เรียนรู้เคล็ดลับวิชา การปลูกเลี้ยงชวนชม แบบ ปราณีฟาร์ม

โฆษณา
AP Chemical Thailand

กระถางต้นไม้ P&U 336x280

การปลูกเลี้ยงชวนชม ฉบับ สวนชวนชม “ปราณีฟาร์ม” ในจังหวัดนครปฐม ถ่ายทอดเคล็ดลลับ การปลูกเลี้ยงชวนชม

1.ต้นชวนชม
1.ต้นชวนชม

การเรียนรู้วิชาการปลูกเลี้ยงชวนชม

นับตั้งแต่สวนชวนชม “ ปราณีฟาร์ม ” ในจังหวัดนครปฐมแห่งนี้ เปิดประตูสวนให้คนในวงการรู้จัก ก็มาพร้อมกับ สไตล์ไม้หน้าตาแปลกๆ โดยเฉพาะ ราชินีพันดอกกิ่งตอน

ไม้กิ่งตอนถูกปล่อยรากเยอะๆ และยกขึ้นสูง ขณะที่กิ่งถูกตัดแต่งจนโล่งเหลือแต่กิ่งหลักๆ และกิ่งย่อยจำนวนหนึ่งเท่านั้น โดยได้ต้นแบบมาจากบอนไซกับรากจำนวนมากนำมาจัดเรียงดัดให้คดไปมา นักเล่นในวงการขนานนามรากเช่นนี้ว่า “ รากมาม่า ” กลายมาเป็นเอกลักษณ์และจุดขาย รากที่ถูกยกสูงขึ้น นอกจากช่วยให้ต้นไม้สูงขึ้นแล้ว รากที่ผ่านการจัดเรียงและตัดแต่งจนเหลือจำนวนเหมาะสมยังช่วยเพิ่มเสน่ห์และความงามให้กับต้น

ทำให้นักเล่นในวงการหันมาให้ความสนใจสวนแห่งนี้มากขึ้น พร้อมๆ กับการเรียนรู้วิชาการปลูกเลี้ยง

2.คุณมนัส-ชาวสวนงาม-มือเข้าลวดทีมงานสวนปราณีฟาร์ม
2.คุณมนัส-ชาวสวนงาม-มือเข้าลวดทีมงานสวนปราณีฟาร์ม

คุณมนัส ชาวสวนงาม  มือเข้าลวดทีมงานสวนปราณีฟาร์ม

โฆษณา
AP Chemical Thailand

ครั้งนี้นิตยสารไม้ดอกฯ ได้มีโอกาสเข้าสัมภาษณ์พิเศษกับทีมงานของสวนปราณีฟาร์ม ที่ประกอบไปด้วย เจ๊โปร่ง บังอร ฟักโต เจ้าของสวน, พี่ต๋อย มนัส ชาวสวนงาม มือเข้าลวด, พี่แมว สุกัญญา บุญรักษา กับ พี่อ้อย ประนอม ชาวสวนงาม มือจัดราก และ พี่หมู อดิศักดิ์ ฟักโต ตำแหน่งฝ่ายการตลาดประจำสวน ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นทีมงานคุณภาพจากคนในครอบครัวทั้งสิ้น

เมื่อถามว่าสไตล์การทำไม้ของสวนปราณีฟาร์มเป็นอย่างไร คุณมนัสก็ไม่รอช้าเริ่มต้นเล่าเรื่องราว รวมถึงขั้นตอนต่างๆ ให้ทีมงานฟังว่า

เมื่อลูกค้านำไม้เข้ามา เราจะถอนขึ้นจากดิน นำมาแขวนไว้ 1-2 อาทิตย์ ระยะเวลาขึ้นอยู่กับความยืดหยุ่นของราก ช่วงเวลาการรอนั้นจะต้องริดใบและดอกออกให้หมด ลดการคายน้ำไม่ให้ต้นโทรมมากนัก จากนั้นเราจะทำการเการาก คัดรากในขั้นต่อไป

