ทีมงานเมืองไม้ผลได้มีโอกาสเดินทางไปเยี่ยมเยียนเกษตรกรชาวสวนผลไม้หลายรายที่ จ.ชุมพร ไม่ว่าจะเป็นชาวสวนลองกอง มังคุด และทุเรียน ได้ฟังเสียงสะท้อนจากชาวสวนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าผลไม้ปีนี้ราคาตกต่ำมาก ถึงแม้ผลผลิตจะดี และมีคุณภาพเพียงใด ก็ขายได้ราคาที่ค่อนข้างต่ำ ยกตัวอย่างเช่น ลองกอง ถึงแม้ว่าจะเป็นช่อสวยงาม ผิวสวย ลูกใหญ่ น้ำหนักดี และรสชาติดี แต่ราคาขายหน้าสวนอยู่ที่กิโลกรัมละ 10 บาท ซึ่งราคานี้ก็ยังไม่มีพ่อค้าเข้ามารับซื้อที่สวนเหมือนที่ผ่านมา
แต่ในส่วนของทุเรียนถือว่าราคาค่อนข้างดีกว่าผลไม้ชนิดอื่น โดยเฉพาะสวนทุเรียนของ คุณสงคราม และคุณจิราพร เยาวเลิศ ที่ ต.บ้านนา อ.เมือง จ.ชุมพร นับว่าเป็นเซียนทุเรียนอีกรายหนึ่ง ที่สามารถผลิต ทุเรียนนอกฤดู ให้มีคุณภาพที่ดี ไม่ต่างจากทุเรียนที่ออกตามฤดูกาลเลยทีเดียว และที่สำคัญยังขายได้ราคาดีกว่าสวนอื่นๆ ในละแวกเดียวกันอีกด้วย
![1.คุณสงคราม-และคุณจิราพร-เยาวเลิศ](https://www.palangkaset.com/wp-content/uploads/2018/10/1.คุณสงคราม-และคุณจิราพร-เยาวเลิศ.jpg)
คุณสงครามกล่าวว่า ปลูกทุเรียนมากว่า 20 ปี สายพันธุ์ที่ปลูก คือ หมอนทอง มีพื้นที่ในการปลูกประมาณ 30 ไร่ มีต้นทุเรียนราวๆ 600 กว่าต้น ระยะห่างในการปลูกอยู่ที่ 10×10 เมตร ในพื้นที่ 1 ไร่ จะปลูกได้ประมาณ 20 กว่าต้น แต่ไม่เกิน 25 ต้น เดิมการดูแลรักษาต้นทุเรียนในช่วงก่อนให้ผลผลิต จะให้ปุ๋ยสูตรเสมอในอัตรา 2 กิโลกรัม/ต้น โดยจะใส่ในช่วงหน้าฝนเท่านั้น เมื่อปุ๋ยได้รับน้ำจะทำให้ละลายได้ดี พืชสามารถดูดซึมไปใช้ได้ง่าย
เนื่องจากการให้น้ำทุเรียน คุณสงครามจะอาศัยเพียงแค่น้ำฝนตามธรรมชาติเท่านั้น รวมทั้งไม่มีการฉีดพ่นสารป้องกันกำจัดศัตรูพืช เพราะว่าขณะนั้นปลูกกาแฟแซมในสวนทุเรียนด้วย จึงไม่ได้ใช้สารเคมี หลังจากปลูกไปแล้วประมาณ 6 ปี ทุเรียนก็จะเริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ เมื่อทุเรียนให้ผลผลิตก็ตัดต้นกาแฟออก เพื่อที่จะได้ดูแลรักษาต้นทุเรียนได้อย่างเต็มที่
![2.เจ้าของสวนและทีมงานบริษัท-เฟิร์ส-ออร์แกนิค-ฟาร์ม-จำกัด](https://www.palangkaset.com/wp-content/uploads/2018/10/2.เจ้าของสวนและทีมงานบริษัท-เฟิร์ส-ออร์แกนิค-ฟาร์ม-จำกัด.jpg)
เทคนิคการผลิต ทุเรียนนอกฤดู
