ผู้มีส่วนร่วม การระดมทุนนวัตกรรม ผลิต “ไก่พันธุ์” GP-PS สัญชาติไทย ทั้งเนื้อและไข่ ส่งออก 5 ประเทศ

โฆษณา
AP Chemical Thailand

เป็นที่รู้กันว่า ชาวโลกต้องบริโภคโปรตีนจากไก่เนื้อจากสายพันธุ์ ROSS COBB ARBOR และ HUBBARD และ ไก่ไข่พันธุ์ LOHMANN, HYE-LINE, HI-SEX, H2N, BOVAIN, DEKARB  ซึ่งเจ้าของสายพันธุ์ดังกล่าวผลิตลูกไก่ระดับปู่ย่า (GP) และพ่อแม่พันธุ์ (PS) ส่งขายทั่วโลกมาหลายทศวรรษ

ประเทศไทยต้องใช้เงินหลายล้านบาท/ปี ในการสั่ง GP และ PS เข้ามาเลี้ยงเพื่อขยายเป็นคอมเมอเชียลทั้งเนื้อและไข่ในอุตสาหกรรม ซึ่งปรากฏการณ์ดังกล่าวทำให้คนไทยกลุ่มหนึ่งที่มีเลือดชาตินิยม ได้ต่อสู้กับตัวเอง พยายามพัฒนาพันธุกรรม ไก่เนื้อ ไก่ไข่ ให้ทัดเทียมหรือก้าวหน้าบริษัทข้ามชาติดังกล่าว

1.ไก่พันธุ์ GP-PS01

การพัฒนาพันธุกรรม สัตว์ พืช

แต่ ดร.มานิจ วิบูลพันธุ์ เจ้าของมานิจฟาร์ม แห่ง อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ผู้เชี่ยวชาญการพัฒนาพันธุกรรมปศุสัตว์ เช่น ไก่เนื้อ ไก่ไข่ เป็ดเนื้อ และ เป็ดไข่ และพันธุกรรมพืช เช่น ข้าวเจ้าพันธุ์หอมละมุน ข้าวหอมเทพนารี ไม่ย่อท้อใช้ทรัพย์ส่วนตัวพัฒนาโดยการทุ่มสุดตัวในเรื่องไก่เนื้อและไก่ไข่ เพื่อให้ได้พันธุกรรมที่ล้ำหน้ากว่าพันธุกรรมทั้งหมดของโลก ปรากฏว่าผลงานชิ้นโบว์แดงแก่สายตาคนไทยและชาวโลก

สืบเนื่องมาจาก วันที่ 6 ธันวาคม 2566  ณ กระทรวงเกษตรฯ มีการประชุมระหว่าง บริษัท สยามเฮอริเทจ บรีดดิ้ง จำกัด ที่มี ดร.มานิจ วิบูลย์พันธุ์ กรรมการผู้จัดการ เจ้าของมานิจฟาร์ม ได้ลงนามทางธุรกิจกับ MR. S.M. RAFIUL HOq กรรมการผู้จัดการ บริษัท GEORGICA จำกัด ประเทศบังคลาเทศ เพื่อซื้อขายไก่ไข่และลูกไก่เนื้อระดับพ่อแม่พันธุ์และปู่ย่าพันธุ์ โดยมีดร.อำพล วริทธิธรรม ผู้อำนวยการกองผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์ กรมปศุสัตว์ และ ดร.วนิดา กำเนิดเพ็ชร ผู้อำนวยการสำนักการเกษตรต่างประเทศ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมเป็นสักขีพยาน ซึ่งล็อตแรกจะส่งมอบพันธุ์ไก่ในช่วงเดือน มิถุนายน 2567

2.MR. S.M. RAFIUL HOq
2.MR. S.M. RAFIUL HOq

สายพันธุ์ ไก่เนื้อ ไก่ไข่

Mr. Hoq ถือว่าเป็นเซียนธุรกิจ ไก่เนื้อ ไก่ไข่ ของบังคลาเทศ แต่ละปีจัดซื้อสายพันธุ์จากนิวซีแลนด์มูลค่าหลายล้านบาท แต่วันนี้เขาตัดสินใจซื้อพันธุกรรมไก่สัญชาติไทยด้วยความรอบคอบ มั่นใจว่าตอบโจทย์ทางธุรกิจชัดเจน

