การเลี้ยงปลาสลิด
“ปลาสลิด” นับว่าเป็นปลาน้ำจืดเศรษฐกิจที่สำคัญอีกชนิดหนึ่งของเมืองไทย ส่วนใหญ่นิยมนำมาแปรรูปเป็นปลาแห้ง, ปลาเค็ม หรือนำมาทำเป็นปลา “แดดเดียว” ซึ่งวิธีการเลี้ยงปลาสลิดในแต่ก่อนเกษตรกรจะนิยมเลี้ยงปลาในบ่อดิน โดยอาศัยฟันหญ้าให้เป็นปุ๋ยเพื่อให้เกิดแพลงตอนในน้ำให้ปลากิน ซึ่งพื้นที่แหล่งเลี้ยงปลาสลิดที่เป็นที่รู้จักกันดี คือ อำเภอบางบ่อ และอำเภอบางพลี ในจังหวัดสมุทรปราการ ที่เรียกติดปากว่า “ปลาสลิดบางบ่อ”เพราะมีอัตราการเลี้ยงที่ค่อนข้างมาก อีกทั้งปลาที่ออกมายังมีรสชาติอร่อย เนื้อแน่น อาหารปลาสลิดลอยน้ำ
นอกจากนี้ยังมีอีกแหล่งเลี้ยงปลาชนิดนี้ที่ครั้งหนึ่งเคยมีชื่อในอดีต คือ ที่ตำบลดอนกำยาน อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี แต่ปัจจุบันพื้นที่เลี้ยงปลาสลิดที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยอยู่ที่อำเภอบ้านแพ้ว จังหวัดสมุทรสาคร นั่นเอง
อำเภอบ้านแพ้ว แหล่งเพาะเลี้ยงปลาสลิดที่ใหญ่ที่สุดของเมืองไทย ในอดีตนั้นคนทั่วไปอาจจะมองว่าเป็นเมืองแห่งผลไม้ โดยเฉพาะ “มะพร้าวน้ำหอม” แต่ในปัจจุบันนอกจากมะพร้าวแล้ว ปลาสลิดถือเป็นผลผลิตที่สามารถสร้างรายได้ให้เกษตรกรได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว ในอดีตการเลี้ยงปลาสลิดนั้นจะใช้อาหารธรรมชาติ โดยการทำให้น้ำเกิดแพลงตอนในน้ำเพื่อให้ปลากิน แพลงตอนเป็นอาหาร จนเมื่อมีผู้ค้าอาหารปลาสลิดเข้ามาเปิดตัว ทำให้ชาวบ้านหันมาเลี้ยงปลาสลิด โดยใช้อาหารเม็ดชนิดจมน้ำเลี้ยงปลาแทน เพื่อให้ปลามีคุณภาพเนื้อที่ดีขึ้น และย่นระยะเวลาการเลี้ยงให้สั้นลง โดยใช้อาหารเป็นตัวแปร
หลังจากที่เกษตรกรหันมาใช้อาหารในการเลี้ยงปลา ทำให้ผลผลิตปลาสลิดของบ้านแพ้วมีคุณภาพมากขึ้น เลี้ยงง่ายมากขึ้น แต่ต้นทุนในการเลี้ยงก็สูงขึ้นตาม ส่งผลให้เกษตรกรบางรายเมื่อขายปลาเสร็จแล้ว หลังจากหักลดต้นทุน ปรากฏว่าเหลือกำไรค่อนข้างน้อย ยิ่งหากเมื่อใดที่ราคารับซื้อปลาลดลง เกษตรกรแทบขาดทุนเลยก็ว่าได้ เพราะต้นทุนด้านอาหารค่อนข้างสูง นอกจากนี้ยังมีเรื่องของคุณภาพน้ำที่ใช้เลี้ยงปลาที่ควบคุมลำบาก เพราะอาหารที่ให้ปลากินอีกด้วย
จนกระทั่ง บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) ได้ผลิต “อาหารปลาสลิดชนิดเม็ดลอยน้ำ” ขึ้นมา ซึ่งสามารถช่วยลดต้นทุนด้านค่าอาหารของเกษตรกรได้เป็นอย่างดี อีกทั้งคุณภาพน้ำ และคุณภาพของเนื้อปลาก็ดี มีคุณภาพมากขึ้น เกษตรกรควบคุมน้ำในบ่อเลี้ยงได้ง่าย ลักษณะตัวปลาจะแข็งแรง สมบูรณ์ ตัวใหญ่ ได้น้ำหนัก ตามที่ตลาดต้องการ
