การเลี้ยงไก่ไข่ บนบ่อปลาวัคซีน ลดต้นทุน เพิ่มรายได้หลายทาง

โฆษณา
AP Chemical Thailand

การเลี้ยงไก่ไข่

พื้นฐานตามธรรมชาติปลานิลเป็นปลาที่ปรับตัวเก่ง กินอาหารได้หลากหลาย จึงเกิดการเลี้ยงอย่างแพร่หลาย จนสามารถพัฒนาศักยภาพขึ้นเป็นปลาเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว แต่ปัจจุบันจากปัญหาโรคระบาดและต้นทุนค่าอาหารได้ส่งผลกระทบกับการเลี้ยง ทำให้ต้องปรับตัว เกิดเป็นหลายรูปแบบตามสภาพพื้นที่ เพื่อเป็นทางเลือกในการผลิตปลานิลคุณภาพให้ยืนหยัดอย่างมั่นคง ท่ามกลางสถานการณ์ที่ยังคงไม่แน่นอน

คุณสัทธา พ้นภัยพาล เลี้ยงปลานิลใต้เล้าไก่ไข่ พื้นที่กว่า 150 ไร่ เป็นเวลา 4 ปี ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม

คุณสัทธาเป็นเกษตรกรเลี้ยงปลามานานกว่า 20 ปี แต่เป็นปลาชะโด เลี้ยงอยู่ที่พานทอง ชลบุรี เลี้ยงทั้งหมด 13 บ่อ พื้นที่กว่า 100 ไร่ ช่วงแรกเลี้ยงได้ดีมาก เพราะเหยื่อสดที่เป็นหัวปลาราคาถูก ไปซื้อจากโรงงานปลากระป๋องในพื้นที่กิโลกรัม 3.50 บาท ใช้เวลาเลี้ยง 12 เดือน ได้ปลาชะโดบ่อละ 60-80 ตัน ขายให้พ่อค้าในประเทศ ตลาดอยู่ทางภาคเหนือและอีสาน ต่อมามีตลาดสิงคโปร์เข้ามา ทำให้ปลาขายง่ายกว่าเดิม และได้ราคาดีกิโลกรัมละ 70 บาท เลยหันมาเลี้ยงส่งสิงคโปร์ คุณสัทธากล่าว่า สิงคโปร์เป็นตลาดปลาใหญ่หนัก 3 กิโลกรัมขึ้นไป เข้าทางคนเลี้ยง เพราะปลาชะโดยิ่งโตยิ่งกินเหยื่อน้อย เลี้ยงนาน ยิ่งได้กำไร เลี้ยงอยู่หลายปี จนกระทั่งเกิดวิกฤตเศรษฐกิจยุคน้ำมันแพง ส่งผลให้เหยื่อสดมีราคาสูงพุ่งขึ้นไปกิโลกรัมละ 15 บาท ทำให้ปลาชะโดกว่า 13 บ่อ ถึงกับสั่นสะเทือน เพราะปลาชะโดกินเหยื่อสดเยอะมาก ตกวันละ 15 ตัน คิดเป็นเงินที่ต้องใช้ทุกวันเกือบ 200,000 บาท จนบางเดือนถึงกับขาดสภาพคล่อง และเริ่มไม่คุ้มกับการลงทุน สุดท้ายจึงหยุดเลี้ยง

เมื่อปี 2551 คุณสัทธาได้กลับมาเลี้ยงปลานิลที่แหลมประดู่ 4 บ่อ พื้นที่กว่า 85 ไร่ เพราะคุณสัทธากล่าวว่า กับปลานิลคุ้นเคยเป็นอย่างดี เคยเลี้ยงมาก่อนแล้วตั้งแต่สมัยปลาชะโด แต่ไม่ได้จริงจัง เป็นรายได้เสริม เลี้ยงตามธรรมชาติ ให้กินลูกไรและไว้บำบัดน้ำจากบ่อปลาชะโด กลับมาเริ่มใหม่เป็นแบบลดต้นทุน เลี้ยงปลานิลร่วมกับไก่ไข่ใต้เล้าไก่ทั้ง 4 บ่อ อยู่ร่วมกันได้ดีมาก ปลานิลจะกินขี้ไก่เป็นอาหาร รวมถึงยังสามารถเก็บไข่ไก่ขายได้ทุกวัน ตลอดการเลี้ยงปลานิลจะใช้ขี้ไก่เป็นอาหารหลัก ช่วยลดต้นทุน ปลาโตดีได้ เลี้ยง 6-7 เดือน ผลผลิตไร่ละเกือบตัน ต่อมาปี 2555 จึงซื้อที่เพิ่ม ขยายพื้นที่เป็น 147 ไร่ แบ่งเป็น 6 บ่อ ช่วยกันผลิตปลานิลและไข่ไก่ให้มีออกมาอย่างต่อเนื่อง จนปัจจุบันคุณสัทธาเลี้ยงปลานิลใต้เล้าไก่มากว่า 5 ปี