เป็นการนำ “ธงไทย” ไปโบกสะพัดในบังคลาเทศดินแดนที่มีประชากรกว่า 169.4 ล้านคน ที่บริโภคโปรตีนจากไข่และเนื้อไก่เป็นหลัก อีกทั้งมีภูมิอากาศใกล้เคียงกับไทยและการขนส่งใช้เวลาเพียง 2.5 ชั่วโมง เท่านั้น

โฆษณา
AP Chemical Thailand

พันธุ์ไก่เนื้อสยามบรอยเลอร์ (SIAM BROILER)  BL120 คือ สายพันธุ์ที่ ดร. มานิจทุ่มเทอย่างหนักในการวิจัยและพัฒนาในห้วงเวลา 20 กว่าปี จน PS 1 ตัว ให้ลูกกว่า 200 ตัว ทนความร้อน โตเร็ว สามารถเลี้ยงแบบหนาแน่น มีระบบย่อยแข็งแรง มีภูมิคุ้มกันต้านเชื้อแบคทีเรียสูง ใช้วัตถุดิบอาหารสัตว์ได้หลากหลาย ให้รสชาติดี แตกต่างจากไก่เนื้อสายพันธุ์อื่นโดยสิ้นเชิง

นอกจากนี้ปี 2568 ดร.มานิจได้พัฒนาสายพันธุ์ BL130 สู่ตลาดประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ BL120  แต่ BL130 สามารถผสมกับไก่เนื้ออุตสาหกรรมสายอื่นโดยสามารถรับการถ่ายโอนลักษณะทางพันธุกรรมจากพ่อได้มากที่สุด ถือเป็นความก้าวหน้าในการพัฒนาพันธุกรรมและพัฒนาพันธมิตรในเวลาเดียวกัน และในปี 2569 มานิจฟาร์มเตรียมพันธุ์ BL-HAIRLESS ออกสู่ตลาด เป็นพ่อแม่พันธุ์ที่ขนงอกช้า เพื่อตอบโจทย์ด้านระบายความร้อนในตัวไก่ เพราะไม่มีขนเลี้ยงได้หนาแน่นขึ้นอีก และลดการใช้ “โภชนะ” ที่จะไปสร้างขน แต่เอามาสร้างเนื้อแทน และเตรียมแผนการพัฒนาสายพันธุ์ใหม่ๆ ไว้อย่างต่อเนื่อง

ทั้ง BL120 และ BL130 เป็นพันธุ์ไก่เนื้อพัฒนาความสมดุลของ 2 กลุ่ม ยีน คือ TSHR ที่มีผลต่อ “จำนวน”ไข่/แม่/ปี ที่มากขึ้น และ TBC1D1 ที่ส่งผลเรื่องการเจริญเติบโต กระบวนการเปลี่ยนอาหารเป็นเนื้ออย่างรวดเร็ว ทำให้แม่พันธุ์ไก่ของสยามบรอยเลอร์ มีลูก/แม่ มากถึง 230 ตัว รวมทั้งการโตไว มีกล้ามเนื้อสีขาวเป็นเส้นยาว สะสมไขมันต่ำ ผิวหนังเหลือง รสชาติโดดเด่น เนื้อแน่น หวาน นุ่ม ไร้กลิ่นสาบ

3.ไก่พันธุ์ GP-PS03

การให้อาหารไก่ไข่

เบื้องหลังความสำเร็จไก่เนื้อสยามบรอยเลอร์และไก่ไข่ แน่นอน “อาหารไก่” เป็น 1 ในปัจจัยหลักของนักพัฒนาพันธุกรรม ดร.มานิจ เปิดเผยว่า ตนใช้แบรนด์นี้มา 2 ปีกว่า ก่อนหน้านี้ใช้เกือบทุกแบรนด์ ทั้งไก่เนื้อและไก่ไข่ แต่สุดท้ายก็จบที่อาหารยี่ห้อนี้ “ที่ต้องใช้ เพราะโดดเด่นและตอบโจทย์ อีกทั้งมีการดูแลลูกค้า เขาเอาใจใส่ลูกค้า ช่วยเหลือลูกค้าหลายๆ มิติ พูดคุยแบบถ้อยทีถ้อยอาศัย บริการประทับใจ”

