อนาคตที่เราคิดว่ายังอีกไกล แต่บางสิ่งบางอย่างมันมาถึงแล้วในปัจจุบัน ! โดยปฏิเสธไม่ได้แล้วว่า ยุคนี้ คือ ยุคเทคโนโลยี AI (Artificial Intelligence) หรือ “ปัญญาประดิษฐ์” เข้ามามีบทบาทต่อการทำงานของมนุษย์มากขึ้น ใช้ทดแทนและทุ่นแรงการทำงานของมนุษย์ในหลายองค์กร ในหลายอาชีพ ในภาคธุรกิจต่าง ๆ เช่น หุ่นยนต์ ยกกระกสอบ รับออร์เดอร์และเสิร์ฟอาหาร, ในภาคคมนาคมขนส่ง เช่น ยานยนต์ไร้คนขับ, ในภาคการเกษตร เช่น การใช้โดรนบินพ่นน้ำให้กับพืชผักที่เพาะปลูก เป็นต้น
หรือแม้แต่ในภาคอุตสาหกรรม เช่น ไลน์การผลิต คลังสินค้า แวร์เฮ้าส์ (warehouse) ที่เริ่มมีการใช้หุ่นยนต์ในการช่วยจัดเรียง เคลื่อนย้ายสินค้าต่างๆ เป็นต้น เพราะแรงงานคนแพงขึ้น
นวัตกรรมหุ่นยนต์สำหรับปศุสัตว์-เกษตรยุคใหม่ เลือกใช้ ‘ฟูจิ ยูโซกิ’
สำหรับเทคโนโลยี ‘หุ่นยนต์จัดเรียงสินค้า’ ปัจจุบันได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ซึ่งมีในหลายองค์กรและในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ที่นำเข้ามาใช้งานเพื่อลดภาระค่าจ้างแรงงานสำหรับนายจ้างหรือผู้ประกอบการ รวมทั้งช่วยลดความเสี่ยงในการทำงานที่อาจเกิดกับพนักงานในบางตำแหน่ง และยังสามารถทำงานได้ 24 ชม.ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยอีกด้วย โดย 1 ในผู้พัฒนาเทคโนโลยี ‘หุ่นยนต์จัดเรียงสินค้า’ ในปัจจุบันที่ได้มาตรฐานระดับสากล ต้องยกให้ FUJI ROBOTICS ผลิตโดย Fuji Yusoki (ฟูจิ ยูโซกิ) หรือที่เข้ามาทำตลาดในประเทศไทย ภายใต้ชื่อ บริษัท ฟูจิ ยูโซกิ (ประเทศไทย) จำกัด นั่นเอง
‘ฟูจิ ยูโซกิ’ ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายเครื่องจักรและอุปกรณ์อื่นๆ ที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมประเภทต่างๆ ตลอดจนธุรกิจให้บริการด้านการลำเลียงสินค้าระบบอัตโนมัติ และจัดเรียงสินค้าบนพาเลทด้วยหุ่นยนต์ ซึ่งบริษัทแม่อยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น ก่อตั้งมากว่า 80 ปี (ก่อตั้งในปี พ.ศ.2487)
การคิดค้นพัฒนาหุ่นยนต์จัดเรียงสินค้า
สำหรับประเทศไทย เข้ามาขยายกิจการ ภายใต้ชื่อ บริษัท ฟูจิ ยูโซกิ (ประเทศไทย) จำกัด ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ.2564 โดยปัจจุบันเทคโนโลยีสินค้าและบริการที่โดดเด่นต้องยกให้ ‘หุ่นยนต์จัดเรียงสินค้า’ ที่ได้รับความนิยมมากขึ้น
คุณมาซากิ (Mr.Masaki Yamakawa) Senior Sales Engineer บอกเล่าถึงการคิดค้นพัฒนา ‘หุ่นยนต์จัดเรียงสินค้า’ ว่า บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจออกแบบพัฒนา ให้บริการ และให้คำปรึกษาสำหรับลูกค้าทุกท่านในด้านเทคโนโลยีหุ่นยนต์จัดเรียงสินค้าบน “พาเลท” รวมถึงให้บริการออกแบบติดตั้งระบบควบคุมเครื่องจักรทุกส่วนที่เกี่ยวข้องในการจัดเรียงระบบออโตเมชั่น โดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญและมากประสบการณ์ พร้อมให้บริการหลังการขายให้กับลูกค้ามาโดยตลอด
คุณมาซากิ กล่าวถึงวิสัยทัศน์ของ ‘ฟูจิ ยูโซกิ’ (Fuji Yusoki) ที่เล็งเห็นโอกาสในปัจจุบันในเรื่องระบบ Robotic Palletizer ที่มีส่วนช่วยทุ่นแรงอย่างมากในธุรกิจอุตสาหกรรม เพราะนอกจากจะช่วยประหยัดเวลาแล้ว ยังมีความแม่นยำมากกว่าการใช้แรงงานคน ดังนั้นระบบ Robotic Palletizer Solution ที่มีคุณภาพ จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะช่วยส่งเสริมธุรกิจให้ก้าวหน้า