![1.ปลาสลิด ที่เลี้ยงด้วย อาหารปลาสลิดลอยน้ำ](https://www.palangkaset.com/wp-content/uploads/2020/04/1.ปลาสลิด-ที่เลี้ยงด้วย-อาหารปลาสลิดลอยน้ำ.jpg)
![2.เจ๊ตุ๊ก-และคุณสัน](https://www.palangkaset.com/wp-content/uploads/2018/12/2.เจ๊ตุ๊ก-และคุณสัน.jpg)
สภาพพื้นที่เลี้ยงปลาสลิด
คุณเรืองรอง จันทร์สอน หรือคุณตุ๊ก อดีตเกษตรกรชาวนา ที่ผันตัวหันมาเลี้ยงปลาสลิด เนื่องจากข้าวมีราคาที่ตกต่ำ แต่ก่อนที่จะเลี้ยงปลาสลิดอย่างทุกวันนี้ คุณตุ๊กได้เคยเลี้ยงปลาน้ำจืด ปลาเบญจพรรณ มาก่อน โดยนำผืนนาเดิมพื้นที่กว่า 37 ไร่ มาขุดบ่อลึกประมาณ 1-1.5 เมตร จำนวน 32 ไร่ เพื่อทำเป็นบ่อเลี้ยงปลา และเริ่มหันมาเลี้ยงปลาสลิดเมื่อประมาณ 10 ปีที่แล้ว เนื่องจากเกษตรกรในละแวกบ้านหันมาเพาะเลี้ยงปลาสลิดเป็นจำนวนมาก
ส่วนหนึ่งจากตลาดมีความต้องการปลาสลิดสูง ส่งผลให้ราคาปลาที่จับหน้าฟาร์มมีราคาที่ค่อนข้างสูง โดยมีพ่อค้ามารับซื้อถึงหน้าฟาร์ม แต่กว่าที่คุณตุ๊กจะเลี้ยงปลาสลิดและประสบผลสำเร็จได้อย่างทุกวันนี้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องลองผิดลองถูก ขาดทุนมานับไม่ถ้วน เพราะปลาสลิดเป็นปลาที่ตนไม่เคยเลี้ยง และการดูแลค่อนข้างยุ่งยาก
เนื่องจากสมัยก่อนคุณตุ๊กจะใช้อาหารสำเร็จรูปในการเลี้ยงปลาสลิดของตน แต่เป็นอาหารปลาชนิดเม็ดแบบจมน้ำ ซึ่งยากต่อการจัดการในบ่อปลา เพราะจะต้องมีการติดยอในรอบๆ วงตาข่ายให้อาหาร และเมื่อเลี้ยงไปหลายเดือนเข้า ลักษณะของน้ำจะเริ่มเปลี่ยน จะควบคุมน้ำยากขึ้น เพราะของเสียก้นบ่อมากขึ้น จากอาหารปลาที่ให้เกินความต้องการของปลา ส่งผลให้ผลผลิตปลาของคุณตุ๊กในบางครั้งไม่ได้คุณภาพอย่างที่ต้องการ หรืออัตราการรอดของปลาลดน้อยลง ซึ่งจะทำให้คุณตุ๊กเกิดภาวะขาดทุนนั่นเอง
![3.คุณสัน-เจ๊ตุ๊ก-และคุณเส-มั่นใจอาหารของเบทาโกรเลี้ยงปลาสลิดแล้วดี](https://www.palangkaset.com/wp-content/uploads/2018/12/3.คุณสัน-เจ๊ตุ๊ก-และคุณเส-มั่นใจอาหารของเบทาโกรเลี้ยงปลาสลิดแล้วดี.jpg)
![ปลาสลิดที่กินอาหารเบทาโกรสันหนา](https://www.palangkaset.com/wp-content/uploads/2018/12/ปลาสลิดที่กินอาหารเบทาโกรสันหนา.jpg)
ข้อดีของอาหารปลาสลิดชนิดเม็ดลอยน้ำ
จนกระทั่งเมื่อปี 2557 เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการขายอาหารปลาสลิดของ บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) ได้เข้ามาแนะนำให้คุณตุ๊กทดลองใช้ “อาหารปลาสลิดชนิดเม็ดลอยน้ำ” ที่มีคุณสมบัติช่วยลดต้นทุนด้านอาหารให้น้อยลง สามารถลดระยะเวลาในการเลี้ยงได้ และที่สำคัญ คือ ช่วยให้คุณภาพของน้ำดีตลอดระยะเวลาในการเลี้ยง