โดยเฉพาะอาหารที่โดดเด่นด้านคุณภาพ อาหารแม่ไก่ไข่ ที่โดดเด่นด้านไข่ ไข่แดง อาหารนี้ทำให้แม่ไก่สุขภาพดี  ไข่แดง ไข่ดก และไข่ดี ราคาย่อมเยา

นอกจากนี้พนักงานขายของบริษัทฯ เป็นผู้ประสานงานที่ดีมากๆ และเข้าใจลูกค้า

โฆษณา
AP Chemical Thailand

วันนี้มานิจฟาร์มต้องใช้อาหารไก่เฉลี่ยเดือนละ 2-3 ล้านบาท เพื่อเลี้ยงไก่พันธุ์กว่า 50,000 ตัว

4.ไก่พันธุ์ GP-PS04

การบำรุงดูแลไก่ไข่

สำหรับ ไก่ไข่ มานิจฟาร์มใช้เวลาในการวิจัยและพัฒนานานกว่า 20 ปีเช่นกัน เพื่อให้เกิดความหลากหลายในรูปแบบการเลี้ยง ปริมาณและคุณภาพของไก่ ความทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศสามารถปรับตัวได้ทุกสภาวะ ระบบย่อยถูกพัฒนาให้สามารถย่อยและใช้ประโยชน์จากวัตถุดิบอาหารพื้นถิ่นได้หลากหลาย เช่น ข้าวเจ้า ข้าวสาลี มันสำปะหลัง ข้าวโพด รวมถึงอาหารพลังงานและโปรตีนชนิดอื่นๆ มีความสามารถต้านเชื้อแบคทีเรียได้หลายชนิด เช่น อหิวาต์ ซัลโมเนลล่า และ แบคทีเรียที่ก่อโรคระบบทางเดินอาหารและทางเดินหายใจบางชนิด ได้แก่ ไก่ไข่ตระกูลซีบราวน์ ( Z-BROWN) ที่มีเปลือกไข่สีน้ำตาล ถูกพัฒนาถึงเวอร์ชั่นที่ 3  ชื่อว่า Z-BROWN TSHR ที่ทำให้ได้ผลผลิตนิ่งสม่ำเสมอ

เพราะกลุ่มยีนTSHR ถูกพัฒนาอย่างสมบูรณ์แบบ และตระกูลเปลือกไข่สีขาว ถูกเตรียมไว้สำหรับออกตลาด 4 เวอร์ชั่น แต่ที่โดดเด่นขณะนี้คือ บางกอกไวท์ (BANGKOK WHITE) ที่กินอาหารน้อย แข็งแรง เรื่องให้ไข่ดก และฟองใหญ่ นอกจากนี้ยังมีพันธุ์ไก่ไข่อีกหลายสายพันธุ์ที่ถูกพัฒนาเตรียมไว้ และกำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ตอบตอบสนองความต้องการของตลาดทั้งไทยและต่างประเทศ

ธุรกิจพันธุกรรมสัตว์ของมานิจฟาร์มมีความยั่งยืน เพราะมีสต็อกพันธุ์แท้ที่สามารถขยายเป็นพ่อแม่พันธุ์ได้ ไม่จำกัดตามความต้องการของตลาดกว่า 50 ปีข้างหน้า และได้พัฒนาสายพันธุ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองบริบทต่างๆ ที่เปลี่ยนไปในอนาคต

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมางานพัฒนาสัตว์ ปีกอุตสาหกรรมของมานิจฟาร์ม มีพันธุกรรมเป็นเอกลักษณ์และได้กระจายพันธุ์ทั้งไก่เนื้อและไก่ไข่สายต่างๆ เพื่อทดสอบเลี้ยงในสภาพแวดล้อมและวิธีการเลี้ยงที่แตกต่างกัน จนได้พันธุกรรมที่คุ้มค่าทางเศรษฐกิจทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพให้ผลผลิตใกล้เคียงกับพันธุกรรมที่อยู่ในตลาดเดิม แต่มีความแข็งแรง สามารถปรับตัวกับความเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศได้ดีกว่า โดยเฉพาะในเขตร้อนชื้น มีระบบย่อยอาหารที่มีประสิทธิภาพสามารถใช้วัตถุดิบอาหารสัตว์ได้หลากหลายมากขึ้น ตลอดจนมีภูมิคุ้มกันที่ทนต่อการติดเชื้อแบคทีเรียที่มีการปรับตัวตลอดเวลาเช่นกัน ดังนั้นพันธุ์ไก่ของมานิจฟาร์มยืนยันถึงความมั่นคงด้านอาหาร (FOOD SECURITY) ของประเทศและของโลกในอนาคต

