียมแปลงปลูกสำหรับผักชี

ในการเตรียมแปลงเพื่อทำการปลูกผักชีนั้น สิ่งแรกเลย คือ จะต้องทำการถางหญ้าหรือวัชพืชออกให้หมดเสียก่อน หลังจากที่เราถางหญ้าหรือวัชพืชออกหมดแล้วให้ทำการปรับพื้นที่แปลง ในการปรับพื้นที่แปลงเพื่อจะปลูกนั้นควรจะปรับให้เหมาะสมกับขนาดและพื้นที่ที่แปลงจะปลูก อีกทั้งจะต้องปรับให้เหมาะสมกับฤดูด้วยเช่นกัน

ซึ่งฤดูฝนหรือพื้นที่ที่มีความชุ่มชื้นตลอดปี ควรทำแปลงปลูกแบบยกร่องสูง หรือจัดให้มีร่องระหว่างแปลงเพื่อการระบายน้ำที่ดี เพราะจะช่วยให้ไม่เกิดน้ำขังจนเกินไปจนทำให้ต้นเน่าตายได้ ซึ่งการเตรียมแปลงสำหรับปลูกนั้นควรจะใช้ดินที่มีความร่วนซุย ระบายน้ำได้ดี จะเหมาะสมที่สุดสำหรับการปลูกผักชี ส่วนในฤดูแล้งหรือพื้นที่ที่มีการขาดแคลนน้ำ ควรทำแปลงแบบในระดับพื้น หรือแปลงยกสันร่องระหว่างแปลง เพื่อให้มีการกักเก็บน้ำไว้ใช้ในการปลูก  รวมไปถึงจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับตัวดินที่จะทำการปลูกด้วยเช่นกัน

เมื่อเราทำการเตรียมแปลง กำจัดหญ้า และปรับระดับแปลงที่จะปลูกให้เหมาะสมกับฤดูแล้วนั้น ต่อมาก็ทำการพรวนดินเพื่อผสมกับปุ๋ยที่มาจากธรรมชาติที่หาได้ภายในพื้นที่ท้องถิ่น อาทิ แกลบ ขี้เลื่อย มูลโค-กระบือ ฟางข้าว เศษใบไม้ เป็นต้น ซึ่งจะช่วยในเรื่องของการปรับตัวดินให้มีธาตุอาหารที่เหมาะสมกับผักชีเป็นอย่างดีเลยทีเดียว

การเตรียมเมล็ดพันธุ์ผักชี

ผักชีเป็นพืชที่ปลูกง่ายและโตไวอยู่แล้ว จึงทำให้สามารถหาเมล็ดพันธุ์มาปลูกได้ไม่ยากนัก ซึ่งเมล็ดพันธุ์ของผักชีที่นิยมปลูกในเมืองไทย คือ พันธุ์สิงคโปร์ และพันธุ์ไต้หวัน ซึ่งเป็นเมล็ดพันธุ์ที่สามารถหาซื้อจากแหล่งขายเมล็ดพันธุ์ที่สามารถเชื่อถือ และเป็นเมล็ดพันธุ์ที่ปลอดภัยไร้สารเคมีจะดีที่สุด เนื่องจากว่าเมล็ดพันธุ์ที่มีขายอยู่ตามร้านค้าส่วนใหญ่จะเป็นเมล็ดพันธุ์ที่มีการผสมสารเคมีและความชื้นมา จึงทำให้เสี่ยงที่ต้นผักชีจะเติบโตช้า

ซึ่งถ้าได้เมล็ดพันธุ์ที่มีสารเคมีกันแมลงมาควรจะล้างน้ำให้สะอาดเสียก่อน ก่อนที่จะเริ่มนำไปปลูก อาจจะแช่น้ำสะเดาหรือน้ำสะอาดที่มีส่วนช่วยในการล้างสร้างเคมีออกประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนที่จะเริ่มนำมาหว่านลงแปลงที่จะปลูก ที่ทำแบบนี้ก็เพื่อช่วยป้องกันแมลงมากัดกินเมล็ดพันธุ์ผักชีก่อนที่จะเริ่มงอก และในการนำเมล็ดผักชีไปแช่น้ำเพื่อล้างสารเคมีออกนั้นควรจะนำน้ำมาใส่ในถังที่สามารถล้างเมล็ดผักชีได้ และนำเมล็ดผักชีนั้นห่อใส่ผ้ามัดไว้ จะแช่ทิ้งในถังก็ได้ หรือทำการร่อนในตัวผ้าก็ได้เช่นกัน