3.ลักษณะของต้นชวนชม
3.ลักษณะของต้นชวนชม

ลักษณะของต้นชวนชม

หากเป็นลักษณะชวนชมบอนไซที่ทรงไม่สูง ต้นเตี้ย รากจะออกลักษณะแผ่ๆ ดังนั้นการปั้นดินขึ้นปลูกต้องดูที่ลักษณะรากเป็นสำคัญ อย่างต้นที่มีลักษณะรากยาว เราก็ไม่อยากให้รากบานแบะออกมากไม่สวย จึงปั้นดินให้นูนสูง นำรากรวมทำเป็นต้น มีสะโพก มีฐานรากออกมาเล็กน้อย ปลายรากจิกลงดินทำให้รู้สึกสง่างาม มั่นคง นี่คือสไตล์ของสวนปราณีฟาร์ม

ขั้นแรกผสมดิน สวนปราณีฟาร์มมีสูตรดิน ใบก้ามปูและกาบมะพร้าวสับ เพียงเท่านี้ ที่เป็นเคล็ดลับของสวนแห่งนี้

โฆษณา
AP Chemical Thailand

โดยใบก้ามปู คัดเลือกเฉพาะใบที่ออกสีเหลืองแก่ นำมาหมักจนได้ที่ ไม่มีแก๊สและความร้อนหลงเหลืออยู่ แล้วจึงนำมาตากแดดกำจัดเชื้อราฆ่าเชื้อโรคให้แห้ง เก็บใส่ถุงไว้ จึงเป็นดินที่สะอาด ปราศจากเชื้อราแต่มีจุลินทรีย์ที่มีประโยชน์ ช่วยย่อยสลายใบก้ามปูให้เป็นธาตุอาหารสำหรับชวนชม

ในหนึ่งสัปดาห์สวนจะผสมดินปลูกหนึ่งครั้ง โดยผสมยาเร่งราก+ยาป้องกันเชื้อรา กับน้ำเปล่าคนให้เข้ากัน จากนั้นนำไปพรมลงบนใบก้ามปู ให้สังเกตว่า เวลาบีบอย่าให้น้ำไหลออกซอกมือ และเมื่อแบบมือดินไม่แตกออก ถือว่าความชื้นใช้ได้

ทีมงานสวนปราณีฟาร์มสรุปข้อดีของใบก้ามปูหมักว่า เครื่องปลูกสูตรนี้สวนใช้มาตั้งแต่เริ่มต้นปลูกชวนชมปรากฏว่าไม้เจริญเติบโตดีโดยไม่ต้องเร่งปุ๋ยเร่งยา อาศัยการเปลี่ยนดินอย่างน้อยที่สุด 1 ครั้ง/ปี ช่วยให้ไม้เจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง ไม่สะดุด

“ไม้ของเราจะไม่ใส่ปุ๋ยตั้งแต่แรกแล้ว เน้นความสมบูรณ์ของดิน อย่างที่บอกเราต้องการเลี้ยงไม้ให้แกร่ง”  มนัสพูดถึงการเลี้ยงไม้แบบธรรมชาติ เน้นเครื่องปลูกเป็นหลัก

4.การเลือกกระถางปลูกชวนชม
4.การเลือกกระถางปลูกชวนชม

การเลือกกระถางปลูกชวนชม

นอกจากให้ความสำคัญกับเครื่องปลูกแล้ว การเลือกกระถางก็สำคัญไม่แพ้กัน กระถางชวนชมของสวนปราณีฟาร์มมีลักษณะพิเศษ ขอบกระถางจะเตี้ยกว่าปกติ ใส่เครื่องปลูกได้น้อย และขยายรูหรือช่องระบายน้ำก้นกระถางใหญ่ขึ้น สะสมความชื้นได้น้อย อากาศระบายได้ทั่วถึง จึงลดปัญหาเชื้อราได้ไปในตัว

โฆษณา
AP Chemical Thailand

เรียนรู้เรื่อง การปลูก ให้ใช้ตาข่ายวางปิดรูระบายน้ำก่อน จากนั้นรองก้นกระถางด้วยใบไม้ก้ามปู ชั้นที่สองใส่กาบมะพร้าวสับลงไปพอสมควร ก่อนใช้ควรแช่น้ำให้ชุ่ม 1 คืน ต่อมาปั้นหุ่นโคกสร้างดินตรงกลางไว้ให้นูนสูงขึ้นโดยใช้กระถางต้นไม้เป็นหุ่นอยู่ภายในเพื่อยกดินให้พูนสูงให้สมดุลกับทรงต้นนั้นๆ

