การปลูกมะม่วงน้ําดอกไม้ GAP กลุ่มวิสาหกิจ ส่งออกวังสมบูรณ์..พื้นที่ 4 ไร่ รายได้ไม่ต่ำกว่า 200,000 บาท

โฆษณา
AP Chemical Thailand

การปลูกมะม่วงน้ําดอกไม้

เมื่อประมาณ 2 ปีที่ผ่านมา เรื่องราวของกลุ่มวิสาหกิจผู้ผลิตมะม่วงน้ำดอกไม้เพื่อการส่งออกที่วังสมบูรณ์ จังหวัดสระแก้ว ได้สร้างกระแสความฮือฮาในวงการไม้ผลไปครั้งหนึ่งแล้ว พื้นที่การผลิตเมื่อประมาณ 2 ปีก่อนนั้นอยู่ที่  5,000 ไร่

แต่นับถึงปัจจุบันพื้นที่การผลิตมะม่วงน้ำดอกไม้ภายใต้การดำเนินงานของวิสาหกิจวังสมบูรณ์พัฒนาขึ้นมาได้ถึง 8,000 ไร่ และมีแนวโน้มว่าจะสามารถขยายพื้นที่การผลิตออกไปได้อีกเป็นจำนวนมาก เพราะถ้ามองในภาพรวมเรื่องพื้นที่การเกษตรแล้วนั้นมีอีกกว่า 10,000 ไร่ ที่ยังไม่ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการรวมกลุ่มนี้

Advertisement-Banner-by-บริษัท-โซตัส-อินเตอร์เนชั่นแนล-จำกัด-www.sotus.co.th
Advertisement-Banner-by-บริษัท-โซตัส-อินเตอร์เนชั่นแนล-จำกัด-www.sotus.co.th

2 ปีที่ผ่านมา มีความเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงอย่างไร ตลาดการส่งออกมะม่วงน้ำดอกไม้มีพัฒนาการไปถึงขั้นไหน วิธีการผลิตมะม่วงน้ำดอกไม้เพื่อการส่งออกที่ถูกต้องแท้จริงควรเป็นอย่างไร วันนี้ทีมงานเมืองไม้ผลไม่ขอย้อนรอยอดีต

แต่จะขออธิบายในส่วนต่อขยายเพื่อปลูกฝังรากฐานแห่งความสมบูรณ์ในอาชีพเกษตรกรรม เจาะลึกทั้งเรื่องพื้นที่ วิธีการทำตลาดในเชิงบูรณาการ และความเข้มแข็งของกลุ่มวิสาหกิจวังสมบูรณ์ เพื่อเป็นโมเดลการศึกษาให้เกษตรกรไทยในพื้นที่อื่น หรือที่ปลูกไม้ผลตัวอื่นได้เอาไปประยุกต์ใช้ให้เหมาะสม เพราะในกลไกการตลาดเรื่องการรวมกลุ่มและอำนาจการต่อรองราคาเป็นศาสตร์ที่สำคัญที่สุด จะพัฒนาขึ้นหรือหยุดอยู่กับที่ก็อยู่ที่องค์ความรู้ส่วนนี้ล้วนๆ ครับ

1.ผลผลิตมะม่วงน้ำดอกไม้
1.ผลผลิตมะม่วงน้ำดอกไม้
2.สวนมะม่วงน้ำดอกไม้
2.สวนมะม่วงน้ำดอกไม้

สภาพพื้นที่ปลูกมะม่วงน้ำดอกไม้

จังหวัดสระแก้วมีภูมิประเทศและสภาพภูมิอากาศที่เหมาะสมต่อการปลูกไม้ผลหลากหลายชนิด ในกลุ่มของมะม่วงถือว่าสระแก้วเป็นแหล่งผลิตที่สำคัญที่สุดในภาคตะวันออก รวมถึงมีการพัฒนาคุณภาพที่โดดเด่นกว่ามะม่วงน้ำดอกไม้ในพื้นที่อื่นๆ

พื้นที่ในการปลูกมะม่วง (รวมทุกพันธุ์) ทั้งหมดประมาณ 25,449 ไร่ ให้ผลผลิตได้แล้วกว่า 22,933 ไร่ คิดเป็นร้อยละ 91 ของพื้นที่ปลูกผลผลิต โดยภาพรวมไม่ต่ำกว่า 15,000 ตัน มีมูลค่าการซื้อขายมากกว่า 400 ล้านบาท ในสัดส่วนนี้กว่าร้อยละ 59 เป็น การปลูกมะม่วงน้ำดอกไม้ สีทอง