วิธีปลูกผักชี

การปลูกผักชีนั้นจะแบ่งออกเป็น 2 แบบ ตามความถนัดในการปลูกของแต่ละคน ซึ่งวิธีการปลูกแบบที่นิยมทำกันทั่วๆ ไปเลย คือ การปลูกแบบหว่านเมล็ด และอีกหนึ่งวิธี คือ การปลูกแบบแยกกอ ซึ่งทั้ง 2 วิธีนั้นก็จะมีการปลูกที่แตกต่างกันออกไปเล็กน้อย เรามาดูวิธีการปลูกทั้ง 2 แบบกันดีกว่า

โฆษณา
AP Chemical Thailand

การปลูกแบบหว่านเมล็ด

เริ่มแรกเลยก่อนที่เราจะลงมือปลูกพืชก็ต้องทำการกำจัดวัชพืชออกให้หมดเสียก่อน และทำการไถพรวนดินให้เรียบร้อย จากนั้นตากดินทิ้งไว้ประมาณ 5-7 วัน ทำประมาณ 2 ครั้ง และก็ปรับพื้นที่ให้เสมอกัน ต้องไม่ลืมผสมปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักลงไปในดินด้วยเพื่อช่วยเพิ่มความสมบูรณ์ให้กับดิน โดยการใช้ปุ๋ยนั้นอาจจะใช้ไร่ละประมาณ 1,000 กิโลกรัม ต่อไร่ และในพื้นที่ 1 ไร่ อาจจะใช้เมล็ดพันธุ์ประมาณ 5 กิโลกรัมโดยประมาณ ที่สำคัญก่อนหว่านเมล็ดควรพรมน้ำในแปลงเสียก่อน เพื่อที่จะให้ผักชีนั้นเติบโตได้อย่างเต็มที่ และทำการกลบดินบางๆ และรดน้ำซ้ำอีกครั้งโดยให้ปริมาณที่พอดี อย่าให้ท่วมจนเกินไป

การปลูกแบบแยกกอ

วิธีการเตรียมดินจะทำเหมือนกับวิธีการปลูกแบบหว่านเมล็ด แต่ขนาดของแปลงที่เหมาะสมกับการปลูกด้วยวิธีนี้ควรมีขนาดแปลงประมาณ 1 เมตร ยาวประมาณ 20-50 เมตร และต้องเว้นระยะห่างระหว่างหลุมปลูกประมาณ 20×20 เมตร จากนั้นให้นำต้นพันธุ์ที่เตรียมไว้ใส่ลงในหลุมให้เรียบร้อย และรดน้ำตาม พอแค่ชุ่มไม่ต้องถึงขั้นแฉะ เมื่อต้นผักชีเริ่มตั้งตัวได้ก็ควรกำจัดวัชพืชตามไปด้วย และตามด้วยการใส่ปุ๋ยคอกตามลงไป เพื่อให้ผักชีที่กำลังเติบโตจะได้รับธาตุอาหารได้อย่างเต็มที่ และที่สำคัญจะเป็นการช่วยกระตุ้นให้ลำต้นนั้นมีความแข็งแรงมากขึ้น

ที่สำคัญกับการปลูกโดยแยกกอนั้นอาจจะพรางแสงแดดให้กับต้นผักชีด้วยทางมะพร้าว หรือตาข่ายพรางแสง เพื่อให้ได้รับแสงในปริมาณที่พอเหมาะประมาณ 60-80 เปอร์เซ็นต์ เท่านั้น แต่วิธีการนี้ก็สามารถทำได้ทั้งแบบหว่านเมล็ดและแยกกอนั่นเอง

การบำรุงดูแลต้นผักชี

การดูแลเพื่อให้ผักชีได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ และเติบโตแข็งแรง การดูแลไม่ว่าจะเป็นเรื่องน้ำ การให้ปุ๋ย จึงถือว่าเป็นเรื่องสำคัญเป็นอย่างมากเลยทีเดียว ที่เกษตรกรหรือผู้ที่ปลูกจะละเลยไม่ได้

การให้น้ำสำหรับผักชีนั้น หลังจากที่เริ่มหว่านเมล็ดในระยะแรกไปแล้ว การให้น้ำก็จะให้ประมาณ 2 ครั้ง ต่อวัน โดยการให้น้ำจะให้ในช่วงเช้าและเย็นทุกวัน โดยให้น้ำในลักษณะนี้ประมาณ 1 เดือน หลังจากครบ 1 เดือน ควรลดการให้น้ำเหลือแค่ประมาณ 2-3 วัน ต่อครั้ง แต่ให้ในช่วงเช้าและเย็นเช่นกัน และก่อนช่วงที่จะเก็บเกี่ยวประมาณ 1 สัปดาห์ ก็ลดการให้น้ำลงให้เหลือการให้น้ำประมาณ 3-4 วัน ต่อครั้ง ก็จะช่วยให้ต้นผักชีเติบโตได้อย่างสมบูรณ์