ต่อมาไม่นานปลานิลที่เลี้ยงอยู่มีปัญหาโรคระบาด คุณสัทธากล่าวว่า เป็น โรคสเตรปโตคอคคัส ชอบมาช่วงหน้าร้อน ปลามีอาการตาโปน ควงสว่าน เวลาระบาดหนักปลาจะตายมากสูงถึง 70% ใช้ยาฆ่าเชื้อรักษาได้ แต่ได้ผลไม่ดี ปลาที่รอดจะโตช้า ใช้เวลาเลี้ยงนานกว่าจะได้น้ำหนัก ถึงไม่เป็นหมดทุกบ่อ แต่มีความเสียมาก คุณสัทธาเลยลองเปลี่ยนมาเลี้ยงปลาวัคซีนของ ป.เจริญพันธ์ ที่ฉะเชิงเทรา เป็นลูกปลานิลแปลงเพศที่ทำวัคซีนด้วยโรคสเตรปโตคอคคัสมาแล้วจากฟาร์ม ไซส์ 150 ตัว/กิโลกรัม ราคาตัวละ 3.50 บาท เป็นลูกปลาที่ผ่านการอนุบาลจนแข็งแรง มีอัตรารอดสูง สามารถปล่อยลงบ่อเลี้ยงได้เลย หลังจากเลี้ยงปลาวัคซีนมาเกือบ 2 ปี ผ่านมา 3 รุ่น ได้ผลดี ปลามีภูมิต้านทานโรค ปล่อยได้หนาแน่น แต่เจริญเติบโตเร็ว ให้ผลผลิตสูง และที่สำคัญลดปัญหาปลาตาย ตอนเลี้ยงรุ่นแรก บ่อ 15 ไร่ ปล่อยปลาวัคซีน 20,000 ตัว ใช้เวลาเลี้ยงอยู่ 6 เดือน ได้ปลาน้ำหนักกว่า 13 ตัน ทำเป็นปลาอ๊อกขาย ไซส์ใหญ่ได้กิโลกรัมละ 40 บาท ตอนนี้คุณสัทธา มีปลาวัคซีนกว่า 150,000 ตัว กระจายกันเลี้ยงใต้เล้าไก่ไข่ทั้งหมด 3 บ่อ

โฆษณา
AP Chemical Thailand

ลูกปลาวัคซีนที่อนุบาลมาจากฟาร์มนั้นมีความแข็งแรง สามารถปล่อยลงบ่อเลี้ยงได้เลย แต่ถ้าต้องการให้ปลามีอัตรารอดสูงต้องนำมาอนุบาลก่อน  อัตราการปล่อยไม่เกินไร่ละ 3,000 ตัว  เริ่มจากการเตรียมบ่อ หลังจากเปิดบ่อแห้งจับปลาออกหมด คุณสัทธาจะล้างบ่อให้สะอาดก่อนใช้ปูนขาวฆ่าเชื้อและปรับสภาพตามพื้นบ่อ แต่จะไม่ตากบ่อนาน เพราะมีขี้ไก่สะสมเยอะ จะปล่อยน้ำเข้าเลย ไม่ให้ขี้ไก่ส่งกลิ่นเหม็น ช่วงแรกให้มีความลึก 80 เซนติเมตร หลังจากนั้น 5 วัน จะได้น้ำเขียวพร้อมกับมีแพลงก์ตอนและลูกไรเกิดขึ้น ปล่อยลูกปลาอนุบาลแบบบางๆ  ช่วงแรกยังไม่ต้องให้อาหาร ปล่อยให้ลูกปลากินอาหารธรรมชาติจากขี้ไก่ก่อน 7-10 วัน เพื่อสร้างความแข็งแรงจากอาหารสด เมื่อลูกปลาโตขึ้นจะเปลี่ยนมาเลี้ยงอาหารเม็ดโปรตีนสูง 32% ในปลาผลิตช่วงแรกต้องใช้อาหารคุณภาพดี เพื่อพัฒนาโครงสร้างพร้อมสำหรับการเจริญเติบโต โดยแบ่งเลี้ยงวันละ 2 มื้อ ตลอดการอนุบาล เพื่อฝึกลูกปลาให้คุ้นเคยกินอาหารใหม่ การอนุบาลของคุณสัทธาใช้เวลาประมาณ 45 วัน จนลูกปลาได้น้ำหนัก 2 ขีด จึงทำการกระจายลงบ่อเลี้ยงพื้นที่กว้าง ช่วยให้ปลาโตดี