ด้วยการกระจายพันธุ์ทั้งไก่เนื้อและไก่ไข่ไปสู่ผู้เลี้ยงเชิงพาณิชย์ในช่วง 5 ปี ที่ผ่านมาทำให้ มานิจฟาร์ม เพิ่มความมั่นใจในคุณภาพันธุกรรมว่าสามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก

โฆษณา
AP Chemical Thailand
5.คุณศักดิ์ดา มณีพรรณ์
5.คุณศักดิ์ดา มณีพรรณ์

จุดเด่นสายพันธุ์ไก่เนื้อ

โดยเฉพาะไก่เนื้อ สยามบรอยเลอร์ ได้ตกไปอยู่ในมือของ คุณศักดิ์ดา มณีพรรณ์ ประธานกลุ่ม สตาร์ฟู้ด กรุ๊ป เซียนธุรกิจพันธุกรรมไก่เนื้อครบวงจร ที่ทุ่มเม็ดเงินจำนวน 7 ล้านบาท ซื้อไปลงทุนเลี้ยง เพราะได้ทดลองความอร่อยของเนื้อไก่แล้วติดใจ รสชาติดีกว่า อาร์เบอร์เอเคอร์ “เอาไก่อาร์เบอร์ฯ กับสยามบรอยเลอร์ไปต้มกิน เรารู้สยามบรอยเลอร์เนื้อมันเด้ง ดี รสชาติดีมาก”คุณศักดิ์ดา ฟันธงด้านรสชาติ

ส่วนด้านการเลี้ยงยืนยันว่าไม่ต่างจากอาร์เบอร์ฯ มากนัก ที่สำคัญ สยามบรอยเลอร์ ปู่ย่า (GP) ให้แม่ (PS) เยอะกว่า และตัวแม่ให้ลูกไวกว่า 1-2 สัปดาห์ ดังนั้นทั้ง GP, PS และคอมเมอร์เชียลสยามบรอยเลอร์อยู่กับคุณศักดิ์ดามากที่สุด ซึ่งกระบวนการผลิต PS และคอมเมอร์เชียลภายใต้การปรับปรุงพัฒนาโรงเรือนใช้งบประมาณ 100 ล้านบาท ซึ่งได้ผลิตไก่คอมเมอร์เชียลเดือนเมษายน 2567 สัปดาห์ละ 5 แสนตัว และจะเริ่มเข้าโรงเชือดตั้งแต่เดือนมกราคมเป็นต้นไป เพื่อป้อนตลาดในประเทศเป็นหลัก เมื่อถามว่าเรื่องการขายลูกไก่ PS ที่มีสัปดาห์ละ 5หมื่น-1 แสนตัว ราคาตัวละ 11-12 บาท มีความเห็นอย่างไร? ก็ได้คำตอบว่าผู้ซื้อต้องคุยกันให้ชัดเจนก่อนตัดสินใจลงทุน

ความกล้าลงทุน สยามบรอยเลอร์ ของคุณศักดิ์ดา ก็เพราะเป็นคนศึกษาเชิงลึกจากของจริงเป็นหลัก เมื่อมั่นใจในข้อมูลธุรกิจตั้งแต่การผลิตและการตลาดตลอดห่วงโซ่อุตสาหกรรมไก่เนื้อ ก็พบว่าสยามบรอยเลอร์สุดยอดน่าลงทุน ดังนั้นการดึงเม็ดเงิน 100 ล้าน จากบริษัทในเครือมาลงทุนในนาม บริษัท  สตาร์ ฟู้ดส์ บรอยเลอร์ บรีดเดอร์ ฟาร์ม จำกัด ก็คือ การเข้าสู่ตลาดใหม่ ไม่ต้องแข่งขันในตลาดเดิม