การให้ปุ๋ยในผักชีนั้น ส่วนใหญ่แล้วจะให้เป็นปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักก็ได้ โดยการให้นั้นอาจจะใช้น้ำที่ผ่านการแช่มูลสัตว์ที่ใส่ถังหมัก ทิ้งไว้ประมาณ 1 สัปดาห์ และนำเอาส่วนที่เป็นน้ำนั้นมารดลงในแปลงผักชีที่ปลูก โดยการรดนั้นก็จะใช้รดประมาณ 2-3 ครั้ง ต่อสัปดาห์ โดยเป็นการใช้ร่วมกับการให้น้ำทั่วไป แต่การใช้น้ำปุ๋ยมูลสัตว์นั้นควรให้ประมาณ 1 สัปดาห์ หลังจากที่รากเริ่มงอกแล้ว นอกจากนี้ให้นำเศษมูลสัตว์ที่เป็นตะกอนหลังจากเกิดการตกตะกอนจากการแช่นั้น แล้วมาใช้โปรยหว่านในแปลงเกษตรเป็นระยะประมาณ 2 ครั้ง ต่อเดือน ก็จะช่วยให้ได้ผักชีที่มีคุณภาพมากขึ้น และปลอดสารพิษนั่นเอง

โฆษณา
AP Chemical Thailand

การป้องกันและกำจัด แมลง ศัตรูพืช และวัชพืช

สำหรับภาคการเกษตรคงหนีไม่พ้นเรื่องแมลง ศัตรูพืช และวัชพืช อย่างแน่นอน แต่ในผักชีนั้นอาจจะไม่พบปัญหาในเรื่องแมลง ศัตรูพืช มากเท่ากับพืชชนิดอื่นๆ แต่ถ้ากลัวว่าอาจจะเจอปัญหาก็สามารถใช้วิธีทางธรรมชาติได้ โดยการนำใบสะเดามาต้มน้ำเพื่อให้ได้น้ำสะเดาในการนำมาฉีดพ่นยังแปลงปลูกผักชี หรือถ้าไม่ใช้ใบสะเดาก็เปลี่ยนมาใช้ใบพืชที่มีความขมในตัว อย่างเช่น ฟ้าทะลายโจร บอระเพ็ด เป็นต้น เพราะพืชที่มีลักษณะขมจะช่วยในเรื่องของการไล่แมลงได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว และในการนำมาใช้ฉีดพ่นในแปลงผักชีนั้นสามารถทำได้ แต่ไม่ควรใช้บ่อยจนเกินไป แนะนำให้นำมาฉีดพ่นประมาณสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ก็จะช่วยลดปัญหาเรื่องแมลงไปได้เลยทีเดียว

การกำจัดวัชพืชถือเป็นปัญหาที่หนักใจของเกษตรกรเลยก็ว่าได้ เพราะว่าถ้าเราไม่ใส่ใจในแปลงพืชผัก วัชพืชก็จะถามหาอย่างแน่นอน ฉะนั้นแล้วเกษตรกรที่ปลูกผักชีควรทำการกำจัดวัชพืชด้วยวิธีการถอนออกประมาณ 3 ครั้ง หรือตลอดระยะเวลาในการปลูก เพื่อที่วัชพืชจะไม่มาแย่งธาตุอาหารในผักชีนั่นเอง

3.วิธีปลูกผักชี ให้ได้ผลผลิตผักชีได้คุณภาพ
3.วิธีปลูกผักชี ให้ได้ผลผลิตผักชีได้คุณภาพ

การเก็บเกี่ยวผลผลิตผักชี

ผักชีเป็นพืชที่สามารถเติบโตได้เร็ว และมีระยะเวลาการเติบโตที่สั้น โดยการเก็บเกี่ยวผักชีนั้นจะอยู่ที่ประมาณ 30-45 วัน ก็สามารถเก็บเกี่ยวได้แล้ว วิธีการเก็บเกี่ยวก็อาจจะใช้มือช่วยในการถอนออก เพราะผักชีนั้นเป็นผักที่สามารถนำมาใช้ได้ทุกส่วนของต้น ตั้งแต่รากยันใบเลยทีเดียว และหลังจากเก็บเกี่ยวเสร็จแล้วให้ทำการตกแต่งใบให้เรียบร้อย โดยเด็ดใบที่มีลักษณะไม่ดีหรือเสียหายออก หลังจากนั้นนำมาล้างน้ำให้สะอาด และนำมาผึ่งลมให้แห้ง เพื่อป้องกันไม่ให้ผักชีนั้นเกิดการเน่าและเสียหายระหว่างการส่งขาย