โฆษณา
AP Chemical Thailand

ด้วยสภาพพื้นที่ส่วนใหญ่ของสระแก้วเป็นพื้นที่ราบถึงราบสูง มีภูเขาสูงสลับซับซ้อน ระดับความสูงจากน้ำทะเล 74 เมตร สภาพอากาศเป็นแบบทุ่งหญ้าเมืองร้อน กล่าวคือ  ในฤดูมรสุมตะวันตกเฉียงใต้จะมีอากาศชุ่มชื้น  และฝนตกตลอดฤดู แต่ในฤดูมรสุมตะวันตกเฉียงเหนือ (ฤดูหนาว) ก็จะมีอากาศที่แห้งแล้ง อุณหภูมิโดยเฉลี่ยหนาวสุดก็ประมาณ 16 องศาเซลเซียส ส่วนร้อนที่สุดอยู่ประมาณกลางเดือนเมษายน อุณหภูมิประมาณ 40 องศาเซลเซียส

สภาพพื้นดินของสระแก้วตามธรณีสัณฐานและวัตถุต้นกำเนิด แบ่งได้เป็น 3 กลุ่มใหญ่ ได้แก่

1.ดินเกิดบนที่ราบลุ่ม และที่ราบขั้นบันไดต่ำของลำน้ำ

2.ดินเกิดบนที่ราบขั้นบันไดสูงของลำน้ำ

3.ดินเกิดบนภูเขา และที่ลาดเชิงเขาทั่วไป

ดินที่เกิดบนภูเขา และที่ลาดเชิงเขาทั่วไป กับดินที่เกิดบนที่ราบลุ่ม และที่ราบขั้นบันไดต่ำของลำน้ำ  พบในลุ่มแม่น้ำบางปะกงทางด้านตะวันตกของจังหวัด มีเนื้อดินละเอียด ระบายน้ำไม่ดี แต่ดินในเขตพื้นที่วังสมบูรณ์นั้นส่วนใหญ่เป็นดินที่เกิดบนที่ราบขั้นบันไดสูงของลำน้ำ พบมากในตอนกลาง และทางตะวันออกของจังหวัด ดินชุดนี้มีเนื้อดินที่ร่วน และการระบายน้ำดีกว่า เหมาะสมสำหรับการปลูกพืชในตระกูลไม้ผล และไม้ยืนต้นต่างๆ

โฆษณา
AP Chemical Thailand
3.กลุ่มวิสาหกิจผู้ผลิตมะม่วงน้ำดอกไม้
3.กลุ่มวิสาหกิจผู้ผลิตมะม่วงน้ำดอกไม้

การจัดตั้งกลุ่มวิสาหกิจผลิตมะม่วงน้ำดอกไม้ส่งออกวังสมบูรณ์

ในแง่ของกระบวนการผลิต ไม่นับเฉพาะเรื่องการเกษตรทฤษฏี  การรวมกลุ่มเป็นสัมพันธภาพที่ถือว่าเอื้อประโยชน์ได้ดีที่สุดในทางการค้า บริษัทใหญ่ๆ ทั้งหลายในภาคเอกชนก็ไม่นิยมที่จะทำการค้าเพียงลำพัง หากแต่การร่วมมือ หรือการร่วมทุนกันนั้น จะส่งผลดีในเชิงธุรกิจที่มีประสิทธิภาพได้อย่างสูงสุด

มองในภาคการเกษตรมูลค่าการซื้อขายอาจเทียบเคียงได้ยากกับการพูดใเนเชิงธุรกิจ ด้วยลำดับขั้นและวิวัฒนาการของเกษตรกรไทยที่ยังยึดติดกับวิถีทางแห่งเกษตรกรรมแบบเดิมๆ ประเภทปลูกมาขายไป ได้เท่าไหร่ก็เท่านั้น มีมากก็ขาย มีน้อยก็เอาไว้กินเอง เป็นบรรทัดฐานของเกษตรรุ่นเก่า

ที่ปัจจุบันไม่สามารถยึดถือแบบนั้นได้อีกต่อไป เมื่อคำว่า “เกษตร” ปัจจุบันถูกประยุกต์เข้ามาใกล้เคียงคำว่า “ธุรกิจ” มากขึ้น รูปแบบที่ดีและที่ยอมรับว่าจะสร้างความมั่นคงได้ดีที่สุดก็คือ “การรวมกลุ่ม”

ทฤษฏีการรวมกลุ่มจึงเป็นเครื่องมือต่อรองทางการค้าที่ดีที่สุด ซึ่งเห็นผลมาแล้วในหลากหลายพื้นที่ โมเดลของการรวมกลุ่มที่ประสบผลสำเร็จไม่ต้องเดินตามหลังกลุ่มพ่อค้าคนกลางมีให้เห็นอยู่บ้าง เช่น การปลูกมังคุดที่จังหวัดชุมพร และถ้านับรวมโมเดลที่วังสมบูรณ์นี้ก็น่าจะถือว่าเป็นกลุ่มวิสาหกิจลำดับต้นๆ ที่สามารถรวมตัวกันได้อย่างเข้มแข็ง