รูปแบบที่นิยมทำ เช่น ทรงต้น ทรงโคนคู่ ทรงกลุ่มกอ ทรงไม้ตกกระถาง ทรงเอนชาย และไม้เกาะหิน รูปทรงเหล่านี้ คือ รูปทรงที่มนุษย์เลียนแบบธรรมชาติขึ้นมา

5.กิ่งถูกตัดแต่งจนเหลือแต่กิ่งหลักๆ-และกิ่งย่อยจำนวนหนึ่ง
5.กิ่งถูกตัดแต่งจนเหลือแต่กิ่งหลักๆ-และกิ่งย่อยจำนวนหนึ่ง

การคัดเลือกกิ่งต้นชวนชม

สิ่งแรกของการเลือกรูปทรงไม้ให้เหมาะสมกับแต่ละต้น ผู้ปลูกเลี้ยงต้องรู้จักหน้าไม้ก่อน เพราะหน้าไม้จะส่งผลถึงการคัดเลือกกิ่งเพื่อกำหนดรูปทรงไม้

ตำแหน่งที่เหมาะสมในการเลือกเป็นหน้าไม้มากที่สุด คุณมนัสบอกว่าหลักสำคัญต้องดูที่ “กิ่งประธาน” หรือกิ่งหลักต้องชัดเจน เป็นกิ่งที่สามารถมองเห็นยอดไม้ได้ถนัดตา และให้ดูจากฐานราก มีสันรากขนาดใหญ่

ส่วนกิ่งที่เหลือจะทำอย่างไรไม่ให้เด่นกว่ากิ่งหลัก..?? ก็ต้องตัดออกบางส่วน จัดเป็นทรงพุ่มออกด้านข้างแทน

โฆษณา
AP Chemical Thailand

“การวางพุ่มต้องดูที่ยอดก่อน ยอดอยู่ตรงไหน โครงสร้างไม้เป็นอย่างไร เพราะยอดบางต้นไม่จำเป็นต้องอยู่ตรงกลางเสมอไป ต้นจะเอนเอี้ยวไปเกือบตกกระถาง หรือจะเป็นทรงไหนก็แล้วแต่ ยอดไม้ต้องอยู่กึ่งกลางของลำต้น”

เพราะเวลาทำจริงจะต้องมองจากต้นไม้ว่า รูปทรง รูปแบบต้นมายังไง แล้วค่อยใส่จินตนาการลงไป เพราะบางครั้งต้นไม้ทุกต้นไม่สามารถทำตามใจผู้สร้างได้ทั้งหมด

6.รากที่ผ่านการตัดแต่งจนเหลือจำนวนที่เหมาะสม
6.รากที่ผ่านการตัดแต่งจนเหลือจำนวนที่เหมาะสม

การตัดแต่งกิ่งและราก

การวางทรงพุ่ม อยู่ที่วิธีการตัดแต่งกิ่ง จะเป็นบอนไซหรือไม้พุ่ม มันอยู่ที่กิ่ง อย่างต้นพวกนี้ถ้าเลี้ยงให้ออกใบก็เป็นไม้พุ่ม แล้วมาเล็มปลายให้ออกเป็นทรงพุ่ม

แต่ทางสวนปราณีฟาร์มจะไม่นิยมเล็มปลาย มักการเข้าลวดมากกว่า เป็นชวนชมสไตล์บอนไซนั่นเอง

เขาอธิบายเพิ่มเติมว่า ระบบกิ่ง ประกอบด้วย กิ่งประธานหรือกิ่งหลัก แต่ละกิ่งหลักจะมีกิ่งแขนง ที่แตกออกมาจากกิ่งหลักแบบซ้าย ขวา ไปเรื่อยๆ จากกิ่งแขนงไปกิ่งย่อย แต่ละกิ่งย่อยก็จะมีซ้าย ขวา เหมือนกัน ถ้าวางโครงสร้างไว้ตามนี้ การดูแลรักษาระบบกิ่งจะง่ายขึ้น

