เลี้ยงปลาทับทิมในกระชัง เลี้ยง 4 เดือนจับขายให้ตลาดโต๊ะจีน

โฆษณา
AP Chemical Thailand

เลี้ยงปลาทับทิมในกระชัง เลี้ยง 4 เดือนจับขายให้ตลาดโต๊ะจีน

หลังจากที่เปิดตัวศรีนิลไปแล้วใน “นิตยสาร สัตว์น้ำ” จนโด่งดัง และมีออร์เดอร์ถล่มทลาย จนผลิตกันแทบไม่ทัน ในฉบับนี้ทีมงานจึงได้ติดตามไปยังผู้เลี้ยงปลากระชังลุ่มน้ำน่าน จ.นครสวรรค์ ที่ใช้ลูก พันธุ์ปลาทับทิม และอาหารของทาง กรเกียรติฟาร์ม ได้พบกับ คุณดาวรุ่ง บุญพรม หรือ คุณดาว เดิมประกอบอาชีพวิ่งรถส่งปลาตามตลาด แต่ก็พบปัญหาตลอด เช่น ปลาขาด หรือไม่ได้ตามขนาดที่ต้องการ

แต่เมื่อกาลเวลาเปลี่ยน ทุกคนล้วนมีโอกาสเข้ามาในชีวิตเสมอ ทำให้คุณดาวรุ่งได้พบกับ คุณกรเกียรติ พรมจวง ที่ทำให้เหตุการณ์ชีวิตมีอาชีพเพิ่มขึ้น เปลี่ยนจากคนวิ่งปลาอย่างเดียวให้เป็นคน เลี้ยงปลาทับทิมในกระชัง เองด้วย ซึ่งเลี้ยงมากว่า 2 ปี ถือว่าครบวงจร พันธุ์ปลาทับทิม พันธุ์ปลาทับทิม พันธุ์ปลาทับทิม พันธุ์ปลาทับทิม พันธุ์ปลาทับทิม

โดยมีจุดแข็งเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว คือ มีรถวิ่งปลาเองวันละ 3 เที่ยว และธุรกิจมีการเติบโตตลอด จาก 20 กระชัง ปัจจุบันกว่า 107 กระชัง และกำลังขยายอีก 100 กระชัง แต่เป้าหมายข้างหน้า คือ 500 กระชัง เลี้ยงด้วยปลาวัคซีนทั้งหมด ผลผลิตขั้นต่ำกระชังละ 1 ตัน

ปรึกษาฟรี! หากบอกว่ามาจาก นิตยสาร สัตว์น้ำ หรือ พลังเกษตร.com สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณกรเกียรติ โทร 081-8874783

1.คุณดาวรุ่ง-บุญพรม-และคุณกรเกียรติ-พรมจวง
คุณดาวรุ่ง-บุญพรม-และคุณกรเกียรติ-พรมจวง เกษตรกร เลี้ยงปลาทับทิม

 

2.การเลี้ยงปลารอบแรก-20-กระชัง
การ เลี้ยงปลาทับทิม รอบแรก-20-กระชัง

การเลือกทำเล เลี้ยงปลาทับทิมในกระชัง และขนาดกระชัง

ก่อนจะเริ่มกิจการ เลี้ยงปลาทับทิมในกระชัง ก็ต้องมีพื้นที่และทำเลที่ดีก่อน เช่น พื้นที่ที่น้ำไม่แล้ง น้ำสะอาด ไม่มีการเลี้ยงหนาแน่น ในบริเวณนั้น จึงได้มาเจอที่บริเวณแม่น้ำน่าน จ.นครสวรรค์ แต่น้ำจะมีลักษณะที่ขุ่น แต่ในความขุ่นก็มีดี ในช่วงฤดูร้อนน้ำจะไม่ร้อนมาก

ซึ่งกว่าจะเจอพื้นที่นี้จะต้องพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส อาศัยช่วงน้ำแล้ง สังเกตดูว่าพื้นที่บริเวณไหนยังมีน้ำอยู่ก็จะเลือกบริเวณนั้น การ เลี้ยงปลาทับทิม รอบแรกเริ่มจาก 20 กระชัง ได้ผลผลิตที่ดีอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ต้องเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นมาเรื่อยๆ ขนาดกระชังที่เลี้ยงจะมีขนาด 3×5 เมตร ปล่อยลูกปลาในอัตราส่วน 1,400 ตัว/กระชัง ขนาด 35 ตัว/กิโลกรัม