คุณสงครามบอกถึงกระบวนการผลิต ทุเรียนนอกฤดู ให้ฟังว่า “จะเริ่มตัดแต่งกิ่งหลังการเก็บเกี่ยว เพื่อเร่งให้ต้นทุเรียนสร้างยอดใหม่ โดยจะตัดกิ่งแขนงเล็กๆ กิ่งกระโดง หรือกิ่งที่ไม่แข็งแรง และได้รับความเสียหายออก การตัดแต่งกิ่งต้องตัดออกประมาณ 50% หลังจากนั้นก็จะฝังเม็ดพลูโตไบโอกรีน จำนวน 4 เม็ด/ต้น และฉีดพ่นฮอร์โมนพืชเสริมอาหารทางใบ ให้พืชแตกยอดได้ดี ใบใหญ่ และสมบูรณ์
เมื่อต้นทุเรียนเริ่มแตกยอดที่ 2 ก็จะฉีดพ่นด้วยแคลเซียม โบรอน เพื่อให้ยอดและใบสมบูรณ์ ไม่หงิกงอ พอเริ่มจะแตกยอดที่ 3 หรืออยู่ในช่วงใบเพสลาด ก็จะฝังเม็ดพลูโตไบโอกรีน จำนวน 4 เม็ด/ต้น และฉีดพ่นสารแพคโคลบิวทราโซล 25% โดยใช้สารแพคโคลบิวทราโซล 1 กิโลกรัม/น้ำ 200 ลิตร ฉีดพ่นบางๆ ไปที่ใบเพสลาด ไม่ต้องให้ชุ่มมาก เพื่อบังคับให้พืชหยุดการแตกยอดและใบอ่อน เพื่อให้พืชสร้างตาดอก
และการใช้สารแพคโคลบิวทราโซลฉีดพ่นทางใบแทนการราดลงดิน ก็เพราะว่าถ้าหากราดลงดินจะทำให้ดินเสีย ถึงแม้จะใช้ปุ๋ยคอกปรับปรุงดินก็ไม่ค่อยได้ผล หรืออาจจะต้องใช้เวลานานกว่าจะทำให้ดินกลับมาสู่สภาพเดิมได้” คุณสงครามกล่าว
![3.ทุเรียนติดผลดกจริงๆ](https://www.palangkaset.com/wp-content/uploads/2018/10/3.ทุเรียนติดผลดกจริงๆ.jpg)
การให้ปุ๋ยและน้ำต้นทุเรียน
เมื่อฉีดพ่นสารแพคโคลบิวทราโซลไปแล้วประมาณ 10 วัน ก็จะฉีดพ่นปุ๋ยเกล็ดสูตร 0-52-34 เพื่อช่วยกดใบไม่ให้พืชแตกยอด พร้อมทั้งฉีดพ่นแคลเซียม โบรอน ร่วมด้วย โดยผสมไปในถังเดียวกันกับปุ๋ยเกล็ดก็ได้ เพื่อเป็นการประหยัดแรงงาน แล้วให้น้ำได้ตามปกติ วันเว้นวัน หรือ 2 วัน เว้น 1 วัน โดยเปิดให้น้ำครั้งละ 15 นาที จะให้น้ำไปประมาณ 20 วัน จากนั้นจึงหยุดให้น้ำ แล้วกำจัดวัชพืชรอบๆ โคนต้นให้เตียน หรือที่เรียกกันว่า “กวาดโคน”
เมื่อเริ่มมีตาดอกออกมาบริเวณท้องกิ่ง หรือที่เรียกว่า ระยะไข่ปลา จะเริ่มฉีดพ่นสารสกัดจากสาหร่ายดำ เพื่อกระตุ้นการเปิดตาดอก โดยใช้สารสกัดจากสาหร่ายดำ 0.5 ลิตร/น้ำ 200 ลิตร ฉีดพ่น 2 ครั้ง ห่างกัน 5 วัน และสิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่ง คือ ต้องฉีดพ่นสารป้องกันกำจัดเชื้อราในกลุ่มคาเบนดาซิม (ชื่อสามัญ) ในระยะนี้จะฉีดพ่น 1 ครั้ง เพราะช่วงที่พืชมีตาดอกต้องดูแลและระวังเชื้อราให้ดี ถ้าเชื้อราเข้าทำลายตาดอกจะส่งผลให้อัตราการติดผลของทุเรียนลดลง และเมื่อตาดอกเป็นไข่ปลาเต็มท้องกิ่ง ก็จะฉีดพ่นสารป้องกันกำจัดเชื้อราอีก 1 ครั้ง