เลี้ยงไก่ไข่บนบ่อปลา
เลี้ยงไก่ไข่บนบ่อปลา

เมื่ออนุบาลลูกปลาได้น้ำหนักตัว 2 ขีด คุณสัทธาจะย้ายลงบ่อใหญ่ เลี้ยงต่อเป็นปลาเนื้อร่วมกับไก่ไข่ โดยให้กินขี้ไก่เป็นอาหารหลัก คุณสัทธากล่าวว่า ปลาจะโตดี เพราะขยายจากบ่อเล็กไปบ่อใหญ่ รวมถึงเป็นปลาใหญ่ เลี้ยงร่วมกับไก่ไข่ได้ดี กินขี้ไก่ได้เยอะ ทำให้น้ำไม่เสีย แต่ต้องคำนวณปริมาณไก่ไข่กับปลานิลให้สัมพันธ์กัน ไม่อย่างนั้นเกิดปัญหาน้ำเสีย ปลาตายหมด ในพื้นที่ 1 ไร่ เลี้ยงไก่ไข่ 250-300 ตัว สามารถเลี้ยงปลาได้ 2,000 ตัว บ่อเลี้ยง 15 ไร่ คุณสัทธาปล่อยปลา 23,000 ตัว เลี้ยงร่วมกับไก่ไข่ 2,700 ตัว แต่ทำโรงเรือน 2 หลัง เพื่อให้ปลามันได้กินขี้ไก่อย่างทั่วถึง หลังแรกมีไก่อยู่ 1,500 ตัว กับหลังที่สองอีก 1,200 ตัว เป็นไก่สาวพร้อมไข่อายุ 16 สัปดาห์ ของซีพี ตัวละ 120 บาท แต่ ต้องเอามายืนกรงอีก 1 อาทิตย์ ไก่จะเริ่มให้ไข่ กินอาหารวันละ 330 กิโลกรัม สามารถผลิตไข่ได้วันละ 2,200-2,400 ฟอง คุณสัทธาจะให้อาหารไก่ไข่วันละ 2 ครั้ง เวลา 05.00 น. กับ 13.00 น. เพื่อให้มีขี้ไก่ เศษอาหาร เลี้ยงปลาตลอดในช่วงกลางวัน ทำให้ปลามีอาหารกินอย่างต่อเนื่อง สร้างการเจริญเติบโต ส่วนกลางคืนไม่มีขี้ไก่ ปลาจะพักผ่อน รักษาพลังงาน การเลี้ยงปลานิลใต้เล้าไก่ช่วยลดต้นทุนค่าอาหารได้มาก และยังสามารถผลิตขี้ไก่เลี้ยงปลาได้นานถึง 15 เดือน หรือปลดตอนให้ไข่น้อยกว่า 60% ทำให้รายได้เสริมจากการเก็บไข่ขายได้ทุกวัน