‘ฟูจิ ยูโซกิ’ มุ่งหวังที่จะเป็นผู้สนับสนุนการผลิตของลูกค้าให้บรรลุเป้าประสงค์ทั้งในด้านคุณภาพ ผลผลิต ประสิทธิภาพ และต้นทุน ด้วยการให้บริการออกแบบระบบลำเลียงและจัดเรียงสินค้า ด้วยความเชี่ยวชาญกว่า 80 ปี ในแบบที่ใครก็ให้ไม่ได้ ใส่ใจการประหยัดพลังงานและอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
คุณสมบัติของหุ่นยนต์จัดเรียงสินค้า
สำหรับเทคโนโลยีหุ่นยนต์จัดเรียงสินค้า ภายใต้แบรนด์ ‘ฟูจิ โรบอติกส์’ รุ่นยอดนิยม ได้แก่ รุ่น EC-102 เป็นหนึ่งในหุ่นยนต์จัดเรียงสินค้าที่ประหยัดพลังงานมากที่สุดของ Fuji ด้วย การใช้พลังงานเพียง 3.5 KVA ซึ่งถือเป็นโซลูชันที่คุ้มค่าต่อการใช้งานเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังเต็มเปี่ยมด้วยความสามารถที่เหมาะสมสำหรับกลุ่มงานการผลิตขนาดเล็ก ถึงขนาดกลาง
คุณมาซากิ เปิดเผยว่า ในปัจจุบันหุ่นยนต์จัดเรียงสินค้าถูกนำมาใช้งานในแวดวงการเกษตรและปศุสัตว์กันแล้ว โดยบอกว่าในแต่ละกระบวนการผลิตหรือการลำเลียงสินค้า รวมถึงการทำงานทุกอย่างต้องมีการการจัดเรียง จะมีทั้งกล่อง ทั้งถุง มีกระสอบ ถุงโพลี ถุงอะไรต่างๆ ฯลฯ ซึ่งหุ่นยนต์นี้สามารถทำได้หมด เพราะได้รับการติดตั้งและลงโปรแกรมการทำงานในตัวของหุ่นยนต์เอาไว้ทั้งหมดแล้ว จะแตกต่างกันก็เพียงเรื่องประเภทการนำไปใช้งาน
“จุดเด่นที่เป็นจุดขายของ ฟูจิ ยูโซกิ คือ ความเร็ว การจัดเรียงที่แม่นยำ และการใช้งานที่สะดวกสบาย ซึ่งลูกค้าสามารถเปลี่ยนรูปแบบการจัดเรียงได้ด้วยตนเอง โดยที่ไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เรื่องค่าไฟของเราจะถูกกว่าเมื่อเทียบกับโรบ็อตในอุตสาหกรรม ณ ตอนนี้ และในส่วนของอะไหล่สำรอง เรามีสต๊อกในประเทศไทย และเรายังมีทั้งทีมด้านการขาย และทีมดูแลด้านเทคนิคต่างๆ พร้อมอีกด้วย
ส่วนเรื่องการติดตั้งเพื่อให้โรบ็อตพร้อมใช้งาน จะมีทีมงานเข้าไปตั้งค่าโปรแกรมเพื่อควบคุมการทำงานของโรบ็อตที่หน้างาน โดยตอนที่จะเริ่มใช้งานจริง ลูกค้าก็เพียงสั่งการทำงานผ่านหน้าจอ HMI เท่านั้น ซึ่งมีฟังก์ชั่นรองรับการใช้งานของทุกรูปแบบการจัดเรียงสินค้า หากลูกค้าต้องการเพิ่มชิ้นงานใหม่ๆ เข้าไปในระบบที่มีอยู่ ลูกค้าก็สามารถสร้างรูปแบบชิ้นงานใหม่ได้เองเลย โดยไม่ต้องมานั่งตั้งค่าเริ่มต้นใหม่อีกรอบ ซึ่งจุดนี้จะช่วยประหยัดทั้งเงินทั้งเวลา แถมใช้งานง่ายเหมือนกับแอปพลิเคชั่นทั่วไปในโทรศัพท์มือถืออันนึงเลยครับ”
มิติใหม่ นวัตกรรมหุ่นยนต์ FUJI ROBOTICS
บริษัทได้วางแผนการผลิตและการตลาดที่จะเปิดมิติใหม่ทางด้านนวัตกรรมและเทคโนโลยี ได้แก่
1.หุ่นยนต์จัดเรียงสินค้าในสายการผลิตอันดับ 1 จากประเทศญี่ปุ่น
2.ทำความเร็วและประหยัดการใช้ไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด
3.ฟูจิ โรโบติกส์ เป็นแบรนด์ที่มีส่วนแบ่งการตลาดอันดับ 1 ในประเทศญี่ปุ่น
4.มีบริการสาธิตการใช้งานและเทรนนิ่งให้ลูกค้า ในประเทศไทย
5.บริการหลังการขาย อะไหล่ทุกรุ่นพร้อมส่งและติดตั้ง
6.มีทีมออกแบบและให้คำปรึกษา
7.มีระบบ AI ช่วยคำนวณการเคลื่อนที่ที่ดีที่สุดให้กับหุ่นยนต์
8.ผู้ใช้งาน(ลูกค้า) สามารถเพิ่มผลิตภัณฑ์ได้ด้วยตัวเอง ผ่านหน้าจอ HMI โดยปราศจากการตั้งค่าเริ่มต้นใดๆ
9.มีระบบแจ้งเตือน พร้อมแสดงวิธีการแก้ไขที่เข้าใจง่าย
การมาของโรบ็อต = มนุษย์ตกงาน !