โฆษณา
AP Chemical Thailand

ซึ่งจะเข้าช่วงฤดูกาลหนาวพอดี เดิมนั้นจะ เลี้ยงปลาทับทิม ลงเป็นช่วงๆ ทีละ 10 กระชัง เนื่องจากประสบการณ์เรื่องการเลี้ยงปลาไม่ค่อยมี เพราะเติบโตมาทางด้านการขนส่งมากกว่า

3.การอนุบาลลูกปลาก่อนลงกระชัง
การอนุบาลลูกปลาก่อนลงกระชัง

 อนุบาลลูกปลาก่อนลงกระชัง ช่วยลดต้นทุน

หากจะรับลูกปลาไซส์ลงกระชังมาทั้งหมดนั้นก็จะเป็นการเพิ่มต้นทุน แต่หากว่ารับลูกปลามาอนุบาลเองก็จะลดต้นทุนไปในตัวด้วย เป็นเพียงการเสริมเข้าไปเท่านั้น แต่อย่างน้อยก็อยู่ในพื้นที่น้ำเดียวกัน ลูกปลาก็สามารถที่จะปรับตัวให้คุ้นเคยกับสภาพอากาศ แต่หลักๆ แล้วจะใช้ปลาวัคซีนจากกรเกียรติฟาร์มเท่านั้น

4.ฤดูกาลส่งผลต่อจำนวนปลาในกระชัง
ฤดูกาลส่งผลต่อจำนวนปลาในกระชัง

ฤดูกาลส่งผลต่อจำนวนปลาในกระชัง

ซึ่งการลงลูกปลาในแต่ละรอบนั้นจะลงอัตราความหนาแน่นที่แตกต่างกันไป เนื่องจากฤดูกาลมีส่วนสำคัญในการจัดการกระชัง เพราะเมื่อหากปลาได้อายุ 3 เดือนไปแล้วจะมีขนาดใหญ่ขึ้น หากปล่อยเยอะจะแน่น และเมื่อเลี้ยงเข้าในช่วงฤดูหนาวจะสามารถอยู่ได้ถึงกระชังละ 1,400 ตัว

เนื่องจากปลาจะไม่ค่อยมีการเคลื่อนไหว จะได้ผลผลิตไม่ต่ำกว่ากระชังละ 1 ตัน แต่หากเป็นช่วงฤดูร้อนในเดือนมีนาคมและเมษายน ปล่อยในอัตราส่วนที่ลดลง คือ 1,000 ตัว/กระชัง และผลผลิตที่ได้จะอยู่ที่ 800-900 กิโลกรัม

5.การจัดการระบบการเลี้ยง
การจัดการระบบการเลี้ยง

จัดระบบการ เลี้ยงปลาทับทิม โดยวิธี “ระเบิดด่างทับทิม”

ทุกพื้นที่ที่มีการ เลี้ยงปลาทับทิม กระชัง จะต้องมีระบบการจัดการเลี้ยงอยู่แล้ว อยู่ที่ว่าจะเลือกแบบไหน แต่ตนนั้นเลือกในแบบที่ถนัด และคิดว่าดีที่สุด สำหรับลุ่มน้ำในพื้นที่ของตน เพราะพื้นที่ลุ่มน้ำน่านจะมีน้ำที่ขุ่นมากกว่าลุ่มน้ำปิง โดยที่เริ่มจากการเตรียม กระชังเลี้ยงปลา

โดยการล้าง กระชังเลี้ยงปลา ทำความสะอาด ฆ่าเชื้อโดยการผึ่งแดดให้แห้ง และจะมีการสาดด่างเพื่อฆ่าเชื้อบ้าง หรือเรียกว่าวิธีการ  “ระเบิดด่างทับทิม” คือ นำด่างทับทิมใส่ห่อผ้าขาวบางและมัดไว้ ทำการกวนใน กระชังเลี้ยงปลา 1 วัน ก่อนลงลูกปลา และขอบ กระชังเลี้ยงปลา มักจะมีเชื้อโรคอยู่แล้ว ก็จะให้คนงานถูออก และจะทำให้เชื้อโรคลดลงไป