ซึ่งข้อจำกัดในไม้ผลแต่ละชนิดมีปัจจัยด้านกายภาพที่แตกต่างกัน ทำให้ไม้ผลบางตัวสามารถรวมกลุ่มได้ แต่ไม้ผลอีกหลายชนิดที่ไม่สามารถรวมกลุ่มได้เช่นกัน พื้นฐานส่วนหนึ่ง คือ การขาดผู้นำที่จะเดินพาทุกคนให้ก้าวไปข้างหน้าได้

การรวมกลุ่มเป็นวิสาหกิจผู้ผลิตมะม่วงน้ำดอกไม้ส่งออกที่วังสมบูรณ์ในปี 2550 จึงเป็นโอกาสที่ดีที่สุดที่จะช่วยลดปัญหาในระหว่างการซื้อขาย ได้ประโยชน์ทั้งผู้ส่งออก และผู้ผลิต รวมถึงข้อดีในการลดต้นทุนจาการใช้สารเคมี หรือว่าปุ๋ย ยา ที่จะได้ราคาถูกลง เพราะสามารถซื้อจากบริษัทได้ในปริมาณมากๆ

โฆษณา
AP Chemical Thailand

และที่เด่นชัดที่สุด คือ กำไร/ไร่/คนของเกษตรกรเองที่เพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว จากข้อมูลของ คุณวรเทพ แก้ววงศ์นุกูล เล่าให้ทีมงานเราฟังว่าถ้าเป็นการปลูกแบบขายเอง หาตลาดเอง อย่างดีราคาขายก็ไม่ได้มากกว่า 50 บ./กก. แต่ถ้าเป็นกระบวนการผลิตเพื่อการส่งออก ต้นทุนที่ใช้เท่าเดิม เพียงแต่ปรับเปลี่ยนวิธีการบางอย่างให้สอดคล้องกับการส่งออก ซึ่งถือว่าไม่ยุ่งยาก แต่สามารถขายมะม่วงน้ำดอกไม้ได้ในราคาไม่ต่ำกว่า 100 บ./กก. ถือว่ากำไรเพิ่มขึ้นกว่า 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งเป็นผลดีจากการรวมกลุ่ม ที่สำคัญราคามีการวางกรอบชัดเจนแน่นอนในช่วงเวลารับซื้อ ขอเพียงทำผลผลิตให้คุณภาพดีตามที่บริษัทรับซื้อต้องการ มีมากแค่ไหนก็ขายได้หมด โดยที่ไม่ถูกกดราคาแม้แต่น้อย

จากปี 2550 ที่วิสาหกิจผู้ผลิตมะม่วงอำเภอวังสมบูรณ์ได้ก่อตั้งขึ้น โดยคุณมานพ แก้ววงษ์นุกูล อดีตนายกสมาคมชาวมะม่วงไทย และการดำเนินงานก็ถูกถ่ายทอดมาในรุ่นที่สอง คือ คุณวรเทพ แก้ววงษ์นุกูล ที่ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานกลุ่มวิสาหกิจดังกล่าว จากสมาชิก 20 คน ปัจจุบันมีการเพิ่มเติมเข้ามากลายเป็นสมาชิกที่มีอยู่ในปัจจุบัน คือ 25 ราย ซึ่งแต่ละรายนั้นมีพื้นที่ในการเพาะปลูกกันค่อนข้างมาก การกระจายตัวของสมาชิกเองก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้พื้นที่ในการผลิตของกลุ่มมีอัตราการขยายตัวมากขึ้นไปด้วย เพราะด้วยนโยบายใหม่ของเกษตรจังหวัดที่มุ่งเน้นให้แต่ละอำเภอมีวิสาหกิจใหม่เกิดขึ้น ทำให้สมาชิกของกลุ่มได้ก่อตั้งวิสาหกิจใหม่ ในบางอำเภอมีสมาชิกเป็นของตัวเอง ปริมาณผลผลิตที่ทางกลุ่มจะได้รับก็เพิ่มมากขึ้น เพราะการส่งออกก็ยังเป็นหน้าที่วิสาหกิจวังสมบูรณ์เช่นเคย ปัจจุบันพื้นที่การผลิตมะม่วงจากที่เคยมีกว่า 5,000 ไร่ ในระยะเวลากว่า 2 ปี จึงขยายพื้นที่มาเป็นกว่า 8,000 ไร่ และยังมีเกษตรกรในพื้นที่อีกกว่า 10,000 ไร่ ที่ยังไม่ได้เข้าร่วมในภาคใหญ่นี้ เกษตรกรบางคนยังไม่มีความรู้มากพอในเรื่องการทำมะม่วงส่งออก หรือยังไม่ได้ลงมือปลูกมะม่วงด้วยซ้ำ เพราะบางคนยังไม่สามารถหาตลาดรองรับได้ การดำเนินงานของทางกลุ่มวิสาหกิจวังสมบูรณ์จึงเน้นไปที่การขยายพื้นที่ตรงนี้ เบื้องต้น คือ การเข้าไปให้ความรู้ ให้รายละเอียด เกี่ยวกับการทำมะม่วงน้ำดอกไม้ส่งออกว่ามีวิธีการอย่างไร มีตลาดรองรับแค่ไหน และแนวโน้มของตลาดในอนาคตเป็นอย่างไร เป้าหมายที่ทางกลุ่มวิสาหกิจวังสมบูรณ์ตั้งเป้าไว้ คือ สามารถเพิ่มพื้นที่การผลิตจากเดิมให้ได้อีกประมาณ 1,000 ไร่ เพื่อผลผลิตที่ส่งออกจะได้มีปริมาณเพิ่มมากขึ้นตามความต้องการของตลาดที่กำลังเติบโตเป็นอย่างมาก