ด้วยเหตุนี้คุณตุ๊กจึงตัดสินใจทดลองนำอาหารปลาสลิดชนิดเม็ดลอยน้ำ ของ บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) มาใช้ในบ่อปลาของตน โดยครั้งแรกที่นำอาหารปลาสลิดชนิดเม็ดลอยน้ำมาใช้นั้น คุณตุ๊กจะนำมาคลุกผสมกับอาหารแบบจมน้ำก่อน เพื่อให้การกินอาหารของปลาไม่สะดุด และค่อยๆ ลดปริมาณอาหารปลาแบบจมน้ำลง และเพิ่มอาหารเม็ดแบบลอยน้ำให้มากขึ้น
ซึ่งหลังจากที่คุณตุ๊กทดลองใช้อาหารปลาสลิดชนิดเม็ดลอยน้ำไปแล้ว ปรากฏว่าเมื่อจับปลาขึ้นมาสามารถจับปลาได้น้ำหนักเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งปลายังมีลักษณะตัวสวย เนื้อเยอะ สันหนา ตัวอ้วน ตรงตามที่ตลาดต้องการเป็นอย่างมาก ทำให้ตั้งแต่นั้นมาเจ๊ตุ๊กหันมาใช้อาหารปลาสลิดชนิดเม็ดลอยน้ำ ของ บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) มาตลอดจนถึงปัจจุบัน
![4.การปล่อยน้ำเข้าบ่อ](https://www.palangkaset.com/wp-content/uploads/2018/12/4.การปล่อยน้ำเข้าบ่อ.jpg)
![ลักษณะบ่อเลี้ยงปลาสลิดที่ลูกปลายังเล็ก](https://www.palangkaset.com/wp-content/uploads/2018/12/ลักษณะบ่อเลี้ยงปลาสลิดที่ลูกปลายังเล็ก.jpg)
ขั้นตอนการเลี้ยงปลาสลิด
ขั้นตอนการเลี้ยงปลาสลิดของคุณตุ๊กนั้น เริ่มต้นจากการเตรียมบ่อ หลังจากที่มีการขึ้นปลาเสร็จแล้ว คุณตุ๊กจะทำหลุมสำหรับพ่อแม่ เมื่อคัดปลาพ่อแม่พันธุ์แล้วจะนำปลาที่สมบูรณ์จำนวน 150 กิโลกรัม หรือประมาณ 600 ตัว ปล่อยในบ่อพัก เพื่อให้ไข่ และผลิตลูกพันธุ์ปลาสลิดออกมา โดยคุณตุ๊กจะให้วิตามินอาหารเสริมผสมกับอาหาร และไข่ไก่ ให้พ่อแม่พันธุ์ปลากินวันละ 1 มื้อ เพื่อกระตุ้นแม่พันธุ์ให้ออกไข่ และให้ได้ลูกพันธุ์ที่แข็งแรง สมบูรณ์
ในส่วนของพื้นบ่อที่เหลือจะทำการตากบ่อให้ดินเริ่มแห้งเล็กน้อย เมื่อบ่อเริ่มแห้งจะหว่านปูนมาร์ล เพื่อปรับสภาพดิน จากนั้นหว่านเมล็ดผักบุ้งเล็กน้อย แล้วทิ้งไว้ประมาณ 1 เดือน เพื่อรอให้ต้นหญ้าและผักบุ้งขึ้น เมื่อต้นหญ้าเริ่มขึ้นสูงประมาณ 1 ศอก จะเริ่มปล่อยน้ำเข้า
โดยคุณตุ๊กจะสูบน้ำจากคลองด้านข้างบ่อเข้ามา โดยใช้ตาข่ายกรองน้ำ 2 ชั้น เพื่อป้องกันลูกปลา และหอย โดยปล่อยน้ำเข้าบ่อให้สูงประมาณ 50 เซนติเมตร (เท่าหัวเข่า) ฉะนั้นคอยสังเกต หากเห็นว่าแม่พันธุ์ปลาที่กักไว้เริ่มก่อหวอดวางไข่ และออกลูกแล้ว จึงซื้อลูกพันธุ์ปลาสลิดจากแหล่งเพาะพันธุ์ที่เชื่อถือได้มาปล่อยเพิ่มในบ่อ เมื่อลูกปลาเริ่มออกจากไข่ ช่วงนี้จะเริ่มเพิ่มระดับน้ำอีกประมาณ 10 เซนติเมตร ทุก 7-10 วัน จนน้ำสูงประมาณ 1.5 เมตร จึงหยุดเพิ่มน้ำ