ในช่วงนี้จะเริ่มให้น้ำได้ตามปกติ โดยจะให้วันเว้นวัน วันแรกจะให้ประมาณ 5 นาที วันถัดไปให้ 10 นาที และวันถัดไปให้ 15 นาที จากนั้นก็จะให้ครั้งละ 15 นาที ไปเรื่อยๆ หรือให้ตามความเหมาะสมของสภาพอากาศเป็นหลัก จากนั้นประมาณ 1 เดือน จากดอกระยะไข่ปลาก็จะโตขึ้นเป็นระยะมะเขือพวงเล็ก จะฉีดพ่นสารป้องกันกำจัดเชื้อราอีก 1 ครั้ง พร้อมกับบำรุงต้นพืช โดยการให้ปุ๋ยทางต้น ต้นละ 2 กิโลกรัม
พอถึงช่วงดอกมะเขือพวงใหญ่ก็จะฉีดพ่นสารป้องกันกำจัดเชื้อราอีก 1 ครั้ง จากระยะมะเขือพวงเล็กไปถึงดอกบานจะใช้เวลาประมาณ 1-1 ½ เดือน ทั้งนี้ในช่วงก่อนที่ดอกจะบานก็ฝังเม็ดพลูโตไบโอกรีน จำนวน 4 เม็ด/ต้น และฉีดพ่นสารป้องกันจำจัดโรคแอนแทรคโนสไว้ด้วย หลังจากที่ดอกบานทั้งหมดแล้วประมาณ 2 วัน ให้ฉีดสารป้องกันกำจัดเพลี้ยไฟ หากมีเพลี้ยไฟเข้าทำลาย เมื่อทุเรียนติดผลจะทำให้หนามทุเรียนติดกัน เมื่อผลโตจะเป็นทุเรียนหนามจีบ หรือหนามติด จำหน่ายไม่ได้ราคา
![4.ผลผลิตทุเรียน](https://www.palangkaset.com/wp-content/uploads/2018/10/4.ผลผลิตทุเรียน.jpg)
การบำรุงดูแลรักษาต้นทุเรียน
ในระยะที่ดอกบานจะเป็นผล หรือที่เรียกกันว่า “หางแย้” จึงตัดแต่งดอก ซึ่งจะเน้นไว้ดอกบนกิ่งที่แข็งแรง หรือดูแล้วว่าสามารถไว้ผลได้ ถ้าหากกิ่งเล็กก็ตัดดอกทิ้ง ถ้าหากกิ่งที่ไม่ใหญ่มากก็จะไว้ประมาณ 2-3 ดอก/กิ่ง โดยจะไว้ดอกเฉพาะโคนกิ่งเท่านั้น ถ้าหากไว้ปลายกิ่งเมื่อทุเรียนติดผลอาจจะทำให้กิ่งหักได้ ถ้าหากไม่แต่งดอก เมื่อทุเรียนติดผลไปแล้วจะทำให้ผลเล็ก เพราะแย่งอาหารกันมากเกินไป
ในช่วงที่ทุเรียนเริ่มติดผลที่เรียกว่า หนามตั้ง ก็จะฝังเม็ดพลูโตไบโอกรีน จำนวน 4 เม็ด/ต้น และให้ปุ๋ยไปจนถึงเก็บเกี่ยวผลผลิต จะให้ปุ๋ยประมาณ 3 ครั้ง ในอัตรา 3-5 กิโลกรัม/ต้น โดยดูจากอัตราการติดผล และความเจริญเติบโตของต้นเป็นหลัก ในระยะเริ่มติดผลจะยังไม่มีแมลงมารบกวนมากนัก แ
ต่เมื่อผลทุเรียนเริ่มตั้งหนาม หรือเริ่มมีเม็ด มักจะพบการเข้าทำลายของหนอนเจาะผล ต้องฉีดพ่นสารป้องกันกำจัดหนอนประมาณ 7-20 วัน/ครั้ง ขึ้นอยู่กับการระบาดของหนอนว่ามีมากน้อยเพียงใด ซึ่งจะต้องฉีดพ่นเพื่อป้องกันไว้ก่อน ถ้าหากปล่อยให้หนอนเข้าทำลายแล้วค่อยฉีดก็จะไม่ได้ผล ทำให้ผลผลิตเสียหาย นอกจากนี้ยังต้องฉีดพ่นสารป้องกันกำจัดเชื้อราอีก 2 ครั้ง โดยจะฉีดพ่น 15 วัน/ครั้ง