4.การปลูกมะม่วงน้ำดอกไม้ ที่ถูกคัดแล้วพร้อมจำหน่าย
4.การปลูกมะม่วงน้ำดอกไม้ ที่ถูกคัดแล้วพร้อมจำหน่าย

ด้านตลาดและช่องทางจำหน่ายมะม่วงน้ำดอกไม้

ประเทศปลายทางปัจจุบันที่บริโภคมะม่วงน้ำดอกไม้ในโซนเอเชีย นอกจากญี่ปุ่น ก็มีจีน และเกาหลี ที่กำลังมาแรงมาก ปริมาณการส่งออกมีเท่าไหร่ ประเทศปลายทางเหล่านี้รองรับได้ทั้งหมด รวมถึงตลาดในโซนยุโรปที่กำลังขยายตัวตามมา เรียกว่าเป็นการเติบโตที่มากขึ้นทุกปี ดูได้จากบริษัทที่ดำเนินธุรกิจส่งออก ที่ปัจจุบันมีเกิดขึ้นใหม่อีกจำนวนมาก และในช่วงเวลาตั้งแต่เดือนตุลาคม-มกราคมนี้ เป็นเวลาของน้ำดอกไม้สีทองที่สระแก้ว ทุกบริษัทจะมุ่งหน้ากันมาที่นี่เพื่อหาผลผลิตป้อนสู่ตลาด แต่ที่ทางกลุ่มวิสาหกิจวังสมบูรณ์เซ็นสัญญาทำการค้าอยู่ด้วยนั้นตอนนี้มีทั้งสิ้น 4 บริษัท ที่เป็นคู่ค้ากันมายาวนาน คุณวรเทพให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าปริมาณความต้องการมะม่วงน้ำดอกไม้มีเยอะมากขึ้นทุกปี แต่กำลังการผลิตเราไม่สามารถหาสินค้าได้ตามความต้องการ ถ้าทำได้มีเท่าไหร่ก็ขายได้หมด ราคาขายก็เพิ่มมากขึ้นในทุกปี จากปีแรกๆ บริษัทรับซื้ออยู่ที่ประมาณ 85 บาท ปัจจุบันก็เพิ่มมาเป็น 105 บาท การกำหนดราคานี้ทางกลุ่มก็สามารถทำได้เอง โดยเสนอราคาให้กับบริษัทซึ่งส่วนใหญ่จะไม่มีปัญหา เพราะปลายทางสามารถส่งออกสินค้าได้ในปริมาณมาก และความต้องการก็มีต่อเนื่อง การที่ไม่มองหาบริษัทอื่นเพิ่มเติมคุณวรเทพกล่าวว่า “การเป็นคู่ค้ากันมานานก็มีความไว้ใจในเรื่องการซื้อขาย มีมาก มีน้อย เขาก็รับซื้อของเรา  บริษัทใหม่เราไม่แน่ใจว่าระบบการค้าเป็นอย่างไร  อาจจะแค่เข้ามาชั่วเวลาหนึ่งแล้วก็หายไป ที่สำคัญแค่ 4 บริษัท ที่มีตอนนี้ปริมาณผลผลิตก็หาส่งให้แทบจะไม่ทันกันอยู่แล้ว” ปริมาณการส่งออกมะม่วงของกลุ่มในปีนี้ คุณวรเทพคาดการณ์ว่าน่าจะได้ไม่ต่ำกว่า 800 ตัน ในระยะเวลาที่เก็บเกี่ยวผลผลิตได้