“ผมได้เรียนรู้ ดร.มานิจมาเต็มที่ คนที่จะเชียร์ ก่อนที่ผมตัดสินใจทำ ผมหาข้อมูลเยอะ ด้วยความที่เราถนัดเรื่องสายพันธุ์อยู่แล้ว  ผมเคยอยู่กับบริษัทใหญ่เรื่องไก่พันธุ์มาก่อน ได้องค์ความรู้ประสบการณ์ มาเป็นข้อมูลให้ผมได้ตัดสินใจ ผมจึงกล้าลงทุนสายพันธุ์ไก่เนื้อของมานิจฟาร์มมาเลี้ยง” คุณศักดิ์ดา ให้ความเห็นถึงความมั่นใจในสายพันธุ์สยามบรอยเลอร์

6.คุณชาณุวัฒณ์ สิวะโมกข์
6.คุณชาณุวัฒณ์ สิวะโมกข์

การบริหารจัดการฟาร์มไก่ไข่

แม้แต่ คุณชาณุวัฒณ์ สิวะโมกข์ บริษัท คิงส์ เอ้กส์ (ประเทศไทย) จำกัด ฟาร์มไก่ไข่ชื่อดังจังหวัดฉะเชิงเทรา รับภารกิจมาจากรุ่นเตี่ย ถือว่าเป็น เซียนไก่ไข่ ของประเทศ สามารถนำ “มูลไก่” มาสร้างเงินด้วยนวัตกรรมปุ๋ยโชบุ ก็ยังกล้าทดลองซื้อ “ไก่สาว” ของหลายๆ บริษัทดังๆ มาเลี้ยง เช่น เบทาโกร เป็นต้น จนพบว่าคุณภาพใกล้เคียงกัน “แทบจะเป็นหนึ่งเดียวทั้งโลก ทุกไก่เหมือนเขาจะแยกพันธุกรรมได้ทั้งหมด กำหนดได้ว่าจะให้ไข่เท่าไหร่”คุณชาณุวัฒณ์ เปิดเผย

ยอมรับว่า พันธุกรรม ค่อนข้างนิ่ง เพราะไม่ว่าจะเป็น เปลือก ขนาด และ สี เป็นต้น ใกล้เคียงกันหมด ส่วน คุณภาพ ของไข่ขึ้นอยู่กับการเลี้ยงตั้งแต่ต้นจนถึงช่วงให้ไข่ ซึ่งแต่ละฟาร์มไม่เหมือนกัน “มีเทคนิคของแต่ละฟาร์ม อย่างจังหวะการให้แสง จังหวะการให้อาหาร เรื่องเวลาแต่ละช่วงเลี้ยงจนถึงช่วงอายุที่ระยะอาหารไก่สาว ระยะต้น ระยะกลาง ระยะปลาย ก็คนละสูตรแล้ว”

โฆษณา
AP Chemical Thailand

เมื่อถามถึงไก่ไข่ของ ดร.มานิจ ที่เลี้ยงเป็นอย่างไรบ้าง ก็ได้คำตอบว่าสู้ไก่ไข่ที่นำเข้ามาได้ และสายพันธุ์ก็ถูกกว่าถึง 50% นอกจากนี้เมื่อให้ผู้เลี้ยงทางภาคเหนือเลี้ยงยืนกรง 450 ตัว/ตรม. ปรากฏว่าไก่ตายน้อยกว่าพันธุ์ที่นำเข้า “ผมดูข้อมูลของ ดร.มานิจ โอเคนะ ทำได้ในปริมาณที่เยอะ และคัดตัวด้อยออกไป ต้นสายพันธุ์ที่ไหลมามันเป็นพันธุ์ที่ทนโรค ถ้าเทียบในต่างประเทศเขาไม่ได้คัดจากตัวที่มันแข็งแรง” คุณชาณุวัฒณ์ ให้ความเห็น และมั่นใจว่า เมื่อเรามีสายพันธุ์เองก็อาจนำเข้า 75% ใช้ในประเทศ 25%  ที่สำคัญหากโลกเกิดโรคระบาดในไก่ไข่ เขาไม่ส่งมาให้ เราก็เพิ่มการผลิตขึ้นเอง และสามารถส่งออกได้ด้วย  ทำให้เกิด “ความมั่นคง” ด้านพันธุกรรม