โฆษณา
AP Chemical Thailand

กิ่งทุกกิ่งมีการไล่ขนาด โคนกิ่งจะใหญ่ที่สุด แล้วค่อยๆ ไล่ระดับเล็กลงไปเรื่อยๆ กิ่งตรงปลายจะมีขนาดเล็กสุด นี่คือศาสตร์เบื้องต้นในการทำชวนชมสไตล์บอนไซ

“เวลาทำไม้ ต้องจัดระเบียบกิ่ง มองแล้วสบายตา เห็นทุกกิ่ง ถึงแม้กิ่งจะเยอะแต่กิ่งต้องไม่ไขว้กัน จังหวะกิ่งแต่ละกิ่งต้องชัดเจน ทุกสิ่งทุกอย่างต้องชัดเจน” คุณมนัสบอกหลักการง่ายๆ ในการสร้างกิ่งชวนชม

7.คนเล่นบอนไซ-มีต้นไม้เป็นครู-ตัดกิ่ง-ผิด-ถูก-ถือเป็นการเรียนรู้
7.คนเล่นบอนไซ-มีต้นไม้เป็นครู-ตัดกิ่ง-ผิด-ถูก-ถือเป็นการเรียนรู้

การวางทรงพุ่มและการเข้าลวด

ทรงพุ่มและการเข้าลวด สวนปราณีฟาร์มยังคงยึดความเป็นธรรมชาติ คือ เน้นกิ่งหลัก และกิ่งย่อยพอประมาณ ไม่รก หรือแน่นจนเกินไป ต้องมีการตัดแต่งเรื่อยๆ อาจจะบ่อยครั้งบ้างตามประสานิสัยของชวนชมราชินีพันดอกที่แตกกิ่งย่อยจำนวนมาก

อาศัยว่าต้องกล้าตัด บางคนเห็นกิ่งมากๆ ไม่กล้าตัด หรือไม่รู้จะตัดตรงไหน ฉะนั้นต้องกล้าเรียนรู้ ลองผิด ลองถูก “คนเล่นบอนไซ มีต้นไม้เป็นครู ตัดกิ่ง ผิด-ถูก ถือเป็นการเรียนรู้ ถ้ายังเหลือตอก็สามารถแตกกิ่งออกมาใหม่ได้” คุณมนัสยืนยัน..นี่คือแนวคิด

จากนั้นใช้การเข้าลวดแบบโยกกิ่ง แทนการตัดทด ทำให้กิ่งและฟอร์มต้นมีความเป็นธรรมชาติมากขึ้น เช่นเดียวกับไม้บอนไซ และค่อยจับจังหวะทรงไปเรื่อยๆ

โฆษณา
AP Chemical Thailand
8.รากที่คดเคี้ยว-ยิ่งโตยิ่งคลายออก
8.รากที่คดเคี้ยว-ยิ่งโตยิ่งคลายออก

การเข้าลวดชวนชม

คุณมนัสพูดถึงข้อดีอย่างหนึ่งของการเข้าลวดชวนชมว่า เป็นการหลอกล่อให้ชวนชมมีลำต้นและกิ่งใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะผิวต้นชวนชมได้รับการระเคืองตลอดเวลา เบ่งกิ่งสู้ ในทางตรงกันข้ามถ้ากิ่งไม่ถูกรัดลวด กิ่งจะเรียวเล็กผอม

“เราเน้นความเป็นธรรมชาติ โดยทำตามธรรมชาติของชวนชมแต่ละต้นเป็นหลัก  มันจะมีอะไรให้เราดูเยอะ ดูมีมิติ ดูไม่เบื่อ เพราะชวนชมแต่ละพันธุ์ แต่ละต้น มีความสวยอยู่ในตัว มีจุดเด่นเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็น ตระกูลไทยโซโค อาราบีคัม และราชินีพันดอก ทุกต้นเมื่อสร้างออกมาจะมีลักษณะเอกลักษณ์ไม่เหมือนกันเลย ต้นเดียวในโลก” ทีมงานสวนปราณีฟาร์มให้ข้อมูล

9.ถอนต้นชวนชมขึ้นจากดิน-นำมาแขวนไว้-1-2-อาทิตย์
9.ถอนต้นชวนชมขึ้นจากดิน-นำมาแขวนไว้-1-2-อาทิตย์