5.การให้น้ำโดยการใช้สปริงเกลอร์
5.การให้น้ำโดยการใช้สปริงเกลอร์
ดอกมะม่วงเริ่มกลายเป็นเม็ดของผลมะม่วงแล้ว
ดอกมะม่วงเริ่มกลายเป็นเม็ดของผลมะม่วงแล้ว
ผลมะม่วงถูกโรคและแมลงเข้าทำลาย
ผลมะม่วงถูกโรคและแมลงเข้าทำลาย
ห่อด้วยถุงห่อผลไม้ชุนฟงป้องกันแมลง
ห่อด้วยถุงห่อผลไม้ชุนฟงป้องกันแมลง

วิธีการปลูกและบำรุงดูแลรักษามะม่วงน้ำดอกไม้

เราลองมาไล่เรียงดูวิธีการเบื้องต้นของการทำมะม่วงน้ำดอกไม้เพื่อการส่งออกที่ทางกลุ่มวิสาหกิจวังสมบูรณ์เผยแพร่ให้กับสมาชิกว่ามีวิธีการที่มาที่ไปอย่างไรกันบ้าง

  • บำรุงต้นหลังจากเก็บมะม่วงเสร็จ ใส่ปุ๋ย 15-15-15 ต้นละ 1-2 กก. ต่อทรงพุ่ม 1 เมตร ใส่ปุ๋ยอินทรีย์ต้นละ 20 กก. หลังจากใส่ปุ๋ย 15 วัน เริ่มตัดแต่งกิ่งให้มีแสงส่องผ่านได้ประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์ ประโยชน์ของการตัดแต่งกิ่งอีกประการ คือ ลดจำนวนกิ่งให้สมดุลกับอาหาร ที่เหลือกระตุ้นให้ต้นได้แตกกิ่งใหม่ขึ้นมา
  • เร่งให้แตกใบอ่อนด้วยการฉีดสารเร่งแตกใบอ่อน โดยใช้ไธโอยูเรีย 0.5 เปอร์เซ็นต์ อัตรา 100 กรัม/น้ำ 20 ลิตร ใบอ่อนจะแตกภายใน 7-15 วัน
  • ดูแลใบอ่อนด้วยการฉีดสารเคมีป้องกัน เพื่อกำจัดโรคและแมลงทุกๆ 7 วัน เพื่อป้องกัน ด้วง งวง กัดใบ
  • ควบคุมการเจริญเติบโตด้วยการราดสารพาโคลบิวทราโซล รอบโคนต้น ในระยะใบเพสลาด (ระยะที่ใบอ่อนเปลี่ยนจากสีม่วงเป็นสีเขียว) โดยขุดรอบโคนต้นลึกประมาณ 5 ซม. ผสมสารพาโคลบิวทราโซลตามคำแนะนำในฉลาก กับน้ำสะอาด 1-2 ลิตร รดติดต่อกันนาน 4 สัปดาห์ แล้วใส่ปุ๋ยสูตร 8-24-24 ในช่วงใบมะม่วงแก่จัดให้ฉีดพ่นปุ๋ยทางใบเพื่อยับยั้งการแตกใบอ่อนด้วยปุ๋ยสูตร 0-52-34
  • เร่งการออกดอกหลังราดสาร 60-90 วัน โดยใช้ไธโอยูเรีย หรือ โปรแตสเซียมไนเตรท กระตุ้นให้เกิดตาดอกประมาณ 7-14 วัน มะม่วงจะเริ่มแทงช่อดอก ปริมาณช่อดอกต่อจำนวนต้นช่อดอกที่ออกมากเกินไปก็ไม่แน่ว่าจะติดผล ต้องขึ้นอยู่กับสภาพอากาศด้วยเช่นกัน แต่ปัญหาที่เกิดในช่วงนี้ คือ โรคเชื้อรา ตัวสำคัญ คือ “แอนแทรคโนส”
  • การดูแลช่อดอกและติดผลอ่อนมะม่วงจากช่อดอกยาวประมาณ 2-3 ซม. จนกระทั่งติดผลอ่อน ให้พ่นสารเคมีป้องกันและกำจัดแมลง  เช่น  เพลี้ยไฟ เพลี้ยจักจั่น ราดำ  และควรตรวจช่อดอกทุกๆ 7 วัน  ถ้าสำรวจพบจุด หรือขีดน้ำตาลแดงขนาดเล็กของโรคแอนแทรคโนสประปราย  บนก้านช่อดอก  และก้านดอก  ให้พ่นสารโปรคลอราช  อะชอกซีน โตรปินโปรฟิเนบ โดยพ่นในช่วงก่อนดอกบานและช่วงดอกโรย หรือติดผลอ่อนขนาดหัวแมลงวัน
  • การห่อผลหลังจากติดผลอ่อนประมาณ 45 วัน ก่อนห่อให้ฉีดพ่นสารเคมีป้องกันกำจัดโรค เชื้อรา เพลี้ยแป้ง  แล้วห่อผลโดยใช้ถุงคาร์บอน (ซุนฟง) จุดประสงค์หลักเพื่อป้องกันการทำลายของแมลงวันผลไม้ ผลที่ได้ตามมา คือ ผลมะม่วงมีสีเหลืองสดใส สวยงาม
  • ก่อนการเก็บเกี่ยว 1 เดือน งดการใช้สารเคมีทุกชนิด ในส่วนของสารป้องกันกำจัดโรคพืช ทางกลุ่มฯ ใช้ โค-ราซ สูตรพิเศษ EW มีน้ำเป็นตัวทำลาย ป้องกันกำจัดโรคแอนแทรคโนส
6.มะม่วงฟ้าลั้นก็มีเหมือนกัน
6.มะม่วงฟ้าลั้นก็มีเหมือนกัน