ในด้านการเลี้ยงไก่ไข่เชิงอุตสาหกรรม ทั้ง สายพันธุ์ โรงเรือน อาหาร การจัดการ และ เครื่องคัดไข่ เป็นต้น โดยเฉพาะเครื่องคัดไข่ดิจิตอลประสิทธิภาพสูง จำเป็นมากๆ อีก 1 มันสมองของคนไทยที่มีส่วนสำคัญต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมไก่ไข่ ก็คือ “เครื่องคัดไข่ดิจิตอล” แบรนด์ มาค เวลล์ โพรดักส์ เป็นนวัตกรรมของคนไทย โดย คุณ ศิวัช เลิศทยากุล บริษัท มาค เวลล์ โพรดักส์ จำกัด เป็นผู้ผลิตและคิดค้นเครื่องคัดไข่ระบบดิจอตอล เป็นเจ้าแรกของไทย ด้วยคุณสมบัติโดดเด่น คัดไข่ด้วยความแม่นยำ 100% หน้าจอแสดงผลจำนวนการคัดแบบเรียลไทม์ คัดแยกขนาดด้วยระบบดิติจอล หมดปัญหาไข่น้ำหนักเพี้ยน ราคาย่อมเยา จัดส่งทั่วประเทศ

7.คุณนฤชา งามสมุทร (คุณแมค)
7.คุณนฤชา งามสมุทร (คุณแมค)

คุณสมบัติเครื่องคัดไข่

โดยมี คุณนฤชา งามสมุทร  หรือ (คุณแมค) ดูแลการตลาดและบริการหลังการขายทั่วประเทศ 10 ปี ผลิตป้อนตลาดหลากหลายขนาด มีตั้งแต่ขนาด 5,000 ฟอง/ชั่วโมง ขนาด 15,000 ฟอง/ชั่วโมง ขนาด 20,000 ฟอง/ชั่วโมง ขนาด 25,000 ฟองชั่วโมง และขนาด 35,000 ฟอง/ชั่วโมง โดยเฉพาะขนาด 25,000 ฟอง/ชั่วโมง ที่ MAKWELL ได้พัฒนาเป็นระบบอัตโนมัติเต็มระบบ คือ ได้ทั้ง 2 ฟังชั่น 1. ระบบ Auto loader ดูดไข่จากแผงเข้าเครื่องอัตโนมัติ 2. ระบบ Auto packing เก็บไข่ลงแผงอัตโนมัติกลับด้านแหลมของไข่ลงแผงทุกฟอง อีกทั้งสามารถเลือกเลนส์ออโต้แพคกิ้งได้หลากหลายขนาด ตั้งแต่ 2 เลนส์ 4 เลนส์ และ 6 เลนส์

คุณสมบัติตัวเครื่องคัดไข่มาคเวลล์ ทาง บริษัท มาคเวลล์ เป็นผู้ผลิตรายแรกของไทย ที่ทำเครื่องคัดไข่ระบบดิจิตอลแบบเต็มระบบ ที่มาพร้อมกับระบบ auto loader (ระบบดูดไข่จากแผงเข้าเครื่อง) และผลักแผงเปล่าออกอัตโนมัติ สามารถใช้ได้กับแผงไข่ทุกขนาด และระบบ auto packing (ระบบเก็บไข่ลงแผงอัตโนมัติ กลับไข่ด้านแหลมลงแผงทุกฟอง) เก็บไข่ได้รวดเร็ว ลดขั้นตอน และลดต้นทุนค่าแรงไปได้อีกระดับ ราคาจับต้องได้ เพื่อคนไทย “การันตีราคาถูกที่สุดในโลก” สามารถ service และดูแลหลังการขายได้ทันที ไม่ต้องรอช่างจากต่างประเทศมา service

ระบบการคัดแยกน้ำหนักได้ตามตามมาตรฐาน ด้วยโปรแกรมของ บริษัท มาค เวลล์ เขียนและออกแบบเองทั้งหมดเป็นอย่างดี เพื่อให้ได้น้ำหนักตรงตามมาตรฐาน และสามารถอัพเกรดโปรแกรมได้ไม่สิ้นสุด ทำให้เครื่องคัดไข่ มาค เวลล์ ที่อยู่ในมือลูกค้าทันสมัยอยู่เสมอ ไม่ตกรุ่น

ปัจจุบันเครื่องคัดไข่ระบบดิจิตอลของ มาค เวลล์ ทุกเครื่อง มีระบบดูยอดการคัด และข้อมูลการคัดต่างๆ ออนไลน์ได้ทั่วโลก ผ่านโทรศัพท์มือถือ, แท็บเล็ต, คอมพิวเตอร์ ไม่จำกัดจำนวนเครื่อง และยังสามารถสั่งพิมพ์ยอดการคัดและข้อมูลทั้งหมดที่หน้าจอทัชสกรีนได้ทันทีเพียงสัมผัสเดียว เพื่อความสะดวกของลูกค้าในการเข้าถึงข้อมูลของเครื่องได้ทันที