หลังจากที่ทุเรียนเริ่มติดดอกในระยะไข่ปลาไปจนกระทั่งเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ จะใช้เวลาประมาณ 6 เดือน เริ่มเก็บเกี่ยวผลผลิตความสุกประมาณ 80% ตามปกติการเก็บผลผลิตจากทุเรียน 400 ต้น จะได้น้ำหนักประมาณ 30-50 ตัน เฉลี่ยแล้วได้ 75-125 กิโลกรัม/ต้น หลังใช้พลูโตไบโอกรีนจะเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ 60-100 กว่าตัน เฉลี่ยแล้วได้ 175-250 กิโลกรัม/ต้น
![5.ผลิตภัณฑ์พลูโต-ไบโอกรีน](https://www.palangkaset.com/wp-content/uploads/2018/10/5.ผลิตภัณฑ์พลูโต-ไบโอกรีน.jpg)
การใช้ จุลินทรีย์ปริมาณสูง ฝังลงไปในดิน
ก่อนอื่นจะขอแนะนำให้รู้จักกับ “พลูโต ไบโอกรีน” กันก่อน ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว คือ อาหารเสริมสำหรับพืชทุกชนิด ช่วยเร่งการเจริญเติบโตของพืช ผลิตจากจุลินทรีย์เข้มข้นที่ผ่านการหมักด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง ทำให้พืชแข็งแรง เพิ่มภูมิต้านทานโรค รวมทั้งเพิ่มผลผลิตอย่างเห็นได้ชัดในระยะเวลาอันสั้น และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
หลักการทำงานของพลูโต ไบโอกรีน คือ จุลินทรีย์ปริมาณสูงที่มีอยู่ในพลูโต ไบโอกรีน จะปลดปล่อยเอนไซม์ออกมา ซึ่งเอนไซม์จะทำการย่อยสารตกค้างในดิน ทำให้ดินร่วนซุย นอกจากนี้เอนไซม์จากจุลินทรีย์ยังช่วยย่อยปุ๋ยเคมีให้เป็นโมเลกุลขนาดเล็ก ให้พืชดูดซึมสารอาหารไปใช้ได้ดียิ่งขึ้น เมื่อดินร่วนซุย ออกซิเจนก็สามารถเข้าถึงราก ทำให้น้ำและปุ๋ยสามารถซึมผ่านได้ง่าย ส่งผลให้พืชเจริญเติบโตได้ดี
คุณสงครามกล่าวว่าเริ่มใช้พลูโต ไบโอกรีน มาประมาณ 2 ปีแล้ว โดยใส่เม็ดพลูโต ไบโอกรีน ฝังลงไปในดินให้ห่างจากโคนต้นประมาณ 1-2 เมตร ต้นละ 4 มุม หลุมละ 1 เม็ด 4 เม็ด/ต้น ซึ่งใน 1 รอบการผลิต ทุเรียนนอกฤดู จะฝังเม็ดพลูโต ไบโอกรีน ทั้งหมด 5 ครั้ง ได้แก่
1.ช่วงทำยอดแรก
2.ทำยอดที่ 2 ครึ่ง (ใบเพสลาด)
3.ช่วงดอกมะเขือพวงใหญ่
- ผลเริ่มตั้งหนาม
5.ก่อนเก็บเกี่ยวผลผลิตประมาณ 10 วัน
เมื่อก่อนใช้ปุ๋ยเคมีอย่างเดียว แต่หลังจากที่หันมาใช้ พลูโต ไบโอกรีน ก็เลิกใช้ปุ๋ยเคมี แล้วใช้ปุ๋ยชีวภาพแทน ในจุดนี้สามารถลดต้นทุนลงไปได้มากเลยทีเดียว จากเดิมใน 1 รอบการผลิต ทุเรียนนอกฤดู บนพื้นที่ 30 ไร่ จะใช้ปุ๋ยเคมีประมาณ 45 กระสอบ แต่เมื่อหันมาใช้ปุ๋ยชีวภาพ ซึ่งก็ใช้ในอัตรา 45 กระสอบเท่าเดิม และยังลดต้นทุนด้านฮอร์โมนเสริมอาหารทางใบ จากที่เคยฉีด 3 ครั้ง แต่ปัจจุบันฉีดพ่นเพียงแค่ครั้งเดียว นอกจากนี้ยังลดต้นทุนด้านสารป้องกันกำจัดแมลงลงไปด้วย จากเดิมที่เคยฉีดพ่น 3 ครั้ง ปัจจุบันฉีดพ่นเพียงแค่ครั้งเดียว ก็สามารถควบคุมแมลงศัตรูพืชได้