เมื่อถามถึงการเข้ามาของเทคโนโลยีหุ่นยนต์ดังกล่าว จะส่งผลกระทบต่อการจ้างแรงงานคนมากน้อยแค่ไหนหรือไม่อย่างไรนั้น ? คุณมาซากิ มองว่า การวางตำแหน่งให้โรบ็อตของแต่ละองค์กรย่อมมีจุดประสงค์แตกต่างกันไป แต่จากประสบการณ์ที่ผ่านมา พบว่าหลายๆ องค์กรเพิ่มโรบ็อตเพื่อจะได้วางแรงงานคนไว้ในตำแหน่งงานที่สำคัญอย่างอื่นมากกว่า
พูดง่ายๆ คือ มนุษย์เราไม่สามารถขนของหนักๆ ด้วยความเร็วเท่าเดิมตลอดทั้งวันโดยไม่พักได้ สิ่งที่จะตามมาจากการใช้แรงงานติดต่อกันเป็นเวลานานๆ คือ ความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาสุขภาพ ไหนจะอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นในที่ทำงาน เพราะฉะนั้นแล้วการที่ให้โรบ็อตเข้ามาทำงานที่ต้องใช้แรงจะช่วยให้สามารถควบคุมจำนวนผลผลิตควบคู่ไปกับสวัสดิภาพของพนักงานที่ดีขึ้น เป็นการเพิ่มจุดแข็งให้องค์กรแบบยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว
ด้านตลาดและช่องทางจำหน่ายหุ่นยนต์จัดเรียงสินค้า
สำหรับแผนการทำตลาดของ ฟูจิ ยูโซกิ ในประเทศไทย โดย คุณมาซากิ บอกว่า จริง ๆ ถ้าในตลาดประเทศไทยตอนนี้ ก็ค่อนข้างมั่นใจว่ามันถึงเวลาแล้วที่โรงงานต่างๆ ควรจะเข้ามาเห็นความสำคัญของระบบ Automation เพราะแนวโน้มค่าแรงที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงสภาวะเศรษฐกิจและสถานการณ์บ้านเมืองที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอด แต่ถ้าเอาระบบพวกนี้เข้ามาช่วยจัดการการผลิต จะทำให้ง่ายต่อการคาดการณ์กำลังการผลิตให้เป็นไปตามเป้าหมาย เนื่องจากโรบ็อตนั้นไม่เหมือนคน มันไม่มีทางเหนื่อย มันจะทำงานของมันต่อเนื่องได้ตลอด 24 ชม. และทุกวันสามารถจะกำหนดได้ เช่นว่าวันนี้เราจะผลิตสินค้าหรือบรรจุภัณฑ์จำนวนหลักพันถุง เราจะได้จำนวนที่ต้องการในระยะเวลาเท่าไหร่ งานเสร็จกี่โมง โดยเทคโนโลยีแบบนี้ มีการใช้งานอย่างแพร่หลายในประเทศญี่ปุ่นมาตั้งแต่ช่วง20-30 ปีก่อน โดยฟูจิ ยูโซกิ มีส่วนแบ่งการตลาดของผลิตภัณฑ์ประเภทหุ่นยนต์จัดเรียงสินค้าอยู่ที่ประมาณ 62-63% เรียกว่าเป็นผู้นำและอันดับ 1 ของเทคโนโลยีหุ่นยนต์ดังกล่าวในประเทศญี่ปุ่น
แต่ว่า ในประเทศไทย ยังไม่ได้มีการสนับสนุนในส่วนนี้มากนัก เหตุเพราะบางคนคิดว่าหุ่นยนต์นั้นแพง แต่ถ้าเราเอาจุดต่างๆ มาลองพิจารณาดี ๆ เช่น ค่าไฟ ค่าแรงงานพนักงานต่างๆ เอามาคิดรวมกัน เราจะเห็นได้ว่ามันไม่ได้แพงอย่างที่คิดเลย