ได้ไข่ไก่คุณภาพ สร้างรายได้รายวัน
ได้ไข่ไก่คุณภาพ สร้างรายได้รายวัน

หลังจากที่ปลาปรับตัวกินขี้ไก่ได้ประมาณ 2 เดือน จนมีขนาดใหญ่ขึ้น คุณสัทธาจะให้กินเส้น มาม่าในช่วงเย็นเป็นอาหารเสริม เป็นมาม่าตกเกรดจากโรงงาน ซื้อต่อจากพ่อค้าคนกลาง มีหลายราคา และมีสารอาหารต่างกัน คุณสัทธากล่าวว่า จะเลือกใช้เศษมาม่าราคาสูงกิโลกรัมละ 8 บาท เพราะเป็นมาม่าคุณภาพดี มีส่วนผสมของไข่ น้ำมันและโปรตีน ปลาสามารถกินได้ดี การให้กินมาม่า คุณสัทธาไม่ได้ให้ทั่วทั้งบ่อ แต่จะให้เป็นที่ประจำ เทใส่สวิง ให้อาหารอยู่กลางบ่อสวิง ไล่เศษมาม่าได้ 20 กิโลกรัม ปลาจะเรียนรู้และเข้ามากินบริเวณสวิง ทำให้มีเศษอาหารตกค้างในบ่อน้อย ส่วนมาม่าที่ปลากินไม่หมดจะเอาขึ้นมาให้ปลาบ่ออื่นกินเป็นอาหาร ในช่วงแรกให้กินปริมาณน้อย อย่างบ่อ 15 ไร่ ปลา 23,000 ตัว ให้กินมาม่า 2 สวิง วันละ 40 กิโลกรัม และค่อยๆ เพิ่มปริมาณให้ตามการกิน ระหว่างการเลี้ยงจะมีปัญหาเรื่องน้ำ เนื่องจากในบ่อมีของเสียสะสมเยอะ ออกซิเจนน้อย ทำให้ปลาลอยหัว คุณสัทธากล่าวว่า ต้องปรับสภาพน้ำและกำจัดของเสีย โดยใช้หัวเชื้อจุลินทรีย์ผง 1 ซอง กากน้ำตาล 100 ลิตร และน้ำ 1 ตัน หมักนาน 1 คืน ทิ้งเป็นน้ำหมักจุลินทรีย์ ใช้บำบัดน้ำได้ สาดให้ทั่วบ่อ 15 ไร่ รวมถึงถ่ายน้ำใหม่เติมเข้าบ่อทุก 2 เดือน จะช่วยให้ปลาเติบโตได้ดีขึ้น การใช้มาม่าเป็นอาหารเสริม เลี้ยงปลานานถึง 2 เดือน ให้กินมากถึงวันละ 100 กิโลกรัม หลังจากนั้นจะเปลี่ยนมาเลี้ยงอาหารเม็ด ขุนปลาให้ได้น้ำหนักก่อนจับขาย

นอกจากนี้คุณสัทธายังผลิตอาหารเลี้ยงปลาเอง เป็นสูตรพิเศษ ดัดแปลงมาจากสูตรอาหารตอนที่เลี้ยงวัวขุน มีส่วนผสม คือ ข้าวโพด 100 กิโลกรัม รำ 60 กิโลกรัม กากถั่วเหลือง 70 กิโลกรัม ปลาป่น 60 กิโลกรัม หมูป่น 50 กิโลกรัม และพรีมิกซ์ 5% ผสมทั้งหมดให้เข้ากัน เข้าเครื่องโม่ ทำเป็นอาหารปลามีโปรตีนสูงถึง 32% ต้นทุนการผลิตกิโลกรัมละ 18 บาท ถูกกว่าตามท้องตลาดถึง 10 บาท สามารถใช้ขุนเลี้ยงปลาในช่วงก่อนจับ 1-2 เดือน ได้รูปร่างสวย น้ำหนักดี คุณสัทธาจะผลิตขึ้นเป็นบางช่วง ทดแทนตอนมาม่าขาดตลาด มีไม่พอ ที่ไม่ทำมากเพราะยังเป็นลักษณะผง ยังไม่พัฒนาเป็นแบบเม็ด เวลาใส่สวิงให้ปลากินจะละลายหายไปกับน้ำมาก กลายเป็นทำให้น้ำเสีย แต่ตอนนี้คุณสัทธาได้แหล่งวัตถุดิบและกำลังพัฒนาอาหารให้เป็นรูปแบบเม็ดลอยน้ำ ด้วยเครื่องจักรผลิตอาหารสูญญากาศ ราคาประมาณ 2 ล้านบาท สามารถผลิตอาหารได้วันละ 5-8 ตัน คุณสัทธากล่าวว่า ต่อไปจะผลิตอาหารเม็ดลอยน้ำโปรตีนสูง 32% ขึ้นเอง โดยไม่ใช้อาหารจากภายนอก เพื่อใช้เป็นอาหารเสริมเลี้ยงปลานิลใต้เล้าไก่ โดยมีขี้ไก่เป็นอาหารหลักเหมือนเดิม