การเก็บเกี่ยวผลผลิตมะม่วงน้ำดอกไม้

ในเรื่องของการควบคุมคุณภาพสินค้า ทางกลุ่มต้องรักษาคุณภาพและปริมาณการผลิต ต้องมีการปฏิบัติตามแผนงานในการผลิตเพื่อให้ได้จำนวนมะม่วงตามที่บริษัทต้องการ ทั้งนี้เพื่อเป็นการควบคุมคุณภาพจึงต้องมีการเก็บเกี่ยวตามอายุและเวลาที่นัดหมาย จะต้องใช้คนงานที่มีความชำนาญมาพอสมควรเก็บและวางในภาชนะที่ผ่านการฆ่าเชื้อ

โฆษณา
AP Chemical Thailand

มะม่วงสดทั้งผลต้องมีขั้วติดยาวประมาณ 3-5 ซม.  ไม่มีสารพิษตกค้าง  และมีการตรวจสารพิษ ก่อนการส่งจำหน่ายทุกครั้ง มาตรฐานความหวานของมะม่วงน้ำดอกไม้อยู่ที่17-18 บริกซ์ น้ำหนักมะม่วงขนาดใหญ่ 350 กรัมขึ้นไป น้ำหนักมะม่วงขนาดกลาง 300-350 กรัม ความแก่ที่ 85-90 เปอร์เซ็นต์ ผิวสวย สะอาด ปราศจากตำหนิรอยแผล โรคและแมลง  คราบยางมะม่วง ฝุ่น  สิ่งสกปรกต่างๆ รอยช้ำที่เกิดจากการกระแทก เนื้อมะม่วงต้องสีสวย ไม่ช้ำ หอม หวาน น่ารับประทาน การปลูกมะม่วงน้ําดอกไม้ การปลูกมะม่วงน้ําดอกไม้ 

การบรรจุต้องใช้ตะกร้าไม่เกิน 3 ชั้น/ตะกร้าน้ำหนักรวมไม่เกิน 20 กก.  เรื่องการควบคุมคุณภาพนี้ คุณวรเทพกล่าวว่า “ทุกขั้นตอนมีความสำคัญมาก ถ้าผิดพลาดส่วนไหนก็จะทำให้เกิดความเสียหายได้ การรักษาคุณภาพ คือ ต้องพยายามให้ความรู้แก่สมาชิกอย่างสม่ำเสมอ ว่าควรใช้ผลิตภัณฑ์ยาตัวไหน และตัวไหนไม่ควรใช้ ถ้าห้ามก็คือห้าม หากพลาดมาการลงทุนก็ไม่คุ้มกัน” การปลูกมะม่วงน้ําดอกไม้ การปลูกมะม่วงน้ําดอกไม้

7.ผลมะม่วงสีทองเหลืองอร่าม
7.ผลมะม่วงสีทองเหลืองอร่าม
ผลมะม่วงอ่อนเก็บส่งขายใช้ทำยำ
ผลมะม่วงอ่อนเก็บส่งขายใช้ทำยำ

การผลิตมะม่วงน้ำดอกไม้เพื่อส่งออก มาตรฐาน GAP

สมาชิกทุกคนที่จะเข้ามาร่วมกับกลุ่มวิสาหกิจวังสมบูรณ์นั้นทุกสวนจะต้องผ่านการรับรอง GAP หลายสวนอาจจะมองดูว่าเป็นเรื่องยาก และขั้นตอนมากมาย แต่ทางกลุ่มก็พยายามให้ความรู้เบื้องต้นถึงการได้มาตรฐานดังกล่าว เพียงแต่คิดในแง่ธุรกิจ แล้วก็มี GAP ก็เหมือนเป็นใบการันตีที่ทำให้คุณภาพสินค้าดูมีความน่าเชื่อถือ และสามารถจำหน่ายได้ในราคาที่สูงขึ้นด้วย การปลูกมะม่วงน้ําดอกไม้ การปลูกมะม่วงน้ําดอกไม้ การปลูกมะม่วงน้ําดอกไม้