ตารางเปรียบเทียบ
ก่อนใช้ พลูโต ไบโอกรีน เก็บเกี่ยวผลผลิตได้ 30-50 ตัน
ลำดับ |
รายการ |
จำนวนเงิน |
หมายเหตุ |
1 |
ปุ๋ยเคมี 45 กระสอบๆ ละ 1,100 บาท |
49,500 |
|
2 |
ฉีดฮอร์โมน 3 ครั้งๆ ละ 3,600 บาท |
10,800 |
|
3 |
ฉีดยาฆ่าแมลง 3 ครั้งๆ ละ 1,500 บาท |
4,500 |
รวม 64,800 บาท |
หลังใช้ พลูโต ไบโอกรีน เก็บเกี่ยวผลผลิตได้ 60-120 ตัน
ลำดับ |
รายการ |
จำนวนเงิน |
หมายเหตุ |
1 |
ปุ๋ยชีวภาพ 45 กระสอบๆ ละ 300 บาท |
13,500 |
|
2 |
ฉีดฮอร์โมน 1 ครั้งๆ ละ 3,600 บาท |
3,600 |
|
3 |
ฉีดยาฆ่าแมลง 1 ครั้งๆ ละ 1,500 บาท |
1,500 |
|
4 |
พลูโต ไบโอกรีน 2.5 กรัม 8,000 เม็ด |
25,600 |
รวม 44,200 บาท |
คุณสงครามกล่าวอีกว่าผลลัพธ์ที่ได้จากการใช้ พลูโต ไบโอกรีน ที่สังเกตได้ คือ สภาพดินอุดมสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น มีไส้เดือนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ทำยอดง่ายขึ้น ทุเรียนใบหนา ใบใหญ่ เขียว ทนนาน ใบเป็นเงางาม และลำต้นสมบูรณ์ เมื่อรากและลำต้นแข็งแรงสมบูรณ์ก็จะส่งผลให้ทุเรียนมีภูมิคุ้มกันโรคและแมลงเข้าทำลายได้ยาก
ปกติในช่วงทำยอดอ่อนให้แตกขึ้นมาใหม่จนครบ 3 ยอด จะใช้เวลาประมาณ 4 เดือนขึ้นไป หรือบางครั้งทำยอดยาก คือ แตกยอดช้า หลังใช้พลูโต ไบโอกรีน ช่วยร่นระยะเวลาการแตกยอดใหม่ทั้ง 3 ยอด ได้ภายใน 3 เดือน ก็เท่ากับว่าร่นเวลาลงไปได้ 1 เดือน ซึ่งจะออกก่อนสวนอื่นประมาณ 1 เดือน ไม่ต้องฉีดพ่นฮอร์โมนเร่งการเจริญเติบโต ยอดอ่อนจะแตกออกมาเอง และยอดใหม่ที่ออกมาก้านจะใหญ่ ใบสวย ใบใหญ่ ใบเงา รวมทั้งดอกที่ออกมาก็สมบูรณ์ การดูแลก็ง่าย
ลักษณะของผลทุเรียนจะมีสีเขียว หนามสวย เนื้อสีเหลืองสด รสชาติดี เม็ดลีบ และขั้วยาวคล้ายกับทุเรียนในฤดู ทำให้เก็บเกี่ยวผลผลิตง่าย ซึ่งโดยทั่วไปแล้ว ทุเรียนนอกฤดู จะมีขั้วสั้น รวมทั้งน้ำหนักก็เพิ่มขึ้นอีกด้วย มีตั้งแต่ผลละ 2-14 กิโลกรัม
“ข้อดีอีกอย่างหนึ่ง คือ ไม่เสียน้ำหนักระหว่างการขนส่ง ซึ่งสวนอื่นเมื่อตัดจากสวนกระทั่งขนส่งไปถึงปลายทางน้ำหนักจะหายไป พ่อค้า แม่ค้า คนกลาง ก็จะหักเงินตามน้ำหนักที่หายไปด้วย มีหลายสวนที่โดนหักเงินตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสนบาทเลยทีเดียว” คุณสงครามกล่าว