สายพันธุ์ชวนชม

คุณมนัส มือเข้าลวดประจำฟาร์มให้ข้อมูลต่อว่า เราเน้นไปที่สายพันธุ์ราชินีพันดอก เนื่องจาก 1) มีใบที่เล็ก 2) ข้อถี่ และ 3) มีดอกดก เวลาออกดอกครั้งหนึ่งคล้ายดอกซากุระสะพรั่งพราวเต็มต้น

เล่นชวนชมสไตล์บอนไซก็ต้องเล่นแบบชวนชม ไม่จำเป็นต้องไปอิงรูปแบบตามไม้ชนิดอื่น แต่จุดเด่นคือชวนชมมีดอกดกพราวดูสวยงาม แตกกิ่งเก่งสามารถเลือกกิ่งมาเล่นได้ไม่จำกัดนี่เป็นข้อดีที่เห็นได้ชัด

โฆษณา
AP Chemical Thailand

“คุณจะเล่นกิ่งเดียว 2 กิ่ง หรือจะเล่นแบบทรงบูมกิ่งแน่นๆ ก็ย่อมได้ แต่หลักสำคัญเลย คือ จังหวะกิ่งต้องชัดเจน ลำต้น และรากต้องชัดเจน” คุณมนัสสรุปหลักการบอนไซอย่างง่าย

ทำให้เกิดความท้าทายความสามารถเป็นอย่างมาก ว่าจะทำอย่างไรกับชวนชม เพราะแต่ละต้นมันมีความแตกต่างกัน ต้องดึงจุดเด่นของชวนชมต้นนั้นออกมา แล้วใส่รูปแบบหรือจินตนาการเข้าไป เพื่อให้เกิดการผสมผสานที่ลงตัว

อย่าง อาราบีคัม มีความสวย ความบึกบึนอยู่ในตัว คอมแพคเป็นเสน่ห์อยู่แล้ว ให้ดอกดี พอสูงใหญ่ นักเล่นเขาจะเรียกว่า ไม้หลุดฟอร์ม สวนปราณีฟาร์มก็จับนำมาแต่งตัวใหม่ เพื่อให้เห็นความงามและคุณภาพของชวนชมกลุ่มนี้ โดยไม่ต้องสนใจเรื่องสายพันธุ์ จนทำให้ชวนชมได้รับความนิยมมากขึ้น

เพราะชวนชมต้นยิ่งโต ยิ่งอลังการสวย กระจายกิ่งออกด้านข้าง ที่สำคัญต้นไม่สูงมากนัก และยิ่งถ้าทำสไตล์บอนไซต้นจะไม่ใหญ่มากแต่ได้พุ่มสวย

10.การเสียบไม้เพื่อยึดสะโพกลำต้นให้มั่นคง
10.การเสียบไม้เพื่อยึดสะโพกลำต้นให้มั่นคง

การเสียบไม้เพื่อยึดสะโพกลำต้นให้มั่นคง

ขั้นต่อไป เมื่อเลือกหน้าไม้ได้แล้ว จากนั้นนำต้นชวนชมขึ้นตั้งบนเนินดินให้มั่นคง ทำการเย็บยึดสะโพกของต้นด้วยไม้เสียบ จัดเรียงหาช่องวางรากให้สวยงาม โดยสังเกตภาพรวมและความสมดุลของทรงต้นเป็นหลัก หากมองแล้วไม่สมดุลมีรากส่วนเกิน หาที่ลงไม่ได้จริงๆ การตัดรากทิ้งจะเป็นวิธีการสุดท้ายที่นำมาใช้

โฆษณา
AP Chemical Thailand

“การทำเราต้องการให้ต้นมั่นคง มีสะโพกผาย มีราก และปลายราก ต้องจิกลงคล้ายกับเล็บเหยี่ยว จิกลงมาให้ดูมั่นคง ฐานรากต้องเป็นพึง เป็นครีบลงมา ถ้าโคนต้นดูลีบๆ ก็ไม่สวย” คุณมนัสพูดถึงการออกแบบชวนชมสไตล์บอนไซของสวนปราณีฟาร์ม

ฉะนั้นเวลาดีไซน์แบบสไตล์บอนไซ ต้นต้องมีสะโพก มีสันรากให้ชัด รากส่วนเกินตัดออกหากมีมากเกินไป เพราะชวนชมเป็นไม้ที่สะสมอาหารทางราก จึงต้องเบรกต้นไว้บ้าง แล้วสร้างรากขนาดเล็กมาแทน