หลักเกณฑ์ของ GAP เบื้องต้นมีดังนี้

1.แหล่งน้ำต้องสะอาด ใช้น้ำจากแหล่งที่ไม่มีการปนเปื้อนจากสารเคมีที่ไหลผ่านคอกสัตว์ โรงงาน โรงพยาบาล

2.ทำการเพาะปลูกในพื้นที่ที่ไม่มีเชื้อโรค ไม่มีสารพิษในดิน ไม่เป็นพื้นที่ตั้งโรงงานอุตสาหกรรม  ถ้าเป็นพื้นที่เคยใช้สารเคมีมาก่อน ก็ต้องมีการเว้นจากการใช้สารเคมีไม่น้อยกว่า 3 ปี

3.มีการใช้และเก็บปุ๋ยเคมีอย่างถูกต้อง เก็บเป็นหมวดหมู่ มีป้ายเขียนชัดเจน

โฆษณา
AP Chemical Thailand

4.ผลิตตามแผนควบคุมคุณภาพ ปฏิบัติและดูแลรักษาพืชตามขั้นตอนที่กำหนดไว้

5.สำรวจศัตรูพืชและป้องกันกำจัดอย่างถูกต้อง

6.เก็บเกี่ยวผลผลิตถูกเวลา ถูกต้อง ตามขั้นตอนในระยะเวลาที่เหมาะสม ใช้อุปกรณ์ที่มีมาตรฐาน

7.ขนย้าย และเก็บรักษาผลผลิตสะอาด ปลอดภัย

8.มีการจดบันทึกทุกขั้นตอนในกระบวนการผลิตทุกครั้ง (ปริมาณการใช้ยา ปริมาณการใช้ปุ๋ย เป็นต้น) การปลูกมะม่วงน้ําดอกไม้ การปลูกมะม่วงน้ําดอกไม้ การปลูกมะม่วงน้ําดอกไม้

8.ระหว่างรอมะม่วงโตก็ปลูกกล้วยขายสร้างรายได้ก่อน
8.ระหว่างรอมะม่วงโตก็ปลูกกล้วยขายสร้างรายได้ก่อน

รายได้จากผลผลิตมะม่วงน้ำดอกไม้

สำหรับผู้สนใจที่อยากสร้างรายได้ด้วยการปลูกมะม่วงน้ำดอกไม้นั้น ลองมาคิดคำนวณต้นทุน-กำไร กันอย่างคร่าวๆ แล้วจะเห็นว่าเป็นตัวเลขที่น่าสนใจอย่างยิ่งเลยทีเดียว

โฆษณา
AP Chemical Thailand

เราคำนวณในพื้นที่น้อยๆ ประมาณ 4 ไร่ สามารถปลูกมะม่วงน้ำดอกไม้สีทองได้ประมาณ 160 ต้น ถ้ามีการบริหารจัดการดูแลแบบจริงจัง ทำตามขั้นตอนที่ทางกลุ่มแนะนำ การเก็บเกี่ยวผลผลิตจะได้ค่าเฉลี่ยประมาณ 500 กก./รุ่น ในพื้นที่ 4 ไร่

ก็มีปริมาณผลผลิตไม่ต่ำกว่า 2,000 กก. คิดราคาในการขายให้กับทางกลุ่มแบบตัวเลขกลมๆ ที่กิโลกรัมละ 100 บาท  (แต่ความจริงสามารถขายได้ในราคาที่สูงกว่านี้  เพียงแต่เอาตัวเลขง่ายๆ  มาคำนวณให้เห็นภาพมากขึ้นเท่านั้น) จะสามารถขายได้เงินประมาณ 200,000 บาท การปลูกมะม่วงน้ําดอกไม้ การปลูกมะม่วงน้ําดอกไม้ การปลูกมะม่วงน้ําดอกไม้

เมื่อเอาหักลบต้นทุน เรื่องปุ๋ย และสารเคมี และค่าบริหารจัดการต่างๆ รวมค่าแรงคนงาน อุปกรณ์ทุกอย่าง ที่ต้องใช้ในการทำมะม่วงน้ำดอกไม้ส่งออก ต้นทุนโดยรวมพื้นที่ 4 ไร่ ประมาณ 100,000 บาท เท่ากับชาวสวนจะมีกำไรแบบเท่าตัว

แต่ในกรณีที่ชาวสวนมีพื้นที่ในการทำที่มากขึ้น ต้นทุนก็มากขึ้นตามไป แต่ผลผลิตที่ได้ก็จะมากตามไปด้วย ยิ่งถ้ามีพื้นที่มากกว่า 50 ไร่ กำไรที่ได้ต่อรอบต่อปี มีไม่ต่ำกว่าหลักล้านเลยทีเดียว การปลูกมะม่วงน้ําดอกไม้ การปลูกมะม่วงน้ําดอกไม้ การปลูกมะม่วงน้ําดอกไม้