![6.เจ้าของสวนยิ้มอย่างมีความสุขกับผลผลิตที่ได้](https://www.palangkaset.com/wp-content/uploads/2018/10/6.เจ้าของสวนยิ้มอย่างมีความสุขกับผลผลิตที่ได้.jpg)
![เนื้อทุเรียนเหลืองสด จาก ทุเรียนนอกฤดู น่ารับประทาน](https://www.palangkaset.com/wp-content/uploads/2018/12/เนื้อทุเรียนเหลืองสด-จาก-ทุเรียนนอกฤดู-น่ารับประทาน.jpg)
การจำหน่ายผลผลิตทุเรียน
สำหรับราคาจำหน่ายในปัจจุบันอยู่ที่กิโลกรัมละ 33-35 บาท ราคานี้ถือว่าอยู่ในระดับกลางๆ ไม่สูง หรือต่ำมากเกินไป ทั้งนี้พ่อค้า แม่ค้า คนกลาง ที่เข้ามารับซื้อทุเรียนที่สวนคุณสงครามจะตีราคาผลผลิตให้สูงกว่าสวนอื่น ราคาอยู่ที่ 41 บาท/กิโลกรัม ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าพ่อค้า แม่ค้า คนกลาง บอกว่าทุเรียนของคุณสงครามขั้วยาว หนามสวย และมีสีเขียว ไม่เหลืองเหมือนสวนอื่น ลักษณะคล้ายกับทุเรียนในฤดู ซึ่งพ่อค้า-แม่ค้าคนกลางที่นำผลผลิตส่งไปจำหน่ายที่ประเทศจีน และไต้หวัน จะชอบทุเรียนลักษณะนี้
คุณสงครามยังบอกกับเราว่าทุเรียนที่ถูกเชื้อราไฟทอปธอร่าเข้าทำลายตามกิ่งและลำต้น ชาวสวนส่วนใหญ่จะใช้มีดถากเปลือกบริเวณที่เป็นเชื้อราออก เพื่อป้องกันการแพร่กระจายไปทั่วลำต้น แล้วใช้สารป้องกันกำจัดเชื้อราทาบริเวณที่ถากเปลือกออก ซึ่งสารป้องกันกำจัดเชื้อราที่ใช้ถือว่ามีราคาค่อนข้างสูง และการสมานของแผลก็ใช้เวลานาน
ด้วยเหตุนี้คุณสงครามจึงใช้ ปุ๋ยชีวภาพ ตราดีดี ที่มีคุณสมบัติในการป้องกันเชื้อราไฟทอปธอร่า และยังช่วยในการเจริญเติบโตของพืช ฉีดพ่นบริเวณแผลที่ถากเปลือกออก แทนการใช้สารป้องกันกำจัดเชื้อรา ซึ่งมีราคาที่ถูกกว่า ปรากฏว่าได้ผลเป็นที่น่าพอใจ เชื้อราไฟทอปธอร่าหายไป และแผลสมานได้เร็วขึ้น ทำให้ต้นทุเรียนสวนคุณสงครามไม่เป็นเชื้อไฟทอปธอร่า
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิต ทุเรียนนอกฤดู คุณภาพดีได้ที่ คุณสงคราม-คุณจิราพร เยาวเลิศ บ้านเลขที่ 248/1 ม.11 ต.บ้านนา อ.เมือง จ.ชุมพร โทร.08-6273-3931
สำหรับท่านใดที่สนใจหรืออยากทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์อาหารเสริมพืชชีวภาพชนิดเม็ด “พลูโต ไบโอกรีน” ปุ๋ยชีวภาพดีดี ติดต่อได้ที่ บริษัท เฟิร์ส ออร์แกนิค ฟาร์ม จำกัด เลขที่ 24 ซ.ประเสริฐมนูญกิจ 7 แขวงจระเข้บัว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ โทร.0-2940-4591, คุณนงค์ 084-649-7498 ทุเรียนนอกฤดู ทุเรียนนอกฤดู