โฆษณา
AP Chemical Thailand

ปัจจุบันนี้เครื่องคัดไข่ มาค เวลล์ ยังคงเป็นเครื่องคัดไข่ที่ริเริ่มนวัตกรรมใหม่ๆ อยู่เสมอ เพื่อความสะดวกในการใช้งาน เข้าถึงง่าย ใครๆ ก็ใช้ได้ สามารถลดต้นทุนค่าแรงคนงานได้มาก และยังทำงานได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น การีนตีด้วยยอดขายกว่า 80 เครื่อง ทั่วทุกภูมิภาคของไทย และ มาค เวลล์ ยังเป็นที่ไว้วางใจจากฟาร์มไข่และล้งไข่ทั่วประเทศเสมอมา ด้วยการบริการหลังการขายที่รวดเร็วทันใจ สนใจสั่งจองล่วงหน้า โทร.095-252-2401 คุณแมค

8.ไก่พันธุ์ GP-PS08

ด้านตลาดและช่องทางจำหน่าย ไก่เนื้อ ไก่ไข่

จากการรวบรวมข้อมูลการบริโภคอาหารโปรตีนของประชากรโลก พบว่า ในปี 2562 ประชากรโลกเกือบ 8,000 ล้านคน ปี 2562 บริโภคไข่ไก่เกือบ 2.0 ล้านล้านฟอง และบริโภคเนื้อไก่ 200 ล้านตัน ไข่ไก่และเนื้อไก่ เป็นโปรตีนเข้าถึงง่าย บริโภคได้ ทุกชาติ ทุกศาสนา ทำให้ไก่เนื้อและไก่ไข่มีรอบการผลิตที่สั้นกว่าปศุสัตว์อย่างอื่น และต้นทุนการเลี้ยงต่ำกว่า ทำให้ธุรกิจ ไก่เนื้อ ไก่ไข่ ตอบเทรนด์ของโลกได้ชัดเจนที่สุด

ผู้ผลิตพันธุกรรมไก่ระดับโลกจะกระจุกอยู่ในยุโรปและอเมริกาเพียงไม่กี่ราย ซึ่งไก่เนื้อ 2 ราย ได้แก่ TYSON USA และ AVIAGEN USA และไก่ไข่ 2 ค่าย ได้แก่  WEST JOHANS  และ HENDRIX GENETICS และกระจายพันธุ์ไปทั่วโลกด้วยรูปแบบการตลาด NUCLEUS FARM, DISTRIBUTOR   และ DIRECT CUSTOMER

จากโอกาสด้านการตลาด และศักยภาพของสายพันธุ์ไก่ของ มานิจฟาร์ม ดังกล่าวข้างต้น มั่นใจได้ว่า พันธุกรรมไก่ของมานิจฟาร์มสามารถเข้าไปแชร์ส่วนแบ่งในตลาดของ 5 ประเทศเป้าหมาย คือ บังคลาเทศ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย อินเดีย และ จีน ได้อย่างแน่ พร้อมจึงเปิดรับ นักลงทุน ร่วมเป็นเจ้าของมานิจฟาร์ม เพื่อผลิตพ่อแม่พันธุ์ และปู่ย่าพันธุ์ ส่งขายไปยังต่างประเทศ รวมถึงผู้ประกอบการทั้งไก่เนื้อ ไก่ไข่ภายในประเทศ ทดแทนการนำเข้า

9.ไก่พันธุ์ GP-PS09

แนวโน้มในอนาคต

โดยในปี 2567-2569 เป้าหมายเข้าไปมีส่วนแบ่งการตลาดในต่างประเทศ 5-10% ส่วนแบ่งภายในประเทศ 20-25% และคาดที่จะเพิ่มส่วนแบ่งในตลาดเพิ่มขึ้นปีละ 5-10%  และมั่นใจว่าภายใน 10 ปีข้างหน้า มานิจฟาร์ม จะมีส่วนแบ่งการตลาดรวมทั้งในไทย และ 5 ประเทศ ประมาณ 35%