ทั้งนี้มะม่วงน้ำดอกไม้นั้นจะเริ่มให้ผลผลิตได้ในการปลูกปีที่ 4 ระหว่างปีที่ 1-3 เกษตรกรสามารถปลูกแซมพืชอายุสั้นอื่นๆ เพิ่มเติม เพื่อเป็นรายได้ในระหว่างที่รอการเก็บเกี่ยวผลผลิตของมะม่วงน้ำดอกไม้ได้อีกทางหนึ่งด้วย

9.ขนาดลังจำนวนมากที่ขนส่งใส่มะม่วง
9.ขนาดลังจำนวนมากที่ขนส่งใส่มะม่วง

เป้าหมายและแนวโน้มในอนาคต การปลูกมะม่วงน้ําดอกไม้

ตามเป้าหมายที่ได้วางไว้ประการแรก คือ การเพิ่มพื้นที่การผลิตมะม่วงน้ำดอกไม้จาก 8,000 ไร่ ให้มีปริมาณมากขึ้น โดยเป็นการเชิญชวน แนะนำ และสร้างความเข้าใจ ในหมู่เกษตรกรในสระแก้วที่ยังมีอยู่อีกเป็นจำนวนมาก ให้มองเห็นข้อดีของการทำมะม่วงน้ำดอกไม้เพื่อการส่งออก เพราะเกษตรกรบางรายมีพื้นที่มาก ผลิตมะม่วงได้เยอะ แต่กลับขายได้ในราคาที่ถูก หรือเกษตรกรบางคนก็ยังไม่เห็นทิศทางของตลาดมะม่วงน้ำดอกไม้ที่แท้จริง  จึงยังไม่ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มวิสาหกิจวังสมบูรณ์

โฆษณา
AP Chemical Thailand

คุณวรเทพกล่าวว่า “ความรู้ในเชิงเกษตรกรที่จริงไม่ต้องไปปรับเปลี่ยนอะไรมาก เรื่องการปลูกเป็นสิ่งที่เกษตรกรมีความชำนาญในตัวเองกันอยู่แล้ว เพียงแต่การเข้าไปแนะนำก็เพื่อให้เขาสามารถมีช่องทางในการจำหน่ายที่ดีขึ้นได้  อย่างบางรายเป็นที่ว่างเปล่า ยังไม่เคยปลูกพืชอะไร

การส่งเสริมทางกลุ่มก็จะให้ความรู้เกี่ยวกับการปลูกมะม่วงน้ำดอกไม้ว่ามีตลาดที่เข้มแข็งอย่างไร ส่วนมากเกษตรกรที่ได้รับคำแนะนำก็จะเห็นดีตามด้วย เพราะเขาเองก็ไม่ได้เสียประโยชน์อะไร ไม่ต้องลงทุนอะไรเพิ่มเติม เพียงแต่ปรับเปลี่ยนวิธีการบางอย่างให้เป็นการทำเพื่อส่งออก ต้นทุนเขาเท่าเดิม แต่รายได้เขาเพิ่มขึ้น ก็น่าจะเป็นทางออกที่ดีของเกษตรกรในสระแก้วได้”

แนวโน้มของตลาดในปัจจุบันนั้น ความต้องการในต่างประเทศถือว่ามีกำลังซื้อที่สูงมาก และพัฒนาต่อเนื่องทุกปี ปริมาณผลผลิตที่ทางกลุ่มทำได้ถือว่ายังไม่เพียงพอ ดังนั้นเป้าหมายสำคัญที่จะเพิ่มพื้นที่การผลิตก็เพื่อเพิ่มปริมาณผลผลิต  สิ่งที่ตอบแทนกลับมา คือ รายได้ที่จะเข้าสู่เกษตรกรที่เป็นสมาชิก เพราะเมื่อสินค้ามีมาก คุณภาพดี  อำนาจต่อรองก็มากขึ้น ราคาขายก็ดีขึ้น ทุกอย่างเป็นสมการที่สอดคล้องกันอย่างยิ่ง

ส่วนเกษตรกรในจังหวัดอื่นๆ ที่อยากเข้าร่วมนั้น ทางกลุ่มไม่ได้มีปัญหาอะไร เพียงแต่ถ้าใครต้องการคำแนะนำ  หรือต้องการช่องทางการตลาด ถ้าอยู่ไกลกันมากก็จะแนะนำแหล่งตลาดหรือที่รับซื้อให้เกษตรกรในพื้นที่นั้นๆ องค์ความรู้ในการทำสามารถถ่ายทอดกันได้

แต่ถ้าเป็นเกษตรกรในพื้นที่  ทางกลุ่มยินดีให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่  วิ่งเข้าหาได้ทุกสวน เพื่อการพัฒนาคุณภาพและปริมาณผลผลิตมะม่วงน้ำดอกไม้ที่ดียิ่งๆ ขึ้นไปในอนาคต