การปลูกมะเดื่อฝรั่ง ควบคู่ ปลูกมะยงชิด ขายตลาด อตก. กิโลกรัมละ 300 บาท

โฆษณา
AP Chemical Thailand

การปลูกมะเดื่อฝรั่ง

“มะเดื่อฝรั่ง” หรือที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า “FIG” เป็นผลไม้ที่มีการปลูกในเชิงพาณิชย์อยู่หลายประเทศทั่วโลก อาทิ สหรัฐอเมริกา, กรีก, ฝรั่งเศส, ตุรกี , อิตาลี ฯลฯ สำหรับประเทศไทย “มะเดื่อฝรั่ง” ยังไม่เป็นที่รู้จักกันแพร่หลายมากนัก แต่ได้มีมูลนิธิโครงการหลวงที่ทำการวิจัยเรื่องมะเดื่อฝรั่งมากว่า 20 ปี ซึ่งโครงการในพระราชดำริ ที่ทรงส่งเสริมเกษตรกรให้หันมาปลูกผลไม้ต่างประเทศ โดยเริ่มโครงการมาจากศูนย์ขยายพันธุ์พืชปางดะ ตั้งแต่ปี 2530 จนปัจจุบันกลายเป็นหนึ่งผลผลิตของเกษตรกรไทยที่สนใจปลูก และนำรายได้กลับสู่ครอบครัว

“สวนชาละวันเมล่อน” ของ คุณวิทยา ไชโย คือ อีก 1 สวน ที่หันมาสนใจ การปลูกมะเดื่อฝรั่ง เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ทำการศึกษาข้อมูลและวิธีการปลูก พบว่าเป็นพืชที่ปลูกง่าย โตเร็ว อีกทั้งในตลาดยังมีการผลิตกิ่งพันธุ์เพื่อจำหน่าย  สามารถทำเงินให้เกษตรกรได้แน่นอน ตนจึงเริ่มศึกษาถึงชนิดพันธุ์ว่าควรนำพันธุ์ชนิดไหนมาปลูก โดยศึกษาและทดลองนำมาปลูกเรื่อยๆ ต่อมาคุณวิทยาได้เดินทางไปประเทศฝรั่งเศส ซึ่งมีมะเดื่อฝรั่งผลสดขาย เป็นสายพันธุ์ “ไวโอเลต เด โซเลียส” ( Violette de follier ) ซึ่งเป็นพันธุ์ที่มีลักษณะเด่น คือ มีรสชาติหวานอมเปรี้ยว ลักษณะเนื้อมีความเป็นเบอร์รี เนื้อแยมเล็กน้อย

1.การปลูกมะเดื่อฝรั่ง ควบคู่ ปลูกมะยงชิด ขายตลาด อตก. กิโลกรัมละ 300 บาท
1.การปลูกมะเดื่อฝรั่ง ควบคู่ ปลูกมะยงชิด ขายตลาด อตก. กิโลกรัมละ 300 บาท
2.คุณวิทยา-ไชโย-ปลูกมะเดื่อฝรั่ง-จ.พิจิตร
2.คุณวิทยา-ไชโย- การปลูกมะเดื่อฝรั่ง -จ.พิจิตร

การจำหน่ายมะเดื่อฝรั่ง

ผลผลิตจากรุ่นแรกคุณวิทยาลองนำไปวางขายที่ องค์การตลาดเพื่อการเกษตร (อ.ต.ก.)โดยขายที่กิโลกรัมละ 300 บาท ขายหมดเร็วมากจนน่าตกใจ ซึ่งผลผลิตสามารถขายหมดได้ภายในวันต่อวัน ปัจจุบันชาละวันเมล่อนปลูกอยู่ 2 สายพันธุ์ คือ สายพันธุ์ Australia (ออสเตรเลีย) เจริญเติบโตเร็ว ลำต้นสูง ใบขนาดใหญ่

เมื่อสุกผลสีแดงอมม่วง เนื้อผลสีแดงสตรอเบอรี่ รสชาติหวานอมเปรี้ยว ทนต่อการขนส่ง และ สายพันธุ์ไวโอเลต เด โซเลียส( Violette de follier ) ข้อเสียของมะเดื่อฝรั่ง เมื่อเจอความชื้นและน้ำขังจะเน่าทันที ต้องเอามาเสียบกับตอมะเดื่อไทย ซึ่งทนโรคเน่า และโตเร็ว