ดร.มานิจ เล่าถึงเหตุผลของการระดมทุนจากนักลงทุนหรือคนไทยทุกคนทั่วประเทศว่า ด้วยความตั้งใจตั้งแต่แรกเริ่มในการพัฒนาพันธุ์สัตว์ต่างๆ ออกมา เพื่อต้องการให้เป็นทรัพย์สมบัติของคนไทยไว้ใช้งานตลอดไป ทดแทนการการซื้อพันธุ์จากต่างประเทศ แต่เมื่อมีโอกาสที่จะขายส่งออกให้กับต่างประเทศ เพื่อดึงเงินตราเข้ามาในประเทศ คนที่จะได้รับผลประโยชน์ร่วมด้วย คือ คนไทยทั้งประเทศ ทั้งที่อยู่ในรูป บริษัท ห้างร้าน สหกรณ์ วิสาหกิจชุมชน กลุ่มกองทุนหมู่บ้านต่างๆ รวมถึงคนไทยทุกคน

โฆษณา
AP Chemical Thailand

การที่จะเป็นผู้ถือหุ้นหรือเป็นเจ้าของมานิจฟาร์ม ใช้เงินแค่ 10 บาท ก็สามารถเป็นถือหุ้นของมานิจฟาร์มได้ 1 หุ้น  ขั้นต่ำ 50 หุ้น (500 บาท) ออกขายรอบแรก 100 ล้านหุ้น ผู้ที่ถือหุ้นจะได้สมาร์ทการ์ด 1 ใบ  เงินปันผลจะโอนเข้าสมาร์ทการ์ด สามารถเบิกถอนเงินปันเสมือนบัตรเอทีเอ็ม และสามารถโอนซื้อ-ขายหุ้นกันเองด้วยบัตรสมาร์ทการ์ดผ่านตู้เอทีเอ็มหรือร้านสะดวกซื้อ จำนวนหุ้นในบัตรสามารถนำไปเป็นหลักทรัพย์แทนทองคำหรือโฉนดที่ดินได้ตามมูลค่าหุ้น กำหนดปันผลปีละ 1 ครั้ง เริ่มปันผลตั้งแต่ปลายปีที่ 2568

การระดมทุนครั้งนี้ เพื่อนำมาใช้เตรียมความพร้อมและขยายกำลังการผลิตไก่พันธุ์ รองรับกับการขยายตัวของตลาด ดร.มานิจ เปิดเผยว่า “ธุรกิจไก่พันธุ์เป็นธุรกิจใหม่ที่มีศักยภาพและเป็นเจ้าแรกในภูมิภาคเอเชียที่มีพันธุ์ต้นกำเนิดเป็นของตนเองและสัญชาติไทย ธุรกิจนี้มีส่วนที่เป็นกำไรมากกว่า 200% มากกว่าธุรกิจการเลี้ยงไก่โดยทั่วไป และเป็นธุรกิจแรกที่เปิดโอกาสให้ทุกคนมีส่วนเป็นเจ้าของโดยแท้จริง”

การร่วมทุนเป็นเจ้าของสายพันธุ์ที่มีศักยภาพสูงในบนห่วงโซ่ตลาด ไก่เนื้อ ไก่ไข่ คือ ความภาคภูมิใจ เพราะเป็นไก่สัญชาติไทย ที่ทุกคนสามารถเป็นเจ้าของ ด้วยเม็ดเงินลงทุนเพียงหลักร้อย สามารถเพิ่ม “กำไร” ของหน่วยการลงทุนที่เพิ่มขึ้นทุกปี ตามปริมาณผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น มีความเสี่ยงน้อย เพราะ ดร.มานิจ ได้ควบคุมปัจจัยเสี่ยงไว้ทั้งหมดตลอดห่วงโซ่การผลิต เป็นฟาร์มมาตรฐานที่สากลยอมรับ และพันธุกรรมทนทานต่อสภาพแวดล้อม ต้นทุนการเลี้ยงต่ำกว่าพันธุกรรมหลักในตลาด ซึ่งคนที่ลงทุนเลี้ยงพ่อแม่พันธุ์เมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา ยอมรับว่าตอบโจทย์ธุรกิจยุคใหม่ที่ชัดเจน

ต้องการรายละเอียดติดต่อ ดร.มานิจ วิบูลย์พันธุ์ โทร.081-1953908

อ้างอิง : นิตยสารสัตว์บก ฉบับที่ 368