โฆษณา
AP Chemical Thailand

ใช้ระยะเวลาไม่นานจัดการได้ทั่วถึง และไม่ส่งผลเสียต่อระบบธรรมชาติ เมื่อลูกปลามาลงหากมีบาดแผลจากการขนส่งจะระเบิดด่างอีกครั้ง เพื่อฆ่าเชื้อโรคที่จะทำให้ปลาอ่อนแอ และเพื่อสมานแผล และหยุดการให้อาหารประมาณ 3-5 วัน เพื่อให้ปลาปรับสภาพเข้ากับสิ่งแวดล้อมได้ กระชังเลี้ยงปลา กระชังเลี้ยงปลา กระชังเลี้ยงปลา กระชังเลี้ยงปลา

และเพื่อสร้างความเข้มแข็ง จะมีการปรับอุณหภูมิให้เข้ากันก่อนลง กระชังเลี้ยงปลา หากเป็นปลาไฟล์ที่ใส่ถุงขนส่งมาจะต้องลอยไว้ครึ่งชั่วโมง แต่ว่าถ้าเป็นลูกปลาที่เป็นปลานิ้วไม่จำเป็นต้องปรับอุณหภูมิ จะใช้วิธีการวางยาสลบและเอาลงเลย เนื่องจากมีการขนส่งแบบใส่ถังควบคุมอุณหภูมิที่ 25 องศาเซลเซียส เปิดออกซิเจน เหมือนรถปลาเนื้อเมื่อมาถึงก็วางยาสลบไม่ให้ปลาดิ้น และปล่อยลง กระชังเลี้ยงปลา

6.การให้อาหารใช้ของแบรนด์ฟินาเล่-ไคโตซานเป็นอาหารเสริม
การให้ อาหารปลาทับทิม ใช้ของแบรนด์ฟินาเล่-ไคโตซานเป็นอาหารเสริม

การเลือกใช้ อาหารปลาทับทิม คุณภาพและการให้อาหาร

ในกรณีรับปลา 35 กรัม มาลง หลังจากลงปลาได้ 3-5 วัน จะเริ่มให้ อาหารปลาทับทิม ด้วยแบรนด์ฟินาเล่444ซึ่งเป็น อาหารปลาทับทิม เล็กโปรตีน 32% ของ กรเกียรติฟาร์ม ระยะเวลาที่ให้ประมาณ 20-30 วัน แล้วแต่สภาพแวดล้อมช่วงนั้นๆ แต่ในช่วงฤดูร้อนจะให้วันละ 2 มื้อ เช้าและเย็น

เนื่องจากอัตราความเสี่ยงต่อการเสียหายค่อนข้างสูง แต่หากเป็นช่วงอากาศร้อนจัดให้วันละ 3 มื้อ ในช่วง 8.00 น. 13.00 น. และ 17.30 น. แต่หากบางครั้งต้องการขุนให้โตไวอาจจะเป็น 4 มื้อ/วัน 8.00 น. ,10.00 น.,14.00 น.และ 18.00 น. ขึ้นอยู่กับจังหวะของตลาดปลาขนาดต่างๆ

แต่การให้ อาหารปลาทับทิม ไม่จำเป็นต้องเลี้ยงแบบให้ปลาอิ่มจัด ควรเลี้ยงแบบให้กินเรื่อยๆ ดูจากลักษณะการกินเป็นหลัก และหลังจาก 30 วัน จะเปลี่ยนเป็น ฟินาเล่555 ให้ยาวจนจับ แต่หากรับปลาไฟล์มาลงจะให้อาหารอนุบาลก่อน หรือเอาเบอร์ 444 มาพรมน้ำ และบดให้

อาหารปลาทับทิม ที่ใช้จะใช้กระชังละ 65 กระสอบ เท่านั้น และระยะเวลาในการเลี้ยง 4 เดือน 20 วัน เนื่องจากต้องการผลผลิตเป็นปลาใหญ่ หรือที่เรียกกันว่า ปลาโบ้ อย่างน้อยจะต้องได้ขนาด 800 -1,200 กรัม/ตัว เนื่องจากตลาดที่ส่งเป็นตลาดโต๊ะจีน