3.กิ่งพันธุ์คุณภาพ
3.กิ่งพันธุ์คุณภาพ

การเพาะกล้ามะเดื่อฝรั่ง

จึงตัดสินใจสั่งต้นพันธุ์จากฝรั่งเศสมาโดยตรง มาทดลองปลูกประมาณ 40 ต้น ราคาต้นละ 1,000 บาท ซึ่งตรงนี้คุณวิทยายอมรับว่าพอต้นกล้ามาถึงสภาพค่อนข้างไม่สมบูรณ์ ต้องนำมาอนุบาลให้แข็งแรงก่อน เพราะเดินทางมาค่อนข้างไกล

“พอมาถึงมือเราต้องรีบอนุบาลก่อนเลย โดยใช้พีทมอสเหมือนการเพาะกล้าปกติ แต่ต้องอบรากก่อน เมื่ออบเรียบร้อยใส่รากลงไปในกระถางที่มีพีทมอส และเอาพลาสติกปิดไว้อีกชั้น เพื่อให้ความร้อนกระตุ้นการเกิดรากใหม่  ใช้ระยะเวลาในการอนุบาลประมาณ 1 เดือน บางต้นจะมีเชื้อราติดมาด้วย แต่เราต้องเอาให้อยู่ เพราะถือว่าเราลงทุนไปแล้ว และอีกอย่างเงินไม่ใช่น้อยๆ ถือว่าเป็นการลองผิดลองถูก”

โฆษณา
AP Chemical Thailand
4.บ่อน้ำที่ใช้ภายในสวน
4.บ่อน้ำที่ใช้ภายในสวน
ใช้สายน้ำหยดแทนการใช้สปริงเกลอร์
ใช้สายน้ำหยดแทนการใช้สปริงเกลอร์

การบำรุงดูแลรักษามะเดื่อฝรั่ง

ในปีแรกมะเดื่อฝรั่งให้ผลผลิตดีมาก ผลใหญ่ รสชาติหวาน เนื้อนิ่ม ถูกปากผู้บริโภค ยิ่งทำให้มั่นใจว่าพันธุ์นี้สามารถปลูกในเมืองไทยได้เป็นอย่างดี และยิ่งอายุต้นมากขึ้น ผลผลิตที่ได้ต้องมากกว่าปีแรกแน่นอน ในส่วนของโรคและแมลง ส่วนใหญ่จะพบโรคราสนิมในช่วงฤดูฝน ป้องกันโดยก่อนถึงฤดูฝนต้องตัดแต่งกิ่งใหม่ทั้งหมด

ส่วนแมลงจะพบปัญหาด้วงหนวดยาวกัดกินลำต้น และนกกินผล ป้องกันโดยใช้ตาข่าย สังเกตทางฟาร์มจะไม่เน้นการฉีดพ่นสารเคมีจะเน้นการป้องกันมากกว่า

5.ผลผลิตมะเดื่อฝรั่ง
5.ผลผลิตมะเดื่อฝรั่ง
เนื้อมะเดื่อฝรั่งคุณภาพ-รสชาติหวาน-หอม
เนื้อมะเดื่อฝรั่งคุณภาพ-รสชาติหวาน-หอม การปลูกมะเดื่อฝรั่ง การปลูกมะเดื่อฝรั่ง การปลูกมะเดื่อฝรั่ง
6.มะยงชิดคุณภาพ-ผลใหญ่
6.มะยงชิดคุณภาพ-ผลใหญ่

การจำหน่ายมะยงชิด

ในเรื่องของการตลาด คุณวิทยามองว่ายังไงก็มีตลาดรองรับแน่นอน เพราะมันเป็นพืชอนาคต และตอนนี้ในพื้นที่ 46 ไร่ มีโครงการปลูกเพื่อเก็บผลผลิตขาย และขยายกิ่งพันธุ์เป็นเชิงพาณิชย์ ตอนนี้ขยายแล้วมีประมาณ 1,000 ต้น กิ่งพันธุ์เริ่มขายได้ตั้งแต่ความยาวคืบหนึ่ง ราคาตั้งแต่หลักสิบถึงหลักพัน

และนอกจากมะเดื่อฝรั่งก็ยัง ปลูกมะยงชิด ที่คุณวิทยาสนใจจะนำพันธุ์ของแม่มาปลูกในพื้นที่รอบบ้าน ซึ่งมะยงชิด (Mapraing) มีชื่อวิทยาศาสตร์ คือ Bouae bumanica Griff เป็นพืชที่อยู่ในวงศ์ Anacardiaceae จัดเป็นผลไม้ที่มีสีสันสวยงาม ผลมีสีเหลือง สีเหลืองอมส้ม เนื้อให้รสหวาน รสหวานอมเปรี้ยว นิยมรับประทานเป็นผลไม้ มีความต้องการทางตลาดสูง ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ

จังหวัดพิจิตรมีการ ปลูกมะยงชิด เป็นจำนวนมาก รวมถึงแม่ของคุณปุ๋ย ที่ปลูกมานานกว่า 20 ปี โดยมีพื้นที่ทั้งหมด 21 ไร่ มีทั้งหมด 800 ต้น โดยมีคุณไพลิน เนตรแสง หรือคุณปุ๋ย ลูกสาวคนโต เป็นผู้มาสานต่อจากคุณแม่ โดยเน้นดูแลเรื่องการตลาด คุณปุ๋ยเล่าให้ทีมงานฟังว่า

“เพิ่งลาออกจากงาน อดีตรับราชการอยู่กรุงเทพ แต่ด้วยปัจจัยหลายๆ อย่าง ทั้งในเรื่องของการใช้ชีวิต และระบบงานของหน่วยงานราชการ ทำให้รู้สึกว่าการใช้ชีวิตแบบนี้มันไม่ใช่ อีกทั้งคุณปุ๋ยเพิ่งคลอดลูกคนที่ 2 และที่บ้านมีสวนที่ ปลูกมะยงชิด อยู่แล้วด้วย จึงตัดสินใจออกมาอยู่บ้าน และมาดูแลเรื่องการตลาดมะยงชิดของคุณแม่”

โฆษณา
AP Chemical Thailand
7.ร้านจำหน่ายที่ตลาด-อตก
7.ร้านจำหน่ายที่ตลาด-อตก ปลูกมะยงชิด ปลูกมะยงชิด ปลูกมะยงชิด ปลูกมะยงชิด ปลูกมะยงชิด 
เนื้อหนา-เม็ดเล็ก
เนื้อหนา-เม็ดเล็ก

ด้านตลาดมะยงชิด

แต่ก่อนเรื่องการตลาดผลผลิตมะยงชิดส่วนใหญ่จะส่งตลาดไทเกือบทั้งหมด โดยมีรถมารับซื้อเอง ซึ่งเกษตรกรสามารถขายผลผลิตได้ในราคาที่ไม่สูงมากนัก เมื่อเทียบกับราคาขายหน้าตลาด จนเมื่อ 6 เดือนก่อน คุณปุ๋ยไปเดินตลาด อ.ต.ก. เห็นว่ามะยงชิดขายในราคาที่ค่อนข้างสูง ทำให้คุณปุ๋ยอยากทราบว่ามันต่างกับของที่บ้านยังไง เพราะดูจากลูกขนาดก็ไม่ต่างกัน ของเราจะใหญ่กว่าด้วย เพราะทำแบบคุณภาพ ผลต้องใหญ่เท่าไข่ไก่  เนื้อเยอะ รสชาติหวาน เป็นที่ต้องการของตลาด

เมื่อเห็นราคาขายมะยงชิดที่ตลาด อ.ต.ก ตอนนั้นรีบโทรหาคุณแม่ เล่าให้ฟัง และคุณปุ๋ยได้โทรหาตลาด อ.ต.ก. ถามรายละเอียด พบว่าถ้าเป็นเกษตรกร ต้องให้ทางเกษตรจังหวัดตรวจสอบว่าคุณมีสวนจริงไหม หลังจากนั้นคุณปุ๋ยก็ให้คุณแม่ดำเนินเรื่องเอกสารจนผ่าน และสามารถนำผลผลิตเกรด A มาวางขายที่ตลาดได้ โดยทางตลาดให้เช่าพื้นที่เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร

8.คุณปุ๋ยรับประกันคุณภาพ-สด-ใหม่
8.คุณปุ๋ยรับประกันคุณภาพ-สด-ใหม่

การวางแผนในอนาคต

ในอนาคตคุณปุ๋ยกำลังมองหาตลาดแบบขายตรงส่งถึงผู้บริโภค ส่งขายเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า และอีกสิ่งหนึ่ง คือ “ตลาดส่งออก” โดยเฉพาะประเทศจีน เนื่องจากผลผลิตขนาดเล็กจะไม่สามารถขายที่ตลาด อ.ต.ก. ได้ และถ้าส่งตลาดไทจะถูกกดราคามากนั่นเอง การปลูกมะเดื่อฝรั่ง การปลูกมะเดื่อฝรั่ง การปลูกมะเดื่อฝรั่ง การปลูกมะเดื่อฝรั่ง

สนใจสั่งซื้อกิ่งพันธุ์มะเดื่อฝรั่ง และกิ่งพันธุ์มะยงชิด คุณภาพ สามารถสอบถามได้ที่ “ชาละวันเมล่อน” คุณวิทยา ไชยโย   และคุณไพลิน เนตรแสง โทร : 08-8019-5809  เฟสบุ๊ค : Chalawan Melon ชาละวัน เมล่อน บ้านหนองจิก เลขที่ 2 หมู่ 7 ตำบลท้ายทุ่ง อำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร 66150