ทั้งนี้ นอกจากแผนการทำตลาดในประเทศไทยแล้ว ฟูจิ ยูโซกิ ยังวางแผนขยายตลาดไปอีกหลายประเทศ โดยที่เข้าไปทำตลาดแล้ว อาทิ สาขาใหญ่ที่ประเทศเกาหลีใต้ อินโดนีเซีย จีน สหรัฐอเมริกา รวมถึงเยอรมัน และอินเดีย เป็นต้น
การบริการหลังการขาย
ทั้งนี้ คุณมาซากิ ยังกล่าวฝากผลิตภัณฑ์และบริการภายใต้แบรนด์ ‘ฟูจิ โรโบติกส์’ ว่า เมื่อคุณเลือกหุ่นยนต์ของ Fuji เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในสายการผลิต คุณจะไม่ได้รับเพียงแค่หุ่นยนต์เท่านั้น แต่คุณจะได้รับการบริการจากทีมงานมืออาชีพผู้มีประสบการณ์ด้านระบบออโตเมชั่นสำหรับงานอุตสาหกรรม และเราทุ่มเททำงานอย่างหนักเพื่อให้แน่ใจว่าหุ่นยนต์จัดเรียงสินค้าบนพาเลทของ Fuji และระบบออโตเมชั่นที่เราออกแบบจะเหมาะสมกับการใช้งาน ช่วยให้สามารถผลิตได้ตามเป้าหมาย
“เรามีเจ้าหน้าที่ของฟูจิฯ จะทำงานร่วมกับคุณเพื่อวิเคราะห์ปัญหาคอขวดในการผลิต ปัญหาด้านแรงงานและออกแบบติดตั้งเครื่องจักร เราจะใช้ข้อมูลนี้เพื่อออกแบบระบบที่มีประสิทธิภาพและใช้งานง่าย โดยความสัมพันธ์ของเรากับลูกค้าจะไม่หยุดอยู่แค่นั้น แต่เราจะอยู่เคียงข้างคุณในทุกขั้นตอนเพื่อให้แน่ใจว่าการติดตั้งเป็นไปด้วยดี และมีวิศวกรคอยให้คำปรึกษาที่พร้อมบริการเพื่อให้แน่ใจว่าการผลิตของคุณดำเนินต่อไป ประหยัดต้นทุนการผลิตและหมดกังวล”
อย่างไรก็ดี หากได้ภาครัฐมาสนับสนุนเทคโนโลยีดังกล่าวให้มากขึ้น จะเป็นเรื่องที่ดีต่อทั้งภาคธุรกิจ อุตสาหกรรม และภาคการเกษตร อย่างแน่นอน เพราะเป็นการกระจายความรู้ในเรื่องเทคโนโลยีดังกล่าวไปสู่พี่น้องเกษตรกร และยังมีอีกหลายๆ องค์กรหรือโรงงานที่ยังไม่ทราบถึงเทคโนโลยีตรงนี้ด้วยซ้ำ โดยภาครัฐอาจจะเข้ามาช่วยสนับสนุนในเรื่องการประชาสัมพันธ์เทคโนโลยีนี้ให้กับกลุ่มชุมชน หรือกลุ่มโรงงาน ที่มีโอกาสที่จะเพิ่มกำลังผลิต ลดต้นทุนบางอย่าง แต่เพิ่มผลกำไร โดยรู้จักและนำโรบ็อตไปประยุกต์ใช้ในการทำงานได้อย่างแพร่หลายมากขึ้น ถือเป็นโอกาสที่ดี เพราะสุดท้ายแล้วประโยชน์จะตกอยู่ที่ผู้ประกอบการธุรกิจและพี่น้องเกษตรกรนั่นเอง
สนใจสินค้าและบริการ ติดต่อ บริษัท ฟูจิ ยูโซกิ (ประเทศไทย) จำกัด เลขที่ 1550 อาคารธนภูมิ ชั้น 10 ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ แขวงมักกะสัน เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร 10400 โทร. +66 2 095 5655 อีเมล์ : [email protected] ดูรายละเอียดได้ที่ https://www.fujiyusoki.co.th/th
อ้างอิง : นิตยสารพลังเกษตร ฉบับที่ 38