กรณีเริ่มต้นที่ไม้เล็ก รากจะยังขดอยู่ ต้องมาแกะคลายออกก่อนเบื้องต้น แล้วคัดรากที่เป็นเดือยออกโดยดูว่าเป็นรากเมนหรือเปล่า เพราะหากตัดรากเมนทิ้ง บางครั้งต้นจะยุบตัว จึงไม่นิยมตัด แต่จะใช้วิธีเบี่ยงออกด้านข้าง ยังไม่ต้องจัดเยอะ เพียงแค่กระจายรากออกแค่นั้นก่อน เลี้ยงอีก 4-5 เดือน นำมาดูพัฒนาการของรากต่อไป

เอกลักษณ์ “ลายมือ” ของสวนปราณีฟาร์ม คือ ช่วงที่รากเส้นขนาดเล็ก จะนำมาดัดคดไปคดมาเป็นตัว S จนดูเหมือนกับ “เส้นมาม่า” กลายเป็นจุดขายที่คนรู้จักทั่ววงการชวนชม

11.การจัดรากชวนชม
11.การจัดรากชวนชม

การจัดรากชวนชม

คุณสุกัญญา มือจัดราก เผยประโยชน์การจัดรากแบบนี้ว่า เพื่อชะลอการเติบโตของราก ให้หากินลำบาก และช่วงโค้งของรากรูปตัวเอสจะเกิดรากฝอยออกมา ทั้งช่วยยึดลำต้นและเป็นรากหาอาหารด้วย และเมื่อลำต้นมีการเจริญเติบโต รากใหญ่ขึ้น รากที่ผ่านการจัดหรือหักเป็นรูปตัวเอส จะค่อยๆ คลายออกจะแลดูมีลีลา มีความเป็นธรรมชาติมากกว่าการจับดึงเป็นเส้นตรง

โฆษณา
AP Chemical Thailand

“การจัดรากระยะแรกๆ อาจจะดูเหมือนประดิษฐ์เหมือนเส้นมาม่า แต่เมื่อต้นโตขึ้น รากใหญ่ขึ้น จะดูสวยเป็นธรรมชาติ” คุณสุกัญญาพูดถึงรากที่คดเคี้ยว ยิ่งโตยิ่งคลายออก เหลือแต่ความเป็นธรรมชาติ

ถ้ารากเยอะสามารถนำมาจัดซ้อนหลายชั้นได้ จะมองดูสลับซับซ้อนเรียกว่า มีรากชั้นใน และรากชั้นนอก ดูมีมิติ มีช่องไฟไหลลื่นลดหลั่นกันไป เกิดความน่าค้นหา ส่วนใหญ่นิยมอยู่ที่สองชั้น โดยเริ่มจัดรากเส้นด้านในก่อน แล้วนำรากบนลงมาวางโดยปลายรากต้องไม่ซ้อนทับกัน แม้รากจะเบียดแน่นแค่ไหนก็ห้ามซ้อนทับกันเด็ดขาด

พยายามหาช่องว่างให้รากลง เพราะบางหน้าไม้มีรากเยอะเกิน บางหน้ารากน้อยเกิน เช่น ถ้าช่วงไหนมีรากน้อยจะใช้วิธีดึงกระจายรากรอบต้น ค่อยๆ ขยับแทรกลงทีละราก วนไปเรื่อยๆ แต่อย่าให้รากบิดเป็นกงจักรมากไป

ดังนั้นการจัดรากไม่ว่าจะกี่ชั้น สามชั้น สี่ชั้น แต่เวลาลงปลายรากแล้วห้ามทับซ้อนกัน อาจมีบ้างที่รากสลับซับซ้อนทับกันด้านบน ให้ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด คล้ายรากของต้นโกงกาง ซึ่งจินตนาการสามารถเกิดได้รอบต้น