![5.อาหารใช้เลี้ยงปลาสลิดของทางเบทาโกร](https://www.palangkaset.com/wp-content/uploads/2018/12/5.อาหารใช้เลี้ยงปลาสลิดของทางเบทาโกร.jpg)
![ตาข่ายฟ้าใช้ทำคอกให้อาหารปลาสลิด](https://www.palangkaset.com/wp-content/uploads/2018/12/ตาข่ายฟ้าใช้ทำคอกให้อาหารปลาสลิด.jpg)
การให้ อาหารปลาสลิดลอยน้ำ
ในช่วงที่ลงลูกพันธุ์ปลาใหม่ๆ คุณตุ๊กจะให้อาหารเล็กน้อยวันละ 1 มื้อ ประมาณ 2-3 กิโลกรัม โดยการสาดไปทั่วๆ บ่อ ซึ่งอาหารที่ให้ลูกปลาเล็กนั้น คุณตุ๊กจะให้อาหารกุ้งเบอร์ 0 ผสมกับอาหารปลาสลิดชนิดเม็ดลอยน้ำของ เบทาโกร เบอร์ 1 เพื่อฝึกให้ปลาชินกับการกินอาหารเม็ดก่อน จากนั้นเมื่อผ่านไปประมาณ 15 วัน ลูกปลาจะกินอาหารได้มากขึ้น จึงเพิ่มอาหารปลาสลิดชนิดเม็ดลอยน้ำตาม
หลังจากลงลูกปลาไปแล้วประมาณ 1 เดือนครึ่ง จะเปลี่ยนมาให้อาหารปลาสลิดชนิดเม็ดลอยน้ำ เบอร์ 1 ของเบทาโกร ล้วนๆ จากนั้นคุณตุ๊กจะเริ่มทำคอกเป็นวงตามจุดต่างๆ ในบริเวณบ่อ เพื่อฝึกให้ปลามากินอาหารในคอก แล้วจึงค่อยๆ เพิ่มอาหาร จาก 1 มื้อ เป็น 2 มื้อ คือ เช้า และเย็น เพิ่มปริมาณการให้ จาก 1 ชั่วโมง เป็น 2-3 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับการกินของปลา และลักษณะตัวปลาที่โตมากขึ้น
![6.ลูกปลาสลิดอายุ-1-เดือน](https://www.palangkaset.com/wp-content/uploads/2018/12/6.ลูกปลาสลิดอายุ-1-เดือน.jpg)
การบำรุงดูแลรักษาลูกปลาสลิด
ในช่วงปลาเล็กคุณตุ๊กจะต้องดูแลปลาเป็นพิเศษ เพราะลูกปลาค่อนข้างอ่อนแอต่อโรค และศัตรู อย่าง นกกินปลา ที่มักบินเข้ามาโฉบกินปลาภายในบ่อ ด้วยเหตุนี้จึงต้องทำการปลูกต้นหญ้าและผักบุ้ง เพื่อเป็นที่กำบังให้กับลูกปลานั่นเอง ในส่วนของโรค คุณตุ๊กจะเน้นดูแลปลาให้แข็งแรง โดยการให้วิตามิน อาหารเสริม และใช้จุลินทรีย์สาดบ่อทุก 7-10 วัน จนจับปลา
โดยเน้นใช้จุลินทรีย์ “ไอโซแบค” ในการควบคุมคุณภาพของน้ำ โดยจะนำจุลินทรีย์1 ซอง ผสมกับน้ำ 200 ลิตร หมักไว้ 6-12 ชั่วโมง นำมาสาดลงบ่อขนาด 2-4 ไร่ ทุกๆ 10-15 วัน หรือคลุกกับอาหาร หมักทิ้งไว้ครึ่งชั่วโมง แล้วค่อยให้ปลากิน จะช่วยทำให้น้ำภายในบ่อมีคุณภาพที่ดี ไม่เน่าเสียง่าย และทำให้ปลาแข็งแรง ไม่อ่อนแอต่อโรค สมบูรณ์มากที่สุด
แต่หากช่วงไหนมีโรคระบาดเข้าบ่อ คุณตุ๊กจะให้ยาฆ่าเชื้อเป็นบางครั้ง เพื่อลดความสูญเสียของปลา คุณตุ๊กจะเลี้ยงปลาสลิดไปประมาณ 10 เดือน นับตั้งแต่วันที่ปล่อยน้ำเข้าบ่อ ก็จะเริ่มจับปลา โดยจะมีพ่อค้าเข้ามาซื้อปลาถึงหน้าบ่อ ซึ่งขั้นตอนการขึ้นปลานั้น คุณตุ๊กจะปล่อยน้ำเข้าร่องที่อยู่ด้านข้างบ่อ และทำการคัดปลาในร่องนั้น โดยราคารับซื้อปลาทางพ่อค้าจะเป็นผู้กำหนดราคาซื้อ