โฆษณา
AP Chemical Thailand

ใช้ “ไคโตซาน” เป็นอาหารเสริม

ในระหว่างการเลี้ยงควรมีวิตามินซีและวิตามินรวมเสริมเข้าไปด้วย ระยะเวลา 1 เดือน อาจจะเสริมเข้าไป 1-2 ครั้ง โดยมากจะใช้ไคโตซานเป็นหลักผสมอาหารให้ทุกวัน เนื่องจากจะช่วยย่อย เพราะส่วนผสมของไคโตซานจะผลิตจากเปลือกกุ้งและหอย จะส่งผลให้เกล็ดแข็ง กระตุ้นการกิน ช่วยระบบการย่อย ปลาที่กินไคโตซานขี้จะยาว ขาว รสชาติ เนื้อปลาจะแน่น และอร่อย

7.การห้อยเกลือทำให้ปลาแข็งแรง
เลี้ยงปลาทับทิมในกระชัง การห้อยเกลือทำให้ปลาแข็งแรง

การ “ห้อยเกลือ” ช่วยปลาป่วย

การห้อยเกลือถือเป็นทางเลือกที่ดีอีกวิธีหนึ่งที่จะไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม และยังช่วยให้ปลาสุขภาพแข็งแรง เนื่องจากช่วงระยะเวลาที่ปลาป่วย ไม่กินอาหาร หากนำถุงเกลือไปห้อยไว้ ปลาที่ป่วยมักจะเข้ามาทันที เพราะว่าต้องการแร่ธาตุเพื่อใช้ในการปรับสมดุลแร่ธาตุในร่างกายผ่านทางเหงือกในการดูดซึมแร่ธาตุ

ทำได้โดยการนำเกลือแกงมัดใส่ถุงพลาสติกใสยาว และใช้เข็มเจาะรูเล็กที่ก้นถุงเพียงรูเดียวเท่านั้น เพราะคุณสมบัติของเกลือที่ห้อยไว้เมื่อเจาะถุงแล้วจะค่อยซึม เมื่อโดนความชื้นทำปฏิกิริยา และจะอยู่ได้ประมาณ 2 วัน หรือหากช่วงไหนที่มีอากาศเปลี่ยนแปลง ใช้เกลือละลายน้ำและผสมอาหารให้กินอาทิตย์ละ 1 ครั้ง

ร่างกายของปลาก็จะสามารถดูดซึมเข้าไปใช้ได้ แต่มีความแตกต่างจากการห้อยผ่านการดูดซึมทางเหงือกจะมีประสิทธิภาพมากกว่า

กล้วยน้ำว้าสำหรับเลี้ยงลูกปลา

เนื่องจากกล้วยน้ำว้าเป็นแหล่งรวมวิตามินที่สำคัญมากมาย ซึ่งได้จากธรรมชาติ และมีราคาที่ถูก จะใช้ตอนที่นำปลาไฟล์มาลงเท่านั้น หลักการใช้จะใช้เครื่องปั่นปั่นกล้วยน้ำว้าและนำมาคลุกกับ อาหารปลาทับทิม  เนื่องจากปลาอนุบาลจะกินไม่เยอะ สามารถทำได้ง่าย และจะนำมาปั้นให้เป็นก้อนแล้วโยนให้

8.การป้องกันและกำจัดโรค
การป้องกันและกำจัดโรคในการ เลี้ยงปลาทับทิมในกระชัง

ไม่ใช้ยารักษาโรคใน เลี้ยงปลาทับทิม

ปัญหาที่จะพบเจอบ้าง จะเป็นช่วงฤดู “น้ำหลาก” ที่เจอจะเป็นพวกเห็บและปรสิตที่สามารถรักษาได้ ส่วนโรคที่จะพบบ้าง คือ สเตร็ปโตคอดคัส และแอโรโมแนส แต่ในส่วนบริเวณกระชังจะเลี้ยงไม่หนาแน่นและมีการถ่ายเทน้ำดี มีการจัดการกระชังที่ดี จึงไม่พบโรค และจะให้คนงานดูแลเป็นพิเศษในช่วงฤดูน้ำ