สรรพคุณของผักชี

หลายๆ คนคงคิดว่าผักชีเป็นพืชที่นำมาประกอบอาหารได้เพียงอย่างเดียว หรือนำมาตกแต่งบนจานอาหารเท่านั้น แต่จริงๆ แล้วผักชีก็ถือได้ว่าเป็นพืชสมุนไพรอีกหนึ่งชนิดในประเทศไทย ที่มีส่วนช่วยในการบำรุงและรักษาร่างกายของคนเราได้เป็นอย่างดี ช่วยในเรื่องของการบำรุงธาตุในร่างกาย แก้กระหายน้ำ แก้ไอ และไข้หวัด รักษาอาการอาหารเป็นพิษ ซึ่งจะนำส่วนของใบมาใช้ในการบริโภคเป็นหลัก

ส่วนเมล็ดของผักชีนั้นมีส่วนช่วยรักษาแผลในช่องปาก และแก้ปวดฟัน ได้เป็นอย่างดี รวมไปถึงแก้อาการถ่ายเป็นเลือดด้วย และทางด้านของต้นที่สดจะช่วยขับผื่นหัดได้เร็วขึ้น ขับเหงื่อ และขับลม รวมไปถึงช่วยในเรื่องของการเจริญอาหารได้เป็นอย่างดี และรากผักชีจะช่วยให้ขับพิษได้เร็ว รักษาหิด และช่วยแก้อีสุกอีใสได้

นอกจากนี้ยังได้มีการทดลองและวิจัยในด้านวิทยาศาสตร์อีกด้วยว่าช่วยในเรื่องของการป้องกันและต้านอนุมูลอิสระ รวมไปถึงกระตุ้นการทำงานของกระเพาะอาหารและลำไส้ ช่วยลดความดันและน้ำตาลในเลือดได้ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดีหากว่าผลวิจัยดังกล่าวมีส่วนช่วยในการพัฒนา และช่วยรักษาให้ร่างกายมีความแข็งแรงและมีภูมิต้านทานที่ดี ก็จะเป็นเรื่องที่น่าสนใจเป็นอย่างมากเลยทีเดียว

โฆษณา
AP Chemical Thailand

การปลูกผักชีถือว่าเป็นพืชที่ไม่ได้ปลูกยาก และโตได้ค่อนข้างเร็ว ถือว่าเป็นพืชเศรษฐกิจที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว อีกทั้งยังเป็นพืชที่สามารถเพาะปลูกได้ที่บ้านอีกเช่นกัน อีกทั้งการดูแลก็ค่อนข้างง่าย จึงทำให้ผักชียังคงเป็นผักที่ครองตลาดผักมาจนถึงทุกวันนี้ รวมไปถึงดินที่ใช้ในการปลูกและการเตรียมพื้นที่ก็ต้องใส่ใจในรายละเอียดแทบทุกขั้นตอน เพราะถึงแม้จะเป็นพืชที่โตง่าย แต่ก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาตามมา การปลูกผักชีจึงไม่ใช่เรื่องที่ยากจนเกินไปเลย

การปลูกผักชีบทความในครั้งนี้เป็นหัวเรื่องเกี่ยวกับผักชี ซึ่งเรารู้อยู่แล้วว่าเป็นผักที่หาทานได้ง่าย มีขายตามตลาดค้าปลีกและห้างสรรพสินค้าทั่วไป ซึ่งขั้นตอนการปลูก การหว่านเมล็ด และสายพันธุ์ที่นิยมมาปลูกนั้น ก็เป็นการบอกกล่าวเนื้อหาและรายละเอียดที่จะสามารถทำให้ผู้อ่านนั้นมีความเข้าใจได้ง่ายยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยให้เข้าใจในเรื่องของการดูแลต่างๆ ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย ถึงแม้จะเป็นประเด็นหลักๆ ที่สำคัญ แต่การปลูกผักชีก็มีวิธีการปลูกอีกมากมายให้ลองได้ค้นหา จึงไม่ควรหยุดอยู่เพียงเท่านี้

ขอขอบคุณแหล่งข้อมูลอ้างอิง วิธีปลูกผักชี วิธีปลูกผักชี วิธีปลูกผักชี  วิธีปลูกผักชี วิธีปลูกผักชี

https://health.kapook.com/view154743.html,https://cooking.kapook.com/view202613.html,https://th.openrice.com/th/bangkok/article/%E0%B9%81%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%81-%E0%B8%9C%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%8A%E0%B8%B5-%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%94-a5834,https://www.rakbankerd.com/agriculture/page.php?id=6207&s=2,https://home.kapook.com/view90361.html วิธีปลูกผักชี วิธีปลูกผักชี วิธีปลูกผักชี