![7.ปลาสลิดพร้อมจับขาย](https://www.palangkaset.com/wp-content/uploads/2018/12/7.ปลาสลิดพร้อมจับขาย.jpg)
![วัดขนาดปลาสลิดได้มาตรฐาน](https://www.palangkaset.com/wp-content/uploads/2018/12/วัดขนาดปลาสลิดได้มาตรฐาน.jpg)
การจับผลผลิตปลาสลิด
คุณตุ๊กยอมรับว่าหลังจากที่ตนได้ใช้ “อาหารปลาสลิดชนิดเม็ดลอยน้ำ” ของ บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) แล้วนั้น รู้สึกว่าน้ำหนักปลาที่จับได้จะเพิ่มขึ้น จากแต่ก่อนที่เคยจับปลาได้ 6-8 ตัว/กิโลกรัม ซึ่งเป็นปลาที่ค่อนข้างแตกไซซ์ แต่หลังจากที่หันมาใช้อาหารปลาสลิดเบทาโกร ปรากฏว่าน้ำหนักปลาเฉลี่ยเพิ่มขึ้น เป็น 4 ตัว/กิโลกรัม เลยทีเดียว
นอกจากนี้ยังช่วยลดระยะเวลาการเลี้ยงปลา จากที่แต่ก่อนต้องเลี้ยงนานถึง 12-13 เดือน แต่ปัจจุบันสามารถเลี้ยงปลาเพียง 10 เดือน ก็สามารถจับขายได้แล้ว อีกทั้งอาหารปลาสลิดชนิดเม็ดลอยน้ำไม่ทำให้น้ำเน่าเสียง่าย สามารถใช้น้ำเดียว ตลอดระยะเวลาในการเลี้ยงปลาในบ่อ และที่สำคัญ คือ ต้นทุนทางด้านอาหารยังลดลงค่อนข้างมาก เมื่อเทียบกับแต่ก่อนที่ต้องให้อาหารปลา 2 กระสอบ ก็ลดเหลือเพียง 1 กระสอบ เท่ากับลดค่าอาหารได้ 50% ส่งผลให้ FCR ตลอดการเลี้ยงค่อนข้างต่ำ เพียง 1.3-1.4 เท่านั้น และเมื่อจับปลาขายและหักต้นทุนแล้ว
คุณตุ๊กยังเหลือกำไรค่อนข้างสูง เมื่อเทียบกับแต่ก่อน ด้วยเหตุนี้เจ๊ตุ๊กจึงเป็นลูกค้าอาหารปลาสลิดชนิดเม็ดลอยน้ำของ บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) มาโดยตลอดระยะเวลา 4 ปีนี้ นอกจากคุณตุ๊กแล้ว ยังมีเกษตรกรรุ่นใหม่ไฟแรงที่หันมาสานต่ออาชีพของครอบครัวในการเลี้ยงปลาสลิดให้ได้คุณภาพ และผลผลิตมากขึ้นกว่าเดิม เพื่อสร้างรายได้ที่ดีในอนาคต
![8.คุณเสและลูกสาว](https://www.palangkaset.com/wp-content/uploads/2018/12/8.คุณเสและลูกสาว.jpg)
การบริหารจัดการบ่อเลี้ยงปลาสลิด
คุณเสรี จันทร์สอน หรือคุณเส เกษตรกรวัยหนุ่มที่หันมาเอาดีในการเลี้ยงปลาสลิดในพื้นที่ อ.บ้านแพ้ว คือ หนึ่งเกษตรกรที่แต่ก่อนเคยเลี้ยงปลาสลิดโดยใช้อาหารชนิดเม็ดจมน้ำ ซึ่งสร้างความลำบาก และผลเสียต่อการเลี้ยงค่อนข้างมาก โดยเฉพาะเรื่องคุณภาพน้ำที่ควบคุมค่อนข้างยาก
อีกทั้งอาหารปลาชนิดเม็ดจมน้ำ ยังทำให้ตนไม่ทราบปริมาณคงเหลือของอาหารในแต่ละมื้อ ส่งผลให้เกิดปริมาณอาหารที่มากเกินความต้องการของปลา ซึ่งนั่นหมายถึงต้นทุนอาหารที่สูญเสียไป ซึ่งเรื่องนี้สร้างความลำบากใจให้กับคุณเสค่อนข้างมาก
จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ส่งเสริมการขายอาหารของ บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) เข้ามาแนะนำอาหารปลาสลิดชนิดเม็ดลอยน้ำ ตนจึงทดลองนำมาใช้ในบ่อของตนเอง ซึ่งผลปรากฏว่าปลาตอบสนองกับอาหารเบทาโกรที่ให้ค่อนข้างดี อีกทั้งยังสามารถทุ่นแรง และลดการจัดการภายในบ่อได้เป็นอย่างดี ซึ่งแต่ก่อนที่ใช้อาหารเม็ดแบบจมน้ำ จะต้องนำอาหารมาผสมกับปลายข้าวที่ต้มแล้ว ซึ่งขั้นตอนค่อนข้างยุ่งยาก และต้องใช้อาหารในปริมาณที่สูง
ซึ่งคุณเสเคยให้อาหารมากสุด โดยใช้อาหารเม็ดมื้อละ 100 กระสอบ ซึ่งเป็นจำนวนที่มาก อีกทั้งเมื่อให้ไปแล้วปลายังไม่ตอบสนองกับอาหาร ปลายังโตช้า ต้องเลี้ยงปลานานถึง 13-14 เดือน กว่าที่จะจับปลาส่งตลาดได้ และยังได้ปริมาณที่น้อยอีกด้วย ซึ่งจะเห็นได้ชัดว่าปริมาณอาหารที่ให้กับอัตราการแลกเนื้อค่อนข้างสูง
แต่หลังจากที่คุณเสหันมาใช้อาหารปลาสลิดชนิดเม็ดลอยน้ำ ของ บริษัท เบทาโกรฯ แล้วนั้น สามารถย่นระยะเวลาในการจับปลาได้เร็วมากขึ้น การจัดการในบ่อง่ายขึ้น คุณภาพของน้ำดีขึ้น และที่สำคัญสามารถสร้างผลกำไรให้เกษตรกรได้เพิ่มมากขึ้นนั่นเอง ปัจจุบันคุณเสมีพื้นที่บ่อเลี้ยงปลาสลิดกว่า 20 ไร่ สามารถจับปลาได้ผลผลิตสูงถึง 5 ตันกว่า ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดิมค่อนข้างสูง และสร้างผลกำไรที่ค่อนข้างดีเลยทีเดียว
![9.เบทาโกรจัดศูนย์การเรียนรู้ให้แก่เกษตรกร](https://www.palangkaset.com/wp-content/uploads/2018/12/9.เบทาโกรจัดศูนย์การเรียนรู้ให้แก่เกษตรกร.jpg)
การจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้การเลี้ยงปลาสลิด
นอกจากคุณภาพของอาหารที่ดี มีคุณภาพแล้ว ทางบริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) ยังมีเจ้าหน้าที่เข้ามาดูแลเกษตรกรถึงหน้าบ่อ และยังได้จัดตั้งศูนย์การเรียนรู้การเลี้ยงปลาสลิด บ้านโรงเข้ ขึ้นมา โดยในทุกๆ อาทิตย์จะมี คุณหมอเข้ามาให้ความรู้ พร้อมรับฟังปัญหาของเกษตรกรที่พบเจอในช่วงที่ผ่านมา พร้อมแนะนำวิธีการแก้ปัญหาให้กับเกษตรกร
นอกจากนี้ในศูนย์การเรียนรู้ยังมีบริการตรวจคุณภาพน้ำของเกษตรกร ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายอีกด้วย และนอกจากการบริการดูแลดุจญาติพี่น้องแล้วนั้น ทางบริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) ยังมีโปรโมชั่นต่างๆ ทั้งลด แลก แจก แถม ให้เกษตรกรอย่างครบครันกันเลยทีเดียว
หากเกษตรกรท่านใดสนใจอาหารปลาสลิดชนิดเม็ดลอยน้ำ ของ บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) สามารถติดต่อ ฝ่ายขายได้ที่ โทร.08-1911-8261 คุณเจตน์จิรา สุรินทร์ อาหารปลาสลิดลอยน้ำ อาหารปลาสลิดลอยน้ำ