บริเวณพื้นที่เลี้ยงปลา
บริเวณพื้นที่เลี้ยงปลา

เมื่อปลากินขี้ไก่และมาม่าจนอายุได้ 4 เดือน เป็นปลาใหญ่น้ำหนักประมาณ 5-7 ขีด คุณสัทธาจะทำการเปลี่ยนอาหารจากมาม่าเป็นอาหารเม็ดคุณภาพดี เพื่อเร่งการเจริญเติบโตให้ได้ไซส์ปลาอ๊อกมีราคาสูง อาหารปลาที่ใช้เป็นอาหารเม็ดลอยน้ำยีห้อฟิชเฟิร์ส โปรตีน 25% ของ บริษัทอินเทคค์ ฟิด จำกัด ให้ปลากินวันละ 1 มื้อ ในช่วงเย็น คุณสัทธากล่าวว่า เมื่อก่อนเคยให้วันละ 2 มื้อ ปรากฎว่าปลาเลือกกินแต่อาหารเม็ด ไม่กินขี้ไก่ ทำให้น้ำเสียเร็ว ตอนหลังเลยเปลี่ยนมาเลี้ยงมื้อเย็นครั้งเดียว โดยช่วงกลางวันคุณสัทธาไม่ต้องให้อาหาร ปล่อยให้ปลากินขี้ไก่และแพลงก์ตอนเป็นอาหารก่อนให้อาหารเม็ดตอน 4 โมงเย็น ทำให้ปลาได้กินอาหารอย่างเต็มที่ รวมถึงช่วยรักษาสภาพน้ำไม่ให้เขียวเร็ว ปลาอายุ 4 เดือน เลี้ยงร่วมกับไก่ไข่ในบ่อ 15 ไร่ จะกินอาหารเม็ดแค่วันละ 4 กระสอบ 80 กิโลกรัม แต่ถ้าไม่มี การเลี้ยงไก่ไข่ ต้องใช้อาหารเม็ดถึงวันละ 160 กิโลกรัม จะใช้อาหารเม็ดขุนปลาร่วมกับขี้ไก่ต่ออีก 45 วัน เพื่อให้ปลาได้โครงสร้างและน้ำหนักตามความต้องการของตลาด

ปลาวัคซีนที่ การเลี้ยงไก่ไข่ ใต้เล้าไก่จะขุนด้วยอาหารเม็ดประมาณเดือนครึ่งเพื่อทำเป็นปลาอ๊อกขนาด 1 กิโลกรัม เพราะขายได้ราคาดีกว่าปลาไซส์เล็ก ใช้เวลาเลี้ยงทั้งหมดประมาณ 6 เดือน คุณสัทธากล่าวว่า เมื่อต้นเดือนเมษายนเพิ่งจับไป 1 บ่อ ขนาด 15 ไร่ ปล่อยปลาทั้งหมด 23,000 ตัว กับไก่ไข่ 2,700 ตัว ใช้เวลาเลี้ยง 5 เดือนครึ่ง ช่วงก่อนจับกินอาหารเม็ดวันละ 7 กระสอบ 140 กิโลกรัม จับหมดทั้งบ่อ แต่คัดปลาขาย 2 ไซส์ คุณสัทธากล่าวว่า เพราะได้ราคาต่างกัน เป็นไซส์ปลาอ๊อก 7 ขีด-1 กิโลกรัม กว่า 15 ตัน ขายให้แพปลาในพื้นที่ได้ราคาดี กิโลกรัมละ 49 บาท ส่วนปลาที่เหลือขายเป็นปลาธรรมดา ได้ราคากิโลกรัมละ 40 บาท ตอนนี้มีปลาวัคซีนใต้เล้าไก่อีกบ่อ เป็นบ่อขนาดใหญ่ 47 ไร่ เลี้ยงปลาอยู่ 7,500 ตัว แต่เพิ่งปลดไก่ไป 4,500 ตัว เลี้ยงมา 5 เดือน เป็นปลาใหญ่ 4 ขีด กินมาม่าวันละ 450 กิโลกรัม กำลังจะเปลี่ยนมาเลี้ยงอาหารเม็ด คุณสัทธากล่าวว่า จะเลี้ยงต่ออีกเดือนครึ่ง ให้ปลาได้ไซส์ 1.5 กิโลกรัม เพราะหาตลาดปลาใหญ่รองรับไว้แล้ว คาดว่าน่าจะได้ปลาไม่ต่ำกว่า 70 ตัน

โฆษณา
AP Chemical Thailand

การเลี้ยงไก่ไข่

โรงเรือนเลี้ยงไก่ไขแบบเปิด
โรงเรือนเลี้ยงไก่ไขแบบเปิด

tags: การเลี้ยงไก่ไข่ บนบ่อปลานิล ตัวอย่างฟาร์ม การเลี้ยงไก่ไข่ บนบ่อปลาวัคซีน เพื่อลดต้นทุนค่าอาหาร การเลี้ยงไก่ไข่ บนบ่อปลายังสร้างรายได้หลายทางอีกด้วย

[wpdevart_like_box profile_id=”377357182296025″ connections=”show” width=”300″ height=”220″ header=”big” cover_photo=”show” locale=”th_TH”]