โฆษณา
AP Chemical Thailand

แต่เรื่องของยาจะไม่มีการใช้ในกระชัง เพราะว่าหากใช้ยาทุกวันเพื่อป้องกัน แต่เมื่อเป็นขึ้นมาจริงๆ แล้วจะควบคุมไม่ได้ เกิดความเสียหายอย่างมาก ที่กระชังจะใช้ตามหลักธรรมชาติ คือ การอดอาหารอย่างเดียว และในกรณี “น้ำแดง” จะเกิดในช่วงเดือนมิถุนายนและกันยายนเป็นประจำทุกปี เมื่อเกิดแล้วเชื้อโรคก็จะตามมาด้วย ซึ่งมากับน้ำ หรือเรียกกันว่า “น้ำทุ่ง” ซึ่งจะหลากลงแม่น้ำ จะส่งผลให้ปลากินอาหารน้อยลงหรือไม่กินเลย

9.การวางแผนการตลาดในอนาคต
9.การวางแผนการตลาดในอนาคต

วางแผนการตลาดอนาคตอย่างนักธุรกิจ

การเลี้ยงปลาในยุคนี้ต้องใช้การตลาดนำการผลิต ใช้ความรู้ที่คุณกรเกียรติถ่ายทอดให้มาใช้ และมาผสมกับจุดแข็งที่มีอยู่ คือ มีตลาด และรถขนส่ง เป็นของตัวเอง และไม่ต้องมากังวลในเรื่องปลาไม่ได้ขนาดเหมือนเมื่อก่อน เนื่องด้วยมีลูกปลาที่ได้มาตรฐาน และ อาหารปลาทับทิม ที่มีคุณภาพ ทำให้ทุกอย่างลงตัว ตลาดหลักในตอนนี้อยู่ที่เพชรบูรณ์และพิจิตร แต่ตอนนี้กำลังขยายตลาดเพิ่มขึ้นอีก เนื่องจากมีการขยายกำลังการผลิตเพิ่มมากขึ้น

การเลี้ยงปลากระชังเหมือนการเล่นกับธรรมชาติที่ไม่สามารถควบคุมสภาพแวดล้อมได้ หากแต่จะมีวิธีการควบคุมดูแลอย่างไรให้ผ่านพ้นให้จบรอบการเลี้ยงเป็นไปอย่างดี ซึ่งคุณภาพลูกปลาและ อาหารปลาทับทิม ก็เป็นปัจจัยหลักที่สำคัญอย่างหนึ่ง หากมีลูก พันธุ์ปลาทับทิม ที่ได้มาตรฐาน และมี อาหารปลาทับทิม ที่มีคุณภาพแล้ว การเลี้ยงก็ถือว่าประสบความสำเร็จไปแล้วครึ่งหนึ่ง ในส่วนที่เหลือก็คือ การเอาใจใส่ต่อการเลี้ยง หากทำได้แล้วก็มักจะประสบความสำเร็จ พันธุ์ปลาทับทิม พันธุ์ปลาทับทิม พันธุ์ปลาทับทิม พันธุ์ปลาทับทิม พันธุ์ปลาทับทิม

เกษตรกรท่านใดสนใจ เลี้ยงปลาทับทิม ลูก พันธุ์ปลาทับทิม หรือลูกพันธุ์ศรีนิล (ปรึกษาฟรี! หากบอกว่ามาจาก นิตยสาร สัตว์น้ำ หรือ พลังเกษตร.com) สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณกรเกียรติ โทร 081-8874783 หรือสามารถไปดูลูกปลาได้ที่ กรเกียรติฟาร์ม อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร facebook.กรเกียรติฟาร์ม กำแพงเพชร  Line.ID  kornkie farm ,kornkiet39.01

เลี้ยงปลาทับทิมในกระชัง เลี้ยงปลาทับทิม อาหารปลาทับทิม พันธุ์ปลาทับทิม กระชังเลี้ยงปลา เลี้ยงปลากระชัง การเลี้ยงปลาในกระชัง