“พวกชวนชมดีอย่างหนึ่งที่ว่ามันสามารถจินตนาการได้เยอะด้านรูปทรง เพียงแต่ว่าเราต้องมองไม้ให้ออก ว่าต้นมีรูปทรงแบบไหน หรือเป็นรูปทรงไหนได้บ้าง บางทีต้นมันเอี้ยว เอน หรือกลุ่มกอ ก็ไม่จำเป็นต้องปั้นฐานดินให้สูง สามารถปั้นก่อดินเตี้ยให้สมดุลกับทรงต้นได้ โดยทำรากแบะออกเป็นฐาน ให้ดูมีทรงต้นขึ้นไป” คุณสุกัญญา มือจัดราก พูดถึงความสำคัญของจินตนาการต่อการสร้างรากชวนชม

หลังจากปลูกหรือจัดรากเสร็จ จะทำการผสมขุยมะพร้าวร่อนละเอียด 1 ส่วน ใบก้ามปูหมักบด 3 ส่วน คลุกเคล้ากัน ผสมยาเร่งรากด้วยบางๆ โรยปิดบนปลายรากบริเวณขอบกระถาง เพื่อเป็นพื้นที่สำหรับรากฝอยหาอาหารกินในระยะเริ่มต้น

โฆษณา
AP Chemical Thailand
12.การป้องกันโรคและแมลง
12.การป้องกันโรคและแมลง

การป้องกันโรคและแมลง

ส่วนยาป้องกันแมลงจะผสมน้ำสะอาดรด-ราดภายหลังจากที่ทำทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว

หากกรณีต้องการคัดรากออก จะต้องใช้มีดสะอาดคมตัดราก และแต่งแผลให้เนียน พยายามแต่งให้โค้งนูนกลมคล้ายตาไม้ อย่าให้เกิดมุมสันเกิดขึ้น จากนั้นทายาป้องกันเชื้อรา ไม่ให้น้ำถูกแผล

โรคทั่วไปของชวนชม คือ เชื้อรา เพราะชวนชมเป็นไม้อวบน้ำ เครื่องปลูกจึงต้องโปร่ง หยาบๆ ให้น้ำระบายดี

13.การตลาดของชวนชม-ทั้งในและต่างประเทศ
13.การตลาดของชวนชม-ทั้งในและต่างประเทศ
เพชรลำพยา-ไม้เด่นประจำสวนปราณีฟาร์ม
เพชรลำพยา-ไม้เด่นประจำสวนปราณีฟาร์ม

การตลาดชวนชม ทั้งในและต่างประเทศ

ในตอนท้ายคุณมนัสได้พูดถึงเส้นทางการตลาดของชวนชมว่า ตลาดมี 2 ช่องทาง คือ ในประเทศ  และต่างประเทศ

โฆษณา
AP Chemical Thailand

“มาวันนี้ตลาดต่างประเทศดีมาก เช่น ทางประเทศมาเลเซียก็ดี ประเทศอินเดียก็เริ่มเข้ามา และล่าสุดเลยกลุ่มประเทศอาหรับ ต้องการนำไปใช้แต่งจัดสวน” คุณมนัสยืนยัน

กลุ่มลูกค้าของสวนส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าประจำที่เข้ามาซื้อต้นชวนชมของสวนไปเลี้ยงดู เมื่อถึงเวลาดินปลูกหมดสภาพ ต้องการเปลี่ยนดิน ขยายกระถาง ที่สวนมีบริการหลังการขาย ทำให้ทุกอย่าง ทุกขั้นตอน ใช้เวลาไม่เกิน 1 เดือน ตามขั้นตอนที่ได้กล่าวมาแล้ว พร้อมอนุบาลจนต้นแตกใบใหม่ รับประกันคุณภาพ

โดยลูกค้าเป็นผู้กำกับออกแบบรูปทรงไม้ เช่น บางคนต้องการกิ่งเยอะๆ หรือบางคนชอบกิ่งน้อยจนโล่ง เหลือแต่กิ่งหลักๆ และกิ่งย่อยอีกเล็กน้อย บางคนจะเอารากสูงๆ รากแบนๆ หรือรากเยอะ รากน้อย ต้องพูดคุยกัน

สนใจเยี่ยมชมสวนปราณีฟาร์ม

คุณมนัส ชาวสวนงาม (พี่ต๋อย)

สายด่วน 09-4046-5989, 08-6722-3458 และ 08-1857-9750

โฆษณา
AP Chemical Thailand

ที่อยู่ 66 ม.8 ต.ลำพยา อ.เมือง จ.นครปฐม 73000